spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 45: ค่ำคืนแห่งการฆ่าล้าง
ค่ำคืนนั้นเองเมืองแบล็คฮ็อตนั้นเงียบสนิท แม้ว่าจะมีการประกาศเคอร์ฟิวแต่ทุกคืนหลังจากเที่ยงคืนไปแล้วนั้นเมืองแบล็คฮ็อตจะหลับไหลลราวกับยักษ์ที่เพิ่งทำธุระในแต่ละวันเสร็จ
มันก็เหมือนกับนกที่ออกมาขับขานในยามเช้าและงูที่ไล่ตามหนูในยามค่ำคืน บางคนชอบออกมาเดินเล่นในตอนกลางคืนมากกว่ากลางวันโดยเฉพาะตรงสถานีรถไฟที่มักจะมีคนมารวมตัวกัน หลังจากเที่ยงคืนไปแล้วจะมีคนจำนวนมากเดินออกมาข้างนอก โชคร้ายพี่พวกเขาจะโดนพวกทหารจับไป พวกนั้นจะโดนลงโทษโดยการโบยและโดนจับไปขังคุกแกรนเบริค ซึ่งอยู่นอกเมืองและจะกลายเป็นตัวตลกสำหรับพวกนักสำรวจหลายคนแต่สำหรับพวกนักสำรวจเหล่านั้นแล้ว การลงโทษนี่ไม่ได้เป็นเรื่องซีเรียจอะไรเลย
มีหลายคนที่คิดแบบนี้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่บาร์ใกล้ๆกับสถานีนั้นเต็มไปด้วยนักสำรวจ บาร์สมบัติของพิษงูนั้นคึกคักอย่างมากในตอนค่ำคืน สำหรับคนทั่วไปแบบ จางเทีย แล้วพวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าตอนกลางคืนของเมืองนั้นวิเศษแค่ไหน
สำหรับผู้ที่มาใหม่นั้น ฮัค และ สเนซ ทั้งคู่ได้ทำการสำรวจพื้นที่ใกล้ๆกับสถานีก่อนที่จะไปหาที่บาร์นั่นต่อ หลังจากเที่ยงคืนไปแล้วเมื่อเริ่มเคอร์ฟิว ทั้งสองคนได้เข้าไปที่บาร์เหล้านั้นต่อ
บาร์นี้ไม่ได้กว้างมากมายอะไรนัก หลังจากเที่ยงคืนบาร์จะเต็มไปด้วยผู้คนประมาณ 30 คนได้ ส่วนมากนั้นจะสวมชุดนักสำรวจ บางคนคุยกันและหัวเราะเสียงดัง บางคนจับหน้าอกสาวข้างๆตัว บางคนแอบไปนั่งอยู่มุมมืดของร้านคอยแลกเปลี่ยนบางอย่างกัน การแลกเปลี่ยนนั้นจะจบลงก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายได้ของและจ่ายเงินแล้ว มีแค่สองกลุ่มเท่านั้นที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นคนอื่นจะไม่รู้หัวข้อที่คุยเลยแม้ว่าหัวข้อนั้นจะเป็นการวางแผนฆ่าใครก็ตาม
ในตอนที่ ฮัค และ สเนซ เข้าไปในบาร์ มีหลายคนได้มองมาที่ทั่งคู่แล้วหัวกลับไปทำธุระของตัวเองต่อ ในขณะที่นักสำรวจบางคนรู้สึกได้ถึงความอันตรายที่เข้ามาใกล้พวกเขา เพื่อตอบสนองสิ่งนั้น พวกนั้นได้แอบจับอาวุธตัวเองให้เข้ามาใกล้ตัวแล้ววางไว้ในตำแหน่งที่สะดวกเผื่อว่าเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้น
ในตอนที่ ฮัค และ สเนซ นั่งลงไปที่โต๊ะ สาวหน้าตาดีสองคนก็เดินไปหาทั้งคู่ พวกเธอจงใจที่จะก้มตัวเพื่อให้เห็นร่องออกและพูดขึ้น – “ สุดหล่อ ให้ฉันช่วยอะไรมั้ย ? “
“ ไวน์สนดำสองแก้ว เธอมีอาหารอะไรเสิร์ฟบ้าง ? ” - สเนซ ถาม
“ขนมปัง, ถั่วเหลือง, ซุปเนื้อ และไส้กรอก ! “
“ เอามาสองเซ็ต ! “
“ ได้ ! “
หลังจากที่สาวเสิร์ฟเดินจากไปและรู้ว่าสองคนนี้สั่งอะไร คนอื่นๆก็ละสายตาจากทั้งคู่ราวกับรู้ว่าคนเราน่ะแม้จะเป็นคนชอบสร้างปัญหาแต่ก็ต้องกินอะไรก่อนถึงจะสร้างปัญหาทีหลัง
ไม่นานอาหารที่สั่งก็ได้มาถึง เมื่อมองไปที่อาหารนั้น สเนซ ไม่ได้กินมันทันทีแต่เขากลับเอารากหญ้าลองจิ้มทั้งจานและเบียร์เพื่อเช็คว่าสีของมันเปลี่ยนหรือไม่ หลังจากที่เห็นว่ามันไม่เปลี่ยนสี ทั้งคู่ก็เริ่มกินอาหารของตัวเอง หลังจากทำงานมาหลายชั่วโมง ตอนนี้ทั้งคู่นั้นหิวจริงๆ
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่นักสำรวจจะตรวจสอบพิษโดยใช้รากหญ้าของหนามกลืนวิญญาณที่ซึ่งห่อไว้ด้วยสายสีเงิน สายเงินและรากนี่น่ะเป็นการรวมตัวกันที่สมบูรณ์ มันจะตอบกลับสิ่งที่เป็นพิษรวมถึงสารหนูด้วย นักสำรวจเกือบทุกคนนั้นมีนิสัยที่จะตรวจสอบพิษในอาหารก่อนจะกินอยู่แล้ว ดังนั้นคนอื่นๆเลยไม่ได้เห็นว่ามันแปลกเมื่อเห็นแบบนั้น แม้แต่เจ้าของกับสาวเสิร์ฟเองก็ยังเห็นว่ามันเป็นนิสัยธรรมดาของนักสำรวจ นอกจากลูกค้าประจำแล้วคนที่มาใหม่ก็มักจะทำแบบนี้เสมอ มันก็เหมือนกับความเคยชินไปแล้ว
แขกของร้านนี้พูดคุยเสียงดังเกี่ยวกับห้องโถงของเมือง ห้องโถงนี้ได้เพิ่มเงินให้คนที่ไปสำรวจพื้นที่ด้านเหนือและด้านทิศตะวันตกของเมืองจาก 46 ทองต่อตารางกิโลเมตร ส่วนถ้าเพิ่มมากอีกราคาก็จะเพิ่มขึ้นอีก 5% จากหลายวันมานี้มีนักสำรวจมากมายที่คิดว่าตัวเองนั้นเก่งเอาการได้เข้าไปสำรวจที่นั่นแต่มันก็ยังเป็นที่ไม่ทราบว่าพวกนั้นกลับออกมาได้กี่คน
หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว ฮัค และ สเนซ ได้ทำท่าฟังข่าวด้านในบาร์ก่อนจะเตรียมตัวกลับพร้อมกับเรียกเช็คบิล ฮัค ตั้งใจหยิบกระเป๋าตังออกมาแล้วทำมันหล่นลงซึ่งทำให้เหรียญทองสองเหรียญกลิ้งออกมาจากกระเป๋าของเขา ฮัค รีบเก็บกระเป๋าตังไปก่อนที่ สเนซ จะจ่ายบิลแทนแล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากบาร์ไป ไม่นานหลังจากที่ทั้งคู่ออกไป ชายที่อยู่ตรงมุมร้านก็ยืนขึ้น เขากระดกเบียร์อึกสุดท้าย เขาจงใจทำเบียร์หกรอดตัวเองด้วย หลังจากนั้นเขาก็เดินตามทั้งคู่ออกไปจากบาร์
การกระทำนี้ไม่ได้ทำให้ใครสงสัยเลย
“ ดูเหมือนว่ากระรอกจะเจอเหยื่อมันแล้ว ฮี่ฮี่ .... “ - บางคนในบาร์แสยะยิ้มออกมา ทุกคนลืมเรื่องชายสามคนที่เพิ่งออกไปทันที ในโลกนี้แต่ละคนก็มีกฎในการเอาตัวรอดของตัวเอง ถ้าคนอื่นไม่ได้ส่งผลกับพวกเขา พวกเขาก็จะเลือกที่จะไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่คือกฎข้อหนึ่งในการเอาตัวรอดของยุคนี้
ในตอนที่กระรอกน้ำได้ออกไปจากบาร์ เขามองไปรอบๆและเห็น ฮัค และ สเนซ นั้นเดินเข้าไปในตรอกด้านซ้าย เขาหลี่ตาก่อนจะตามทั้งคู่ไปทำท่าเป็นคนเมา ในตอนที่เข้าไปใกล้ทั้งคู่ ชายสองคนได้หันกลับมามองที่เขาแต่พวกนั้นดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเมื่อมองเห็นคนเมา เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ ฮัค แล้วเดินเซไปข้างหน้าพร้อมกับเอามือจกเข้าไปในเสื้อของ ฮัค ทันใดนั้นนิ้วของเขาก็แตะเข้าไปที่เสื้อของ ฮัค เขาได้ยินเสียงฮึดฮัดอันเย็นชาขึ้นมา
“ ช้าไป ! “
ก่อนที่กระรอกจะได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น มือเขาก็โดน ฮัค จับเอาไว้แล้ว ในตอนที่เขากำลังจะทำท่าเป็นคนเมาและตะโกนออกกมาดังๆก็มีมีดมาจี้ที่คอของเขา มีดนั้นปาดที่คอเขาแล้วสร้างแผลตื้นๆเอาไว้ กระรอกนั้นกลัวจริงๆจนเริ่มเหงื่อตก ฮัค เอามือปิดปากก่อนจะแบกไปข้างในตรอกนั้นที่ซึ่งไม่มีใครมองเห็นได้
“ พาเราไปหาบอสของแก เราอยากเจอเขา ! “ - ฮัค ชายกำยำดูเหมือนจะไม่ได้มีความอดทน เขาโยนกระรอกลงที่พื้นและพูดออกมาตรงๆ
“ ฉันไม่รู้ว่าแกพูดถึงเรื่องอะไร ! ฉัน....อ่า “ – ด้วยการที่โดนปิดปากอยู่ทำให้พูดอะไรออกมาดังไม่ได้ เขารู้สึกเย็นๆที่มือขวาจึงหันกลับไปดูและพบว่ามันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เขาเห็นคือเส้นเลือดที่มือขวาถูกเฉือนทำให้เลือดนั้นไหลออกมาอย่างกับน้ำพุ แผลนั้นดูเหมือนปากของสัตว์อสูรซึ่งทำให้เขากลัวแทบตาย
“ แกมีเวลาไม่ถึง 10 นาทีก่อนที่เลือดแกจะหมดตัว ! “ - สเนซ สแยะยิ้มให้พร้อมกับสะบัดมีดของตัวเอง
“ บอสของเราคือ บีส Black Spider ระดับ 6 นอกจากเขาแล้วเรามีพี่น้องอีกกว่า 10 คน ถ้าแกกล้าที่จะคุกคามเรา แกจะต้องเสียใจ ... “- กระรอกเริ่มตะโกนอกอมาดังๆแต่เขาก็เห็นได้ถึงสีหน้าไม่พอใจของ ฮัค
“ น่านะนะ แต่แกมีแค่สองตัวเลือกตอนนี้ --- รออยู่นี่จนกว่าแกจะตายรึพาเราไปหาบอสที่ช่วยแกได้ .. “ - สเนซ อธิบาย
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมาในรังของแก๊งค์ที่อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟของเมือง ฮัค และ สเนซ นั้นโดนคนมากกว่า 10 คนอาวุธครบมือล้อม พลังคีของ บีส นั้นสั่นไหวและมีเงาของแมงมุมดำสองเมตรยืนอยู่ด้านหลังเขา สมาชิกทุกคนในแก๊งค์มอง บีส ด้วยความชื่นชม รวมถึงไอ้กระรอกที่ซึ่งอยู่ใต้เท้าของ ฮัค และเอามือกดแผลที่มือขวาของตัวเอง นักสู้ระดับ 6 ที่ซึ่งมีพลังคีเข้มข้นนั้นแข็งแก่รงพอที่จะเป็นผู้นำให้คนอื่นๆมีชีวิตที่ดีได้ใกล้ๆกับสถานีนี้ เขานั้นแข็งแกร่งพอที่จะฉีกใครเป็นชิ้นๆก็ได้
“ เราจะทำยังไงดี ? “ - ฮัค ถาม สเนซ
“ แกสองคนน่ะ ฉันบอกแกแล้วว่าแกงค์ของเราน่ะไม่มีเด็กผมดำรึคนล้วงกระเป๋าที่สถานีหรอกแต่เพราะแกนั้นทำคนของเราเจ็บ แกควรคิดดีๆว่าแกจะอธิบายยังไง ! ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่จะรู้สึกผิด ! “- บีส แสยะยิ้ม เขาโบกมือทั้งสองข้างและลูกน้องของเขาก็เขยิบเข้าไปใกล้ๆ ฮัค กับ สเนซ โดยแสดงสีหน้าดุร้ายออกมา
“ ฆ่าพวกมันให้หมด เพราะพวกมันเห็นหน้าเราแล้ว มันคงมีปัญหาแน่ถ้ามีใครหนีไปได้ ! “ - สเนซ พูดขึ้น
เมื่อได้ยินแบบนั้น บีส ได้คำรามออกมาด้วยความหงุดหงิดและพุ่งเข้าใส่หัวของ ฮัค ในเวลาเดียวกันลูกน้องคนอื่นๆก็กระโดดเข้าหา ฮัค และ สเนซ เหมือนกัน
ฮัค กระทืบหัวของไอ้กระรอกให้แตกอย่างกับแตงโม จากนั้นก็ต่อยเข้าใส่หมัดของ บีส ในตอนที่หมัดของทั้งคู่ปะทะกัน หน้าของบีส ได้ซีดทันทีเมื่อเห็นเงาขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง ฮัค มันแตกต่างจากแมงมุมที่เขามี เงาที่อยู่ด้านหลัง ฮัค นั้นคือตะขาบที่มีขาอยู่นับไม่ถ้วน
“ ตะขาบพันขา --- นักสู้ระดับ 7 ! เป็นไปไม่ได้ .... “ – บีส อุทานออกมาด้วยความกลัว ในตอนที่หมัดทั้งสองปะทะกัน แขนของ บีส ก็หัก หมัดของ ฮัค นั้นพุ่งไปต่อยังอกของอีกฝ่ายแล้วทะลุจนไปถึงหลัง
แค่หมัดเดียวหัวหน้าแกงค์ก็จบเห่แล้ว ลูกน้องคนอื่นๆไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนที่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าตัวเอง พวกเขาก็รีบโยนอาวุธทิ้งและวิ่งไปที่ประตูทันที
สเนซ บิดตัวเพื่อหลบอาวูธที่โจมตีเข้ามาเหมือนกับงูแล้วไปโผล่อยู่ด้านหลังของสองคนที่กำลังหนีอยู่ เขาสะบัดมีดไปที่คอของทั้งคู่เหมือนกับงูพิษที่ทำการฉก หลังจากสะบัดมีดอยู่หลายครั้งใส่คนแรกที่เข้าโจมตีเขาและสมาชิกทุกคนรวมถึงคนที่อยู่ไกลที่สุดก็ยืนนิ่งและเริ่มมีเลือดพุ่งออกมาจากคอราวกับน้ำพุ จากนั้นทุกคนก็แทบล้มลงไปพร้อมๆกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ใช้เวลาไม่ถึงห้าอึดใจ สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือสองคนนั้นที่ยืนอยู่กลางบ่อเลือดไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย
“ เราจะจัดการศพพวกนี้ยังไง ? “ - ฮัค ถาม สเนซ ราวกับว่าการฆ่าคนขนาดนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย
ในตอนนั้น สเนซ เลียเลือดบนมีดของตัวเอง – “ มาจัดการศพพวกนี้ก่อน เราต้องห้ามให้ใครมาเจอศพพวกนี้อย่างน้อยก็สองวัน ! “
“ ทำไมไม่เผามันทิ้งไปเลย ? “
“ คนที่บาร์เห็นเรา นอกซะจากว่าเราจะฆ่าพวกนั้นให้หมดในคืนนี้ คนในบาร์น่ะต้องคิดว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นแน่แต่ถ้าเราเผาศพพวกนี้อีกสองวันให้หลังจะไม่มีใครคิดแบบนั้น ! “ – สเนซ อธิบายโดยคิดอย่างระมัดระวังและมีประสบการณ์
“ เพราะพวกนี้โผล่มาใกล้ๆกับสถานี้ พวกนี้ต้องปล้นและเก็บของไว้ที่นี่แน่ มาลองหามันดีกว่า เราอาจจะได้ของดีๆไปถ้าโชคดี สำหรับเด็กผมดำที่กล้าวิ่งหนีร่า เขาต้องคุ้นเคยกับที่นี่และมาที่นี่บ่อยแน่ เราน่ะคอยอยู่ที่สถานีดูสักหน่อยและค่อยจับตัวเขาตอนเห็นเขาละกัน ! “
“ แล้วถ้าเราหาเขาไม่เจอล่ะ ? “
“ ถ้าเราหาเขาไม่เจอในหนึ่งอาทิตย์ เราจะหนีออกจากเขตพันธมิตรอันดามันกับเขตสมาคมแบล็คซ่อนให้ไกลที่สุด เราไม่ควรให้หัวหน้าของเราเจอตัว ไม่อย่างนั้นแล้วเราตายแน่ๆ ! “- สเนซ พูดขึ้นอย่างใจเย็น
“ ได้ ! “
……
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ฮัค และ สเนซ ก็ออกจากฐานของแกงค์นั้นไปและล็อคประตูจากด้านนอกเพื่อทำให้คนอื่นคิดว่าไม่มีคนอยู่ด้านใน พวกเขาเชื่อว่าไม่มีใครกล้าจะเข้าไปในรังพวกนี้แน่ถ้าคิดจากความทรงพลังของแกงค์นี้ สองวันต่อมาพวกเขาได้ไปจัดการกับศพโดยใช้ไฟเผาเพื่อไม่ให้เหลือหลักฐาน ไม่มีใครคิดว่าแกงค์นี้จะโดนฆ่าตายแล้วค่อยมาโดนเผาในอีกสองวันต่อมา
“ แกงค์ ? มันคุ้มค่ารึไง ? “ – ในตอนที่ทั้งคู่เดินออกมาจากฐานของพวกนั้น ฮัค ก็พูดบางอย่างออกมา
……
ในตอนที่แกงค์พวกนี้โดนฆ่า จางเทีย ได้ปลุกจุดชีพจรของตัวเอง เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่โตเข้าเพียงเพราะแผ่นไม้แผ่นเดียว
จางเทีย รู้สึกว่าชีวิตเขานั้นเต็มไปด้วยความหวังและมีอนาคตที่สดใสรออยู่....