spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 154: ร้านค้า
ลู่หยวน รู้อยู่แล้วว่าเมืองเจียปิงนั้นได้จมไปแล้ว บอกได้เลยว่าไม่มีพื้นที่ที่ไม่จมในเมืองนี้เลย ตัดสินจากที่เขาเห็นด้วยสายตาตัวเอง เมืองนี้จมยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้อีก
จากตรงทางเข้าของเมือง ถนนเดิมนั้นไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ตอนนี้มีต้นมอสกลายพันธุ์ขึ้นขวางทางเต็มไปหมด
เกสรของมันนั้นมีขนาดพอๆกับลูกสตอเบอรี่ ในตอนที่พวก ลู่หยวน เดินผ่าน เกสรเหล่านั้นดูเหมือนจะกลัวและเริ่มแตกออกพร้อมกับพ่นควันสีเหลืองออกมา
โชคดีที่มันไม่มีพิษ ไม่อย่างนั้นแล้วมันคงยากที่จะเข้าไปส่วนอื่นของเมือง
สถานที่แห่งนี้เหมือนจะกลายเป็นเมืองร้าง นี่ก็แค่ครึ่งปีเท่านั้น แต่จำนวนต้นไม้ต่างก็มีเต็มไปทั่วเมืองและยังมีตึกหลายตึกที่โดนต้นไม้เหล่านี้ยึดครองไปแล้ว เถาวัลย์ที่พันไปตามตึกนั้นเหมือนกับอนาคอนดาพันไปทั่วจนไต่ไปถึงดาดฟ้าโดยไปกระจุกตัวรวมกันจนก่อลูกบอลสีม่วงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 50-60 ม. มันดูสวยแต่มันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกกลัวอยู่ดี
ในตอนที่พวก ลู่หยวน เดินหน้าไป พวกเขาก็ได้ยินเสียงน้ำดังขึ้นรอบๆ ทุกที่ที่พวกเขาผ่านมานั้นต่างก็มีสิ่งมีชีวิตแปลกๆโผล่อกมาจากต้นมอสและวิ่งหนีไป มีแมลงตัวเล็กอยู่ด้วยแต่พวกมันก็ยังคอยทิ้งระยะห่างจากพวกเขาเสมอ
ถ้าเห็นด้วยตาตัวเองจะรู้สึกได้ว่ามีอันตรายรายล้อมอยู่ ในต้นมอสนั้นมีสัตว์แอบซ่อนอยู่จำนวนมาก ลู่หยวน ลองประมาณดูว่าแต่ละตารางเมตรต้องมีสิ่งมีชีวิตไม่น้อยกว่าสิบชนิด บางตัวดูดุร้ายและมีสีสันสดใส่ ชัดจนแล้วว่ามันไม่ได้อันตรายเท่าไหร่
มีคนรอดชีวิตอยู่ไม่มาก แม้แต่คนที่วิวัฒนาการแล้วก็ยังมีปัญหาในการเอาตัวรอดที่นี่ พวกเขาคงต้องตายแม้ว่าจะเดินออกมาไม่ไกล
“ ฉันเคยมาที่นี่มาก่อน ร้านวู่เม่ยอยู่ตรงหัวมุมนั่น บางทีเราอาจจะลองไปดูก็ได้ “ – หวังซีกวง พูดขึ้น
“ นี่น่าจะเป็นถนนเทียนปิง มันมีร้านอยู่จริงๆ “ – เกาหลิง พูดขึ้น
อยู่พวกเขาทุกคนก็ได้หยุด
ไม่ว่าความมุ่งมั่นนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ ตัดสินจากแมลงที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขา พวกเขาต่างก็รู้สึกตะหงิดๆขึ้นมา พวกเขาไม่กล้าเดินหน้าไปต่อ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ไปเจออันตรายรึสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งแต่เมืองนี้นั้นก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี มันราวกับว่าเมืองนี้โดนสาป แม้แต่ ลู่หยวน เองก็ยังรู้สึกอึดอัดด้วย
เขามองไปที่กิ้งก่าและตระหนักได้ว่ามันไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลย เขาจึงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
พวกเขาไปยืนอยู่หน้าตึกสี่ชั้น ตอนนี้ตึกได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ถ้า หวงซีกวง ไม่ได้บอกพวกเขา พวกเขาคงไม่คิดว่ามันเคยเป็นร้านค้ามาก่อน
“ ไปดูรอบๆ “ - ลู่หยวน พยักหน้าให้ มีจุดประสงค์อย่างเดียวที่พวกเขามาเมืองนี้คือหาอาหารมาตุนเพิ่ม
ตั้งแต่ที่สู้กับสัตว์กลายพันธุ์ที่ไฮเวย์นั้น อาหารที่พวกเขาตุนไว้นั้นได้หมดไปแล้ว ถือว่าพวกเขาแทบจะเป็นคนเถื่อนเลยก็ว่าได้ พวกเขาไม่มีถุงนอน, แปรงสีฟัน, รึเสื้อผ้าให้เปลี่ยน เสื้อผ้าขาดๆที่พวกเขาใส่อยู่นั้นเป็นของสำคัญที่พวกเขามีอยู่ พวกเขาดูแลมันอย่างดีและใช้มันได้อย่างหลากหลาย
คืนก่อนในตอนที่ เกาหลิง มีประจำเดือน เสื้อผ้าขาดๆนี้ก็ถูกเอามาใช้งานได้
ผู้หญิงนั้นไม่ชอบที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ แม้แต่ ลู่หยวน เองก็ยังทนไม่ค่อยได้
โชคดีที่เสื้อผ้าที่พวกเขาใส่นั้นทำการสังเคราะห์แล้วทำให้พวกมันไม่ขาดรึพัง ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาคงต้องเดินล่อนจ้อนแน่ๆ
หลังจากเดินมากว่าสิบเมตร ลู่หยวน ก็มาถึงจุดที่ต้นไม้ขึ้นแน่น เขาเดาว่านี่คงเป็นประตูทางเข้าแน่ เขาดึงดาบออกมาและฟันต้นไม้พวกนั้น ที่เขาได้พบนั้นไม่ใช่ประตูแต่เป็นกำแพง
ลู่หยวน ขี้เกียจที่จะเดินไปหาประตูอีก เขาจึงทุบกำแพงให้กว้างประมาณหนึ่งเมตรแทน เขาให้คนอื่นรออยู่ด้านนอกและบอกให้พวกนั้นระวังตัวด้วย
ทันทีที่เขาเข้ามาเขาก็ได้กลิ่นราฉุนเตะจมูกจนต้องกลั้นหายใจ
ข้างในนั้นมืดสนิท ชั้นนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับยืนอยู่ในโคลนและเท้าของเขาก็ส่งเสียงแฉะทุกครั้งที่เดิน ด้วยแสงที่ส่องออกมาจากรูบนกำแพงนั้น ลู่หยวน ได้มองไปทั่วทั้งห้องหนึ่งครั้งอย่างรวดเร็ว
ไม่มีสัตว์กลายพันธุ์ มีแค่ชั้นวางที่ล้มอยู่ที่พื้น ส่วนมากนั้นว่างเปล่าแต่ก็ยังพอมีของให้พวกเขาอยู่บ้าง มันยังมีของที่ไม่จำเป็นกระจัดกระจายอยู่ที่พื้นด้วย
ลู่หยวน เห็นว่ามีกระดูกคนกว่าสิบอันวางอยู่ที่พื้น งั้นหมายความว่าที่นี่คงเกิดการต่อสู้ขึ้นมาก่อน
เขาไม่ได้รีบ เขาเดินไปเจอบันไดและเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง
ชั้นแรกนั้นเป็นชั้นอาหารแต่ชั้นสองนั้นเป็นของใช้ประจำวัน ชัดเจนแล้วว่าของใช้นั้นไม่ได้มีค่าเท่ากับอาหาร ทำให้ของที่นี่เหลือเยอะกว่าชั้นแรกแต่ถึงยังไงที่นี่ก็ยังมีโครงกระดูกคนอยู่ ที่นี่มีโครงกระดดูกทิ้งไว้เกือบหนึ่งร้อยคน
ลู่หยวน เห็นว่ามีรูกระสุนอยู่ตามกระดูกพวกนั้น เขาส่ายหน้าและอดคิดไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง
เมืองเจียงปิงเป็นเมืองธรรมดา แผนผังเมืองนั้นเทียบกับเมืองดงฮูไม่ได้ การป้องกันของรัฐบาลชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถป้องกันเมืองเล็กๆแห่งนี้ไว้ได้ บางทีในตอนที่เกิดการกลายพันธุ์ เมืองนี้ก็ได้จมไปแล้ว ที่เขาบอกแบบนั้นได้เพราะจากการดูของที่อยู่ในร้านค้าแห่งนี้
หลังจากที่เมืองเฮดงพังลง ร้านค้านั้นก็ได้เปิดขายอยู่ชั่วคราว ร้านค้าใหญ่ๆนั้นก็ต้องปิดตัวลงเพราะขาดสิ้นค้าและได้เปลี่ยนเป็นคลังซ่อมอาวุธของกองทัพแทน มันเป็นทางเดียวที่จะใช้งานมันต่อได้ในช่วงแรกๆเมื่อเกิดการกลายพันธุ์ขึ้น
ความคิดพวกนั้นได้แว็บขึ้นมาในสมองของเขา จากนั้นเขาเดินไปเจอกับรถเข็นและเริ่มเอาของใช้ประจำวันใส่ในรถเข็นนั้น เขาเอาทุกอย่างที่เขาเห็นทั้งที่ไม่มีห่อและมีห่อมาหมด
ลู่หยวน อยากได้กระทะเหล็กแต่ไม่ว่าเขาจะหายังไงก็ไม่เจออันดีๆเลย สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมแพ้ พวกเขาคงต้องใช้กระทะหินกันต่อไป
ไม่นานรถเข็นนั่นก็เต็ม ลู่หยวน ไปเจอรถอันที่สองและเริ่มเก็บของเพิ่ม
เขายัดของจนเต็มสามคันก่อนจะเดินไปที่ชั้นสาม เขาเจอเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาในชั้นนี้ พวกเสื้อผ้าฝ้าและขนแกะนั้นต่างก็ยุ่ยไปหมดแล้วแต่พวกเสื้อไนล่อนนั้นยังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ ลู่ยหวน ไม่ได้สนใจจะเลือก เขาแค่จับทุกอย่างที่เห็นลงใส่รถเข็น และในส่วนของอุปกรณ์กีฬาในที่สุดเขาก็เจอเตนท์
ลู่หยวน นอนอยู่แบบไม่มีเตนท์มานาน
การนอนกับคนอื่นนั้นมันน่าอึดอัดเกินไป ไม่ใช่แค่ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวแต่ยังไม่ปลอดภัยด้วย ในความคิดของเขาแล้วพวกแมลงตัวเล็กๆน่ะน่ากลัวว่าพวกสัตว์กลายพันธุ์ตัวใหญ่ๆอีก
อย่างน้อยพวกสัตว์กลายพันธุ์น่ะก็ตัวใหญ่และการเคลื่อนที่ของพวกมันก็พอมองเห็นได้แต่แมลงตัวเล็กๆน่ะคนละเรื่อง มันยากที่เขาจะเห็นตัวมันรึฆ่ามันได้
แม้ว่าดาบจะสามารถกันไม่ให้แมลงเข้าใกล้แต่โลกนี้มันใหญ่และลึกลับ เขาไม่มั่นใจว่าดาบนี้จะขู่แมลงทุกชนิดไปได้ นอกจากนี้เตนท์ก็ยังช่วยกันแมลงพวกนี้ไปได้หลังจากทำการสังเคราะห์มันสักหน่อย
แต่ที่นี่ก็ไม่ได้เหลือเตนท์อะไรมากมายนัก ลู่หยวน ลองออกไปหาเพิ่มและเจอแค่สองหลังเท่านั้น
สองหลังแน่นอนว่าไม่พอ โดยเฉพาะหนึ่งในเตนท์นั้นเป็นเตนท์สำหับเด็ก แม้แต่ หวังซีซี ก็เข้าไปนอนไม่ได้ มันไร้ประโยชน์ชัดๆ
ลู่หยวน เห็นว่าที่นี่ยังมีชั้นสี่ด้วยและเขาก็ได้เดินขึ้นไปดู
ประตูเหล็กที่ชั้นสี่นั้นปิดสนิท จากป้ายที่เขียนไว้มันบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ส่วนร้านค้า ล็อคของประตูนั้นพังไปแล้ว ลู่หยวน ผลักประตูเข้าไปดูแต่ดูเหมือนว่ามีบางอย่างขวางไว้จากด้านในเพราะมันไม่ขยับเลยสักนิด
ลู่หยวน ใช้ดาบตัดประตูออกและตระหนักได้ว่ามีถุงทรายกว่าสิบถุงขวางประตูเอาไว้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงไม่ขยับ
ลู่หยวน ค่อยๆโยนถุงทรายออกมาทีละถุงๆ
ค่า ความแข็งแกร่ง 13 หน่วยของเขานี่น่ากลัวจริงๆ ถุงทราย 100 กก.นี่แทบจะไม่รู้สึกเลยเมื่อเขายกขึ้นมา เขาโยนมันไปไกลกว่า 10 ม.พร้อมกับเสียงปังในตอนที่กระแทกพื้น
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงชั้นวางหล่นลงที่พื้น
ลู่หยวน หยุดโยนถึงทรายและมองไปยังทิศทางที่เกิดเสียง เขาเห็นตาสีเขียวหลายคู่มองมาที่เขาอยู่