spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 39: เรื่องโง่ๆเพราะถาดอาหาร
ระหว่างคาบเรียนในตอนบ่ายนั้นแสงแดดได้ร้อนสุดๆ ทันทีที่ระฆังดังไอ้พวกหื่นก็รีบจัดแถวและรอคอยคำสั่งจากโค้ชที่ซึ่งโบกธงพร้อมกับยืนที่ซึ่งปกติจะยืนอยู่แท่นสั่งการ แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครโผล่ขึ้นมา ระหว่างช่วงนี้ทุกคนต้องกลั้นลมหายใจของตัวเอง แทนที่จะเป็นโค้ชที่พวกเขาคุ้นเคยกลับเป็นไอ้โหดตาเดียวโผล่ขึ้นมาแทน พลังคีอันเย็นชาของมันทำให้ทุกคนด้านล่างต้องกลัว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาตระหนักได้ว่าไอ้โหดขึ้นมาหลังจากเห็นแส้สีดำในมือสะบัดไปมา
เพราะเป็นโรงเรียนกึ่งกองทัพจึงมีการลงโทษที่เคร่งครัดที่ซึ่งจะจัดการเด็กที่ไม่ทำตามกฎ ในบรรดาการลงโทษทุกอย่างอันที่ดูจะเบาที่สุดคือวิ่งรอบสนาม ส่วนบางอันเป็นการโดนแส้ฟาดแต่ในกรณีเลวร้ายที่สุดพวกเขาจะถูกส่งขึ้นศาลของเมืองเพื่อไปตัดสินคดี
เมื่อมองไปที่แส้ในมือของไอ้โหด ทุกคนรู้ว่าต้องมีคนที่โดนฟาดแน่ หลายปีที่อยู่โรงเรียนนี้มาทุกครั้งที่ไอ้โหดถือแส้แบบนี้ต้องมีคนโดนฟาดโชว์
เขาเองก็ยืนอยู่ในแถวด้านล่างแท่นสั่งการ จางเทีย เห็นสีหน้าอันเย็นชาของชายตาเดียวและรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ รู้สึกเสียใจมั้ย ? “ - จางเทีย ถามกับตัวเอง
“ เหี้ย ! “ - เขาตอบกลับตัวเอง
“ เกรซ, ชาร์ลอน, การ์เนอร์,และซูแอร์ ออกมานอกแถว ! “ – กัปตันเคอร์ลิน ตะโกนออกมาทำให้คนด้านล่างช็อค เกรซ ? กลุ่มของ เกรซ ?
“ นี่คงเป็นโชว์ที่ดีแน่ ! “ – ไอ้อ้วน แบร์ลี่ ที่ยืนอยู่ข้างๆ จางเทีย ใช้เท้าสะกิดเขา
“ อ้อ คงเห็นอะไรสนุกๆบ้าง ! งั้นมันคงต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับฉันแน่ ! “ - จางเทีย คิดกับตัวเอง...
ทุกคนต่างก็มองดูคนทั้งสี่ที่เดินออกจากแถวนำโดย เกรซ โดยแต่ละคนหน้าซีดกันหมด คนแรกที่เดินออกมาคือ ชาร์ลอน คนที่โยนถาดข้าวใส่ จางเทีย ในเวลาเดียวกัน ชาร์ลอน ดูเหมือนจะรู้บางอย่างและหันหลังกับมาและมองหา จางเทีย ตาของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาต
จางเทีย มองไปที่ ชาร์ลอน อย่างเย็นชา แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำไปก่อนหน้านี้แต่สำหรับคนอื่นแล้ว การตัดสินใจนี้มันคงยากและเจ็บปวดแต่สำหรับ จางเทีย แล้วมันเป็นตัวเลือกที่ง่าย ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเขาแค่ถามกับตัวเองหนึ่งคำถาม – ตัวเลือกไหนที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวเขา ?
เด็กสี่คนนั้นเดินออกมาตามคำสั่งของไอ้โหด ในตอนที่พวกนั้นไปยืนบนลานก็ได้มีคนดูแลเดินเข้าไปถอดเกราะหนังของพวกนั้นออกเผยให้เห็นร่างกายส่วนบนที่เปลือยออกมา นี่เป็นสิ่งยืนยันว่าตรงนี้นี่แหละที่ไอ้โหดจะฟาดแส้ใส่
“ กัปตันเคอร์ลิน ผมเชื่อว่าผมมีสิทธิที่จะรู้เหตุผล ! “ - เกรซ คำรามออกมาจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดในตอนที่แขนโดนผู้ดูแลล็อคเอาไว้
“ ตามกฎข้อที่ 27 นักเรียนแต่ละคนควรทำความสะอาดจานและเอามันไปส่งคืนที่โรงอาหาร คนที่ฝ่าฝืนจะโดนฟาด 2 ครั้ง ตามกฎข้อที่ 6 นักเรียนแต่ละคนนั้นไม่ควรทำความเสียหายให้สมบัติส่วนรวม คนที่ฝ่าฝืนจะโดนฟาด 4 ครั้ง เกรซ, ชาร์ลอน, การ์นเนอร์,และ ซูแอร์ ไม่ได้ส่งถาดอาหารคืนโรงอาหาร พวกเขาโยนมันทิ้งไว้ในป่า ดังนั้นจึงเป็นการฝ่าฝืนกฎสองข้อที่บอกไปทำให้ถูกตัดสินให้โดนฟาดคนละ 6 ที ! ฉันพูดชัดมั้ย ? “ – ชายตาเดียวมองกลุ่มพวกนั้นด้วยสายตาเย็นชา ผลก็คือทั้งสี่คนช็อคราวกับโดนสายฟ้าผ่าเอา
จางเทีย ที่ยืนอยู่ในแถวมองดูสีหน้าของพวกนั้น หลังจากที่ไอ้โหดฟาดพวกนั้นเสร็จ จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าสามคนในกลุ่มนั้นไม่ได้มองไปที่ ชาร์ลอน แต่พวกมันกลับมองหาคนในแถว ตอนนั้นเอง จางเทีย ก็รู้ตัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนบ่ายนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นแผนที่กลุ่มนี้พยายามอยากให้เขาอาย เพราะปกติพวกนี้ไม่ได้ทำตามกฎของโรงเรียนอยู่แล้วและมักจะไปหาพวกขี้ขลาดให้มาล้างจานให้พวกมัน ชาร์ลอน ไม่คิดว่าเขาน่ะจะปฏิเสธ นี่คือคำอธิบายของสถานการณ์ตอนนี้
เมื่อ จางเทีย รู้เรื่องนี้เขาก็สลดขึ้นมา เขามักจะทำตัวเงียบๆมาตลอด เขาไม่รู้เลยว่าเขาไปคุกคามกลุ่มนี้เข้าซะแล้ว
เมื่อเห็นแส้ในมือของไอ้โหดพวกนั้นก็หน้าซีดลง ดูหมือนว่ามันจะรู้สึกอะไรแปลกๆ ชาร์ลอน ได้พูดขึ้นมา – “ กัปตันเคอร์ลิน ผมมีอะไรจะพูด... “
ไอ้โหดมองไปที่ ชาร์ลอน ที่กำลังกลืนน้ำลายอยู่และพึมพำออกมาอย่าเย็นชา – “ พูดมา ! “
“ หลังจากมื้อเที่ยงเราได้เอาจานเราให้คนอื่น....”
“ ที่ไหน ? “
“ ในป่าเล็กๆข้างโรงอาหาร ! “
“ ยังไงต่อ ? “
“ ผม..ผมวางมันต่อหน้าชายคนนั้น ! “
“ ต่อหน้าเขา ? ตรงพื้นรึที่มือ ? “
“ บน...บนพื้น ! “
“ ทำไมแกถึงไปวางจานที่พื้นต่อหน้าเขา ? “
“ ผม..ผม..ผมจะให้เขาล้างก่อนจะเอามันไปส่งคืน “ – บางทีเพราะการขาดความมั่นใจเมื่ออยู่ต่อหน้าไอ้โหดทำให้เขาพูดเสียงเบา
“ แล้วชายคนนั้นพูดอะไร ? “
“ ไม่พูดอะไรเลย..เขาไม่ได้พูดอะไรเลย ! “ - ชาร์ลอน รู้ว่า จางเทีย น่ะอยู่ในแถวและรู้ว่า จางเทีย คงโผล่ออกมาปฏิเสธคำโกหกของเขาดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะพูดโกหกแบบไหนก็ได้
“ แล้วเกิดอะไรขึ้น ? “
“ จากนั้น... “ – ชาร์ลอน มองไปที่ไอ้โหด – “ จากนั้นผมก็เดินออกมา....”
“ ฉันรู้ว่าแกอยากจะสื่ออะไร แกจะบอกว่าเพราะแกโยนจานให้ชายคนนั้นแล้วและชายคนนั้นไม่สนใจคำสั่งแก เขาควรจะเป็นคนโดนฟาดถูกมั้ย ? แกรู้มั้ยว่าอะไรผิด ? ในสายตาของแกแล้วเพราะชายคนนั้นขัดขำสั่งแก แกเลยรู้สึกว่าโดนหยาม ? แกคิดว่าเขามีส่วนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เหรอ ? ถ้าแกโยนจานลงมาต่อหน้าฉัน งั้นหมายความว่าฉันคงต้องเป็นคนที่ถูกฟาด ถูกมั้ย ? “ – หน้าของชายตาเดียวดูไร้อารมณ์แต่คำพูดที่เขาพูดอออกมายิ่งทำให้กลุ่มนี่คนนี้ดูแย่ลงไปอีก พวกนั้นไม่กล้าจะพูดอะไรออกมาอีกเลย
“ ข้อแก้ตัวที่ดีจริง ! โชคร้ายที่แกไม่มีอำนาจพอที่จะไปเขียนกฎเหี้ยของแกลงในกฎหมายของเมืองนี้ ! “ - ไอ้โหดยิ้มเย็นชาออกมาและพูดเพิ่ม – “ ดังนั้นพวกแกสมควรที่จะโดนฟาด 6 ที ! “
……
หลังจากนั้นพวกเด็กๆในแถวก็เริ่มชมศิลปะการลงโทษที่โหดที่สุดของชายตาเดียว ในสายตาเด็กๆแล้วการฟาดของเขานั้นทั้งโหดร้ายและน่ากลัว เขาไม่ได้ใช้แรงอะไรมากแต่มันก็เจ็บปวดอย่างมาก มันไม่ได้ทำร้ายเส้นเลือด,กระดูกรึอวัยวะภายใน วันนี้เด็กทุกคนจะได้ยินเสียงกรีดร้องของพวกนั้นหลอนไปทั้งวันแน่ จากนั้นทั้งสี่คนก็โดนผู้ดุแลลากตัวออกไป โชคร้ายไปหน่อยที่พวกนั้นสลบไปแล้ว
“ เจ๋งฉิบหาย ! “ - หลังจากโดนกดขี่จากพวกนั้นมานาน นี่คือความคิดที่เด็กพวกนี้คิด
แม้ว่า จางเทีย จะยังคงรู้สึกเจ็บไปทั้งตัวแต่หลังจากพักเบรกตอนเช้าแล้ว เขาก็กัดฟันและทนฝึกในตอนบ่ายได้
บ่ายนี้ไม่ได้มีเสียงร้องดังมาจากสนามฝึก เทียบกับแต่ก่อนแล้วพวกเด็กดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ตอนที่พักพวกนั้นคุยกันว่าใครเป็นฮีโร่ ตั้งแต่ที่ เกรซ ได้ถูกเลื่อนขั้นเป็นนักสู้ระดับสอง มันก็มักจะฝ่าฝืนกฎโรงเรียนทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะไปขัดมัน ไม่คิดเลยว่ามันจะต้องมาเจออะไรแบบนี้
นอกจาก จางเทีย และ แบร์ลี่ แล้วทุกคนในองค์กรต่างก็พากันตื่นเต้น จางเทีย คิดว่าพวกห่านั้นต้องมาแก้แค้นที่โดนฟาดแน่ พวกบัดซบนั่นต้องเอาคืนหนักกว่าที่มันโดนแน่ๆ
“ ดูเหมือนว่าฉันไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มี Iron Body Fruits พอ ! “ - จางเทีย ปลอบใจตัวเอง
ไอ้อ้วนนั้นก็ไม่ได้ตื่นเต้น เขาดูกลัวตั้งแต่ที่ได้ยินคำพูดของ ชาร์ลอน
สมาชิกทุกคนในองค์กรรู้ดีว่า จางเทีย น่ะแหละที่ไปอยู่ในป่าหลังจากกินข้าวเสร็จ เพราะแบร์ลี่เป็นคนเจ้าสังเกต เขาอาจจะรู้บางอย่าง ดังนั้น จางเทีย จึงรู้สึกว่าไอ้อ้วนนี่น่าจะรู้ว่าฮีโร่ที่ว่าน่ะคือใคร....
……
หลังจากเลิกเรียนแล้ว จางเทีย ได้ขอให้สมาชิกคนอื่นๆรอเขาสักพัก เขาตัดสินใจประกาศการตัดสินใจของเขาออกมา..
“ อะไรนะ...ไอ้หัวโต แกอยากออกจากองค์กรงั้นเหรอ ? “- ดั๊ก มองมาที่ จางเทีย ด้วยความแปลกใจ – “ ทำไม? เกิดอะไรขึ้น ? เราจะทำให้แกเป็นชายเต็มตัวในอาทิตย์หน้าแล้วแท้ๆ ! “
ฮิสต้า, ชอร์วิน เองก็ช็อคเหมือนกัน แบกแดด นั้นโกรธจนกำหมัดแน่น
“ ฉันคุ้นกับการอยู่คนเดียวมากกว่า ดังนั้นเคารพการตัดสินใจของฉันด้วย... “ - จางเทีย ฝืนยิ้มออกมาและไม่ได้พูดอะไรต่อก่อนจะเดินออกจากห้องไป คนที่เหลือกลับทำหน้าตาเอ๋อเหรอออกมา
“ ไอ้บัดซบนั่น ฉันน่าจะต่อยมันสักครั้ง ! “- แบกแดด ต่อยกำแพงในห้องผลก็คือมีเศษหินร่วงลงมาด้วย...
“ เราจะทำกับเขาเหมือนกับน้องชายแท้ๆ...ป่ะ.... “- ดีก ถุยน้ำลายใส่ประตู – “ แต่ดูเหมือนมันไม่ต้องการให้เราเป็นพี่น้องมันเลย ! “
“ มีเรื่องอะไรรึเปล่า ? “ - ชอร์วิน มองไปที่คนอื่นๆ
“ เขาจะโง่ที่จะออกจากองค์กรก่อนพิธีฉลองได้ยังไง ? “ - ฮิสต้า ไม่เข้าใจ
ลิซ กรอกตาและมองไปที่ แบร์ลี่ ที่ซึ่งเงียบและก้มหน้าไม่ได้พูดอะไร เมื่อเห็นท่าทีของไอ้อ้วน ทุกคนก็เงียบด้วยเช่นกัน จากนั้น แบร์ลี่ ก็เงยหน้าขึ้นมามองไปที่ทุกคน
“ ฉันรู้ตั้งแต่อยู่สนามฝึกแล้ว สิ่งที่ไอ้หัวโตทำน่ะยืนยันสิ่งที่ฉันคิดไว้ พวกแกน่ะเข้าใจผิดเขาหมด เขาน่ะออกจากองค์กรก็เพราะไม่อยากให้เรามีปัญหา ! “
“ ปัญหา นายหมายถึง.... “ – ชอร์วิน ดูเหมือนจะเข้าใจเหมือนกัน
“ ไอ้หัวโตนั่นแหละคือฮีโร่ เขาคือคนที่ไม่เอาจานพวกนั้นไปล้าง ! “ – แบร์ลี่ อธิบายทุกอย่างและทำให้ทุกคนช็อค – “ กลุ่มของ เกรซ นั้นต้องเอาคืนเขาแน่ จางเทีย ไม่อยากให้เราไปเกี่ยวด้วย นั่นเป็นเหตุผลให้เขาออกไปยังไงล่ะ ! “
แบร์ลี่ มองไปที่คนในกลุ่ม – “ กลุ่มของ เกรซ ต้องแก้แค้นไอ้หัวโต --- แน่นอนว่าต้องโหดแน่ๆ ! เพราะไอ้หัวโตน่ะคือหนึ่งในพวกเรา พวกเราก็ต้องโดนแก้แค้นไปด้วย นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเรา ไม่มีใครสามารถตัดสินใจแทนคนอื่นๆได้ ดังนั้นฉันอยากได้ยินความคิดเห็นของพวกแก ถ้าใครคิดว่าไอ้หัวโตเป็นพี่น้อง เราก็ควรจะเผชิญหน้ากับการแก้แค้นด้วยกันกับเขา ถ้าไม่เราก็จะปลอดภัยและทำท่าว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราจะยกมือกันเพื่อตัดสินใจในอีก 5 นาที ! “
ตอนนั้นเองสมาชิกทุกคนก็เงียบไป
……
5 นาทีต่อมา แบร์ลี่ ก็มองไปที่พวกนั้น –“ คนที่จะเอาด้วยให้ยกมือขึ้น ! “
ทุกคนมองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ ดี เพราะพวกนายเงียบ ฉันจะเป็นคนแรกที่ตัดสินใจ แม้ว่าไอ้หัวโตจะทำจมูกฉันหักและให้ชื่อฉันว่าไอ้อ้วกแต่ฉันก็รู้สึกได้ว่ามันเป็นคนดี งั้นทำไม....” - ดั๊ก จับจมูกตัวเอง – “ ฉันอยากช่วยมัน... “
ดั๊ก ยกมือตัวเองขึ้น.....
“ เกรซ ที่เป็นนักสู้ระดับ 2 ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ? ฉันจะก้าวข้ามมันในไม่ช้านี่แหละ ! “ - แบกแดด ก็ยกมือขึ้นด้วยเช่นกัน ...
“ ถ้าเราทิ้งพี่น้องเพราะเรื่องเล็กแบบนี้งั้นไม่ได้หมายความว่าเราคงต้องยุบองค์กรเราถ้าเจอปัญหาที่ใหญ่โตกว่านี้เหรอ ? “ - ฮิสต้า พูดขึ้นพร้อมกับยกมือ
“ ฉันรู้สึกเหมือนไอ้บ้านี่ทำอะไรที่ไม่คาดคิดตลอดเลย ฉันยังรู้สึกว่าเขาน่ะคือคนที่จะไม่หนีพวกโจรและไม่เคยจะเอาปัญหามาให้เราเหมือนกับที่เขาทำในวันนี้ เขาอาจจะมีวิธีแก้ปัญหา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงโล่งใจที่มีพี่น้องแบบเขา ! “ – ลิซ พูดแบบนั้นและยักไหล่ก่อนจะยกมือขึ้น
“ เพราะพวกนายเลือกที่จะเข้าข้าง จางเทีย ไม่มีทางที่ฉันจะทำให้พวกนายผิดหวังได้หรอก พวกนายรู้สึกมั้ยว่าวันนี้เราเท่ฉิบหาย ? “ - ชอร์วิน ยิ้มออกมาและยกมือขึ้นด้วย
ในตอนที่ทุกคนมองไปที่ไอ้อ้วน ในที่สุดไอ้อ้วนก็ยิ้มออกมาและยกมือขึ้น – “ ถ้าองค์กรของเราอยากมีอำนาจในเมือง งั้นกลุ่มของ เกรซ นี่ก็คือก้าวแรกของเรา ถ้าเราไม่เผชิญหน้ากับปัญหาด้วยกัน แล้วจะเรียกว่าพี่น้องได้ยังไง ? พูดไปแล้วก็ต้องขอบคุณไอ้หัวโต ฉันน่ะอยากมีโอกาสทดสอบความภักดีต่อองค์กรมาตลอดแต่ไม่คิดเลยว่านี่แหละคือโอกาส ! “
ทุกคนมองหน้ากันด้วยตาที่เป็นประกาย เพราะสถานการณ์ที่ยากและตัวเลือกที่น่าหนักใจทำให้ทุกคนสนิทกันมากกว่าเดิม แต่ละคนรู้สึกกล้าและมั่นใจอีกทั้งยังรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาด้วย ...
“ สโลแกนขององค์กรเราว่าไงนะ ?” – เมื่อเห็นทุกคนยิ้ม แบร์ลี่ ก็ตะโกนออกมา
“ ทะยานฝัน ! “ - ดั๊ก อุทานออกมา ในเวลาเดียวกันทุกคนก็หันกลับไปมองเขา ดั๊ก รู้ตัวทันทีว่ามุขเขาคงไม่ผ่านและยักไหล่
“ ใครก็ตาที่สร้างปัญหาให้พี่น้องเรามันซวยแน่ ! “ – พวกหื่นตะโกนออกมาพร้อมกัน....