spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 44: ปลุกจุดชีพจร
บางครั้งศีลธรรมกับเรื่องผิดจรรยาบรรณก็ตัดสินได้ว่าคุณนั้นมีความอดทนหรือไม่
เมื่อคิดได้แบบนั้น จางเทีย ได้แสดงสีหน้าเด็ดเดี่ยวออกมาและยิ้มแบบผู้ชนะก่อนที่จะดึงมือกลับมา เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและมองไปที่ต้นไม้เป็นครั้งสุดท้าย จางเทีย ล็อคไปที่ประตูและออกจาก Castle of Black Iron ไป...
จางเทีย ไม่รู้มาก่อนว่าการอดทนนี้ที่เขาเลือกนั้นทำให้เขามีจิตใจที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นอย่างมาก
หลังจากกลับมาที่ห้องเล็กๆของเขา จางเทีย ได้ยืนขึ้นตรงนั้นสักพักก่อนจะนั่งลงไปที่เตียงและเริ่มฝึกการคิดเลขในใจโดยใช้ลูกคิด หลังจากนั้น จางเทีย ได้หยิบเอาคริสตัลที่วางอยู่บนทรายข้างๆหน้าต่างออกมาและเริ่มปลุกจุดชีพจร ในตอนที่พลังวิญญาณของเขานั้นเกือบจะหมด จางเทีย ก็คิดภาพลูกคิดขึ้นมาในหัว เขาตระหนักได้ว่ายังเหลืออีกกว่าชั่วโมงก่อนที่ Leakless Fruit จะสุก จางเทีย ต้านทานความอยากของตัวเองก่อนที่จะหลับไป
ในตอนที่เขาตื่นขึ้นมาจากฝันหวานเพราะต้องลงไปเข้าห้องน้ำ มันก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว
ด้วยแสงจันทร์ที่รอดผ่านหน้าต่างเข้ามา จางเทีย ได้ดูนาฬิกาและพบว่ามันเกือบจะตีสี่แล้ว นี่มันก็เลยมา 2 ชม.ตั้งแต่ที่ Leakless Fruit สุก
จางเทีย ดีดตัวขึ้นจากเตียงทันทีและรีบไปสวมกางเกงใน เขารีบล็อคสมาธิไปที่ประตูก่อนจะหายจากห้องไป...
หลังจากกลับมาที่ Castle of Black Iron หลังจากเขาออกไปไม่กี่ชั่วโมง สิ่งแรกที่ จางเทีย ทำนั้นไม่ใช่วิ่งไปที่ต้นไม้เล็กๆ เขากลับถอดกางเกงในออกและดึงไอ้จ้อนออกมาแล้วเยี่ยวใส่พื้นดินที่ห่างจากต้นไม้ไป 10 ม. หลังจากปล่อยน้ำออกจากตัวหมดแล้วเขาก็รู้สึกโล่งขึ้นมา จางเทีย ตัวสั่นด้วยความสบาย เขาดึงกางเกงในกลับขึ้นมาแล้วเดินไปที่ต้นไม้เล็กๆ เมื่ออยู่ห่างต้นไม้ 4-5 ม. จางเทีย ได้กลิ่นที่พิเศษซึ่งทำให้คนรู้สึกมีชีวิตชีวา มันคือกลิ่นของผลไม้ที่สุกซึ่งเป็นกลิ่นคล้ายกับไม้จันทน์ มันลึกลับเกินที่จะอธิบายได้ จางเทีย นั้นสูดลมหายใจเข้าลึกๆและจ้องไปที่ Leakless Fruit ซึ่งสุกคาลำต้น
เทียบกับหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้แล้วมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้มันมีขนาดพอๆกับไข่และมีสีแดงหม่นแต่ตอนนี้มันมีผิวที่ใสแวววับและดูโปร่งแสง ข้างในผลไม้นั้นส่องแสงออกมาเป็นประกายสีทอง
“ อึก... “ - จางเทีย อดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ เขาลากเท้าตัวเองเดินเข้าไปพร้อมกับเอื้อมมือออกไปหา Leakless Fruit
----- Leakless Fruit นั้นสุกแล้ว วิธีการใช้ : เก็บและกินมันโดยตรง แจ้ง : ผลไม้นั้นเอาออกจาก Castle of Black Iron ไม่ได้ หลังจากที่เก็บจากต้นไป 12 ชม. พลังและความคงทนของมันจะหายไป
หน้าต่างโปร่งแสงโผล่มาทันทีเพื่อเตือน จางเทีย
เมื่อเห็นกล่องข้อความตรงหน้าหายไป อกของ จางเทีย ก็ยกตัวขึ้น เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆสองครั้งพร้อมกับเด็ดผลของมันออกมาโดยไม่ลังเล เขาเอามันมาที่จมูกแล้วดมกลิ่นมันก่อนจะมองดูมันอย่างระมัดระวัง ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับอ้าปากกว้างและกัดเข้าไปคำโต
ทันทีที่ฟันเข้ากัดเข้าเนื้อผลไม้ ปากของ จางเทีย ก็เต็มไปด้วยกลิ่นของผลไม้ มันอร่อย ! ในตอนนั้นต่อมรับรสของเขาได้เปิดออกมาเต็มที่
เขากลืนน้ำที่ไหลออกมาจากการกัดคำแรก คำแรกนั้นกัดได้แค่ส่วนเล็กๆของผลไม้ ไม่นานเขาก็กัดเข้าไปอีกและกินผลไม้นั้นอย่างรวดเร็ว ตัดสินจากสัมผัสและรสชาติแล้ว จางเทีย สาบานเลยว่าเขาไม่เคยกินผลไม้ที่อร่อยแบบนี้มาก่อน
หลังจากที่กินเสร็จเขาก็เลียปากตัวเองเพื่อจัดการน้ำผลไม้ที่เหลือบนริมฝีปากและค่อยๆชิมรสชาติของมันพร้อมกับตั้งคำถามว่ามันจะส่งผลอะไร ก่อนที่เขาจะได้สัมผัสรสชาติสุดท้าย เอฟเฟ็คของผลไม้นั้นก็แผ่ไปทั่วอกและท้องของเขา
พลังคีอุ่นๆพุ่งออกมาระหว่างอกและท้องของเขาจนเกือบทำให้เขาร้องออกมา พลังคีอุ่นๆนี้เปลี่ยนเป็นคลื่นที่อบอุ่นและเริ่มไหลไปทั่วอกและท้องของเขา มันไหลไม่ถึงสองรอบคลื่นอุ่นๆนี่ก็ถอยกลับไปก่อนจะพุ่งเข้าไปที่จุดชีพจรของเขาราวกับมันไล่ตามเหยื่อ เขารู้สึกได้ถึงคลื่นที่พุ่งเข้ามา ใบหน้าของเบาบิดเบี้ยว เขานั่งขัดสมาธิลงกับพื้น เพื่อตอบกลับพลังคีนั้น จางเทีย ได้เข้าการทำสมาธิทันที...
ตอนนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นที่จุดชีพจรตรงหว่างคิ้ว คลื่นที่ทรงพลังและอบอุ่นนั้นได้วนรอบจุดชีพจรอย่างกับมังกรไฟที่กำลังเจาะเข้าไปในถ้ำของตัวเอง ผลก็คือจุดชีพจรที่เหมือนกับถ้ำนั้นได้ค่อยๆดูดซับพลังงานอันอบอุ่นของมังกรไฟไป ผลก็คือทางเข้านั้นค่อยขยายตัวจนมังกรไฟนั้นเข้าไปได้ เพราะถ้ำนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นจึงสามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้นและภายในถ้ำเองก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันมังกรไฟก็เริ่มบินไปรอบๆหน้าถ้ำด้วยคามเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มากกว่า 10 นาทีต่อมาก็เกิดเสียง ‘ ตูม ‘ ดังขึ้น ถ้ำนั้นได้ขยายตัวออกอย่างมากและแสงที่มันส่องออกมาก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าแต่ทางเข้านั้นยังคงเล็กเกินไปกว่าที่มังกรจะเข้าไปได้ ดังนั้นมังกรจึงวนเวียนอยู่ที่ทางเข้าคอยสูบฉีดพลังงานอันอบอุ่นเข้าไปในถ้ำ หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที แสงสีฟ้าตรงทางเข้าก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ มีเสียง ‘ ตูม’ ดังขึ้นมาอีกครั้ง แสงสีฟ้านั้นได้เปลี่ยนเป็นสีม่วงและทางเข้าเองก็มีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก เพื่อเป็นการตอบรับมังกรไฟนั้นดูมีชีวิตชีวามากขึ้นอีก พลังงานคีอันอบอุ่นที่ท้องและอกของเขาได้เปลี่ยนเป็นคลื่นอันอบอุ่นที่สนับสนุนให้มังกรไฟ ในขณะเดียวกันคลื่นอันอบอุ่นนี้ก็ถูกสูบฉีดเข้าไปให้ถ้ำนั้นกว้างและสว่างขึ้นเรื่อยๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาทางเข้านั้นก็ได้เปล่งแสงสีม่วงและมีขนาดใหญ่พอที่จะให้มังกรไฟเข้าไปได้ ทันใดนั้นมังกรไฟก็พุ่งตัวเข้าไปที่ทางเข้าโดยไม่ลังเล... ‘ ตูม ‘ เสียงอันดังสนั่นดังกึกก้อง มังกรไฟตัวยาวได้เข้าไปซ่อนตัวในถ้ำ มันเปล่งแสงออกมา, แสงสีม่วงที่เปล่งออกมาทุกทิศทางนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นเศษแสง ที่ที่มังกรไฟอยู่และทางเข้าได้หายไป ประกายไฟสีแดงได้ปรากฏขึ้นมาแทนค่อยๆเผาไม้ราวกับไฟอันลุกโชติช่วงในความมืด มันเปล่งความร้อนและแสงออกมาให้กับสิ่งรอบข้างที่ดูหนาวเหน็บและมืดมิด
ในตอนที่เขา ‘ เห็น ‘ ไฟในจุดชีพจรของเขา จางเทีย ก็ตะโกนออกมาและร้องไห้ก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆอย่างกับคนบ้า ไม่คิดเลยว่าเขาจะปลุกจุดชีพจรได้ด้วยการทำแบบนี้ ผลของ Leakless Fruit นั้นน่าแปลกใจจริงๆ --- มันทำให้เขาฝ่าระดับของเปลวไฟ 3 ระดับจากฟ้าอ่อน, ฟ้า,และม่วงและทำให้เขากลายมาเป็นนักสู้ระดับ 1
“ Leakless Fruit นี่ใช้ไว้เพื่อปลุกจุดชีพจรอย่างนั้นเหรอ ? “ – คำถามนี้แว็บเข้ามาในหัวเขา เขารู้สึกแปลกๆและลุกขึ้นยืนจากพื้น
เขารู้สึกว่าข้างในตัวนั้นว่างเปล่าราวกับว่าเขาไม่มีอวัยวะภายใน,โครงกระดูกรึกล้ามเนื้อ ตอนนั้นเขารู้สึกได้ถึงสายลมอันอบอุ่นจากจุดชีพจรที่พัดออกมาทั่วทุกทิศทางและทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา พี่ชายของเขาบอกว่าการปลุกจุดชีพจรขึ้นมานั้นคือการสร้างร่างกายของคนเราใหม่ ความรู้สึกที่ได้ตอนนั้นจะวิเศษอย่างมาก มันจะรู้สึกสบายรึเจ็บปวดอย่างมาก นอกจากความรู้สึกสองอย่างนี้แล้วก็ยังมีความรู้สึกแปลกๆอีกมากมาย พี่ชายของเขาบอกว่าหลังจากที่ปลุกจุดชีพจแล้ว มันจะรู้สึกสบายยิ่งกว่าถึงจุดสุดยอดอีก ในทางกลับกันการปลุกจุดชีพจรขึ้นมานั้นจะรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าการคลอดลูกรึการเปลี่ยนรูปร่างของดักแด้ผีเสื้อ
ความอบอุ่นจากจุดชีพจรนั้นได้หยุดลงหลังจากผ่านไป 7-8 นาที เป็นเวลากว่า 1 นาทีที่ จางเทีย ได้ยินเสียงแตกหักในร่างกายของเขา กระบวนการนี้คือการจัดเรียงกระดูกใหม่ซึ่งทุกคนที่ปลุกจุดชีพจรขึ้นมาได้นั้นชอบ ทั้งกระบวนการนั้นจะน่ายินดีและรู้สึกราวกับว่าร่างกายนั้นได้มีมือที่มองไม่เห็นมาจัดเรียงตำแหน่งต่างๆใหม่ จางเทีย รู้สึกเหมือนเครื่องจักรที่มีช่างผู้ชำนาญการคอยควบคุม หลังจากนั้นเขารู้สึกว่ากระดูกในร่างกายเขาพอดีกับกระดูกส่วนอื่นๆ อีกอย่างความรู้สึกที่เต็มไปด้วยพลังและความเป็นหนึ่งเดียวนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นซะจนเขาอยากตะโกนออกมาดังๆ
ในยุคนี้มีแค่คนที่มาถึงระดับนี้ได้เท่านั้นที่จะก้าวไปในเส้นทางของการบ่มเพาะได้
“ มิสไดน่า ผมมาแล้ว ผมปลุกจุดชีพจรได้แล้ว อ่า.... “
จางเทีย ตะโกนออกมาใส่ท้องฟ้า