spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 153: อยู่ต่อ
เฉินเซียนฟง เซไปมาในตอนที่เดินออกจาห้อง ตอนแรกเขายังยืนอย่างมั่นคงไม่ได้ แต่ไม่นานการเคลื่อนที่ของเขาก็ดูคงที่ขึ้น เขาเดินออกไปที่สวนและถอยหลังกับออกมาก่อนจะเริ่มวิ่งออกไป ยิ่งเขาวิ่งเร็วมากเท่าไหร่ยิ่งน่ากลัวมากเท่านั้น สุดท้ายเขาก็คำรามออกมา
เมื่อได้ยินเสียงคำรามอย่างกับสัตว์กลายพันธุ์ ทุกคนก็ได้เงียบ ความคิดของพวกเขาตอนนี้ต่างก็ปั่นป่วน
“ เขาอันตรายเกินไป..” – เกาหลิง พูดขึ้นพร้อมกับก้มหัวลง เธอไม่กล้ามองหน้าคนอื่นเลย
แม้ว่าเธอจะพูดออกมาไม่หมด แต่ความหมายนั้นก็ชัดเจน ไม่มีคนธรรมดาคนไหนอยากอยู่กับระเบิดเวลา ตัดสินจากการกระทำของเขาแล้ว อารมณ์ของเขายังไม่คงที่ ถ้า ลู่หยวน ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เขาคงควบคุมตัวเองไม่ได้
“ ใช่ สายตาของเขาเหมือนกับสัตว์กลายพันธุ์ “ - เซ่าหยาหลี่ พูดขึ้นมาอย่างกังวล
“ แต่เขายังเป็นเพื่อนของเราอยู่ “ – หวงเจียฮุย พูดขึ้นเบาๆหลังจากลังเลมาสักพัก เธอรู้ว่า เซ่าหยาหลี่ นั้นพูดถูก เฉินเซียนฟง ตอนนี้อันตรายอย่างมาก บางทีจิตใจของเขาคงได้ผลกระทบชั่วคราวแต่เธอไม่ได้คิดยอมแพ้ในตัวเขา
“ เขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ใช่ เฉินเซียนฟง ที่เรารู้จักกันอีกต่อไปแล้ว นายก็ได้ยินนิ พี่ลู่ สภาพเขาตอนนี้อาจหนักกว่านี้ก็ได้ในอนาคต ให้เขาอยู่กับเราต่อมันไม่ปลอดภัย อีกอย่างเขาอาจจะมีชีวิตที่ดีกว่าถ้าเราปล่อยเขาไป “- เกาหลิง พูดขึ้นพร้อมกับกัดปาก
ลู่หยวน อึดอัดกับตัวเลือกที่มี พลังในการเติบโตของการวิวัฒนาการนั้นน่ากลัว ในเวลาอันสั้น เฉินเซียนฟง ได้เติบโตจากคนธรรมดามาอยู่ในระดับสีฟ้าเข้ม ยีนส์ของเต่ายักษ์นั้นได้เข้าไปในตัวของเขาแต่ยังไม่ได้แสดงประสิทธิภาพของมันได้อย่างเต็มที่แต่ถึงอย่างนั้นก็เผยพลังออกมาให้เห็นแล้ว
ถ้า เฉินเซียนฟง สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาจะมีประโยชน์อย่างมากในอนาคต
เอาจริงๆ ลู่หยวน ไม่ได้มองโลกแง่ดีเท่าไหร่
แม้ว่ายีนส์ของสัตว์กลายพันธุ์นั้นจะไม่ได้ส่งผลต่อสติของคน แต่มันก็ยังทำให้คนๆหนึ่งแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างมาก ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ยิ่งมีความคิดทำลายล้างมากเท่านั้น และสติของคนก็ยิ่งเลือนลางหายไปซึ่งจะทำให้คนๆนั้นอยากทำตามที่ตัวเองต้องการ ตอนนี้ร่างกายของ เฉินเซียนฟง ได้ถูกยีนส์ของสัตว์ระดับสีเขียวยึดเอาไปแล้ว
เฉินเซียนฟง เคยทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่บ่น ไม่ว่าจะเหนื่อยรึสกปรกขนาดไหนเขาก็ไม่ได้บ่นออกมาสักคำ มันคงเย็นชาและไร้หัวใจถ้าจะยอมแพ้ในตัวเขา ลู่หยวน ยังคงเงียบอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้นมา – “ มาดูเขาสักหน่อยเถอะ ฉันจะดูเขาเอง ถ้าเขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้งั้นเราก็จะปล่อยเขาไป “
ถ้าเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ งั้น ลู่หยวน ก็คงช่วยอะไรไม่ได้
นี่มันเกิดขึ้นเร็วมาก ทำให้แผนการเดินทางพวกเขาต้องล่าช้าไปอีก
ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาสามารถทำได้ ไข่ขนาดใหญ่นั้นได้แบ่งออกมาให้สาวๆเพื่อเอาไปลมควันแล้วเก็บไว้ในกล่อง ซึ่งถูกห่อไว้อย่างดีด้วยหนังปลา นี่เป็นแหล่งอาหารที่มีค่า แม้ว่าจะมีน้อยแต่พลังงานที่มันให้นั้นทำให้คนๆหนึ่งอยู่ได้เป็นวันยกเว้นแค่ ลู่หยวน และ เฉินเซียนฟง ถ้าเก็บไข่นี้ไว้อย่างดี มันจะเก็บได้นานกว่าครึ่งปี
เมือกของไข่นั้นได้เอาไปสังเคราะห์กับเสื้อของ ลู่หยวน เพราะมีเมือกนี่เยอะทำให้ ลู่หยวน เอาไปทำเสื้อเกราะได้ห้าอัน โดยในห้าอันนั้นเป็นระดับสีเขียวสี่อันและสีฟ้าเข้มอันหนึ่ง
เสื้อเกราะใหม่นั้นโปร่งแสง ผิวของมันนั้นเด้งไปมาและเบาลงอย่างมาก เหล็กที่อยู่ชั้นในนั้นได้เอาไปผสมกับเมือกทำให้ได้ของอันใหม่ที่เบากว่าเดิม
เกราะตัวใหม่นั้นนุ่มและดูทันสมัย ไม่ได้หนักเกินไป รึไม่ได้นุ่มเกินไป มันมีความสามารถสะท้อนที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถรู้สึกได้แม้ว่าจะใช้นิ้วกดแค่เพียงเล็กน้อย
เทียบกับเกราะเกล็ดงูก่อนหน้านี้ คุณสมบัติของมันตอนนี้น่าทึ่งซึ่งเทียบกับอันเก่าไม่ได้เลย
“ เสื้อกั๊ก ดูดซับพลังงาน ”
“ วัตถุดิบ : เมือกเต่ายักษ์, เส้นใยไนล่อน, เกราะเหล็ก ”
“ความหายาก: ระดับสีเขียว ”
“น้ำหนัก: 1 กก. ”
“ พลังป้องกัน : 35-39”
“Special Effect: ดูดซับการโจมตี (กายภาพ)
“Special Effect 2: สะท้อน (เด้งกลับทันทีที่โดนโจมตี)
“หมายเหตุ: นี่เป็นเกราะกันกระสุนคุณภาพดี แม้ว่าเอฟเฟ็คของมันจะดูธรรมดาแต่พลังทุกอย่างจะโดนสะท้อนกลับไป มันสามารถต้านทานการโจมตีจากกระสุนจนไปถึงปืนใหญ่ ข้อเสียของมันอย่างเดียวคือตอนมันดูดซับการโจมตีมันจะร้อนขึ้น แน่นอนเทียบกับการป้องกันของมัน ข้อเสียนี่ไม่จำเป็นต้องไปคิดถึงเลย “
เพื่อทดสอบเอฟเฟ็คของมัน ลู่หยวน ได้เดินลงไปที่ห้องว่างแล้วให้ หวงเจียฮุย ยิงลูกกระสุนสีฟ้าเข้มใส่เขา กระสุนทุกลูกเด้งออกมา นอกจากการสั่นแค่เล็กน้อยนั้นเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
หลังจากเขาขัดคราบดำออกจากเสื้อเกราะ ผิวของมันก็ราบเรียบเหมือนใหม่ กระสุนนั้นไม่ได้ทิ้งรอยไว้เลยและอุณหภูมิของมันนั้นก็ไม่ได้สูงขึ้นมาก ชัดเจนแล้วว่าการโจมตีแบบนี้ไม่ได้ส่งผลต่อเสื้อเกราะมากนักดังนั้นจึงไม่ค่อยร้อนขึ้นเท่าไหร่
กระสวยของ หวังซีซี ก็เอาไปอัพเกรดกับเปลือกไข่ ระดับความคมของมันนั้นได้คมกว่าดาบของ ลู่หยวน ไปแล้ว เปลือกไข่ที่เหลือนั้นได้เอาไปสังเคราะห์กับกระสุนไรเฟิลและกระสุนปืนสั้น ถ้าใครโดนกระสุนพวกนี้ยิงใส่ นอกจากสัตว์ระดับสีเขียวอ่อนแล้ว พวกนั้นคงต้องโดนยิงทะลุแน่
หลังจากที่สังเคราะห์เสร็จแล้ว ความสามารถการโจมตีของทั้งทีมก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ยิ่งพวกเขากินอาหารระดับสีเขียวมากเท่าไหร่ ร่างกายของทุกคนก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
เฉินเซียนฟง ไม่ได้กลับมาในตอนเช้ารึตอนบ่าย ทุกคนต่างก็แอบโล่งใจเมื่อคิดว่าเขาจากไปแล้ว ในคืนนั้นในตอนที่ทุกคนกำลังจะเข้านอนนั้น อยู่ๆเขาก็กลับมา
ดูเหมือนว่าเขาไปสู้กับอะไรสักอย่างมา ตัวของเขานั้นโชคเลือดและได้บาดเจ็บหนัก มีรอยแผลตรงหน้าอกของเขาอยู่หลายที่ เนื้อต่างก็ถูกฉีก แผลส่วนมากนั้นอยู่ที่ต้นขาและแขน ผิวและเนื้อตรงนั้นต่างก็โดนฉีกขาดและเผยกระดูกออกมาให้เห็น
แต่หลังจากที่ลดความโกรธตัวเองลง ตาของเขาก็กลับมาดูสงบลงอีกครั้ง ตาคู่นั้นไม่ได้แสดงความโหดร้ายออกมาอีกต่อไป
เขาไม่ได้เดินเข้ามาในห้องโถงทันที่ เขาหยุดอยู่ที่ประตูก่อน ลู่หยวน เองก็ยืนอยู่ที่นั่นจ้องอีกฝ่ายโดยไม่ได้ขยับไปไหน
หลังจากนั้นสักพัก เฉินเซียนฟง ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดเมื่อโดน ลู่หยวน มองและเริ่มถอยกลับไปเล็กน้อย
“ นายต้องรู้ถึงอาการตัวเองก่อน นายอาจควบคุมตัวเองไม่อยู่ตอนไหนก็ได้ การให้เราอยู่กับนายนั้นมันอันตรายเกินไป “ – ลู่หยวน พูดขึ้นมา – “ จนกว่านายจะควบคุมตัวเองได้ นายจะต้องเว้นระยะห่างกับเราไว้ 20 ม. “
สายตาของ เฉินเซียนฟง เผยความหงุดหงิดออกมา จนตอนที่เขาใจเย็นเขาก็พูดขึ้น – “ ฉัน..ฉันจะไปนอนข้างนอก “
การเปลี่ยนแปลงอารมณ์นั้นทำให้ ลู่หยวน โล่งใจ อารมณ์ของ เฉินเซียนฟง นั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วถ้าเทียบกับตัวเขาก่อนหน้านี้ เขาโกรธง่ายกว่าเดิมและทั้งโหดร้ายและป่าเถื่อน เขาไม่ใช่คนซื่อๆที่เคยเป็น ลู่หยวน จ้องไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจังและเตือนเขา – “ ดีแล้วที่นายรู้ อย่าทำอะไรให้คนอื่นเข้าใจผิดไม่งั้นแล้วเราคงช่วยอะไรนายไม่ได้ “
“ เข้าใจแล้ว “ - เฉินเซียนฟง พูดขึ้นพร้อมกับสลด เขารู้สึกได้ว่า ลู่หยวน จ้องเขาอยู่และได้ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนสีหน้าของตัวเอง
ค่ำคืนนั้นผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เช้าวันต่อมาในตอนที่ ลู่หยวน เปิดประตู เฉินเซียฟง ที่ซึ่งนอนอยู่อีกมุมของสวนได้ยืนขึ้นแบบไม่รู้ตัว มือของเขานั้นถือกระดูกที่ยาวเกือบสองเมตร มีเนื้อสดๆติดอยู่ที่กระดูกนั้นด้วย
มันเป็นกระดูกต้นขาของสัตว์กลายพันธุ์ มันดูคล้ายค้อนยักษ์ เมื่อวานเขายังไม่ได้มีกระดูกติดตัวมาด้วย ชัดแล้วว่าเขาออกไปข้างนอกมาเมื่อคืน
เขายังคงมีคราบเลือดเปรอะที่ปาก แผลที่ตัวของเขานั้นมีมากกว่าเดิมและแผลเก่าก็หายเกือบหมดแล้ว แม้แต่แผลที่ต้นขาและแขนก็ลดขนาดลงเกือบครึ่ง เขาน่าจะหายดีในเวลาไม่กี่วัน
ความสามารถในการฟื้นตัวของเขานั้นน่าตกใจ
ในตอนที่เขาเห็น ลู่หยวน เขาก็หลบสายตา มือของเขาจับกระดูกแน่นขึ้นผิดกับความกังวลของเขา
ลู่หยวน มองไปที่อีกฝ่ายสักพักก่อนจะละสายตา
ไม่นานทุกคนก็ยืนขึ้นและเริ่มเก็บของ
พวกเขามีอาหาร,อาวุธและกระสุนเยอะ ระหว่างที่เดินทางพวกเขายังได้ไรเฟิลมาเพิ่มอีกสามกระบอก นอกจากนี้ทุกคนก็ได้พกปืนพกและกล่องกระสุนที่สังเคราะห์แล้วติดตัว ถ้า ลู่หยวน ไม่ได้ห้าม พวกเขาคงเอาปืนกลมาด้วย
ไม่ว่ามันจะทรงพลังขนาดไหนแต่การย้ายมันนั้นต้องใช้แรงเยอะ บวกกับไม่มีใครรู้วิธีใช้งานมันและจำนวนกระสุนที่ต้องใช้แต่ละครั้งก็ใช้จำนวนมาก ถ้าพวกเขาเอากระสุนมาไม่พอมันก็ไร้ประโยชน์ นอกจากนี้การสังเคราะห์กระสุนนั้นมันทำให้ทรงพลังกว่ากระสุนปืนกลอีก มันจะดีกว่าถ้าพวกเขาไม่เอามันมาด้วย
ลู่หยวน เช็คของอีกครั้งและใช้หนังปลาห่อกล่องอาหารไว้ เขาเช็คห่อนั้นอีกรอบและออกไปหาใบไม้มาห่อปิดกลิ่นของมันอีกที เขาเอาใบไม้ห่อทบไปมาจนกลิ่นข้างในไม่ส่งออกมา
กิ้งก่ายักษ์มีสัมผัสที่ดีกับอาหารระดับสูงแบบนี้ เขาการันตีไม่ได้ว่าสัญชาตญาณของมันจะถูกปลุกมารึเปล่าเมื่อได้กลิ่นอาหารนี้และอาจหักหลังพวกเขาก็ได้
ลู่หยวน มัดกระเป๋านั้นไว้ที่หลังของกิ้งก่า กิ้งก่านั้นค่อยขยับไปมา ตาของมันกลับกลายมาดูเชื่องอีกครั้ง เขาเห็นว่ามันแปลกเลยเปิดสเตตัสดูอีกรอบและพบว่าเขาดูเหมือนจะประมาทความอดทนของกิ้งก่าเกินไป หลังจากคืนนั้นความภักดีของกิ้งก่าก็ได้ฟื้นฟูกลับมา มันไม่เพิ่มจนถึง 80 หน่วยแบบที่มันเคยเป็นแต่ก็ยังเพิ่มกลับมา 78 หน่วยแล้ว
มันก็เหมือนกับเด็กที่โดนแย่งลูกอม แม้ว่าจะร้องไห้แต่สักพักพวกเขาก็ลืม ความฉลาดของกิ้งก่านั้นก็เหมือนกับเด็กหนึ่งรึสองขวบ
แต่หลังจากคิดสักพัก ลู่หยวน ก็พบว่าเขาไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ในตอนที่ทุกคนปีนกลับขึ้นมาบนหลังกิ้งก่า ลู่หยวน ก็ได้สั่งให้มันเดินหน้า ด้านหลังพวกเขานั้นมียักษ์ตัวหนึ่งเดินตามมาจากที่ไกลๆ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็มาพบกับเมืองที่ถูกซ่อนไว้ในป่า