spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 190 สงคราม
คำอธิบายของเธอไม่ดีพอ ไม่มีใครเชื่อเธอสักคน ลู่หยวนไม่เชื่อว่าคนจะยังคงความใจดีและซื่อสัตย์เอาไว้ได้หลังจากผ่านช่วงเวลายากลำบากมาหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสงคราม ก็เหมือนเขา พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้เปิดเผยพลังของพวกเขาทั้งหมด เขาไม่ได้บอกคนอื่นๆว่าเขาใช้ดาบเก่งมาก หรือว่าพลังของเขามีจุดอ่อนอยู่หนึ่งอย่าง
มันยากที่จะเชื่อใจใครได้เต็มที่ และเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นมีพลังควบคุมจิตใจก็แค่ทำให้พวกเขากลัวเธอมากขึ้น หวังซีซีขยับเข้าใกล้ลู่หยวนเข้าไปอีกนิดพร้อมกับคอยจับตามองผู้หญิงคนนั้น พวกทหารก็เอาแต่มองดูเธออย่างระวังตัว
บรรยากาศหนักอึ้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้พันจึงพูดขึ้นว่า “มู่เหวินเหวิน ผมได้ยินมาว่าคุณถูกทหารพามาที่ฐานทัพ สมรรถภาพของคุณดีมากซึ่งแสดงว่าคุณเป็นคนที่เชื่อถือได้ พลังและทัศนคติเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน ตราบใดที่คุณไม่ฝ่าฝืนกฎ คุณก็จะไม่เป็นอะไร”
ผู้หญิงที่ชื่อมู่เหวินเหวินนิ่งเงียบ เธอแค่เงยหน้าขึ้นมามองพวกเขาก่อนจะรีบก้มหน้าลงอีกครั้ง ดวงตาของเธองดงามและมีเสน่ห์มากซึ่งลู่หยวนพบว่าไม่อาจขัดขืนพวกมันได้ ทันใดนั้นเขาก็เตือนตัวเองเมื่อรู้สึกตัวว่าเขากำลังหลงเสน่ห์เข้าแล้ว ผู้หญิงคนนั้นทำตัวไม่โดดเด่นสะดุดตา เขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นเธอจนกระทั่งการเกณฑ์ตัวครั้งนี้
เป็นครั้งแรกที่เขาพบคนที่มีพลังแข็งแกร่ง อาจจะแข็งแกร่งกว่าหวังซีซีด้วยซ้ำ เธอไม่ได้แค่สามารถควบคุมสัตว์กลายพันธุ์ทั่วไป แต่เป็นสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีเขียวอ่อน สัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีเขียวอ่อนนั้นน่าสะพรึงกลัว ลู่หยวนเคยฆ่าได้แค่ตัวเดียวเท่านั้นเอง
เมื่อเขาคิดถึงความเสี่ยงของภารกิจคราวนี้ เขาก็ลังเลและถามขึ้นว่า “คุณมู่ พลังของคุณจะช่วยเราได้มาก คุณจะอธิบายพลังของคุณเพิ่มอีกสักหน่อยได้ไหม ผมจะได้ปรับตัวให้เข้ากับคุณได้”
มันจะดีมากถ้าผู้หญิงคนนี้สามารถช่วยเขาได้ทุกเวลา ถึงแม้เธอจะสามารถควบคุมสัตว์กลายพันธุ์ได้เพียงครู่เดียว นั่นก็เพียงพอที่จะให้เขาฆ่าพวกมันได้แล้ว ถ้าเธอสามารถควบคุมสัตว์กลายพันธุ์สีเขียวได้ด้วยล่ะก็ พวกเขาก็จะไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเกี่ยวกับภารกิจนี้อีกเลย
บางทีลู่หยวนคงสร้างความประทับใจที่ดีต่อเธอ เพราะครั้งนี้เธอเต็มใจที่จะตอบจริงๆ เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้น แต่กลับพูดเบาๆว่า “ที่จริงแล้วฉันไม่ชำนาญการควบคุมสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีเขียวอ่อนเต็มที่นักหรอก บางครั้งฉันก็ไม่สามารถทำได้ถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ฉันเสียสมาธิง่ายมาก ก็เลยไม่สามารถควบคุมพวกมันได้เกิน 30 วินาทีเลย”
ฟังจากเสียงของเธอแล้ว เธอน่าจะอายุประมาณ 20-30 ปี
“พลังของฉันก็เหมือนการสะกดจิต แล้วมันก็มีเงื่อนไขเยอะแยะ ถ้าเป็นสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีน้ำเงิน ฉันก็จะควบคุมได้นานขึ้น” เธอพูด
“แล้วสัตว์กลายพันธุ์สีเขียวล่ะ?” หัวใจของลู่หยวนเต้นเร็วขึ้น
“ฉันไม่เคยเจอสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีเขียวเลย แต่คิดว่าคงไม่สามารถควบคุมมันได้หรอก การควบคุมจิตใจจะเพิ่มภาระให้กับสมอง สัตว์กลายพันธุ์สีเขียวอ่อนยังควบคุมยาก สัตว์กลายพันธุ์สีเขียวก็ต้องยิ่งน่ากลัวมากกว่าเยอะ ฉันอาจจะเข้าขั้นโคม่าได้เลยถ้าพยายามทำอย่างนั้น” มู่เหวินเหวินอธิบาย
“ความจริงแล้วมันก็เหมือนกับมนุษย์นั่นแหละ เราผิดหวังท้อแท้มากขึ้นเมื่อมีปัญหาที่ซับซ้อนให้ต้องแก้ไขมากขึ้น แต่พวกเรานั้นแข็งแกร่งกว่าสัตว์กลายพันธุ์มาก ดังนั้นพวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องที่ฉันจะควบคุมจิตใจของพวกคุณเลย” มู่เหวินเหวินอธิบายพร้อมกับถอนใจ
“คุณสามารถควบคุมสัตว์กลายพันธุ์ได้กี่ตัว?” ลู่หยวนถามอีกครั้ง เขาผิดหวังที่เธอไม่สามารถควบคุมสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีเขียวได้
“ครั้งละ 1 ตัวเท่านั้น” มู่เหวินเหวินพูด
“แล้วพลังงานที่ต้องใช้ล่ะ? ถ้าคุณต้องควบคุมสัตว์กลายพันธุ์แค่สามวินาทีคุณจะควบคุมพวกมันได้กี่ตัว?” ลู่หยวนถามเธอขณะที่คิดเรื่องนี้
“ฉันไม่แน่ใจ คงต้องทดลองก่อน ฉันไม่เคยเจอสัตว์กลายพันธุ์สีเขียวอ่อนหลายๆตัวมาก่อน นั่นใช่คำถามสุดท้ายของคุณรึเปล่า?” มู่เหวินเหวินไม่คิดว่าภารกิจครั้งนี้จะแย่ขนาดที่ลู่หยวนคิด เธอเริ่มหงุดหงิดกับการซักถามแบบไม่จบไม่สิ้นของเขา
“ผมแค่ถาม เราจะได้เตรียมตัววางแผนเพื่อความปลอดภัยของคนอื่นๆได้ ผมหวังว่าคุณจะสามารถช่วยสนับสนุนผมได้” ลู่หยวนพูดขณะที่มองสบตาเธอ
มู่เหวินเหวินตอบตกลงเบาๆ จากนั้นก็นั่งเงียบอีกครั้ง ทุกคนคิดว่าลู่หยวนคิดมากเกินไป สัตว์กลายพันธุ์สีเขียวอ่อนนั้นยากที่จะเจอ กระทั่งพวกทหารก็ยังเจอไม่มากนัก ความจริงแล้วพวกเขาเคยฆ่าสัตว์กลายพันธุ์สีเขียวอ่อนมาแค่ 7 ตัวและสัตว์กลายพันธุ์สีเขียว 1 ตัวเท่านั้นใน 2 เดือนที่ผ่านมาเมื่อพวกเขาตัดสินใจไปตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เฮลิคอปเตอร์บินเร็วมาก พวกเขากำลังจะถึงจุดหมายในอีก 10 นาที
“ทุกคนเตรียมพร้อม เอาร่มชูชีพมาด้วย” ผู้พันเตือนพวกเขา
“เฮลิคอปเตอร์จะไม่ลงจอดหรือครับ?” เจ้าอ้วนเซี่ยถามอย่างตกใจ
ทุกคนต่างตกใจยกเว้นลู่หยวน การกระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์ด้วยความสูงขนาดนี้ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะยอมรับได้อย่างใจเย็น
“นี่เผื่อในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เอาร่มชูชีพของพวกคุณมาเถอะ เมื่อเช้านี้เฮลิคอปเตอร์ลำนึงตกกระแทกพื้น ดังนั้นเราจึงต้องปลอดภัยเอาไว้ก่อน เผื่อว่าพวกสัตว์ทะเลจะมีพลังพิเศษ” ผู้พันพูด
ทุกคนรู้สึกโล่งอกเล็กน้อย แต่พวกเขาก็กระวนกระวายอีกครั้งเมื่อนึกได้ว่าพวกเขามองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอกนั่น
“ผมเห็นตึกเป้าหมายแล้วครับ สถานการณ์อยู่ในความควบคุม พร้อมลงจอด พร้อมลงจอด” นักบินพูดเสียงดัง
“เดี๋ยวก่อน! มีปัญหาเล็กๆบางอย่างที่ต้องจัดการก่อน” ชายที่อยู่อีกด้านหนึ่งพูดขึ้น
เฮลิคอปเตอร์เอียงและสั่นอย่างรุนแรง พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดและเสียงคำรามของสัตว์กลายพันธุ์
“เรียบร้อย ชายฝั่งเคลียร์ กำลังลงจอด” นักบินพูด
ทุกคนรู้สึกโล่งอก แต่ลู่หยวนยังคงจับดาบฟันขาม้าของเขาเอาไว้ 30 วินาทีต่อมา พวกเขาก็ลงจอดอย่างปลอดภัย พวกทหารเปิดประตูห้องเคบินและทุกคนก็ลงจากเฮลิคอปเตอร์อย่างรวดเร็ว จากนั้นใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ก็เริ่มหมุนอีกครั้งและบินจากไป พวกเขามองสิ่งที่น่าจะเป็นห้องล็อบบี้ที่ทำจากกระจกซึ่งมีโครงเหล็กอันใหญ่อยู่เหนือหลังคา ลู่หยวนตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวพวกเขา
“เร็วเข้า! ตามผมมา! ทุกคนอยู่ไหน?” ผู้พันพูดขณะที่วิ่งตรงไปที่ทางเข้า
ลู่หยวนกับคนอื่นๆรีบตามเขาเข้าไป เสียงระเบิดดังมาจากที่ไกลๆพร้อมเสียงคำราม เห็นได้ชัดว่ากำลังมีการต่อสู้ที่รุนแรงกันอยู่ พวกทหารดูมีร่างกายที่แข็งแรง พวกเขาอาจจะแข็งแรงกว่าโฮวตงและคนที่เหลือในทีมของลู่หยวน ค่าสถานะน่าจะประมาณ 12 แต้ม พวกเขาสวมชุดป้องกันบางอย่างขณะที่เคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วสูงมาก โชคดีที่ลู่หยวนจับหวังซีซีเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอคงตามไม่ทัน
สภาพร่างกายของมู่เหวินเหวินก็ค่อนข้างดี เธอตามพวกเขามาติดๆ จากนั้นก็เป็นเจ้าอ้วนเซี่ยที่แข็งแรงพอจะตามพวกเขาได้ทัน
พวกเขาวิ่งไปที่อีกอาคารหนึ่งที่มีพื้นที่กว้างขวาง และมีปูนซีเมนต์ปิดพื้นเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าพื้นที่นี้เคยเป็นสวนสาธารณะมาก่อน เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นวัชพืชที่ขึ้นที่ขอบปูนได้ อาคารใกล้ๆนั้นยังอยู่ในสภาพดี ไม่ได้มีความเสียหายมากนักนอกจากที่กระจกซึ่งแตกซะส่วนใหญ่
“ที่นี่คือที่ไหน?” ลู่หยวนถาม
“ศูนย์คอมพิวเตอร์” ผู้พันพูดพร้อมอ้าปากหอบ
“คืออะไรค่ะ?” หวังซีซีถาม เธอไม่เข้าใจ
“คือที่ที่เก็บคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเอาไว้” ผู้พันอธิบาย
“เขตบูรณะใหม่เก็บคอมพิวเตอร์ไว้ไม่ได้แล้วเหรอคะ?” หวังซีซีถามอย่างผิดหวัง
ผู้พันไม่รู้เรื่องนั้นมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าจะอธิบายอย่างไรดี
“มันเคยเป็นผู้จัดจำหน่ายระดับโลกน่ะ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ซับซ้อนมาก ดังนั้นชิ้นส่วนของมันส่วนใหญ่จึงถูกนำเข้าจากหลายๆประเทศ แต่ตอนนี้การค้าได้ยุติลงแล้ว ถึงจะมีคอมพิวเตอร์ชุดใหม่ที่มีระบบปฏิบัติการต่ำกว่า มันก็ยังสู้กับอันอื่นไม่ได้หรอกในช่วงเวลาสั้นขนาดนี้น่ะ ความจริงแล้ว คอมพิวเตอร์พวกนี้ทุกเครื่องมีค่ามากนะ พวกมันเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเทคโนโลยีซึ่งมีค่ามากกว่าตัวชิ้นส่วนของพวกมันเองซะอีก” เจ้าอ้วนเซี่ยอธิบายขณะที่วิ่งอยู่ข้างหลัง
เขาเคยเป็นเจ้าของบริษัทซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ เขาก็คุ้นเคยกับมันพอสมควร และถ้าเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์เขาจะระวังเอาใจใส่เป็นอย่างมาก เขาเข้าใจถึงความสำคัญของคอมพิวเตอร์ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ
เขาเคยมาเยี่ยมชมศูนย์คอมพิวเตอร์มาก่อน จำได้ว่ามีเครื่องที่คอยให้บริการระบบทั่วทั้งภาคอยู่ 3 เครื่อง พวกเขาวิ่งมาได้แค่ 2 นาทีเท่านั้น แต่เสียงระเบิดก็เบาลงแล้ว มีจรวดมิสไซล์หลายลูกพุ่งผ่านไปบนท้องฟ้าเหนือหัวพวกเขา ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธยังคงบินอยู่ ปืนใหญ่ยิงจรวดมิสไซล์ออกไป ทิ้งควันสีขาวเป็นทางยาว 2 สายบนท้องฟ้า
สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์สูง 8 เมตร มีกระดูกและหนามอยู่บนตัวมากมาย กำลังร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ทันใดนั้นมันก็ถูกปืนกลยิงเข้าที่หัว เลือดทะลักออกมาจากกะโหลก และไม่ถึง 3 วินาทีหัวของมันก็ระเบิด
มีซากศพอยู่ประมาณ 7-8 กองบนพื้น ยังมีปืนใหญ่อัตโนมัติ 2 และรถถัง 3 คัน แต่ส่วนใหญ่หยุดนิ่งอยู่กับที่ พวกมันจะยิงบ้างเป็นครั้งคราว แต่สถานการณ์ยังสามารถรับมือได้อยู่ ลู่หยวนอึ้งไป เขาไม่คิดว่าพวกทหารต้องการผู้ช่วยอีกแล้ว พวกเขามีอาวุธอยู่มากเกินพอซะอีก