spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 159: วิกฤต
ลู่หยวน รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย
สิ่งที่สำคัญที่สุดของสิ่งมีชีวิตที่อยู่กันเป็นกลุ่มคือความฉลาดและความสามารถในการสร้างเครือข่ายของมัน
นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ยกตัวอย่างเช่นมดนั้นจะสร้างเส้นทางของมันขึ้นมา รังอันซับซ้อน เริ่มการเดินทางด้วยฝูงขนาดใหญ่และการกระทำอันน่าทึ่งหลายอย่าง
อันที่จริงมดนั้นไม่ได้ฉลาดเท่าไหร่ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตระดับต่ำเหมือนกับแมลงอื่นๆแต่จำนวนของพวกมันนั้นจะสร้างสิ่งที่น่าทึ่งได้
พวกมันไม่ต้องการตัวสั่งการและไม่มีบอสคอยจับตาดู ราชินีมดนั้นแค่รับหน้าที่ผลิต แม้ว่ามีมดอยู่ในรังกว่า 60,000 ตัว แต่พวกมันก็ไม่ต้องการตารางงานที่ทำในแต่ละวัน พวกมันสื่อสารกันเอง พวกมันแค่ทำตามกฎง่ายๆจนทำให้ดูเหมือนเป็นความฉลาดอันน่าที่ง
สิ่งมีชีวิตเล็กๆแบบมดนั้นไม่ได้อันตรายต่อมนุษย์ แต่เมื่อเป็นพวกปรสิตและโดยเฉพาะพวกหนอนที่กลายพันธุ์ กลุ่มพวกนี้สามารถสร้างการโจมตีที่แข็งแกร่งถ้าพวกมันไปสู้กับสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นโดยพึ่งเครือข่ายที่มันมี
มีเสียงอึกทึกคึกโครมจากบันได ชั้นวางเริ่มพังออกและสัตว์กลายพันธุ์ก็เริ่มเข้ามาที่ชั้นวางพวกนั้น และวิ่งเข้ามาหาพวกเขา
ทุกคนต่างก็กังวลและก้าวถอยหลังทีละนิดๆ
เมื่อไม่มีอะไรมาขวาง สัตว์พวกนั้นเดินหน้าได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น มนุษย์กลายพันธุ์นั้นว่องไวกว่าคนธรรมดา พวกนั้นสามารถเดินทางได้ระยะ 7-8 ม.ได้ในเวลาไม่กี่วินาที
ไม่มีใครคิดว่า หวังซีกวง จะเป็นคนแรกที่โจมตี เธอตะโกนออกมาเบาๆและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับถือมีดในมือ เธอเล็งไปที่สัตว์กลายพันธุ์ตัวหนึ่งและสับมันโดยไม่ลังเล ในอดีตเธอเคยฝึกเคนโด้มาก่อนและทักษะพวกนั้นยังคงอยู่แม้ว่าจะผ่านมานานแล้ว
ในเสี้ยวพริบตาหัวของสัตว์กลายพันธุ์ก็โดนผ่าเป็นสองส่วนพร้อมกับเลือดที่กระจายออกมาใส่หน้าของเธอ ตอนี้ทำให้เธอทั้งดูแปลกและดูสวยกว่าเดิม
ทุกคนต่างก็มีมีดดีๆอยู่ในมือ แม้ว่าจะไม่ได้ดีเท่าของ ลู่หยวน แต่นี่ก็เป็นอาวุธระดับสีฟ้า ดังนั้นมันจึงไม่ได้ยากเลยที่จะจัดการกับพวกสัตว์ระดับสีขาว
หวังซีกวง เครียดแต่เธอไม่ได้รู้สึกอึดอัด สรุปเลยคือฉากนองเลือดตรงหน้าเธอนั้นทำให้เธอตื่นเต้น เธอถอยกลับอย่างระวังและเล็งก่อนที่จะตัดสัตว์อีกตัวที่แอบมาด้านหลังเป็นสองส่วน
ทุกคนต่างก็มีกำลังใจมากขึ้นเมื่อเห็นความสามารถของ หวังซีกวง พวกเขาไม่คิดว่าสัตว์น่ากลัวพวกนี้จะฆ่าง่ายได้ขนาดนี้ หวังซีกวง เองก็เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มด้วย
“ เราไม่ต้องกลัว ! มาจัดการพวกมันกันเถอะ ! “ - หวงเจียฮุย ตะโกนออกมาดังๆและเริ่มเดินออกไปจัดการสัตว์ที่อยู่ตรงหน้า
ทุกคนรวมถึงสาวขี้อาย เกาหลิง เองก็เดินตามไปพร้อมกับมีดในมือ
มีแค่ ลู่หยวน, หวังซีซี, หยาหลี่ และ เฉินเซียนฟง เท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บหนักยืนอยู่ข้างๆ
หยาหลี่ รู้สึกกระอักกระอ่วนและอึดอัดที่ต้องมาแอบอยู่ข้างหลังในตอนที่คนอื่นๆสู้อยู่ เธอรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของ หวังซ๊ซี โดยไม่ต้องหันกลับไปมองเลยด้วยซ้ำ
“ เอ่อ “ - หวังซีซี ฮึดฮัดใส่ หยาหลี่ พร้อมกับมองไปที่อีกฝ่าย
หน้าของ เซ่าหยาหลี่ แดงขึ้นมา เธอรู้สึกละอาย เธออยากเอาหน้ามุดลงกับพื้นจริงๆ
จำนวนของสัตว์กลายพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกมีแค่ไม่กี่ตัวแต่ไม่ถึงครึ่งนาทีทางเดินก็เต็มไปด้วยสัตว์พวกนั้น
แต่ทางเดินนั้นกว้างแค่สองเมตรดังนั้นมันจึงไม่พอสำหรับสัตว์กลายพันธุ์ทุกตัว นอกจากนี้ยังมีศพกองอยู่เต็มไปหมดทำให้สัตว์พวกนั้นเดินหน้ายากกว่าเดิม
ในตอนที่ทุกคนกำลังสู้อยู่นั้น ลู่หยวน ก็ได้หลับตาลง
เขารู้สึกได้ถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้านนอกเพราะเขาได้ยินเสียง เล่าหวง และกิ้งก่ายักษ์คำรามออกมาเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าทั้งคู่นั้นก็ยังสู้แบบตึงเครียดกันอยู่ ครั้งนี้ไม่ใช่การกลายพันธุ์ธรรมดา สัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ได้รับการสั่งการและรวมกลุ่มอย่างฉลาด บวกกับพวกมันเป็นปรสิตระดับต่ำที่มีจำนวนมาก กิ้งก่านั้นอาจจะทนได้ไม่นานถ้าพวกมันยังคงโจมตีต่อเนื่องแบบนี้
ตามทางนั้นกิ้งก่าได้จัดการช่วยไม่ให้ทีมได้รับการโจมตี ความแข็งแกร่งของกิ้งก่านั้นคืออาวุธอันทรงพลัง มันจะน่าเสียดายอย่างมากถ้าเขายอมทิ้งมันไว้แต่ข้างนอกนั้นมีสัตว์กลายพันธุ์เยอะเกินไป ไม่มีโอกาสที่เขาจะรอดไปได้ถ้าเขาออกไปช่วยมัน นอกซะจากว่าเขาจะเข้าสู่ความถี่ของโลกอีกครั้ง
มันบังเอิญในตอนที่เขาเข้าไปในความถี่นั้นในตอนที่สู้ครั้งสุดท้าย เขาทำมันอีกไม่ได้ นั่นมันเป็นกรณีพิเศษ อวัยวะภายในและกระดูกช่วงอกของเขาได้พังหมด หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้นและเขาเกือบจะตาย
ในอีกความหมายคือเขาคงตายถ้าไม่ได้เชื่อมต่อกับโลก ตั้งแต่นั้น ลู่หยวน ได้สังเกตถึงอาการที่อาจจะเกิดขึ้นกับการเต้นของหัวใจ มนุษย์นั้นสามารถเข้าสู่ความถี่โลกได้ในตอนที่ความถี่การเต้นของหัวใจนั้นต่ำอย่าง 5-6 ครั้งต่อนาที
เมื่อการเต้นของหัวใจไม่คงที่ การทำงานหลักของหัวใจคือต้องสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ยิ่งใช้พลังงานมากเท่าไหร่หัวใจยิ่งเต้นแรงมากเท่านั้น ยิ่งร่างกายช้ามากเท่าไหร่ หัวใจเองก็จะเต้นช้าตามไปด้วย
ถ้าเขาทำให้การหายใจตัวเองช้าลงได้เขาอาจจะทำให้หัวใจเต้นช้าลงได้ด้วย
นั่นมันยังไม่พอ เขาพยายามคิดหาวิธีอื่น เขาตระหนักได้ว่าความตายอาจะเป็นองค์ประกอบสำคัญ แต่เขาคงหาเรื่องตายไม่ได้ มันเสี่ยงเกินไป
จากนั้นเขาก็คิดถึงความมุ่งมั่น ไม่ต้องเดาเลยว่ามันถือเป็นแรงที่ลึกลับ เขารู้มาตั้งแต่ต้นแล้วว่าความมุ่งมั่นนั้นไม่ได้ใช้ไว้แค่ควบคุมองค์ประกอบภายนอก มันยังใช้ควบคุมร่างกายของคนได้ด้วย ทุกครั้งที่เขาเพิ่มความมุ่งมั่นลงไป ความแข็งแกร่งของเขาจะควบคุมได้ง่ายขึ้น ตอนนี้เขาสามารถควบคุมกล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาบาดเจ็บ เขาจะสามารถปิดรอยแผลและหยุดไม่ให้เลือดไหลได้
เขาสามารถทำมันได้อย่างธรรมชาติ
“ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่ความมุ่งมั่น ? “
หัวใจของ ลู่หยวน เต้นแรงขึ้นเมื่อคิดแบบนั้น เขาไม่เคยลองวิธีนี้มาก่อน
เขาเริ่มพักฟื้นตัวเองและเพ่งสมาธิไปที่ความมุ่งมั่นของตัวเองทันที
ครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ไม่มีแสงส่องออกมารอบตัวเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นยกเว้นแค่เริ่มมีหมอกหนารอบตัวเขา
ไม่นานอารมณ์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและสมาธิของเขาก็พังลง
เขาช็อคและอึ้ง มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาด เขาไม่เคยรู้สึกถึงการมีอยู่ของเลือดเนื้อ ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถควบคุมทุกอย่างในตัวเขาได้
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและพยายามสงบสติตัวเองลงและรวบรวมความมุ่งมั่นอีกรอบ
เขารู้สึกได้ถึงเครือข่ายของกล้ามเนื้อตัวเอง, ความเข้มของกระดูก, เลือดที่ไหลราวกับสายน้ำ,และอวัยวะภายในที่กำลังทำงาน สุดท้ายเขารู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นอย่างแรง
เขาไม่ได้มองเห็นมันแต่ทุกๆนิ้วในร่างกายของเขานั้นแว็บขึ้นมาในสมอง
เขารู้สึกมันได้อยู่สักพักแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะมาเสียเวลาอีกต่อไป สถานการณ์ตอนนี้วิกฤตอย่างมาก กิ้งก่ายักษ์คำรามออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่คงเป็นการต่อสู้แบบดิ้นรนของมันแล้ว
เขารีบเปลี่ยนความสนใจไปที่หัวใจตัวเอง เขาอธิบายไม่ได้ว่าทำไมแต่เขารู้สึกว่าเขาควบคุมมันได้
ความคิดหนึ่งแว็บขึ้นมาตอนเขารู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นช้าลง มันคือการทำงานของมัน มันรู้สึกเหมือนมีคนพยายามหยุดของชิ้นใหญ่ที่ซึ่งเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วด้วยแรงอันน้อยนิด เขารู้สึกเหมือนหมดหวัง
ถึงอย่างนั้นเขาก็ดีใจกับผลลัพธ์ที่ได้
เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองเพื่อไม่ให้ความมุ่งมั่นของเขาได้พังทลายลงมาอีกในตอนที่หัวใจของเขาเต้นช้าลงๆ
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็เริ่มเสียความแข็งแก่งของตัวเองและหน้าของเขาก็ซีดลง
สถานการณ์วิกฤตยิ่งขึ้นกว่าเดิม การต่อสู้อันแสนอันตรายมีอยู่แทบทุกที่และ หวังซีซี ก็ยุ่งอยู่กับการระวังรอบข้าง หยาหลี่ ที่ซึ่งเป็นคนเดียวที่เห็นว่า ลู่หยวน เกือบหมดสติลงไปได้รีบวิ่งไปหาเขาและพยุงเขาขึ้นมา
“ ลู่หยวน นายเป็นอะไรมั้ย ? ได้โปรด นายกำลังทำให้ฉันกลัว ! “ - หยาหลี่ พูดขึ้นพร้อมกับน้ำตา สีหน้าของเธอแสดงความกังวลออกมาอย่างชัดเจน
ลู่หยวน ถอนหายใจออกมาเพื่อบอกว่าเขาไม่เป็นอะไร การเต้นของหัวใจเขานั้นได้ลดลงมาเหลือ 10 ครั้งต่อนาที เขาเคยเจออาการขาดเลือดมาก่อนและความสามารถของเขาทั้งหมดตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลือแต่เขายังทนได้อยู่อีกนิดหน่อยเพราะความฟิตของร่างกายตัวเอง
สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ยังคงแห่กันมาเรื่อยๆและจำนวนศพที่ตายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่ที่พวกเขาสู้นี้มีจำกัดและทุกคนก็ต้องโดนบังคับให้ถอยหลังกลับมา
เพดานนั้นเริ่มที่จะถล่ม บางส่วนเริ่มถล่มลงมาแล้ว หลังคาและกำแพงของทั้งสองฝั่งแตกออก ตัวตึกเองก็เริ่มเสียหายอย่างจริงจังและการโจมตีของพวกสัตว์มีแต่ทำให้มันถล่มเร็วขึ้น
มันคงทนได้ไม่นาน
ทุกคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันเล็กน้อย เสื้อผ้าของพวกเขานั้นแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันการโจมตีจากสัตว์ระดับต่ำได้
แต่ถึงยังไงพวกเขาต่างก็ต้องหมดแรง
พวกเขาเพิ่งเรียนรู้วิธีที่จะสู้ ดังนั้นจึงออมแรงไม่เป็น พวกเขาได้ใช้แรงเต็มที่ในทุกการโจมตีและเมื่อรวมกับความเครียดและความกลัวที่มีทำให้เปลืองแรงไปมากกว่าเดิม แม้ไม่มี หวังซีซี คอยช่วย พวกเขาก็ยังฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ได้มากมาย พวกเขาหมดแรงหลังจากสู้มาได้ไม่กี่นาที
ทันใดนั้นทางเดินก็ถล่มลงมา เมื่อไม่มีกำแพงคอยค้ำให้เพดานก็ถล่มลงมาด้วย
กลุ่มสัตว์กลายพันธุ์ด้านบนเองก็หล่นลงมา สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายขึ้นยิ่งกว่าเดิม