หน้าแรก > Epoch of Twilight
ตอนที่ 186  ข่มขู่

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 186  ข่มขู่

 

ไม่นานรถบรรทุกก็หยุดตรงปากถ้ำขนาดใหญ่ความกว้างประมาณ 60-70 เมตร

ผู้โดยสารทุกคนลงจากรถและเดินตามกันเข้าไปในถ้ำ  ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีรถบรรทุกหนักอยู่หลายสิบคันจอดอยู่ด้านข้างเป็นสองแถว  ด้านหน้ารถบรรทุกเป็นรถถังขนาดกลาง 12 คัน  พื้นที่ของห้องโถงมีขนาดหลายพันตารางเมตร  มันเหมือนพวกเขาได้มาถึงจัตุรัสกลางเมือง

ลู่หยวนสังเกตเห็นว่าที่สุดปลายทางคือประตูเหล็กขนาดใหญ่  แต่เขาคิดไม่ออกว่ามีอะไรอยู่ด้านหลัง

นอกจากห้องโถงนี้แล้ว  ยังมีทางเดินเชื่อมต่ออีก 5 หรือ 6 เส้นทาง  เห็นได้ชัดว่ามีห้องอื่นอยู่อีกหลายห้อง  การก่อสร้างที่นี่คือโครงการใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ทุกคนมองรอบๆอย่างสนใจ  และคาดเดาขนาดของทุกอย่างด้วยสีหน้าตกใจ

ความจริงเมื่อเทียบกับอำนาจของประเทศในปัจจุบันแล้ว  นี่ไม่นับเป็นอย่างไรได้  เครื่องจักรสมัยใหม่นั้นมีประสิทธิภาพสูง  ถ้าสิ่งนี้สร้างขึ้นก่อนช่วงโลกาวินาศล่ะก็  ทางคณะบริหารส่วนจังหวัดสามารถสร้างฐานทัพแบบนี้หลายๆฐานได้ใน 1 ปีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นเลย  อย่างไรก็ตาม  การกลายพันธุ์และการแทรกซึมของศัตรูภายในชุมชนทำให้ยากมากในการเฝ้าระวังพวกสัตว์กลายพันธุ์  ถึงอย่างนั้นอาวุธสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงก็ไม่ปล่อยให้มนุษยชาติพ่ายแพ้ได้ง่ายดายนัก

ทหารกลุ่มหนึ่งเดินนำกลุ่มของพวกเขาไปตามทางเดินสายหนึ่ง  หลังจากเลี้ยวอยู่หลายครั้ง  ในที่สุดพวกเขาก็หยุดตรงหน้าประตูที่มีทหารยามคนหนึ่งเฝ้าอยู่

ทหารคนหนึ่งก้าวออกมาเจรจากับทหารยามคนนั้นก่อนที่เขาจะหันมาบอกกับโจวยี่เชงว่า  “ผบ.พันครับ  หัวหน้าของเราตื่นแล้ว  เขาอยากพบคุณ”

โจวยี่เชงพยักหน้าแล้วชำเลืองมองลู่หยวน  เมื่อเขาเคาะประตู  เขาก็ได้ยินเสียงต่ำๆพูดขึ้นว่า  “เข้ามา”  เขาเข้าไปในห้องและประตูก็ปิดลงอีกครั้ง

“ทหาร ตามผมมา  ผมจะจัดการเรื่องอาหารกับที่พักให้”  ผู้หมวดคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะนำพวกทหารจากไป

“คนที่เหลือตามผมมา”  ผู้หมวดคนที่สองพูด

พวกเขาทั้งหมดเดินตามนายทหารสองสามคนไปที่ออฟฟิศ  มีทหารหลายคนตั้งแถวติดกับกำแพงเป็นแถวเดียว  แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ขยับเลย  รังสีกดดันที่พวกเขาปล่อยออกมาก็ทำให้หวาดกลัวได้

นี่คือการข่มขู่พวกเขาอย่างไม่อาจปฏิเสธได้  นอกจากลู่หยวนแล้ว  คนอื่นๆต่างหน้าซีด  แม้กระทั่งหวังซีซีก็ยังรู้สึกกลัว

ผู้หมวดประเมินคนทั้งกลุ่มก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า  “ทางรัฐบาลเสียใจที่เราไม่สามารถไปช่วยเหลือพวกคุณได้  ผมรู้ว่าพวกคุณโกรธและไม่พอใจ  ต้องมีเรื่องเลวร้ายมากมายเกิดขึ้นกับพวกคุณแน่ๆ  แต่นี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  ทรัพยากรของประเทศมีจำกัด  หลายเมืองถูกทำลาย  ดังนั้นจึงไม่มีทางเลยที่เราจะสามารถปกป้องทุกตารางนิ้วในประเทศได้”

“ทุกคนที่สามารถมาถึงที่นี่ได้นั้นโชคดีสุดๆแล้ว  จากสถานการณ์ตอนนี้  พวกเรากำลังเตรียมตัวถอนกำลังกันในอีกไม่กี่วันนี้”

สีหน้าของลู่หยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย  เขาอดคิดถึงจำนวนวันที่เหลือในภารกิจของเขาไม่ได้  ความบังเอิญนั้นทำให้เขาคิด

สายตาเหยี่ยวของผู้หมวดกวาดผ่านผู้คนขณะที่พูดต่อไป  “ ตอนนี้ผมจะบอกเรื่องที่พวกคุณจำเป็นต้องใส่ใจเอาไว้  เคยมีเหตุการณ์ที่ไม่น่าพอใจบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้ฐานทัพของเราต้องตกอยู่ในอันตราย  สร้างความเสียหายร้ายแรงและทำให้การช่วยชีวิตของเราต้องล่าช้า  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด”

“ข้อที่ 1 พวกคุณต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของทางทหารทั้งหมด  ต้องไม่ต่อสู้กัน  ผู้ที่ก่อเรื่องจะถูกไล่ออกไปจากที่นี่  และคนที่ต่อต้านจะถูกประหารชีวิต”

“ข้อที่ 2  พวกคุณจะต้องไม่เที่ยวเดินเตร็ดเตร่ไปรอบๆฐานทัพ  ยกเว้นแต่พื้นที่ที่กำหนดให้  จะมีการเตือนในครั้งแรก  แต่ถ้าหากมีมากกว่า 1 ครั้งคุณจะถูกไล่ออก”

“ข้อที่ 3  หากว่ามีสถานการณ์พิเศษ  ทางกองทัพมีอำนาจที่จะเกณฑ์ใครก็ได้ให้เข้าร่วม”

“นี่คือข้อเรียกร้องของเราที่มีต่อพลเรือน  ผมหวังว่าทุกคนจะให้การเชื่อฟังเป็นอย่างดี  ผมรู้ว่าพวกคุณบางคนที่นี่วิวัฒนาการแล้ว”  เขาชำเลืองมองผู้รอดชีวิตที่ดูสะดุดตาพวกนี้  ผู้รอดชีวิตที่ไม่ได้ผอมจนเหลือแต่กระดูกก็มักจะเต็มไปด้วยบาดแผลและสวมใส่เสื้อผ้ามอมแมมกะรุ่งกะริ่ง  สีหน้าของพวกเขาก็ดูอิดโรย  แต่ทุกคนในกลุ่มนี้นอกจากพวกเด็กๆแล้ว  พวกเขามีผิวอมชมพูดูสุขภาพดีและแต่งตัวเรียบร้อย  เมื่อเปรียบเทียบกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆแล้ว  พวกเขาโดดเด่นขึ้นมาราวกับหิ่งห้อยในความมืด

“การที่สามารถรอดชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้  ผมแน่ใจว่าพวกคุณหลายคนต้องมีความสามารถพิเศษบางอย่างแน่  พวกคุณทำท่าเหมือนเป็นขาใหญ่ที่นี่  บางทีพวกคุณอาจจะเชื่อว่าด้วยพลังและความสามารถที่มี  คุณจะสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการโดยไม่มีผลตามมา”  เสียงของผู้หมวดคนนั้นกระด้างขึ้นเรื่อยๆขณะที่มีรอยยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปาก  “ผมเคยเห็นคนมากมายเป็นเช่นนั้น  พวกคนที่ชอบสร้างปัญหา  ทุกคนถ้าไม่ถูกไล่ออกไปจากที่นี่ก็ถูกประหารชีวิต  ผมหวังว่าพวกคุณจะไม่เหมือนคนพวกนั้น  เพราะฉะนั้นทำตัวให้ดี”

เจ้าหน้าที่คนนี้ไม่ชอบคนที่วิวัฒนาการแล้วหรือพวกพลเรือนที่วิวัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด  อาจจะถึงขั้นรังเกียจเลยด้วยซ้ำ  ดูได้จากสีหน้าของเขา

หลายคนลอบชำเลืองมองลู่หยวนขณะที่หวงเจียฮุยจับมือเขาไว้แน่น

ลู่หยวนรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่  เขาอยากจะหัวเราะ  สงสัยว่าการเป็นผู้มีอำนาจมาเป็นเวลานานของเขาจะสร้างความฝังใจผิดๆให้คนอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ  อย่างไรเสียเขาก็ไม่ใช่วัยรุ่นเลือดร้อนที่มีเรื่องได้แม้จะเป็นคำดูหมิ่นที่เล็กน้อยที่สุดอย่างที่เคยเป็นอีกแล้ว  เขายังอยากจะขอโดยสารไปกับทางกองทัพไปยังเขตบูรณะใหม่อยู่  ดังนั้นเขาไม่สามารถมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ในเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ได้  ถ้าจำเป็นต้องแรง  เขาก็จะแรง  และถ้าจำเป็นต้องอ่อน  เขาก็จะอ่อนได้เช่นกัน

ยิ่งกว่านั้น  สิ่งที่เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดก็ถูกต้อง  ผู้คนมีชีวิตอยู่โดยไร้ระเบียบและสิ้นหวังมาเป็นเวลานาน  ศีลธรรมไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป  จิตใจของผู้คนมากมายบิดเบี้ยว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกมนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้ว  พวกเขาหลงอยู่ในอำนาจของตัวเอง  รู้สึกว่าตนเหนือกว่าคนอื่น  มองกฎระเบียบข้อบังคับเป็นการควบคุมจำกัดสิทธิ์  และเห็นผู้คนเป็นเช่นมดปลวกไร้ค่า  แม้แต่ลู่หยวนเองก็ยังรู้สึกเช่นนั้นไม่มากก็น้อย  แต่นั่นก็เป็นผลมาจากการพยายามยับยั้งและควบคุมพลังของเขา

หลังจากข่มขู่พวกเขาแล้ว  ผู้หมวดก็ไม่ได้ยั่วยุพวกเขาต่อไปอีก  เขาแค่นำทุกคนไปที่ห้องพักและเอากุญแจให้พวกเขา 2 ดอก  เป็นกุญแจห้องพักของผู้หญิงดอกหนึ่งและของผู้ชายอีกดอกหนึ่ง  พอบอกพวกเขาเรื่องพื้นที่กิจกรรมเสร็จ  เขาก็จากไปพร้อมพวกทหารของเขาโดยเร็ว  ไม่แม้แต่จะยึดอาวุธหรือข้าวของสัมภาระของพวกเขา

นี่ทำให้ลู่หยวนรู้ว่าถึงแม้เขตบูรณะใหม่ในทางทฤษฎีแล้วคือการฟื้นฟูเขตชุมชนเก่า  แต่มันก็ไม่ใช่ชุมชนแบบเดิมอีกแล้ว

รูปแบบของห้องพักนั้นเหมือนกับห้องพักคนงาน  ยกเว้นแต่ว่ามันมีขนาดใหญ่กว่ามาก  ภายในห้องพักมีเตียง 2 ชั้น 24 เตียง  ทุกเตียงราบเรียบไม่มีข้าวของตกแต่งใดๆ  มีหลายเตียงที่ยังว่างอยู่  ลู่หยวนมองไปรอบๆและเห็นว่ามีคนที่พักอยู่ในห้องประมาณ 15-16 คน

ลู่หยวนมองเข้าไปในห้องทีละห้องผ่านกระจกหน้าต่างตรงประตู  นอกจากห้องของผู้หญิงทางด้านซ้ายแล้ว  ห้องอื่นๆทั้งหมดนั้นว่างเปล่าไม่มีใครอยู่เลยสักคน

ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมฐานทัพถึงรับผู้รอดชีวิตเข้ามาได้ง่ายดายนัก  เพราะว่าผู้รอดชีวิตในเมืองที่ล่มสลายแล้วนั้นน้อยลงทุกที  คนที่มีความสามารถในการเอาตัวรอดนั้นมีน้อย  และคนที่มีความกล้าที่จะออกเดินทางนั้นน้อยยิ่งกว่า  ดูจากพื้นที่ว่างในพาหนะขนส่งขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆมากมาย  การรับผู้รอดชีวิตให้โดยสารไปด้วยนั้นก็เป็นเรื่องปกติ

หลังจากพวกทหารไปแล้ว  ก็มีบางคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“สังเกตไหมว่าปืนของพวกเขาดูแปลกๆนะ?  ขนาดลำกล้องใหญ่ขึ้น  แตกต่างจาก QBZ-95 มาก”  โฮวตงสังเกตเห็นเพราะเขายุ่งเกี่ยวกับปืนบ่อยจนรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้

“ฉันก็มองอยู่เหมือนกัน  ขนาดลำกล้องน่าจะประมาณ 15-17 มม.  ทางกองทัพคงปรับปรุงพวกมันใหม่”  หวงเจียฮุยดูเคร่งขรึม  เธอเคยใช้อาวุธปืนมาและมีความรู้เรื่องพวกนี้มากกว่าโฮวตง  “แรงสะท้อนถอยหลังของปืนต้องหนักมากแน่  คนทั่วไปคงไม่สามารถใช้มันได้  แรงของปืนแบบเก่าน่าจะน้อยเกินไปเพราะว่าคู่ต่อสู้เป็นมนุษย์  แต่ช่างเรื่องขนาดของกระสุนปืนหรือชนิดของปืนไปเถอะ  ตราบใดที่มันใช้ฆ่าได้  ก็ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องอำนาจของกระสุนปืนหรอก   แต่ว่านะ  เส้นผ่าศูนย์กลางของ QBZ-95 มันก็แค่ 5.8 มม. แถมมีระยะหวังผลที่ 400 เมตรเท่านั้น  ถ้าพวกเขาไม่ใช้กระสุนพิเศษ  พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสเล่นงานสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีฟ้าได้มากนักหรอก”

“คงจะดีมากๆเลยนะถ้าได้มาสักกระบอก”  โฮวตงพูด  เขาคิดว่าปืนแบบนั้นจะต้องใช้มันส์แน่ๆ

“ฝันไปเหอะ  โชคดีเท่าไรแล้วที่พวกนั้นไม่ยึดอาวุธนายไปด้วย”  หลินเสี่ยวจีพูด

“ไอ้พวกเหี้ย!  เสียงดังชิบหาย!  คนจะหลับจะนอน”  เสียงโกรธเคืองดังลั่นขึ้นมาจากด้านในห้องพัก

ทุกคนประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง  ใบหน้าของพวกเขาบูดบึ้งขณะที่หันมาทางลู่หยวนอย่างตั้งใจ

ลู่หยวนหัวเราะเบาๆแล้วโบกมือลา  “คุยกันเสียงดังก็รบกวนคนที่จะพักผ่อนอยู่แล้วล่ะ  พวกเราทุกคนเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวันแล้ว  ไปนอนกันเถอะ  ถ้ามีเรื่องจะคุยก็เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.