หน้าแรก > Epoch of Twilight
ตอนที่ 182  วินาทีที่ผ่านไป

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 182  วินาทีที่ผ่านไป

 

เสียงร้องแหลมของแมลงตัวนั้นก้องสะท้อนในยามค่ำคืนเหมือนเสียงเล็บขูดกับแก้ว

ราวกับว่ามีการส่งข้อความบางอย่าง  แมลงสองตัวที่ตามมาข้างหลังกระโดดตรงเข้ามาหาพรรคพวกที่บาดเจ็บ  หนวดของมันหมุนอย่างรวดเร็ว

เจ้าพวกตัวที่อยู่ไกลออกไปก็กระโดดเข้ามาเช่นกัน  จำนวนพวกแมลงกำลังเพิ่มขึ้น

ลู่หยวนเฝ้าสังเกตสถานการณ์  สีหน้าของเขาเคร่งเครียด  เขารู้ว่าพวกแมลงที่ผ่านเลยไปแล้วก็กำลังจะกลับมา

เสียงหึ่งๆของพวกมันได้ยินไปทั่วทุกที่  แมลงที่เป็นชนิดเดียวกันจากพื้นที่รอบๆกำลังมารวมตัวที่นั่น

เสียงร้องของพวกมันดังไม่หยุดราวกับพวกมันกำลังสื่อสารกัน

แมลงพวกนี้ได้พัฒนาความฉลาดขึ้นมาหลังจากการกลายพันธุ์และสร้างกลุ่มขึ้นมา  ปรากฏการณ์นี้ปกติจะเกิดขึ้นในกลุ่มของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเท่านั้น  แต่ตอนนี้สามารถพบเห็นได้ในแมลงระดับต่ำแล้ว

ลู่หยวนตัดสินใจว่าพวกเขารอนานกว่านี้ไม่ได้  ยิ่งเรื่องนี้ลากยาวเท่าไร  มันก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น  เมื่อพวกแมลงรวมตัวกันได้  ดูจากความคล่องแคล่วของพวกมัน  ต่อให้เป็นเขาก็ยังเสี่ยง

เขาเอาหอกสั้นอีกอันออกมาจากกระเป๋า  ก้าวเท้าขวาออกมาแล้วเหวี่ยงหอกด้วยความเร็วราวสายฟ้า

ก่อนที่เสียงพุ่งผ่านอากาศของมันจะจางหายไป  อันที่สองและสามก็ตามมา

หอกสั้นพุ่งไปด้วยความเร็วเสียง  แมลงตัวที่อยู่ใกล้ตัวที่บาดเจ็บถูกหอกพุ่งเข้าใส่ก่อนที่จะตอบโต้ได้ทัน  ชั้นภายนอกที่ทนทานของมันแตกออกจากแรงปะทะที่ส่งให้มันกระเด็นออกไป 20 เมตรและเกิดรอยแตกร้าวขึ้นที่พื้นปูน

เมื่อเห็นการโจมตีอย่างกะทันหัน  แมลงตัวที่สามก็พยายามจะหนี  แต่ก่อนที่มันจะขึ้นจากพื้นได้  หอกอีกอันก็มาถึง  มันพุ่งลงตรงขาหลังของแมลงตัวนั้น  หักขาของมันแล้วพุ่งเข้าชนท้องนุ่มๆของมันจนบาดเจ็บ

หอกอันที่สี่  ห้า..... หก

ลู่หยวนลงมืออย่างรวดเร็วและลื่นไหล  คนอื่นๆเห็นเพียงภาพเบลอๆเท่านั้นก่อนจะได้ยินเสียงระเบิด  เสียงนั้นดังจนปวดหูทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบาย

น่าเสียดายที่นอกจากการโจมตีครั้งที่สองและสามแล้ว  ครั้งอื่นๆก็พลาดเป้าหมดเลย

เหตุผลข้อแรกคือ  พวกแมลงนั้นอยู่ไกลเกินไป  และหอกลดความเร็วลงเมื่อต้องพุ่งฝ่าฝน  เหตุผลข้อที่สองคือ  พวกแมลงต่างตื่นตัวและหายตกใจกันแล้ว

ลู่หยวนเลิกขว้างหอก  และถือเอาไว้ในมือเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี

การลงมือทำให้รู้สึกถึงอำนาจ  พวกแมลงที่พุ่งเข้ามาเพียงส่งเสียงหึ่งๆจากที่ไกลๆเป็นสัญญาณของการยั่วยุเท่านั้น  แต่พวกมันไม่กล้าเข้ามาใกล้มากไปกว่านี้  เจ้ากิ้งก่ายังคงวิ่งไปเรื่อยๆ  พวกแมลงก็ตามมันมาอยู่สักพักก่อนจะหนีไปในทิศทางอื่น  เมื่อพวกมันตระหนักได้ว่าตามต่อไปก็ไม่ได้อะไร

ลู่หยวนถอนหายใจอย่างโล่งอก  แต่แล้วเขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อแขน

การขว้างหอกไม่เหมือนการใช้ดาบ  พลังจะมาจากการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง  ยิ่งเคลื่อนไหวมาก  หอกสั้นก็ยิ่งมีพลังมาก  เพื่อสร้างแรงกระแทกให้มากที่สุด  เขาจึงต้องใส่แรงทั้งหมดที่มีลงไปในการขว้างแต่ละครั้ง

เนื่องจากเขามีค่าความคล่องแคล่วและค่าความแข็งแรงไม่เพียงพอ  เขาจึงเหน็ดเหนื่อยมาก

โดยปกติแล้ว  อาการบาดเจ็บเล็กๆเช่นนี้จะรักษาตัวเองได้หลังจากหลับสนิทสักคืน  อย่างไรก็ตาม  หลังการอพยพครั้งใหญ่ของพวกสัตว์กลายพันธุ์  ก็ดูเหมือนจะมีภัยคุกคามอยู่ทั่วทุกที่  แมลงพวกนี้ไม่ใช่พวกที่เร็วที่สุด  มันจะมีตามมาอีกในไม่ช้า

แน่ล่ะว่าเขาจะยังคงสู้แม้จะบาดเจ็บก็ตาม  แต่มันจะส่งผลกระทบกับสมรรถภาพของเขา

ตอนนี้เขากำลังรู้สึกถึงหายนะของการที่คุณสมบัติทำงานไม่ประสานกัน  เลเวลอัพครั้งต่อไปเขาจะต้องใส่คะแนนคุณสมบัติเข้าไปที่ค่าความแข็งแรงบ้างแล้ว  ไม่อย่างนั้นเขาต้องเจ็บปวดกว่านี้แน่

ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดเรื่องนี้  จู่ๆเขาก็นึกถึงเรื่องอื่นขึ้นมาได้และบอกคนอื่นๆว่า  “พวกนายคอยระวังเอาไว้นะ  ฉันจะพักซักหน่อย”

กลุ่มของเขาพอจะมองเห็นในตอนกลางคืนได้  ต้องขอบคุณการพัฒนาค่าร่างกายของพวกเขา  ถึงแม้ว่าสายตาของพวกเขาจะไม่แหลมคมเท่าลู่หยวน  แต่มันก็ยังดีกว่าคนธรรมดา

“พักเถอะหัวหน้า  เดี๋ยวผมจะคอยเฝ้าเอง  คุณหวังก็อยู่ด้วย  หัวหน้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรหรอก”  โฮวตงตอบอย่างรวดเร็ว

หวังซีซีรู้สึกเหมือนถูกยอ  เธอพูดอย่างมั่นใจว่า  “ใช่แล้วพี่ลู่  ไม่ต้องเป็นห่วงนะ  มีฉันอยู่ทั้งคน”

“ฉันจะช่วยเฝ้าด้วย”  หวงเจียฮุยพูด  แม้ว่าเธอจะดูเป็นกังวลก็ตาม

ลู่หยวนพยักหน้า  นั่งลงขัดสมาธิ  เขารีบเพ่งพลังจิตให้รวมอยู่ที่ดวงตา

เขาจ้องมองไปยังแขนที่บาดเจ็บของเขาโดยไม่ยอมให้เสียเวลา  มีรอยช้ำขนาดใหญ่บนกล้ามเนื้อของเขา  เส้นเลือดรอบๆก็ติดขัด  และกล้ามเนื้อบางส่วนก็ฉีกขาด

นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆที่แขนขวา  แต่มันก็ทำให้เขาขยับแขนได้ไม่สะดวก

ลู่หยวนรีบตรวจสอบโดยรอบ  และใช้สิ่งที่เขาเคยทำเมื่อหลายวันก่อน  เขาใช้พลังจิตของเขาคลายการติดขัดของเส้นเลือด  ก่อนจะเล็งไปที่รอยช้ำ  และแล้วรอยช้ำก็หายไปราวกับว่ามีพลังลึกลับมาเอามันออกไป

สองขั้นตอนนี้ง่ายดายมากและไม่ได้เปลืองพลังจิตมากนัก

ขั้นตอนที่สามเป็นขั้นตอนที่โหดหินที่สุด  ลู่หยวนเพ่งสมาธิอีกครั้งและเริ่มต้นการพยายามครั้งแรกของเขา

ทันใดนั้น  เขาก็รู้สึกว่ามันง่ายกว่าที่เขาคาดเอาไว้เยอะ

พลังจิตคืออะไรล่ะ?  มันคือจิตใจ  คือการทำจิตวิญญาณให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา  ให้ความปรารถนากลายเป็นความจริง

เมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่ต้องการ  กล้ามเนื้อที่ฉีกขาดของเขาก็เริ่มกระดิกตัวและเชื่อมต่อเข้าหากัน  หลังจากคันๆอยู่บ้างก็หายสนิททั้งหมด

มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

ลู่หยวนอดปลาบปลื้มไม่ได้  เขาแทบจะรักษาความสงบนิ่งเอาไว้ไม่ได้  เขามองแขนตัวเอง  แล้วใช้พลังจิตรักษากล้ามเนื้อที่ฉีกขาดทั้งหมด

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น  กล้ามเนื้อที่ฉีกขาดของเขาทั้งหมดก็กลับคืนสู่สภาพเดิม

เขาลืมตาขึ้นและเหวี่ยงแขนไปรอบๆ  รู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดได้หายไปหมดแล้ว  เขาได้พลังคืนมาและดูเหมือนว่าจะแข็งแรงกว่าเดิมซะอีก

นี่มันมหัศจรรย์จริงๆ  แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อันตราย  ความปลาบปลื้มยินดีก็ยังคงวิ่งเข้ามาในหัวใจเขา

การรักษาตัวเองนั้นมีข้อเสียอยู่  ยิ่งต้องรักษาอาการบาดเจ็บมากเท่าใด  กล้ามเนื้อตรงนั้นก็ยิ่งเคลื่อนมากเท่านั้น  ถ้ามีกระดูกร้าวหรือแตก  มันก็จะยิ่งเลวร้าย  ไม่ว่ากระดูกจะรักษาได้หายสนิทเพียงใดก็ตาม  ก็จะยังมีการเคลื่อนที่ผิดไปจากเดิม  และถ้าอาการบาดเจ็บเพิ่มจำนวนครั้งมากขึ้น  ความแข็งแรงของเขาก็จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม  พลังจิตของเขาได้แก้ไขข้อเสียทั้งหมดนี้แล้ว  ทันใดนั้น  เขาก็คิดถึงความเจ็บป่วยจากอาการบาดเจ็บเก่าๆของเขาทั้งหมด  ถ้านี่ไม่ได้อยู่ในช่วงวิกฤต  เขาก็คงทำร้ายตัวเองไปแล้ว

“ตื่นแล้วเหรอ?  ทำไมไม่พักต่ออีกหน่อยล่ะ?”  หวงเจียฮุยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นลู่หยวนลืมตาขึ้นมา

“ฉันสบายดีแล้ว”  ลู่หยวนจับมือเธอ  ยิ้มให้พร้อมกับส่ายหัว

ไม่จำเป็นต้องพูดมากกว่านั้น  พวกเขาเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดหลังจากอยู่ด้วยกันมานาน  เมื่อเห็นลู่หยวนสบายดี  หัวใจของหวงเจียฮุยก็สงบลง

จ้าวหยาหลี่มองภาพนั้นเงียบๆ  หัวใจของเธอรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆตกใส่

ขณะนั้นเอง  โจวยี่เชงก็ตื่นขึ้นมาพร้อมร้องครวญครางและไอออกมาเพราะสำลักอากาศเย็นๆทันทีที่อ้าปาก

ชายคนนั้นหยุดพักหายใจแล้วถามว่า  “ ผมอยู่ที่ไหน ?  ทำไมผมยังไม่ตายอีก ? ”

“ หัวหน้าทีม ลู่หยวน ช่วยชีวิตคุณไว้ครับ  ตอนนี้เรากำลังเดินทางไปที่เมืองหูเฉิง  คุณต้องอยู่ตรงนั้นก่อน ผบ.พัน เดี๋ยวเราจะไปหา”  ทหารคนหนึ่งพูดอย่างระมัดระวังขณะที่มองลู่หยวน

“ผมไม่เป็นไร  รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว  พี่ชายลู่  ผมรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ  ผมจะจดจำสิ่งที่คุณทำให้กับผม ”  โจวยี่เชงพูดกับลู่หยวนอย่างจริงใจขณะที่หายใจแรงๆ

“ อย่าพูดถึงเลย  โชคร้ายที่ช่วยคนมากกว่านี้ไม่ได้ ”  ลู่หยวนพูดพร้อมถอนใจ

โจวยี่เชงพูดอย่างขมขื่น  “ เรื่องนี้โทษใครไม่ได้หรอก  ใคร...... ใครยังอยู่บ้าง?  ขานชื่อซิ”

“เซี่ยฉีเหลียง ครับ”

“ซู่เหลียนเฉิง ครับ”

“หลี่เชาตี้ ยังอยู่ครับ”

“ไป๋ชางเฟิง ครับ”

“หวังเว่ยหลิน พร้อมรบเสมอครับ”

“โจวปิน ครับ”

“จูต้าจวง ครับ  ผมยังอยากแก้แค้นให้เพื่อนที่ตายครับ”

โจวยี่เชงฟังเงียบๆ  จากนั้นก็กัดฟันพร้อมพูดอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว  “ทุกคนฟัง  จงยึดมั่นในทุกสิ่งที่พวกคุณมี  ความหวังอยู่ตรงหน้าเราแล้ว  อย่าตายในระหว่างการเดินทางเที่ยวสุดท้ายของเรา  ผมกำลังรักษาสัญญาของผม  ผมจะมีชีวิตรอด  พวกคุณก็เช่นกัน”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.