spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 199 ขึ้นเครื่อง
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ลู่หยวนก็ขี่กิ้งก่ามาถึงฐานทัพ
การกลับมาของพวกเขาถูกแจ้งเอาไว้ก่อนแล้ว หน่วยลาดตระเวนรอบๆจึงไม่ได้มีท่าทีกระสับกระส่ายร้อนใจ แต่พวกทหารก็มองมาทางพวกเขาเป็นครั้งคราวเพื่อคอยเฝ้าระวัง
ผู้หมวดหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาและเริ่มทำการติดต่อ
ครู่ต่อมา เครนหนัก 2 ตัวที่ลากตู้คอนเทนเนอร์เปล่ามาตัวละ 1 ตู้ก็ออกมาจากฐานทัพตามด้วยรถ SUV อีก 1 คัน ตู้คอนเทนเนอร์ถูกวางลง ข้างหลังมีทหารช่างที่สวมหมวกนิรภัย 7-8 คนลงมาจากรถ SUV หนึ่งในนั้นเดินตรงเข้ามาหาลู่หยวน
ลู่หยวนปลอบเจ้ากิ้งก่าที่กำลังเครียดให้สงบลงขณะที่ลงมาจากหลังมัน เขาก้าวขึ้นมาสองสามก้าวเพื่อทักทายทหารช่าง
พวกเขาจับมือกัน แต่สายตาของอีกคนลอบมองไปที่เจ้ากิ้งก่าที่อยู่ใกล้ๆซึ่งปล่อยรังสีน่ากลัวออกมา เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายและบังคับตัวเองให้สงบใจลงแล้วพูดว่า “สวัสดี สวัสดี สัตว์เลี้ยงของคุณใหญ่เกินจะเอาเข้าตู้คอนเทนเนอร์แบบมาตรฐานของเราได้ เราเลยต้องวัดขนาดของมันจะได้ทำการปรับแก้ตู้คอนเทนเนอร์กันใหม่ เมื่อคำนึงถึงอารมณ์ของสัตว์เลี้ยงคุณรวมถึงอันตรายที่อาจเป็นไปได้ เราจำเป็นต้องทำให้มันสงบลงก่อน”
ท่าทางของเขาไม่ได้มีการวางอำนาจบาตรใหญ่ แต่กลับมีท่าทางนอบน้อมถ่อมตัวเหมือนกับเจ้าหน้าที่เทคนิคของโรงงาน นี่หมายความว่าเขาน่าจะเพิ่งถูกเกณฑ์เข้ากองทัพ
“ไม่มีปัญหา ขอโทษที่รบกวนคุณนะครับ” ลู่หยวนพูดอย่างสุภาพ
“ไม่ ไม่รบกวนเลยสักนิด” ชายที่สุภาพคนนั้นโบกมือแล้วเปิดกล่องเครื่องมือเล็กที่อยู่ในมือของเขา ข้างในมีเข็มฉีดยาอันใหญ่กับสว่านไฟฟ้า “นี่คือยานอนหลับสูตรพิเศษที่มีฤทธิ์แรงมาก กระทั่งสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 5 ก็จะหลับไปถึง 5-6 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้ยานอนหลับเป็นครั้งที่ 2 ช่วงเวลาที่ออกฤทธิ์ก็จะลดลงไปตามลำดับ ถึงยังไงความต้านทานยาของสัตว์กลายพันธุ์ก็แข็งแกร่งมาก”
เขาส่งเข็มฉีดยาที่ใหญ่เท่าแขนไปให้ลู่หยวน ข้างในนั้นมีของเหลวสีฟ้าอ่อนอยู่
ลู่หยวนรับเข็มฉีดยามาดูแล้วถามอย่างสงสัย “เข็มเดียวพอเหรอครับ?”
“โดยทั่วไปเข็มเดียวก็พอ” นายทหารช่างคนนั้นพูดอย่างมั่นใจ “แต่มันยากที่จะแทงเข็มผ่านเข้าไปในผิวหนังหนาๆของมัน ปกติเราต้องใช้สว่านไฟฟ้าเจาะเข้าไป”
“ไม่จำเป็นต้องใช้สว่านไฟฟ้าหรอกครับ” ลู่หยวนปฏิเสธทันที เขาเอาเข็มฉีดยามาแล้วเดินตรงเข้าไปหากิ้งก่ายักษ์ มันมีบาดแผลเยอะแยะ บางแผลก็เป็นแผลสด บางส่วนก็ยังมีเลือดไหลซึมออกมา ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้เกิดบาดแผลเพิ่มอีก
ลู่หยวนกังวลว่าการฉีดใกล้ที่หัวมากเกินไปจะกระทบกับความฉลาดในอนาคตของเจ้ากิ้งก่ายักษ์ ดังนั้นเขาจึงเลือกจุดที่ปลอดภัยกว่าแถวสะโพก และฉีดยาเข้าไปในตัวมันโดยไม่ลังเล
สำหรับเจ้ากิ้งก่ายักษ์แล้ว ความรู้สึกก็แค่คันๆเท่านั้น มันมองลู่หยวนอย่างงงๆก่อนจะไม่สนใจเขา แต่ไม่นานนักมันก็เริ่มรู้สึกไม่สบาย ร่างกายของมันเริ่มหมดความรู้สึก และค่อยๆหมดเรี่ยวแรงไปทีละน้อย
ผ่านไป 1 นาที จู่ๆตัวมันก็อ่อนปวกเปียกและล้มลงคุกเข่า
มันร้องครางไม่หยุดและกระเสือกกระสนจะลุกขึ้นยืน ดวงตาของมันมองไปที่ลู่หยวน
ทหารที่อยู่ใกล้ๆเริ่มถอยอย่างช้าๆเพื่อหลีกเลี่ยงการอาละวาดที่จะเกิดขึ้น
ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อลู่หยวนมองเข้าไปในตาของเจ้ากิ้งก่ายักษ์ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ เขาเดินไปลูบหัวเจ้ากิ้งก่าเพื่อปลอบใจมัน
เมื่อลู่หยวนมาคอยปลอบให้วางใจ ความไม่สบายใจของเจ้ากิ้งก่ายักษ์ก็ค่อยๆหายไป และไม่นานเปลือกตาของมันก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ หลายนาทีผ่านไป มันก็เข้าสู่การหลับลึก
คนทั้งกลุ่มพากันปาดเหงื่อและรอจนกระทั่งยานอนหลับออกฤทธิ์เต็มที่เพื่อให้เจ้ากิ้งก่ายักษ์ไม่มีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมภายนอก หลังจากนั้น พวกทหารก็เริ่มวัดขนาดของเจ้ากิ้งก่าอย่างละเอียด
หลังทำการวัดแล้ว ตู้คอนเทนเนอร์เปล่าตู้หนึ่งก็ถูกตัดด้วยไฟและไม่นานการปรับปรุงแก้ไขที่จำเป็นก็เริ่มขึ้น
สองชั่วโมงผ่านไป ทุกอย่างก็เรียบร้อย
ตู้คอนเทนเนอร์ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจนหลังการปรับปรุงแก้ไข ผนังกลายเป็นสองชั้นหนาขึ้น ตู้คอนเทนเนอร์ดูมั่นคงแข็งแรงมาก เห็นได้ชัดว่าตั้งใจป้องกันไม่ให้เจ้ากิ้งก่ายักษ์ก่อความเสียหายหลังจากที่ตื่นขึ้นมา
กิ้งก่ายักษ์ที่หมดสติถูกเครนยกขึ้นและใส่เข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ และถูกเชื่อมปิดโดยทิ้งให้มีช่องว่างขนาดลูกบาสเก็ตบอลเอาไว้ข้างนอก
“นี่เอาไว้หายใจเหรอครับ?” ลู่หยวนชี้ไปที่รูและถามขึ้น เขาเฝ้าสังเกตเหตุการณ์อยู่
“นี่เอาไว้ต่อกับท่อระบายความร้อน พออุณหภูมิลดลงจนถึงจุด สัตว์เลี้ยงของคุณจะเข้าสู่ภาวะเซื่องซึม อัตราการเผาผลาญของมันจะลดลงจนต่ำสุด อากาศในตู้คอนเทนเนอร์นั้นมากเกินพอสำหรับสภาพของมันตอนนี้ จึงไม่จำเป็นต้องมีรูเอาไว้หายใจ”
“อย่าห่วงเลย พวกสัตว์แข็งแรงกว่าที่คุณคิด เรามีประสบการณ์เรื่องนี้ จะไม่มีอะไรผิดพลาดหรอกครับ” นายทหารช่างวัยกลางคนให้การรับรองด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลของลู่หยวน
หลังจากได้ฟัง ลู่หยวนก็ใจเย็นลงในที่สุด
เวลา 7.30 น.ลำโพงที่ฐานทัพก็ออกประกาศเสียงดัง “ทหารทุกนายและผู้รอดชีวิตทุกคนมาที่ลานจอดเครื่องบินทันที เครื่องบินใกล้จะออกแล้ว......”
ผู้รอดชีวิตได้รับข่าวมาก่อนแล้ว หลังจากได้ยินคำสั่งรวมตัว พวกเขาก็แห่กันออกมาจากหอนอนด้วยสีหน้าตื่นเต้นและปิติยินดี บางคนก็ตะโกนออกมาราวกับคนบ้า
ลู่หยวนกับพรรคพวกของเขายืนอยู่ที่ประตูเรียบร้อยแล้ว
“เอาของทุกอย่างมาแล้วใช่ไหม? ไม่ลืมอะไรนะ?” ลู่หยวนถาม
“เราเช็คซ้ำสองรอบแล้ว” หวงเจียฮุยพูด สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ไม่เพียงหวงเจียฮุยเท่านั้น แต่ทุกคนต่างมีสีหน้าตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกาย แสงแห่งความหวังสะท้อนออกมา
ในตอนนี้คนเริ่มตระหนักว่าชีวิตก่อนวันโลกาวินาศนั้นมีค่าแค่ไหน แม้ว่าสภาพความเป็นอยู่ในเขตบูรณะใหม่จะไม่ดีเลิศ และอาจจะมีเสบียงอาหารไม่เพียงพอ แต่แค่สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยอย่างเดียวก็มากพอที่จะชนะปัจจัยอื่นๆได้
“งั้นไปกันเถอะ!” ลู่หยวนพูด
ลู่หยวนและพรรคพวกเดินตามฝูงชนไปที่ลานจอดเครื่องบิน พวกทหารอยู่ที่นั่นคอยช่วยรักษากฎและระเบียบ
เครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่เท่ากับสัตว์กลายพันธุ์ถูกจัดเรียงเป็น 2 แถว ภายใต้แสงไฟ โลหะสีเทาดำถูกย้อมสีด้วยแสงสีเข้มและเย็น รันเวย์ข้างหน้าจุดไฟสว่าง 2 แถว ยาวออกไป 2-3 กม. และเห็นได้ชัดภายใต้คืนที่มืดมิดในวันโลกาวินาศ
“เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยของเครื่องบินขนส่ง ต้องส่งปืนและอาวุธทั้งหมดให้เราก่อนขึ้นเครื่อง หากพบว่าใครลักลอบนำขึ้นไปจะถูกไล่ออกจากฐานทัพ” เจ้าหน้าที่พูดอย่างเข้มงวด
ไม่มีใครสงสัยคำสั่งนั้น ดังนั้นทุกคนจึงส่งอาวุธของพวกเขาให้พวกทหารอย่างเงียบๆ ผู้รอดชีวิตหลายคนถูกพบว่าซุกซ่อนอาวุธและถูกทหารจับได้ พวกเขาอ้อนวอนซ้ำๆด้วยสีหน้าหวาดกลัว บางคนถึงขั้นคุกเข่าขอความเมตตา แต่ก็ไร้ประโยชน์ ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนต่อต้านมากเท่าไร พวกเขาทุกคนก็ถูกจับขึ้นรถหุ้มเกราะและถูกส่งออกไปนอกฐานทัพ หนึ่งในนั้นพยายามสู้กลับ แต่ถูกยิงตายคาที่และถูกโยนออกไปข้างนอกแบบส่งๆ
การลงโทษสถานหนักถูกนำไปใช้ในช่วงที่ปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่ต้องพูดถึงว่านี่เป็นฐานทัพด้วย
ทุกคนตกใจกับสิ่งที่เห็น ผู้รอดชีวิตบางคนที่มีเจตนาแอบแฝงก็ไม่ต้องการจะเสี่ยงโชคอีกต่อไป พวกเขายอมมอบอาวุธทั้งหมดโดยไม่ลังเล แม้แต่มีดพกเล็กๆก็ถูกส่งไปด้วย
พอลู่หยวนคิดที่จะมองหาคนรู้จักสักคนเพื่อให้ช่วย ทหารคนหนึ่งก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “คุณกับเพื่อนๆของคุณมากับผม”
“เฮ้ พี่ลู่ ทางนี้ คุณต้องขึ้นเครื่องนี้” ก่อนที่จะออกเดิน ผู้บัญชาการเซี่ยก็เดินเข้ามาทักทายพวกเขา