หน้าแรก > Epoch of Twilight
ตอนที่ 156: หญิงสาวที่มีรอยยิ้มชั่วร้าย

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 156: หญิงสาวที่มีรอยยิ้มชั่วร้าย

 

เสียงร้องขอให้ช่วยนั้นเหมือนเสียงที่ไม่มีตัวตนดังขึ้นบริเวณถนนที่ว่างเปล่า ความเงียบรอบๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุกขึ้นมา

นี่ต้องไม่ใช่เหยื่อแน่นอน

เสียงนี้เข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทั้งกลุ่มเดินไปเลี้ยวต่ออีกมุมและพบกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวตรงถนนที่เต็มไปด้วยต้นมอส

ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่คนเดียวใจกลายถนนโดยไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรเลย เธอมีผิวขาวรูปร่างดี,ขาที่เรียวยาวและผมยาว  ผมสีดำเรียบเนียนของเธอห้อยลงมาถึงก้น ซึ่งตัดกันสุดๆกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในตอนนี้

ถ้าไม่ใช่เพราะมือของเธอ พวกเขาคงเข้าใจผิดว่าเธอไม่ใช่คน ผู้หญิงสวยคนนี้สามารถทำให้ชายทุกคนคึกขึ้นมาได้

แต่จากระยะ 30 ม. ทุกคนเห็นได้ชัดว่าเธอมีเล็บที่ยาว มันยาวถึง 5-6 ซม. เล็บของคนธรรมดามักจะขดเป็นวงตอนมันยาวเกินกว่า 1 ซม.แต่ของผู้หญิงคนนี้ทั้งตรงและคมเหมือนกับมีด

ในตอนที่พวกเขาเข้าไปใกล้ ดูเหมือนว่าเธอจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งและเสียงร้องของเธอก็ได้หยุดลง  เธอหันกลับมาเล็กน้อยและมองมายังทิศทางของพวกเขา

สีหน้าของเธอดูโหดร้ายแต่ยังมีรอยยิ้มอันน่าสงสารอยู่บนใบหน้าในตอนที่เธอมองมายังทุกคน  พวกเขาเห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ได้เปลี่ยนไป สายตาของเธอเหมือนสายตาของตุ๊กตา

เหตุการณ์นี้ทำให้พวกเขาถึงกับต้องกลัว เซ่าหยาหลี่ ที่ซึ่งขี้ขลาดได้หน้าซีดขึ้นมาทันที  ตัวของเธอเริ่มสั่นและเธอเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น

หวงเจียฮุย ยกปืนขึ้นมาและจับมันแน่นขึ้น

กิ้งก่ายังคงดูใจเย็นอยู่ มันไม่ได้ขยับเลยสักนิด บางทีมันคงไม่ชินที่จะเห็นเรื่องแบบนี้

ผู้หญิงคนนนั้นมองมาที่พวกเขาสักพักแต่ไม่ได้ทำอะไร ดูเหมือนว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ รอยยิ้มบนหน้าเธอก็ยังคงดูชั่วร้ายอยู่ดี

หลังจากที่พวกเขาเผชิญหน้ากันมาสักพักก็ได้มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น  ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาและอ้าปากกรี๊ดออกมาโดยไม่ได้มีเสียงแต่อย่างใด ตอนแรก ลู่หยวน คิดว่ามันคงเป็นการโจมตีแบบคลื่นเสียงแต่คนอื่นๆต่างก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นเลย

ลู่หยวน รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเหมือนกับจะมีบางอย่างที่มองไม่เห็นและอันตรายกำลังเข้ามาใกล้

เขาเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองเลยรีบตัดสินใจและตะโกนใส่ หวงเจียฮุย – “ ยิง ! “

หวงเจียฮุย ลังเลยเล็กน้อยก่อนจะลั่นไก คนที่ฝึกการยิงมาอย่างดีแบบเธอนั้นคงไม่พลาดกับระยะทางแค่นี้ กระสุนนั้นพุ่งไปที่กะโหลกของผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับทิ้งรูที่เลือดกระฉอกไว้บนหัวของเธอ

ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ

ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรแต่ตราบใดที่ว่ามันมีกระดูกสันหลัง หัวก็คือจุดตาย เมื่อโดนทำลายแล้วมันก็เกือบจะไม่มีโอกาสรอดแต่ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าโดนยิงและยังคงกรี๊ดแบบไม่มีเสียงต่อไป  หน้าของ หวงเจียฮุย เริ่มซีดขึ้นมาเมื่อเห็นแบบนั้น เธอยังคงคอยยิงต่อไปเรื่อยๆ

หัวของผู้หญิงคนนั้นเหมือนรังผึ้งไปแล้ว  บางครั้งการที่กระสุนนั้นมีแรงที่จะทะลุเกินไปก็ไม่ค่อยดี  ถ้า หวงเจียฮุย ใช้กระสุนลูกใหญ่ธรรมดา แค่นัดเดียวก็คงพอที่จะเป่าหัวนี่หลุดแต่การสังเคราะห์กระสุนนั้นทำให้เกิดรูแค่เพียงสองรูขึ้นมาเท่านั้น  ในตอนที่กระสุนหมด หัวของผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงอยู่ มีรูไม่กี่รูบนหัวนั่นเท่านั้นเอง

เลือดปนกับสมองได้ไหลออกมาจากรูนั้น  สุดท้ายมันก็ยืนไม่ไหวอีกต่อไป ตัวของมันสั่นราวกับเมาและได้หันกลับไปพร้อมกับพะงาบปากไปมาเพื่อส่งเสียง

ทันใดนั้นมันก็ล้มลงไปกับพื้น แขนและขายังคงดิ้นไปมา มันพยายามที่จะกลับมายืนแต่ก็ต้องล้มไปอีกครั้ง

ความอึดนี้ทำให้ทุกคนต่างก็ช็อค

อยู่ๆกิ้งก่ายักษ์ก็ทำเสียงฮึดฮัดออกมาและเงยหน้าของมันขึ้น

ลู่หยวน เห็นท่าทางของกิ้งก่า ใจของเขาวูบลงและรีบพูดขึ้น – “ นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา เราต้องออกจากที่นี่ตอนนี้เลย “

“ มีอะไรเหรอ ?? “ - หวังซีซี ถามอย่างสงสัย เธอดูยังไม่เข้าใจเรื่องตอนนี้

“ ที่นี่มันอันตรายเกินไป เร็วเข้า เก็บของ ฉันจะอธิบายทีหลัง ! “

กิ้งก่าเริ่มทำท่าทีหงุดหงิดออกมาและคอยกระทืบพื้นด้วยความกังวล ใครก็ตามก็พอเข้าใจว่าคงมีอันตรายกำลังเข้ามาหา

ลู่หยวน สั่งให้กิ้งก่านอนลงแต่กิ้งก่านั้นดูเหมือนยังโกรธอยู่และไม่ได้ฟังเขา เกล็ดของมันม้วนตัวขึ้นกลายเป็นรอยหยักขึ้นมา หางของมันก็แกว่งไปมาไม่หยุด ปากของมันก็เผยให้เห็นเขี้ยวและคอยคำรามออกมาอย่างกับเสียงฟ้าผ่า

เล่าหวง ที่ซึ่งไม่ได้เป็นมิตรรึศัตรูกับทีมเองก็คอยตามมาจากด้านหลังตลอด  ขนสีแดงของมันดูเหมือนจะมีไฟที่โปร่งแสงปะทุขึ้นมา ถนนตรงนั้นเต็มไปด้วยควันในตอนที่มันเดินเข้ามา  มันหยุดลงโดยห่างจากกิ้งก่าไปหนึ่งร้อยเมตร มันจับตาดูสัตว์กลายพันธุ์นั่นอยู่พร้อมกับที่ หยาหลี่ หันกลับไปมองไปที่มัน

เมื่อเห็นท่าทีของ เล่าหวง  หยาหลี่ ก็ซึ่งเคยตื่นเต้นก็หน้าซีดและปิดปากเงีบ

สัตว์กลายพันธุ์สองตัวนี้พร้อมที่จะเข้าต่อสู้แต่ทั้งคู่ไม่ใช่ศัตรูกัน

มีบรรยากาศอันตึงเครียด ทุกคนต่างก็เริ่มหนักใจ  ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก แม้แต่ ลู่หยวน เองก็รู้สึกได้ถึงความกดดันตอนนั้นด้วย

พวกเขาได้ยินเสียงใสๆจากที่ไกลๆ  ไม่นานก็เกิดเสียงราวกับฟ้าร้อง  เสียงนั้นวิ่งมาหาพวกเขาอย่างกับคลื่นทะเล มันรู้สึกเหมือนมีสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนวิ่งเข้าใส่พวกเขาจากทั่วทุกมุม

“ ภารกิจตอนนี้ : ระดับ B หนีไปบนท้องฟ้า เป้าหมาย: ช่วยได้อย่างน้อยสี่คน “

ระบบได้ประกาศขึ้นมาในหัวของเขา  ในที่สุด ลู่หยวน ก็ได้โอกาสครั้งใหญ่  ความรู้สึกหนักใจในหัวได้แผ่ไปทั่วร่างกาย

เขาไม่ใช่แค่กังวลว่ามันเป็นภารกิจระดับ B ถ้ามันเป็นภารกิจธรรมดา ลู่หยวน คงไม่กังวล  เมื่อดูความสามารถเขาตอนนี้แล้วเขาไม่สามารถทำภารกิจระดับ B ได้สำเร็จ

ที่ทำให้เขากังวลมากกว่านั้นคือเป้าหมายของภารกิจ มันไม่ได้ง่ายเลย  อันที่จริงมันเป็นภารกิจที่ยากที่สุดและอันตรายที่สุดและมีระดับความยากที่ไม่แน่นอน บวกกับเขาสามารถปฏิเสธภารกิจธรรมดาได้  แม้ว่าเขาจะปฏิเสธภารกิจไปได้แต่พวกเขาก็หนีไม่ได้อยู่ดี

เขาเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่สัตว์กลายพันธุ์โจมตีที่ไฮเวย์  ภารกิจนั้นมีโอกาสกว่า 90% ที่จะพลาด แค่ความผิดพลาดแค่ครั้งเดียวก็ทำให้ทั้งกลุ่มโดนฆ่าตายหมดได้  เขาไม่ค้นพบการวิวัฒนาการของตัวเองโดยบังเอิญเขาคงตายไปแล้ว

สิ่งเดียวที่ดีเทียบกับตอนที่เกิดกับตอนไฮเวย์คือเลเวลของเขาตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นมาแล้วและความสามารถของเขาตอนนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ใช่แค่เขาแต่กิ้งก่าเองก็ด้วย  ความสามารถของ เล่าหวง เองก็อยู่ในระดับสีฟ้าเข้มและ เฉินเซียนฟง เองก็สามารถสู้ได้  ดังนั้นครั้งนี้มันจึงไม่เหมือนครั้งที่แล้ว

ลู่หยวน รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อคิดได้แบบนั้น

“ อย่าไปยืนตรงทางแยก ไปที่ถนนตรงหน้า “ – เขาบอกกับทุกคนพร้อมกับสังเกตรอบๆ

ทางแยกนั้นจะทำให้เจอการโจมตีได้จากทุกทาง มันทำให้พวกเขามีมุมมองที่กว้างแต่ในเวลาเดียวกันก็เสี่ยงที่จะโดนโจมตี ในตอนที่สัตว์กลายพันธุ์เข้ามาโจมตี โอกาสที่พวกเขาจะเข้าไปต่อสู้ได้จะน้อยลง การทำแบบนี้จะปลอดภัยกว่าสำหรับพวกเขา

ไม่นานทุกคนก็ออกจากทางแยกนั้น  มีตึกสูงอยู่ทั้งสองฝั่งของถนน แม้ว่าบางตึกจะถล่มแล้วแต่ชั้นล่างๆยังคงดีอยู่  ลู่หยวน ทำการระเบิดตึกให้มีรูขนาดพอๆกับคนเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน เผื่อว่าพวกเขาต้องไปเจอกับอันตรายและต้องการหาที่ที่จะซ่อน

ตึกนี้พังหลายที่และไม่สามารถทนการโจมตีได้ไม่กี่ครั้ง เมื่อมันถล่มลงมา มันคงไม่มีทางที่จะหนีได้ นอกจากว่า ลู่หยวน จะแอบอยู่ด้านในเทานั้น

พวกเขาโยนกล่องกระสุนลงไปที่พื้น  หลินเสี่ยวจี และ โฮวตง ต่างก็นอนลงใช้ไรเฟิลของตัวเองเล็งไปตามถนน  หวังซีกวง เองก็ยกปืนสั้นขึ้นมาเล็งงไว้ ความสามารถของเธอนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม เธอดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย

หยาหลี่ อยากไปซ่อนแต่เมื่อเห็นผู้หญิงคนอื่นยกปืนขึ้นมาเธอก็ลังเลและหยิบปืนขึ้นมาด้วย  มือของเธอยังคงสั่นและลืมที่จะปลดเซฟตี้ออกด้วย  ความสามารถของเธอนี่ตรงกันข้ามกับ หวังซีกวง อย่างสิ้นเชิง

ลู่หยวน ถอนหายใจออกมา เขารู้ว่า หวังซีกวง เป็นคนที่ดูอ่อนโยนแต่บุคลิกของเธอน่ะเป็นคนแข็งแกร่งและเธอซื่อสัตย์สุดๆ  เมื่อเธอตัดสินใจทำบางอย่าง แม้แต่กระทิงคงห้ามเธอไม่ได้  บุคลิกของเธอและความแข็งกระด้างทำให้คนคิดว่าเธอทำมันเพื่อคนอื่น จากมุมมองของเขานั้นเธอไม่เหมือนกับ หยาหลี่ เลยสักนิด

ลู่หยวน ไม่ได้รู้สึกอะไรมากกับ หวังซีกวง แต่เขาชอบ หยาหลี่   ผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงที่ดูน่ารักอ่อนโยน  ความอ่อนโยนของ หยาหลี่ นั้นมักจะทำให้เขาประทับใจ

ลู่หยวน คิดบางอย่างออกและได้มองไปที่ เฉินเซียนฟง ด้วยท่าทีจริงจังและพูดขึ้นมา  - “ นายไปยืนด้านนอกกันสัตว์กลายพันธุ์ไว้ “

เฉินเซียนฟง คำรามด้วยท่าทีหงุดหงิด  โฮวตง ที่ซึ่งยืนอยู่ข้างๆเขาก็กลัวและต้องถอยกลับมา  เมื่อเห็นว่า เฉินเซียนฟง แค่คำรามออกมาแต่ไม่ได้ทำการคุกคามอะไร เขาก็กลับไปประจำตำแหน่งตัวเองง

ลู่ยหวน เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาด้วยเหมือนกัน เขาหันไปหา หวังซีซี และพูดขึ้น – “ ซีซี  เธอมีความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดในนี้ ฉันอยากให้เธออยู่ด้านหลัง อย่าเพิ่งลงมือแค่ปกป้องทุกคนไว้ “

เธอมองไปในตาของ ลู่หยวน  ในที่สุด หวังซีซี ก็รู้สึกว่า พี่ลู่ นั้นกลับมาสนใจเธออีกครั้ง  เธอพยักหน้าและแสดงสีหน้าจริงจังออกมา

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากไกลๆและพื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือบเล็กน้อย  กิ้งก่าและ เล่าหวง เริ่มก้าวไปข้างหน้าหาเสียงนัน  ในตอนที่ทั้งสองตัวเข้าไปใกล้ กิ้งก่าได้คำรามเหมือนกับเตือนออกมาแต่ท่าทีของ เล่าหวง นั้นกลับกัน   มันเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

ไม่กี่วินาทีต่อมาก็ได้มีสิ่งมีชีวิตหลายตัวโผล่ออกมา

มันแปลกจริงๆ แทนที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์แต่สวนมากนั้นเป็นคนและทุกคนต่างก็โป๊กันหมด ทั้งผู้ชาย,ผู้หญิง, คนแก่และเด็ก  ยังมีเด็กสามขวบอยู่ในนั้นด้วย  สีหน้าของทุกคนเหมือนกันหมด มีรอยยิ้มอันน่าขนลุกซึ่งทำให้พวกเขากังวลแทบคลั่ง

“ เกิดอะไรขึ้น ?  ทำไมพวกนั้นถึงเป็นแบบนี้ได้ ? “ - หยาหลี่ พูดขึ้น ตัวของเธอสั่นเครือ  ปืนในมือของเธอตกลงไปที่พื้น ฉากตรงหน้าเธอนั้นเกือบทำให้เธอแทบบ้า

นี่ไม่ใช่แค่คนรึสองคนแต่เป็นสิบ บวกกับมีคนแก่และเด็กอยู่ด้วย พวกนี้ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว การเคลื่อนที่ของพวกนี้รวดเร็วและว่องไวเหมือนกับสัตว์กลายพันธุ์ พวกนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับสัตว์เลย

คนที่อยู่ด้านหน้ากลุ่มนั้นอยู่ๆก็หยุดลงและไม่ได้ขยับเลยสักนิด พวกคนที่ตามมาข้างหลังเองก็หยุดด้วย

สีหน้าของ ลู่หยวน เปลี่ยนไป  มีความคิดหนึ่งแว็บขึ้นมาในหัวของเขาและเขาก็ได้ส่งสัญญาณให้กับ โฮวตง

โฮวตง พยักหน้าอย่างกังวล เขายกไรเฟิลขึ้นเล็งไปที่หนึ่งในนั้นและลั่นไก

ไรเฟิลส่งเสียงดังออกมาและมันแรงซะจนทำให้แขนของ โฮวตง ชา  กระสุนตัดชายคนนั้นออกเป็นสองส่วนแต่ยังไม่ใช่แค่นั้น กระสุนยังคงพุ่งไปต่อทะลุอีกห้าคนที่อยู่ด้านหลัง ในที่สุดมันก็หยุดในตอนที่ไปฝังกับกำแพงของตึก

ลู่หยวน ประทับใจกับพลังของไรเฟิลแต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้น

เขาเห็นว่าหลังจากยิงไปแล้วกลุ่มนั้นดูวุ่นวายอยู่แป๊ปเดียวก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นดังเดิม  คนที่โดนยิงเองยังคงดิ้นไปมาอยู่ที่พื้นถนน  ผู้หญิงคนหนึ่งที่ซึ่งเสียร่างกายส่วนล่างไปได้ใช้แรงที่มีหันตัวกลับมามองที่พวกเขา เธอยังคงยิ้มน่าขนลุกออกมาอยู่แม้ว่าเลือดและเครื่องในจะทะลักออกมาก็ตาม

มันรู้สึกเหมือนราวถนนตรงนี้โดนปิดเสียงเอาไว้ ไม่มีเสียงร้องเพราะความเจ็บ,ไม่มีการโจมตี, ไม่แม้แต่การเคลื่อนไหว คนที่โดนกระสุนยิงพยายามที่จะยืนขึ้นมาแต่ท่าทีเหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว

มีคนแบบพวกนี้มุ่งหน้าเข้ามาสมทบ ทางแยกที่นี่โดนบล็อกเอาไว้แล้วและไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้  มนุษย์กลายพันธุ์พวกนั้นดูเหมือนจะโดนบางอย่างควบคุมอยู่

มีพวกที่กลายพันธุ์แบบแข็งแกร่งอยู่ในกลุ่มพวกนั้นด้วย นอกจากมนุษย์แล้วยังมีสิ่งมีชีวิตที่สูงกว่า 5-6 ม. สิ่งมีชีวิตที่ตัวยาวที่สุดคือ 21 ม. มันคล้ายกับงูแต่ระดับไม่น่าสูงเกินสีฟ้าเข้ม

แล้ว ลู่หยวน รู้สึกยังไง ?

เขาคิดว่ามันไม่แปลกที่เมืองนี้จะเงียบสงบ ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่นี่  ยังไงซะพวกนี้ก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแล้ว พวกนี้เป็นแค่ตุ๊กตา

“ มีพวกกลายพันธุ์อยู่ด้านหลังเราด้วย เราโดนล้อมแล้ว “ – เกาหลิง พูดขึ้นมาเสียงสูง

ลู่หยวน หันกลับมาและมองดู ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวถนนที่มีความยาวหลายร้อยเมตรก็เต็มไปด้วยพวกกลายพันธุ์

“ เราต้องไปแล้ว ยิ่งอยู่นานยิ่งอันตราย เราต้องหาทางฝ่าไปให้ได้ “ – ลู่หยวน พูดด้วยท่าทีหนักแน่น

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.