หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 35: ตระหนัก

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 35: ตระหนัก

ตั้งแต่ที่เขายังเด็ก จางเทีย มักจะใช้ชีวิตง่ายๆและน่าเบื่อที่ไปแค่โรงเรียนและทำงานที่ร้านของ ดอนเดอร์  หลังเลิกเรียนในวันพุธเขาก็จะไปที่คลับต่อสู้ที่ไบต์อเวนิว   สำหรับ จางเทีย แล้วคลับต่อสู้นี่เป็นที่ที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปอย่างมาก  ด้วยงานที่ร้านของ ดอนเดอร์ และคลับต่อสู้  จางเทีย ได้เจอกับคนจำนวนมาก  บางคนบ้าใช้ชีวิตแบบสุดขั้ว ส่วนของ  จางเทีย น่ะจืดชืด  เขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ว่ามีแค่ไม่กี่คนที่มีพลังพอที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองได้  พ่อแม่เขาเป็นแค่คนธรรมดา ดังนั้นเขาจึงเกิดมาไม่ได้มีพลังอำนาจอะไร  ในยุคนี้มีแค่ไม่กี่คนที่สามารถใช้ชีวิตง่ายๆและสบายๆทำกิจกรรมอย่างขี่ม้า, ต่อสู้,รึกอดสาวๆ  คนส่วนมากน่ะต้องทำงานเดิมจนรีไทร์ออกมา สิ่งของที่พูดไปก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีทางได้สัมผัส  คนส่วนมากไม่คิดที่จะใช้เวลาไปสำรวจโลกเลยด้วยซ้ำ

โรงเรียนนานาชาติที่เจ็ดในเมืองนี้เองก็มีแค่งานช่างที่ซึ่งผลิตคนส่งให้กับกองทัพ, โรงงานและฟาร์มต่างๆก่อนจะเกษียรลงไปเอง  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด  จางเทีย เองก็จะเดินในเส้นทางนั้น  ในหลายวันที่ผ่านมา จางเทีย พบว่าตัวเองมีจิตใจที่สดชื่นยิ่งกว่าแต่ก่อน เขาปฏิเสธที่จะเป็นแค่ผลผลิตธรรมดาที่ซึ่งเลือกเส้นทางตัวเองไม่ได้  แบร์ลี่ และคนอื่นได้ก่อตั้งองค์กรพี่น้องทะยานฝันขึ้นมา , เกรซ ก็เป็นนักสู้ระดับ 2 ตั้งแต่ยังเด็ก,และยังมีผู้คนจำนวนมากที่ยังไม่แน่ใจในชีวิตของตัวเอง  พวกนั้นคงกลายเป็นแค่กลุ่มคนที่เข้าไปในเขตสงครามและอาจไม่มีวันได้กลับมา

ในตอนที่เขามาถึงไบต์อเวนิว เขาจำภาพเก่าๆได้ว่าชายที่สวมเครื่องแบบทหารผมขาวกำลังซื้อของในร้านขายของชำ  จากนั้นเขาก็มานั่งพิงกำแพงนอกร้าน  เขาถือดาบหักไว้ในมือแล้วกรอกเหล้าเข้าปากตัวเอง หลังจากพักสักหน่อยเขากได้ยืนขึ้นแล้วจับที่เข็มขัดตัวเองแล้วเดินไปที่สถานีรถไฟ ตั้งแต่นั้นมาจางเทีย ก็ไม่เคยเห็นเขาอีก....

จางเทีย ประทับใจกับความต่างระหว่างรอยยิ้มที่ชายแก่นั้นมีกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่  จางเทีย ไม่เข้าใจว่าทำไมชายคนนั้นถึงยิ้มตอนที่นั่งอยู่ข้างถนนแล้วดื่มเหล้าและมองพระอาทิตย์ตกดิน แต่รอยยิ้มนั้นมักจะโผล่ขึ้นในความจำของ จางเทีย  ตอนนี้ จางเทีย เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่ารอยยิ้มนั้นหมายถึงอะไร หน้าของชายคนนั้นบ่งบอกถึงเกียรติและบอกข้อความว่า – ฉันได้เหนื่อยกับชีวิตตัวเองมามาก !

ทุกคนในยุคนี้ต้องทำงานอย่างหนัก  งานหนักบางอันดูเหมือนจะหนักข้อขึ้นเพื่อให้พวกเขาหวังว่าจะได้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าเดิม  บางงานหนักซะจนไม่สนว่าคนงานจะตายรึเปล่า มันก็ยังมีบางคนที่ขยันทำงานเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของกิจการต่างๆและพวกที่เป็นเจ้าของอยู่แล้วก็มีแต่ต้องการความร่ำรวยมากขึ้นเรื่อยๆ !

ในตอนที่เขามาถึงไบต์อเวนิวครั้งล่าสุด ทุกอย่างบนถนนทำให้ จางเทีย รู้สึกอึดอัดแต่ในตอนนี้เขารู้สึกว่าทุกอย่างวิเศษ อยู่ๆความรู้สึกอึดอัดที่เกิดจากความกลัวและขาดความมั่นใจก็ได้หายไป  นี่คือกฎของเมืองนี้ ก่อนที่คุณจะสามารถสลัดฐานะธรรมดาที่ถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่สมบูรณ์ทิ้งไปได้ในสายตาคนอื่น ทุกอย่างที่อยู่บนท้องถนนเส้นนี้จะทำให้คุณรู้สึกต่ำต้อย

“ ดูเหมือนฉันจะเปลี่ยนไปเป็นสินค้าที่ดีได้แล้ว ! หึหึ...สินค้าไม่สมบูรณ์งั้นเหรอ ? ช่างแม่รง  ฉันไม่ควรคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้น ! แม่คงไม่เห็นด้วยแน่  ในสายตาของเธอฉันคือคนล้ำค่า ! ในโลกนี้ถ้าในความเห็นคนอื่น ฉันจะสนใจแค่คนไม่กี่คนเท่านั้น ! ความเห็นอื่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน และฉันจะไม่ทำตัวว่าเป็นสินค้าที่ไม่สมบูรณ์เพื่อให้คนอื่นมีชีวิตที่ง่ายขึ้นเมื่อมองมาที่ฉัน ! “

ในตอนที่เขาจำได้ว่าเขาบอกให้แม่เลิกเรียกเขาเหมือนเด็กเมื่อสองปีก่อนและให้เรียกเขาว่า ‘ กูกู ‘ แทน เขาก็ยิ้มออกมา  จากนั้นเขาก็ได้เดินหน้าต่อไปด้วยความมั่นใจไปยังสถานที่ที่ซึ่งคลับต่อสู้ตั้งเอาไว้อยู่

ยามสี่คนด้านนอกมองมาที่ จางเทีย และปล่อยให้เขาเข้าไป   จางเทีย มองไปที่เกราะที่ส่องประกายของพวกนั้นด้วยความชื่นชม  พวกนั้นมีอุปกรณ์ป้องกันที่น่าแปลกใจ  เกราะแบบนี้มีแต่พลหอกระดับกลางที่ใส่ได้  เกราะนี่หนักกว่า 70 กก.  มันดูวิเศษและแข็งแกร่ง พวกคนที่ใส่แล้วเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระแบบนี้ต้องอยู่อย่างน้อยก็ระดับ 5  สำหรับพวกนี้แล้วถ้าจัดระดับคงเป็นนักสู้ระดับ 5   คลับนี้มันแข็งแกร่งจนน่ากลัวจริงๆ

เมื่อเข้ามาที่ประตูแล้วเดินผ่านน้ำพุมา  จางเทีย ก็ได้มาถึงโต๊ะต้อนรับอีกคครั้ง  ในที่สุด จางเทีย ก็เข้าใจว่าทำไม แมรี่ ถึงว่าเขาว่า ‘ ทะเยอทะยาน ‘   ผู้หญิงน่ะต้องการอะไรที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะความสวยที่มีจึงเป็นธรรมดาที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนที่ไม่มีอนาคต  เมื่อคิดสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อน จางเทีย ก็รู้สึกว่าเขาทำตัวแย่เกินไป

ในตอนที่เขารู้สึกเสียใจนั้น จางเทีย ก็เห็นสาวกลุ่มนั้นอีกครั้ง  ไม่เหมือนครั้งล่าสุดที่เขาโดนสาวๆเมิน  ในตอนที่เขาเข้ามา จางเทีย พบว่าทุกคนมองมาที่เขา  80% มองด้วยสายตาดูถูกและอีก 20% สงสัย   เขาบอกได้ง่ายๆเพราะมีสายตาที่คมพริบ  พวกคนที่มองเขาอย่างดูถูกหันหน้าหนีและเชิดหน้าและไม่ได้มองกลับมาที่เขาอีก ส่วนคนที่สงสัยก็ยังมองเขาต่อไปพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ

แมรี่ ไม่อยู่นี่ด้วยเหรอ ? จางเทีย มองไปทีสาวๆหลังโต๊ะต้อนรับและรีบเอามือขวาล้วงไปในกระเป๋าเพื่อกดไอ้จ้อนตัวเอง  สาวๆพวกนี้สวมชุดที่เผยต้นขาและหน้าอก  เมื่อมองไปที่พวกนั้น จางเทีย จะเห็นหน้าอกอันใหญ่โตสีขาวผ่องทำให้เขาเกือบกำเดาไหล

เพราะไม่มีใครทักทายเขา จางเทีย เลยไม่อยากสร้างปัญหาอะไร ดังนั้นเขาจึงรีบเดินผ่านโต๊ะต้อนรับไป  เขาเดินมาได้หลายก้าวก็ได้ยินเสียงคุยกันด้านหลัง

“ เขาก็แค่เด็ก มันก็ไม่ได้แย่อะไรมากหรอกน่า! “

“ เธอตัดสินคนจากภายนอกไม่ได้นะ  เด็กทุกวันนี้น่ะโตเร็ว  แมรี่ บอกว่าเด็กนี่น่ะน่ารังเกียจมากกว่าลูกค้าอีก  เขาน่ะต้องการเอา แมรี่ ตั้งแต่แรกที่เห็น   อีกอย่างเขาน่ะทำท่าลามกใส่เราด้วย !  “

“ จริงเหรอ ? แต่เขาก็ดูไม่ใช่คนแบบนั้นนะ ! “

“ นี่เธอสงสัยเหรอ ? ลองให้เขาทำให้ดูสิ ! “

จากนั้นพวกเธอก็หัวเราะใส่ จางเทีย ...

“ เหี้ย  ! “ – จางเทีย รู้ว่าภาพพจน์ตัวเองคงโดนสาวๆพวกนี้ทำลายลงไปแล้ว

นี่เป็นครั้งที่สองที่เขามาที่นี่ เป็นธรรมดาที่เขาไม่ต้องไปรายงานตัวที่ห้องผู้จัดการ  เขาไปรายงานที่ เบ็ค ที่เป็นผู้ดูแลแทนซึ่งเป็นคนที่เขาเจอในห้องผู้จัดการ  หน้าที่ของชายคนนี้คือทักทายแขกระดับ 1 ของคลับ  ในอีกความหมายคือเขามีหน้าที่รับใช้เด็กรวยๆ  เบ็ค นั้นมักจะพูดมากเกินไปซึ่งส่งผลต่ออาชีพของเขา  บางครั้งเขาพูดซ้ำอยู่หลายรอบเลยก็มี

เมื่อเห็น จางเทีย มารายงานตัวกับเขา  เบ็ค ก็ดีใจอย่างมาก  เขาบ่นพึมพำกับ จางเทีย ในออฟฟิศเล็กกว่าครึ่งชั่วโมง  เขาบอก จางเทีย เกี่ยวกับเรื่องที่ จางเทีย ควรจะสนใจอย่างพวกเขาไปที่ไหนได้บ้างและที่ไหนไม่ได้บ้าง, การทำตัวต่อแขกและกฎที่เขาควรจำไว้ในฐานะ ‘ คู่ซ้อม   แม้ว่าพวกมันจะเป็นเรื่องง่ายๆแต่ เบ็ค ก็ยังคงพูดซ้ำออกมาถึงสองรอบ

ครึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อเห็นว่า เบ็ค คุมตัวเองไม่อยู่และเริ่มพูดซ้ำเป็นรอบที่สาม  จางเทีย ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาและพูดขัด

“ งั้นผู้ดูแล ผมจะจำทุกอย่างที่คุณพูดไว้  ผมคงต้องไปอาบน้ำและใส่ชุดและรอในห้องใช่มั้ย ? “

“ โอ้... “ - เขามองไปที่นาฬิกาที่แขวนไว้ในห้อง เบ็ค เปิดลิ้นชักออกมาและยื่นกุญแจที่มีตัวเลขให้กับ จางเทีย – “ นี่คือกุญแจล็อคเกอร์ของนาย  ใส่ของส่วนตัวไว้ข้างใน  นายจะได้เครื่องแบบสองชุด – ชุดที่สะอาดก็เอาไว้ใส่ ส่วนที่เปื้อนๆก็เอาไปส่งที่โต๊ะรับแขกแล้วจะมีคนเอาไปซักให้นาย   เราจะให้ถุงเท้าใหม่นายทุกอาทิตย์ นี่คือผลประโยชน์ที่นายจะได้ ! ขยันเข้า ไอ้หนุ่ม ! “

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.