spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 37: มันขึ้นอยู่กับความคิดนาย
มันเป็นลูกเตะที่รุนแรงงมากแต่ จางเทีย เตรียมรับมือกับมันอยู่แล้วและหลบมันโดยการเอียงตัวออก ผลก็คือลูกเตะนั้นไม่โดนเขา ก่อนที่เขาจะได้มีเวลาดีใจ จางเทีย ก็เห็นว่ามีหมัดพุ่งเข้าใส่หน้าอกของเขา ตอนนั้น จางเทีย ตั้งใจจะทดสอบแรงของเด็กโดยการใช้แขนตัวเองรับแรงเอาไว้ มีเสียงเหมือนโดนทุบดังขึ้นที่แขนของเขา เขารู้สึกได้ถึงแรงปะทะอย่างแรงทำให้แขนเขาชาและต้องถอยหลังกลับไปหลายก้าว จางเทีย แปลกใจกับแรงที่อยู่ในหมัดนั่น มันเกือบเท่ากับแรงที่เขามี จางเทีย ไม่คิดว่าเด็กนี่จะมีแรงเทียบเท่ากับเขาทั้งๆที่เด็กนี่อ่อนกว่าเขาตั้งสองปี ถ้าดูจากแรงหมัดที่มีแล้ว จางเทีย รู้ว่าเด็กนี่มีแรงมากกว่าเขานิดหน่อยแต่ก็ยังน้อยกว่า แบกแดด
แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นการสู้กับเด็กนี่คนเดียว จางเทีย ก็ไม่ได้กลัวเลยสักนิด ยังไงซะเขาก็แก่กว่าเด็กนี่อยู่สองปี หมายความว่าอย่างน้อยเขาก็ได้เปรียบเรื่องความสูงและน้ำหนักแต่ถ้าเขายังโดนอัดอยู่และเอาชนะไม่ได้แล้วงั้นผลลัพธ์คงก็ชัดเจนว่าเขากระจอกเอง
แม้ว่าเกราะหนาๆนั้นจะช่วยลดแรงได้แต่มันก็ยังส่งผลต่อความเร็วที่เขามี การเคลื่อนที่หลายอย่างนั้นช้าลงเพราะเกราะนี่ และผลลัพธ์ก็คือเด็กนี่ฉวยโอกาสเตะตรงเข้าที่อกของเขา ทำให้ จางเทีย กระเด็นออกไปก่อนจะล้มลงที่พื้น
จางเทีย รู้สึกมึนๆ เขาหายใจออกและพยายามลุกขึ้นจากพื้น ในเวลาเดียวกันเขาก็เห็น แมรี่ ปาดเหงื่อให้เด็กนั่นด้วยผ้าขนหนูก่อนจะจูบหน้าผาก ส่วนเด็กนั่นทำท่าเย่อหยิ่งออกมาพร้อมกับดื่มน้ำและมองมาที่ จางเทีย ด้วยสายตาดูถูก
“ ฉันหลงคิดว่าแกจะแข็งแกร่งกว่านี้ซะอีก แกมันขยะชัดๆ ! “
จางเทีย รู้สึกเหมือนคงเสียหน้าถ้าเถียงกลับไป ฉันควรบอกมันไปดีมั้ยว่าฉันมาที่นี่ให้คนอื่นอัดเพื่อให้ Iron Body Fruit มันสุก ? แกนี่แหละที่มาให้บริการฉัน ฮ่ะ รู้สึกดีจริงเลย ...
“ ต้น Manjusaka Karma Fruit ฉันรักแก ! “ - จางเทีย ตะโกนขึ้นในใจ....
ด้วยการที่มีหมวกคอยป้องกันอยู่ จางเทีย ได้ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับโฟกัสเรื่องผล Iron Body Fruit เขาไม่ได้สนเรื่องการโดนอัดเลยแม้แต่นิด หลังจากที่ยืนขึ้นแล้ว จางเทีย ค่อยสะบัดแขนขาตัวเองและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นอกจากความเจ็บที่หน้าอกแล้วทุกอย่างไม่เป็นอะไรเลย เขากวักนิ้วใส่เด็กอีกครั้ง
“ มามะ เด็กน้อย ! “
……
ใบหน้าของเด็กนั่นแสดงความโกรธออกมาทันที เขาวางขวดน้ำลงและวิ่งเข้าหา จางเทีย อีกครั้ง 7-8 นาทีต่อมา จางเทีย ก็กระเด็นอีกครั้งด้วยการกระโดดเตะและหล่นไปที่พื้นด้วยท่าทางน่าสงสาร ใช้เวลากว่าครึ่งนาทีกว่าที่เขาจะลุกขึ้นกลับมาได้ ในตอนนั้นเองเด็กนั่นก็หอบไปเรียบร้อยแล้ว
“ มามะ เด็กน้อย ! “
มากกว่า 20 นาทีต่อมาเด็กนั้นได้ทำเกราะของเขาพังและอาศัยจังหวะนั้นต่อยรัว 4-5 หมัดใส่อกของ จางเทีย ผลก็คือ จางเทีย โดนต่อยจนต้องถอยกลับไป 5 ก้าว ไม่นานหลังจากนั้นเด็กนั่นก็ตะโกนออกมาพร้อมกับศอกเข้าใส่ท้องของเขา จางเทีย รู้สึกว่าเลือดพุ่งขึ้นมาจนถึงคอและเส้นเลือดรอบๆคอรู้สึกเจ็บขึ้นมาและรีบกลืนมันลงไป ตอนนี้ตาของเขาเริ่มดูพร่ามัวขึ้นมา
ด้วยการที่ท้องเขามันนุ่ม จางเทีย เลยไม่ได้กระเด็นไปไหนแต่เขารู้สึกเหมือนเขาเดินอยู่บนมาชเมโล่ที่อ่อนยวบ ในเวลาเดียวกัน จางเทีย ก็รู้สึกได้ถึงลมที่ออกมาจากหูของเขา ในเสี้ยววินาทีเขาได้สิ่งที่ อูโน่ สอนเขามาและใช้มือของเขาปกป้องหัวตัวเองตามสัญชาตญาณ
“ ปัง ! “ - ในตอนที่ จางเทีย ยกแขนขึ้นมากันก็ได้มีเสียงดังเกิดขึ้น ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกได้ถึงลูกเตะที่ทรงพลังและล้มลงไปที่พื้นทันที เขากลิ้งอยู่หลายรอบก่อนที่จะหยุดห่างจากจุดเดิมไป 2 ม.หมดแรงที่จะขยับได้อีก
จางเทีย เห็นเด็กนั่นหอบอย่างรุนแรงและเหงื่อท่วมตัว เด็กนั่นมองมาที่ จางเทีย ที่ซึ่งนอนอยู่ที่พื้น การสู้แบบนี้นั้นใช้แรงมากทั้งฝั่งป้องกันและฝั่งโจมตี
ในคลับนี้แม้ว่าจะมีคนไม่กี่คนที่ทำงานเต็มตัวเป็นกระสอบทรายแบบ จางเทีย ในฐานะคู่ซ้อมแล้วนอกจากโดนอัดแล้วพวกเขายังช่วยอีกฝั่งพัฒนาเทคนิคการต่อสู้ อีกอย่างคู่ซ้อมนั้นสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ อันที่จริงคู่ซ้อมระดับสูงนั้นถือว่าเป็นครูที่คอยช่วยเหลือคนอื่นๆ ในระหว่างการฝึกนั้นคู่ซ้อมนั้นสามารถหาจุดบกพร่องของคู่ต่อสู้อย่างจุดอ่อนของการโจมตี,การเคลื่อนที่ไร้ประโยชน์, จังหวะในการโจมตีและจิตใจในตอนที่ต่อสู้ คู่หูซ้อมระดับทองนั้นมักจะไปได้ดีกับคลับต่อสู้และพวกนั้นเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับคลับต่อสู้ เพราะ จางเทีย น่ะเพิ่งมาใหม่ เขาเลยยังไม่ได้เจอคนระดับสูงๆ อีกอย่างคู่ต่อสู้วันนี้เองก็มีผู้หญิงเรียกมาสร้างปัญหาให้กับเขา เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ได้แสดงท่าทีเห็นอกเห็นใจอะไร ผลก็คือการต่อสู้ในวันนี้นั้นยากขึ้นกว่าเดิม...ถ้าไม่ใช่ จางเทีย แต่เป็นคนอื่น พวกนั้นคงแพ้ไปนานแล้ว แม้ว่าจะไม่แพ้แต่พวกนั้นก็ต้องรู้สึกหงุดหงิดและสิ้นหวังเมื่อมาโดนเด็กแบบนี้อัดซ้ำๆ
แต่ จางเทีย ที่นอนอยู่ที่พื้นไม่ได้คิดแบบนั้น เขาคิดถึงลูกเตะของเด็กนี่ หลังจากรวบรวมสติได้แล้ว จางเทีย ตระหนักได้ว่าเขาไม่คควรปิดหัวด้วยมือเพื่อกันลูกเตะนั้นแต่เขาควรที่จะใช้ไหล่รึหลังแทนซึ่งสองที่นั้นเป็นส่วนที่รับแรงได้มากที่สุด ในตอนที่เจอการโจมตีที่หลบไม่ได้ คุณมีสองทางเลือก – ทางเลือกที่ดูดีคือซ่อนรึไม่ก็ป้องกัน อีกทางเลือกคือขัดจังหวะการโจมตี ด้วยตัวเลือกที่แตกต่างกันนั้นคุณก็จะเจอผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เมื่อไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนมันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือตามสัญชาตญาณกับเหตุการณ์ที่เป็นตายแบบนี้
เมื่อคิดแบบนั้น จางเทีย ค่อยๆพยุงตัวเองขึ้น – “ ฉันได้ประโยชน์จากลูกเตะนี่ Iron Body Fruit ใน Castle of Black Iron น่าจะสุกในไม่ช้า ! ฮาฮา ฉันล่ะทนรอไม่ไหวจริงๆ มาสิ ! เตะอีก ! แกกำลังทำงานให้ฉันแต่ฉันไม่จ่ายเงินแกหรอกนะ ! ฉันจะทำตัวเหมือนแกเหมือนเจ้านายที่ทำกับลูกน้องยังไงล่ะ ฮาฮา ... “
เมื่อมองมุมมองต่างกันก็จะนำไปสู่ความคิดที่แตกต่างกันและความรู้สึกแตกต่างกันอีก,ความคิดที่แตกต่างกันไปซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากเดิมก่อตัวเป็นโชคชะตาที่เปลี่ยนผัน ตอนนี้เพราะการมีอยู่ของต้นไม้เล็กๆนั่นทำให้ จางเทีย มีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าคนอื่นที่มักจะกลัวการโดนโจมตี แม้จะเป็นแบบนั้นแต่ จางเทีย ก็ยังไม่ตระหนักเรื่องนี้
จางเทีย รู้สึกว่าเขาพอใจจาการที่มองดูคนอื่นทำงานจนเหนื่อย มันเหมือนกับมีต้นไม้งอกออกมาในทะเลทราย งานนี้ทำให้เขารู้สึกมีแรงขึ้นมา นอกจากความรู้สึกหงุดหงิดและสิ้นหวังเดิมที่มี
หลังจากมีแรงฟื้นคืนกลับมาแล้ว จางเทีย ก็ค่อยๆยืนขึ้น เขาบิดคอและตัวไปมา เขากระดิกนิ้วให้เด็กนั่นกับ แมรี่
“ มามะ เด็กน้อย ! “
……
หลายนาทีผ่านไป จางเทีย ได้น็อคลงไปอีกรอบ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยท่าทีที่แข็งแกร่ง....
“ มามะ เด็กน้อย ! “
……
“ มามะ เด็กน้อย ! “
……
ด้านนอกสนาม แมรี่ เริ่มกลัวขึ้นมาในตอนที่เธอเห็น จางเทีย โดนน็อคซ้ำแล้วซ้ำแล้วแต่ยังคงลุกขึ้นมายืนได้ ดูเหมือนว่า จางเทีย เสพติดการโดนอัดและเพิ่มความโหดร้ายยิ่งกว่าเดิม นอกจากความโหดที่เพิ่มขึ้นแล้วในสายตา แมรี่ นั้นหน้าของ จางเทีย เริ่มดูหงุดหงิดและดูบื้อยิ่งกว่าเดิม
……
จางเทีย ไม่รู้เลยว่าเขาล้มลงไปกี่รอบ เขารู้สึกเจ็บไปทั่วตัว ในที่สุดเขาก็ยืนไม่ไหวอีกต่อไป เขานั่งลงที่พื้นพร้อมกับหอบ
เพราะตัวเขาเหงื่อท่วมตัวไปหมด เสื้อผ้าของเขานั้นติดไปกับผิวหนัง เหงื่อของเขายังเข้าตาทำให้ตาเริ่มร้อนและเบลอ เขาพยายามปาดเหงื่อตัวเองออก เขาพยายามถอดหมวกกันหัวออกจนคอเกือบหักแต่เขาก็ไม่สามารถแตะเชือกที่อยู่ด้านหลังหัวได้ ในตอนนั้น จางเทีย ก็รู้ว่าจะใช้มืองัดมันออกก็คงยาก
มีขวดน้ำกลิ้งเข้ามาหาเท้าของ จางเทีย จางเทีย มองไปที่เด็กนั่นที่ซึ่งนอนลงกับพื้น หน้าของเขาซีดลงเล็กน้อย เหงื่อนั้นไหลลงจากหัวมาถึงหน้า เด็กนี่ดื่มน้ำอย่างกับปลาขาดน้ำและมองมาที่ จางเทีย ด้วยสายตาที่ทึ่งไม่ได้มีท่าทีหยิ่งยโสอีกต่อไป ด้านหลังเด็กนั่น แมรี่ เองก็คอยนวดให้ เธอไม่ได้มองมาที่ จางเทีย เลยด้วยซ้ำ
จางเทีย รับขวดน้ำไป เขาเปิดมันออกและตั้งใจจะดื่มมันแต่เขาก็ตระหนักได้ว่าเขายังถอดหมวกออกไม่เสร็จ หลังจากหอบอยู่หลายรอบเขาก็รู้ว่าเขาหมดแรงจนถอดหมวกออกไม่ได้ เขาปิดขวดน้ำนั่นกลับคืนไปทันที
ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วหยุดหายใจ หลังจากนั้นสักพักเด็กนั่นก็พยายามจะลุกขึ้นและทำท่าทีหยิ่งยโสเหมือนเดิม – “ จำชื่อฉันไว้ เบเนต้า แอนดริว เบเนต้า ครั้งหน้าฉันสาบานเลยว่าจะอัดแกให้โหดจนลุกไม่ไหวเลย ฉันจะไม่หยุดจนกว่าแกจะขอโทษ แมรี่... “
เด็กนั่นออกจากห้องไปพร้อมกับ แมรี่ เมื่อเห็นหลังของเธอ จางเทีย อดที่จะหยอกเธอไม่ได้ – “ พี่สาว แมรี่ อย่าลืมนัดของเรานะ ! “
หลังของเธอทรุดเหมือนกับจะล้ม....
“ คำพูดฉันมันทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ ? “ - จางเทีย เกาหัวตัวเองอย่างสงสัยและพบว่านิ้วของเขาไปแตะชั้นหนังของหมวกเข้า – “ เหี้ย ! ใครมันคิดสร้างหมวกนี่ขึ้นมาวะ... “