spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 193 พังพินาศ
“แค่นั้นเหรอ?” ผู้บัญชาการเซี่ยถามอย่างตกใจและพูดว่า “มันยังไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำ!?”
“เอาให้เป๊ะก็ 90 วินาที และการต่อสู้จริงๆก็น่าจะแค่ 20 วินาทีเท่านั้น” เซี่ยวเฟยพูดพลางมองนาฬิกาข้อมือ
“ดูเหมือนคนในฐานทัพจะเป็นของจริงนะ” ผู้บัญชาการเซี่ยพูด “คิดว่าเป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาดซะอีก โลกเปลี่ยนไปแล้ว อีกไม่นานพวกเราก็อาจจะถูกกำจัด”
“หยุดอิจฉาเถอะน่า! ยีนของพวกเราเสถียรเกินไปก็เลยกลายพันธุ์ได้ยากมาก บางคนแค่กินเนื้อของสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีฟ้าอ่อนก็วิวัฒนาการได้แล้ว แต่คนอย่างพวกเราอาจจะไม่สามารถวิวัฒนาการได้ต่อให้ฉีดเลือดสัตว์กลายพันธุ์เข้าไปเพียวๆเลยก็ตาม หยุดฝันเรื่องเกษียณไปได้เลย มันแทบเป็นไปไม่ได้แล้วตอนนี้” เซี่ยวเฟยพูด จากนั้นเขาก็กระซิบ “มีสงครามในเขตบูรณะใหม่ทุกวัน ทางกองทัพก็ต้องเกณฑ์ทหารใหม่เข้ามาตลอด เราอาจจะถูกส่งไปแนวหน้าด้วยก็ได้หลังจากเสร็จภารกิจนี้”
ผู้บัญชาการเซี่ยดูหดหู่สิ้นหวัง เขาเอาบุหรี่ออกมาใส่ปากแล้วพูดว่า “หวังว่าหลังจากนี้เราจะได้พักยาวๆบ้าง ฉันไม่ได้กลับบ้านเกือบปีแล้ว! ลูกสาวฉันคงจำหน้าพ่อไม่ได้แล้วตอนนี้”
“โชคดีที่ฉันไม่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้เดทสายฟ้าในค่าย ไม่งั้นก็คงเหมือนนายตอนนี้” เซี่ยวเฟยพูด ยิ่งทำให้สถานการณ์ของผู้บัญชาการเซี่ยแย่ลงไปอีก เขารู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น ผู้บัญชาการเซี่ยเช็ดตาของเขาแล้วพูดว่า “เฮ้อ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เขากำลังมาแล้ว”
พวกสัตว์ทะเลค่อยๆปรากฏตัวเบื้องหน้าพวกเขาช้าๆ ตัวที่อ่อนแอที่สุดก็ขั้นสีน้ำเงินเข้าไปแล้ว พวกมันส่วนใหญ่เป็นขั้นสีเขียวอ่อน ลู่หยวนไม่สามารถฆ่าพวกมันด้วยตัวคนเดียวได้อีกต่อไป เขาต้องสู้พร้อมกับมู่เหวินเหวินซึ่งนั่นทำให้เขาสงวนพลังเอาไว้สำหรับเวลาที่วิกฤตกว่านี้ได้
เธอลงมือร่วมกับลู่หยวนได้ดี มันง่ายมากสำหรับพวกเขาในการฆ่าพวกสัตว์ทะเลสีเขียวอ่อนทั้งหมด พวกมันส่วนใหญ่ถูกลู่หยวนแทงเข้าที่สมอง อย่างไรก็ตาม ลู่หยวนก็ตระหนักว่าพลังของมู่เหวินเหวินมีจุดอ่อนอยู่ ส่วนใหญ่แล้วเธอต้องใช้เวลา 2-3 วินาทีเพื่อเตรียมพร้อม เธอจะทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายเมื่อไรก็ตามที่เธอเตรียมตัว
เธอสามารถฆ่าสัตว์ทะเลที่เคลื่อนไหวเชื่องช้าบนบกได้อย่างง่ายดาย แต่มันยากสำหรับเธอในการฆ่าพวกที่อาศัยอยู่บนบก และไม่แนะนำให้เธออยู่ใกล้สัตว์ร้ายภายในระยะ 100 เมตร เพราะเธออาจจะตายได้ง่ายๆถ้าไม่ระวังเพียงพอ สัตว์กลายพันธุ์ชนิดที่อยู่บนบกนั้นเร็วเท่าลู่หยวน และเนื่องจากขนาดตัวของพวกมัน 100 เมตรก็จะเท่ากับก้าวเท้าไม่กี่ก้าวเท่านั้น
พลังของเธอใช้สนับสนุนการโจมตีได้เท่านั้น เธอจึงรอดชีวิตด้วยตัวเองคนเดียวได้อย่างยากลำบาก พวกสัตว์ทะเลส่วนใหญ่จะโผล่มาเดี่ยวๆแทนที่จะมาเป็นกลุ่มใหญ่ๆและพวกมันเคลื่อนที่ช้ามาก ดังนั้นมันจึงไม่แย่เกินไปสำหรับมู่เหวินเหวิน หวังซีซีช่วยบ้างเป็นครั้งคราว เธอฆ่าสัตว์ทะเลกลายพันธุ์ขั้นสีเขียวอ่อนตัวหนึ่งด้วยตัวเอง
กระสวยบินของเธออยู่ในขั้นสีเขียวหลังใช้เปลือกไข่ของเต่าอาร์คีลอนมาปรับแต่ง ตอนนี้มันแหลมคมกว่าและแข็งแกร่งกว่าดาบของลู่หยวน สัตว์ทะเลที่โชคร้ายตัวนั้นขึ้นบกมาช้าๆโดยใช้หางและครีบทั้งสองช่วยเหลือ แต่ก็ถูกกระสวยบินของหวังซีซีฆ่าตายในทันที
พลังของเจ้าอ้วนเซี่ยถูกจำกัดโดยพวกสัตว์ทะเล เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ เวลาผ่านไป ท้องฟ้ากำลังมืด มีกองซากศพอยู่สองสามกอง พื้นดินกลายเป็นสีแดง กลิ่นเลือดกระจายไปในอากาศ
อุปกรณ์มากมายถูกเก็บใส่ตู้คอนเทนเนอร์ พวกเขาพร้อมกลับฐานกันแล้ว ในที่สุดพวกทหารกับลู่หยวนก็รู้สึกผ่อนคลาย พวกเขาไม่คิดว่าภารกิจจะเสร็จสิ้นในเวลาสั้นเช่นนี้
“ผมต้องขอบคุณจริงๆที่พวกคุณยินดีมาช่วย ไม่อย่างนั้นพวกเราคงต้องยอมทิ้งพวกมันแล้ว” ผู้บัญชาการเซี่ยพูด
ลู่หยวนอยากจะพูดถ่อมตัวสักสองสามคำ แต่ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ
“มีอะไรเหรอ?” ผู้บัญชาการถาม
“เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างผิดปกติ” ลู่หยวนดูเคร่งเครียดมาก เขาถามว่า “คุณรู้สึกว่าพื้นดินสั่นๆไหม?”
ผู้บัญชาการเซี่ยส่ายหัว ลู่หยวนมองคนที่เหลือเพื่อยืนยันคำตอบของผู้บัญชาการเซี่ย ไม่มีใครรู้สึกอะไรเลย เขาน่าจะสัมผัสความเปลี่ยนแปลงของใต้ดินได้ไวมากขึ้นเนื่องจากพลังของเขาเกี่ยวข้องกับพื้นดิน เขารู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในดิน และมันกำลังตรงขึ้นมาบนผิวดิน
“ผมไม่รู้สึกนะ คุณสัมผัสบางสิ่งที่ผิดปกติได้เหรอ?” ผู้บัญชาการถามอย่างสงสัย
ลู่หยวนไม่ได้พูดอะไรและหลับตาลงเพื่อตั้งสมาธิ ทุกคนเริ่มกระวนกระวาย พวกเขาเชื่อว่าลู่หยวนมีประสาทสัมผัสที่ฉับไวมาก และจะไม่ล้อเล่นด้วยเรื่องอะไรแบบนี้
“ถอยเร็ว! ทุกคนถอย!” ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นและดูซีเรียสมาก เขารีบคว้าตัวหวังซีซีเอาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็วิ่งย้อนกลับไปอย่างลนลาน
คนที่เหลือสัมผัสบางสิ่งได้ทันทีและรีบก้าวถอยหลังแต่มันก็สายไปแล้ว พื้นดิน 10 เมตรข้างหน้าพวกเขาระเบิดออกในทันที! ทหารสองสามนายถูกทรายและก้อนหินกระแทกเข้าที่หน้าและกลายเป็นศพในทันที วินาทีต่อมา สิ่งมีชีวิตสีเงินขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนงูก็พุ่งออกมาจากใต้ดิน ลำตัวท่อนบนครึ่งหนึ่งของมันชูอยู่ในอากาศ ดวงตาของมันจ้องมองพวกทหารบนพื้น
ทุกคนตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียดอย่างที่สุดจากสิ่งที่พวกเขาเห็น พวกเขาส่วนใหญ่ดูซีดมากและแขนขาหมดความรู้สึก ลู่หยวนแทบหยุดหายใจเมื่อมองเห็นภาพนั้น สัตว์ตัวนั้นมีสีเงินทั้งตัวและเปล่งประกายมากเมื่ออยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ ลำตัวของมันยาวมากแม้ว่าส่วนล่างของมันจะยังขดอยู่ มีขนหลากสีอยู่ที่ปลายหางของมัน และมีหงอนสีแดงอยู่บนหัวดูราวกับมงกุฎของราชา
สิ่งมีชีวิตตัวนั้นวิวัฒนาการมาจากงู ลำตัวส่วนใหญ่ของมันจึงดูคล้ายกันมาก มันดูสวยและยิ่งใหญ่อย่างน่าทึ่ง แต่ทุกคนกำลังกลัวรวมทั้งลู่หยวนด้วย
งูสีเงินขนาดยักษ์ตัวนั้นมองลู่หยวนแวบหนึ่งด้วยดวงตาใสกระจ่าง จากนั้นก็มองดูกองซากศพที่กระจัดกระจายไปทั่ว ไม่มีใครรู้ว่ามันจำศีลอยู่ใต้ดินมานานเท่าไหร่ แต่พวกเขาเดาว่ามันถูกกลิ่นเลือดดึงดูดมา ทุกคนยังคงชะงักนิ่ง
แต่แล้ว ทหารคนหนึ่งก็หวาดกลัวสุดขีดจนไม่อาจควบคุมตัวเองได้ และเหนี่ยวไกปืนกลในมือ กระสุน 3 มม.ยิงเข้าที่ลำตัวของงูสีเงินตัวนั้น แต่มันก็แทบจะไม่มีผลอะไรนอกจากทำให้เกล็ดสองสามชิ้นร่วงหล่นลงมา
“เวรแล้ว! ยิง! ยิง! โจมตี!!!!!!” ผู้บัญชาการเซี่ยสั่งให้พวกทหารโจมตีทันที เขาโชคดีที่ไม่ถูกหินกระแทกเมื่อครู่ แต่มีเลือดออกอยู่หลายจุดบนหน้าของเขาจากการโดนทรายและโคลนกระเด็นเข้าใส่
ถึงตอนนี้ พวกทหารก็ไม่หยุดยิงต่อให้ไม่ได้รับคำสั่งก็ตาม พวกเขาอยู่ใกล้ยมฑูตแห่งความตายมากซะจนฉี่จะราดกางเกงอยู่แล้ว