spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 157: เชื่อใจ
โฮวตง และ หลินเสี่ยวจี ต่างก็ยกไรเฟิลในมือขึ้น
ทุกคนต่างก็ดูกลัวกันหมด ไม่มีทางที่พวกเขาจะใจเย็นได้ ในสถานการณ์แบบนี้ใครที่ไม่กลัวจิตหลุดถือได้ว่าเป็นคนกล้าเลยทีเดียว
ลู่หยวน มองไปยังทิศของสัตว์กลายพันธุ์ที่ซึ่งเรียงแถวกันเข้ามาเตรียมพร้อมที่จะโจมตี เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆและดึงดาบออกมาพร้อมกับพูดขึ้น – “ ทุกคนตามฉันมา เราจะมีชีวิตต่อรึตายก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ตามฉันมาให้ทัน “
จากนั้น ลู่หยวน ก็ตะโกนบอกกิ้งก่า กิ้งก่านั้นยังคงดูหงุดหงิดอยู่และทำราวกับไม่ได้ยินเสียงของ ลู่หยวน
ลู่หยวน ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาหวังแค่ว่ามันคงจะตามเขามาเอง
ต่อมาเขาได้เจาะหลุมตึกข้างๆ ข้างในนั้นมืดสนิท ลู่หยวน เปิดไฟฉายขึ้นมาและโยนอีกอันไปให้ หวงเจียฮุย บอกกับเธออย่างอ่อนโยน – “ ระวังตัวด้วย “
กำแพงด้านในมีรอยร้าวอยู่เต็มไปทั่ว มีหลายส่วนที่ถล่มลงมาแล้ว ตึกนี้ดูเหมือนจะทนการสั่นสะเทือนเล็กน้อยไม่ได้ด้วยซ้ำ
แน่นอนว่า ลู่หยวน ไม่ได้คิดที่จะซ่อนอยู่ในนี้ เขารีบไปที่กำแพงฝั่งตรงข้ามและใช้ดาบตัดสร้างรูขึ้นมาอีก ในตอนที่แสงอาทิตย์สาดเข้ามา พวกนั้นก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
ถนนด้านนอกนั้นเต็มไปด้วยสัตว์กลายพันธุ์
ทุกคนกลัวจนต้องถอยกลับมา
“ ทุกที่ พวกมันมีอยู่ทุกที่ เราไม่น่ามาที่นี่เลย “ – หลินเสี่ยวจี พูดขึ้นด้วยท่าทีสิ้นหวัง ไรเฟิลในมือเขาก็ยังสั่นไม่หยุด – “ ครั้งนี้เราแย่แน่ “
“ อย่ามาทำให้ฉันถอดใจ ถ้ากลัวก็ฆ่าตัวตายซะ “ – โฮวตง ด่าออกมาด้วยความหงุดหงิด
“ ใครกลัวตาย ? ฉันรอดมาได้เพราะตัวเอง นายต่างหากที่เอาแต่กินไม่ทำอะไร ! “ – หลินเสี่ยวจี ตะโกนกลับมา
“ ฉันเอาแต่กินตอนไหน ? เฉินเซียนฟง กับฉันทำงานหนักมาตลอด อย่าคิดว่าแค่นายวิวัฒนาการแล้วนายจะดีไปกว่าพวกเรา ฉันไม่ชอบนายมาตั้งแต่แรกแล้ว “ – ภายใต้ความกดดันอันตึงเครียด โฮวตง ได้เริ่มด่า หลินเสี่ยวจี ออกมาด้วยใบหน้าที่แดงกล่ำ
เฉินเซียนฟง คำรามออกมาแบบไม่พอใจและมองไปที่ หลินเสี่ยวจี
หวยเจียฮุย ได้เสนอให้พวกเขามาหาของในเมืองนี้และทุกคนต่างก็เห็นด้วย เมื่อ หลินเสี่ยวจี พูดแบบนั้นออกมาทำให้เธอถึงกับต้องละอาย
“ ทุกคนหุบปาก “ - ลู่หยวน เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตั้งใจมองไปที่ หลินเสี่ยวจี และพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา – “ นายจะส่งเสียงทำไม ? ถ้านายไม่อยากอยู่ที่นี่งั้นก็ไปซะ เราไม่ต้องการนาย “
ตัวของ หลินเสี่ยวจี สั่นเครือ หน้าของเขาซีดลงและพูดขึ้นมา – “ ฉัน..ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น..ฉัน... “
ลู่หยวน รู้ว่า หลินเสี่ยวจี แค่หมดหวังและไม่ได้หมายความแบบที่พูดแต่การกระทำที่แสดงออกมาทำให้ทุกอย่างแย่ลง ยังไงซะการลงมือทำอะไรก็ต้องผ่านการตัดสินใจของเขา การลงมือทำอะไรจะส่งผลต่อทั้งกลุ่ม
“ ทุกคนเช็คอาวุธตัวเอง เราจะฆ่าพวกมันไปตามทาง ฉันไม่เชื่อว่าถนนทุกเส้นโดนยึดไปหมดแล้ว “ - ลู่หยวน สั่งการออกมาพร้อมกับมองไปที่ทางเข้ารู สัตว์กลายพันธุ์นั่นยังไม่ได้เคลื่อนไหว ตอนนี้ถือเป็นเวลาที่ดี
เขาเคลื่อนที่ได้ราวกับลิงผ่านรูนั้นไป จากนั้นเขาได้เหวี่ยงดาบเข้าฟันสัตว์กลายพันธุ์ออกเป็นสองส่วน
ความเร็วของเขารวดเร็วเอามากๆและดาบของเขานั้นก็เร็วราวกับสายฟ้า เลือดกระจายออกมาเต็มไปทั่ว แขนและขานั้นหล่นกระจายอยู่ที่ที่
“ เร็วเข้า เร็ว ! ตามฉันมา ! ” – หวงเจียฮุย ตะโกนออกมา
ต้นมอสหนาๆนั้นขึ้นคลุมแขนขาที่โดนตัดพวกนั้น การเดินไปในพื้นที่แบบนี้ราวกับเดินลุยโคลน
หยาหลี่ รู้สึกแสบท้องขึ้นมาตอนที่เธอวิ่งด้วยความกลัวในตอนที่วิ่งตาม หวังซีซี มา ฉากที่เกิดตรงหน้านี้ราวกับนรก ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกนุ่มๆตรงที่เธอเหยียบ เธอมองลงไปและก็ต้องช็อค มันคือลำไส้ที่ยังคงร้อนอยู่ของพวกสัตว์กลายพันธุ์
เธอกลัวซะจนหน้าซีดและต้องรีบถอยหลังกลับ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ มันหนีบขาของเธอแน่น ชัดจนแล้วว่าลำไส้นี่ยังไม่หยุดทำงาน มันเป็นเหตุผลว่าทำไมในตอนที่เธอไปเหยียบมัน มันถึงตอบโต้
หยาหลี่ กลัวจนกรี๊ดออกมาไม่ได้ เธอรีบเตะมันออกแต่ก็ยังเอามันออกจากขาของเธอไม่ได้
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ ลู่หยวน รีบหันกลับมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น – “ หวังซีซี ไปช่วยเธอ “ – เขาพูดขึ้นมา
หวังซีซี หันกลับไปแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่ ยังไงซะ หยาหลี่ ก็เป็นคู่แข่งด้านความรักของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่หวังให้อีกฝ่ายตายแต่การเห็นอีกฝ่ายทำตัวโง่ๆก็เป็นอะไรที่เธอพอใจแต่เธอไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง ลู่หยวน เธอใช้กระสวยแทงเข้าไปในลำไส้นั้นทันที
กระสวยพุ่งเข้าไปจนทำให้เลือดกระจายออกมา ใช้เวลาไม่นานลำไส้นั่นก็หายไป
หยาหลี่ กรี๊ดออกมาเพราะช็อคอีกครั้ง เลือดนั้นเปอระเต็มไปทั่วหัวและหน้าของเธอทำให้เธอดูน่าสงสารสุดๆ
หวังซีซี แอบพอใจเงียบๆ อันที่จริงเธอก็จงใจให้เป็นแบบนี้
ในสถานการณ์วิกฤณเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้พวกสัตว์กลายพันธุ์เหมือนได้สัญญาณบางอย่าง พวกตุ๊กตาที่ยืนอยู่เฉยๆต่างก็เริ่มเคลื่อนไหว
สัตว์กลายพันธุ์ทั้งสองฝั่งต่างก็วิ่งเข้าหาพวกเขาราวกับคลื่นยักษ์
สีหน้าของ ลู่หยวน เปลี่ยนไป ในเสี้ยวพริบตาเขาได้ฟันสัตว์กลายพันธุ์หลายตัวให้ขาดเป็นสองท่อน เขาหันหลังกลับมาและตะโกน – “ ซีซี ระวังโดนล้อมด้วย ทุกคนรีบตามฉันมา ! “
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็พุ่งไปที่แนวหน้า มีประกายดาบส่องออกมาพร้อมกับเลือดที่กระจายออกมาบนท้องฟ้า ด้วยความสามารถของเขาตอนนี้สิ่งมีชีวิตอ่อนแอพวกนี้ไม่ได้เป็นอันตรายสำหรับเขา ในสายตาของเขาแล้วมันไม่ได้ต่างกับการสับไม้เลย แม้ว่าครั้งนี้จะมาเยอะแต่เขาก็ยังฆ่าพวกนั้นได้ทีละ 3-4 ตัว ในตอนที่เขาเดินหน้าไปได้ห้าก้าวก็ได้มีสัตว์กลายพันธุ์ตายเกือบห้าสิบตัวด้วยน้ำมือของเขา
ในตอนที่จำนวนมันมีมากๆแม้แต่มดก็ยังสามารถฆ่าช้างได้ ถ้าการต่อสู้ยังเป็นแบบนี้ต่อไปโดยมีอะไรบางอย่างคอยสั่งการสัตว์พวกนี้อยู่ พวกเขาคงโดนล้อม ถ้าแบบนั้นนอกซะจากว่า ลู่หยวน จะบินได้ เขาคงต้องตายอย่างแน่นอน
มนุษย์นั้นไม่ใช่เครื่องจักรที่ทำงานได้ตลอด พลังงานของพวกเขาจะลดลง,ความอดทนเองก็ลดลงและความมุ่งมั่นก็คงพังทลาย ไม่ว่าคนจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่การเจอศัตรูมาเป็นกองทัพอย่างกับคลื่นยักษ์นี้ก็เหมือนกับพวกเขาเสียแรงเปล่า
ในอีกด้าน หวังซีซี เองก็เริ่มทำการโจมตีด้วย กระสวยระดับสีเขียวของเธอนั้นเคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นมา บางครั้งตอนที่กระสวยจะเกือบถึงหัวของพวกสัตว์มันก็ทำให้เกิดคลื่นเสียงระเบิดออกมาก่อนที่จะโดนพวกมันด้วยซ้ำ
ตอนนี้พื้นที่ห้าเมตรนั้นได้กลายเป็นสุสานของสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้
เนื่องจากความกลัวตอนที่อยู่ทะเลได้เผยความสามารถทางพลังจิตของเธอออกมาทำให้ความสามารถตอนนี้ของเธอแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าเธอจะใช้มันจนบินได้ไม่เต็มที่แต่เธอก็ยังดีกว่าเดิม บวกกับถ้าเทียบกับทักษะการต่อสู้แล้ว พลังจิตของเธอนั้นยังแข็งแกร่งกว่าการโจมตีของ ลู่หยวน อีก
แน่นอนข้อเสียอย่างเดียวของพลังจิตคือมีความคงทนที่ต่ำ มันใช้ได้แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
แต่สำหรับตอนนี้มันเพียงพอ
ถนนตรงนี้ยาวแค่ยี่สิบเมตร ขณะที่ ลู่หยวน เดินมาเขาใช้เวลาแค่ประมาณ 3 นาที ตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือด แม้ว่าเสื้อของเขาจะกันน้ำแต่ตัวของเขาก็ยังมีเศษเนื้อติดอยู่
เขาพังตึกตรงหน้าอีกรอบ ทุกคนต่างก็ตามเขาเข้าไป พวกเขาไม่มีเวลาพักแม้แต่วินาทีเดียว ในตอนที่กำแพงพังลงเพราะสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ มันได้ถล่มลงมาแต่โชคดีที่ตาของ ลู่หยวน นั้นเร็วจึงตอบโต้ได้ทัน เขาโยนคนที่อยู่ใกล้ๆไปยังกำแพงอีกฝากแต่ เฉินเซียนฟง นันหลบมันช้าเกินไปและโดนมันทับ
เฉินเซียนฟง โกรธอยู่แล้วหลังจากที่โดนโจมตีและตอนนี้เขายังโดนกำแพงทับอี เขากลั้นไม่ไหวอีกต่อไป เขาใช้มือสองข้างจับชายวัยกลางคนตรงหน้าฉีกออกเป็นสองส่วน จากนั้นก็จับอีกคนและใช้เป็นกระบอกฟาดสัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้ๆไม่หยุด
เฉินเซียนฟง ดูเหมือนจะยังไม่พอใจ เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับบดขยี้กะโหลกศัตรูด้วยมือเปล่า มือใหญ่ๆของเขาจับไปที่มนุษย์อีกคนและคอยเหวี่ยงไว้โดยไม่ได้แสดงท่าทีเหนื่อยเลย
ทุกคนเห็นเลือดกระจายออกมาแต่ไม่คิดว่า เฉินเซียนฟง จะมีท่าทีแบบนี้
ลู่หยวน เห็นพวกสัตว์กลายพันธุ์พวกนั้นและคิดว่าพวกมันคงตามพวกเขาในเวลาอันสั้นไม่ได้ เขากัดปากตัวเองและพูดต่อ – “ เราจะเดินหน้าต่อ “
ลู่หยวน นั้นรู้สึกผิด เขารู้สึกผิดที่ทิ้งปืนใหญ่ไว้ ถ้าพวกเขามีปืนใหญ่สักสองกระบอก ไม่ว่าสัตว์พวกนี้จะมากแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงจัดการมันได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้การรู้สึกผิดไปก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
“ ดูเหมือนที่นี่เคยมีห้องใต้ดินมาก่อน “ - หวังซีกวง อยู่ๆก็พูดขึ้นมา – “ มีชั้นติดลบอยู่บนลิฟต์ด้วย “
ลู่หยวน รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาพร้อมกับรีบเดินไปข้างหน้า ทางเข้าของลิฟต์นั้นบิดไปมาและเต็มไปด้วยสนิม ชัดเจนแล้วว่ามันใช้ไม่ได้อีกต่อไป
“ ทางออกอยู่ตรงนี้ “ - โฮวตรง เจอบันได
ตรงกลางของบันไดนั้นพังไปแล้วแต่พวกเขาอยู่ชั้นหนึ่งอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาแค่กระโดดลงไปหนึ่งรึสองเมตรเท่านั้น แม้แต่ หยาหลี่ ก็ไม่ลังเลที่จะโดดลงไป ชั้นใต้ดินนั้นเต็มไปด้วยน้ำและมีเชื้อราอยู่เต็มไปหมด ไม่ใช่แค่พื้นแต่รายังรามไปถึงกำแพงด้วย ข้างในชั้นใต้ดินนั้นมีกลิ่นคาวปลาแปลกๆอยู่ด้วย
ลู่หยวน แอบวิเคราะห์ราพวกนี้และตระหนักได้ว่ามันมีพวกมีพิษอยู่เยอะ มีที่พ่นพิษออกมาได้ด้วย เขาไม่รู้ว่าอากาศตรงนี้เป็นพิษรึเปล่า เขาได้แค่พึ่งโชคชะตาเท่านั้นแต่เขาเห็นว่ามีแมลงและสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆอยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าราส่วนมากจะมีพิษแต่อย่างน้อยแมลงพวกนี้ก็ทำให้เขารู้สึกใจชื้นขึ้นมา
ที่ต้องเคยเป็นโรงแรมมาก่อน ลู่หยวน เตะประตูเข้าไปและพบกับพวกของที่ใช้กันในโรงแรม
เขากวาดของพวกนั้นออกไปด้านข้างและลากของพวกนั้นไปกันตรงบันไดไว้ แน่นอนว่าของพวกนี้คงกันการโจมตีสัตว์กลายพันธุ์ไม่ได้แต่มันจะทำให้พวกนั้นช้าลงถ้าจะพยายามฝ่าเข้ามา มันจะดีกว่าที่ไม่มีอะไร
ทุกคนต่างก็รีบเข้าไปช่วยเขาเพื่อเอาไปกันบันไดให้เร็วที่สุด
ทันใดนั้น เฉินเซียนฟง ก็กระโดดลงมา ตัวของเขาเต็มไปด้วยแผลและตรงอกก็แทบจะถูกฉีกออกเป็นแผลเหวอะ เขาดูเหมือนเกือบจะตาย เขาหอบและตาของเขาตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงหมด
“ พวกนายไม่เชื่อใจฉัน..พวกนาย..อยากให้ฉันตาย “ – เขาคำรามออกมาโกรธๆ เขามองทุกคนด้วยสายตาโหดร้าย หลังจากนั้นสักพักเขาก็ไปที่มุมมืดแล้วนั่งลง
ทุกคนตอนนี้ต่างก็พากันเงียบสนิทไม่พูดอะไรออกมา