spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 152: การวิวัฒนาการที่ล้มเหลว
“ เกิดอะไรขึ้นกับเขา ? ลู่หยวน เร็วเข้า ! มาดูนี่ ! “ - เสียงของ หวงเจียฮุย แฝงไปด้วยความกลัว เธอพูดขึ้นมาในตอนที่ ลู่หยวน กำลังตัดไข่อยู่
ใจของเขาหล่นวูบลงเล็กน้อย ลู่หยวน เก็บมีดไว้ที่หลังและรีบไปที่นั่น เขามองไปที่ตัวของ เฉินเซียนฟง และเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
อาการของ เฉินเซียนฟง นั้นดูจะผิดปกติ เขาควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ ผมของเขาก็หล่นออกมาเป็นกระจุก แม้แต่เล็บเองก็ยาวขึ้นมาอย่างรวดเร็วและทำให้เขาดูไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป ปลายเล็บของเขามีของเหมือนเหล็กงอกออกมาทำให้มันดูคมอย่างาก ที่น่ากลัวกว่านั้นคือผิวของเขาเริ่มแข็งขึ้นมาอย่างกับมีเกราะขึ้นทั่วร่างกาย
“ มันอันตราย ทุกคน ถอยออกไป ! “ – ลู่หยวน สั่งออกมาโดยไม่ลังเล
แม้ว่าเขาจะไม่บอกแต่ทุกคนก็ถอยออกไปกันก่อนแล้ว
“ เขาไม่ได้พัฒนาเหรอ ? มันเกิดขึ้นได้ยังไง ? “ - หยาหลี่ มองไปที่ เฉินเซียนฟง แล้วถามออกมา
“ ฉันไม่แน่ใจ ดูเหมือนว่าการพัฒนาจะมีโอกาสล้มเหลว เฉินเซียนฟง น่าจะล้มเหลว “ - ลู่หยวน พูดขึ้น เขาเห็นอาการผิดปกติแบบนี้จากศพพ่อของ หวังซีกวง ที่อยู่ในห้องแล็ปก่อนหน้านี้
ทุกคนต่างก็อึ้งแต่ไม่ได้แปลกใจอะไรมาก อาการของ เฉินเซียนฟง ตอนนี้ทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะโชคดีพอที่จะพัฒนาได้มั้ย
“ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าการพัฒนาล้มเหลว ? “- เกาหลิง ถามขึ้นมา
ลู่หยวน มองไปที่เธอและพูดขึ้น – “ ถ้าเป็นไปตามที่ควร มันอาจทำให้ตายได้เพราะยีนส์พัง หรือเขาอาจจะกลายเป็นสัตว์กลายพันธุ์รึสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ผลลัพธ์สุดท้ายว่าเขาจะเป็นมนุษย์ได้ต่อไปมั้ยก็ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของเขาแล้ว “
พ่อของ หวังซีกวง นั้นก็เป็นแบบนี้ ตอนแรกทุกอย่างก็ยังเป็นธรรมดา เขายังมีชีวิตอยู่กับภรรยาต่อไปได้ ไม่มีใครรู้สึกถึงเรื่องผิดปกติแต่อย่างใดแต่เมื่อเวลาผ่านไป สัญชาตญาณสัตว์ของเขาก็เริ่มแสดงออกมามากขึ้น เขาเริ่มกินคนแต่ไม่เคยทำอันตรายเมียและลูกของเขาโดยนั่นเป็นเพราะความมุ่งมั่นของเขา สัญชาตญาณสัตว์นั้นได้พ่ายแพ้ไป
แต่การพัฒนาของ เฉินเซียนฟง นั้นดูโหดร้ายกว่าถ้าเทียบกับพ่อของ หวังซีกวง การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเป็นสิ่งที่เขารึเธอไม่อาจจะพิจารณาได้
“ เราทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ? “ - หวงเจียฮุย เริ่มมีน้ำตา
คนที่เหลือต่างก็หนักใจ แม้ว่า เฉินเซียนฟง จะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดและทำอะไรไม่ค่อยได้แต่การได้ใช้เวลาด้วยกันมานานทำให้รู้สึกผูกพันธ์กับเขา
“ นี่คือการต่อสู้ระดับยีนส์ ช่วยอะไรไม่ได้ เขาต้องพึ่งตัวเอง “ - ลู่หยวน เข้าใจความรู้สึกของเธอแต่ไม่มีทางเลยที่เขาจะหยุดการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ได้
จากนั้นกระดูกของเขาก็เริ่มแตกออกอย่างกับพลุ กล้ามเนื้อของเขาได้ขยายตัวออกอย่างรวดเร็วโดยโตขึ้นมากว่า 20 ซม.โดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
สีหน้าของ ลู่หยวน เปลี่ยนไป ชายคนนี้จะตายถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ร่างกายของคนนันมีความสามารถมากแต่ไม่อาจทนการเติบโตแบบนี้ได้ ถ้ามันยังไม่หยุด ร่างกายของเขาอาจจะพังในไม่ช้า
อาหารธรรมดานั้นไม่มีความสามารถในการรักษาเขาเพราะร่างกายเขาจะเผาผลาญมันอย่างรวดเร็วกว่าที่เป็น วิธีเดียวที่จะทำให้เขามีชีวิตต่อไปได้คือกินอาหารที่มีสารอาหารสูง
ลู่หยวน ลังเลไปสักพัก ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ไข่ นี่อาจจะดูเป็นอาการที่รุนแรงและอาจทำให้เขาเสียสติในตอนที่ตื่นขึ้นมาแต่ตราบใดที่ยังพอมีหวังเขาคงไม่เป็นไร ลู่หยวน ไม่คิดที่จะยอมแพ้เด็ดขาด
เขาหยิบดาบขึ้นมาและขุดเข้าไปในไข่ขาวพร้อมกับอ้าปากของอีกฝ่ายก่อนจะป้อนมันใส่ปากของเขา จากนั้นก็ได้เอาน้ำต้นไม้ป้อนให้เขากินด้วย
ไข่นั้นมีขนาดใหญ่กว่าที่ ลู่หยวน กินก่อนหน้านี้ สารอาหารที่ได้จากไข่นั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้แต่ ลู่หยวน เองยังต้องกังวลจนเริ่มเลือดกำเดาไหลออกมา ถ้าคนธรรมดากินมันคงทำให้คนๆนั้นตายแน่นอนแต่อัตราการเติบโตของ เฉินเซียนฟง นั้นทำให้เขาต้องทำแบบนั้น
ในตอนที่ป้อนไข่ขาวใส่ปากของเขา หน้าของเขาที่ซีดได้เริ่มมีสีแดงแซมขึ้นมาแต่มันก็ได้หายไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันร่างกายของเขาก็เริ่มโตขึ้นเร็วกว่าเดิม
เสื้อของเขารัดแน่นไปกับร่างกายอย่างกับไม่ใช่เสื้อผ้าของผู้ใหญ่ มันทำรัดจนรู้สึกอึดอัดแทน ลู่หยวน เตรียมตัวที่จะตัดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกด้วยดาบของเขา – “ฉัวะ ! “ - เสื้อผ้า นั้นขาดออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่น่ากลัวออกมา
ลู่หยวน ถอนหายใจออกมา แม้ว่าระดับของเสื้อผ้านี้จะไม่ได้สูงแต่มันก็ยังคงเป็นระดับสีฟ้า แม้แต่ค่า ความแข็งแกร่ง 13 หน่วยของเขาก็ยังยากที่จะฉีกมันขาดได้ เขาต้องใช้ค่า ความแข็งแกร่ง กว่า 15 หน่วยกว่าจะฉีกมันขาด
อัตราการเติบโตของการพัฒนาเขานั้นมันน่าทึ่ง !
ผิวของ เฉินเซียนฟง นั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มันปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาเหมือนกับสวมเกราะอยู่ หน้าอกของเขาขยายขนาดขึ้น ส่วนจมูกของเขาก็พ่นไอน้ำออกมาเพราะเซลล์ในร่างกายนั้นกำลังแตกตัวและสร้างตัวขึ้นใหม่ ตัวของเขาร้อนขึ้นจนสูงถึง 70 องศา ลู่หยวน รู้สึกได้ถึงลมที่พัดมาทางของเขา แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ห่างออกไปหายเมตรก็เถอะ
หลังจากนั้นประมาณ 1 นาทีการเติบโตก็ได้หยุดลงและลมหายใจก็กระหืบกระหอดเพราะการกินพลังงาน ลู่หยวน ลังเลไปสักพักและเดินไปที่ไข่
“ ลู่หยวน ... ! “ – หวงเจียนฮุย ตะโกนออกมาและหน้าซีดลงยิ่งกว่าเดิม
ลู่หยวน หันหลังกลับมามองที่เพื่อน เขาเห็นว่าสีหน้าของทุกคนไม่สู้ดีนัก เขายังคงเงียบสักพักและค่อยๆพูดขึ้น – “ นี่เป็นครั้งสุดท้าย พวกนายถอยออกไปให้ไกลกว่านี้ “
แน่นอนเขารู้ว่ามันอันตรายอย่างมาก เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจของ เฉินเซียนเฟิง นั้นเหมือนกับสัตว์ระดับสีฟ้า ถ้าเขากินไข่เข้าไปอีกครั้ง เขาอาจขึ้นไปถึงระดับสีฟ้าเข้มเลยทันทีก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงเป็นภาระอย่างมากแม้กับ ลู่หยวน ก็เถอะ
แต่ถ้าเขาไม่ลองทำแต่กลับยอมแพ้แทน เฉินเซียนฟง จะไม่มีโอกาสตื่นขึ้นมาอีกเลย นอกจากนี้ ลู่หยวน ก็สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการพัฒนาขั้นต่อไป
ในตอนที่เขาป้อนไข่ขาวเข้าไปอีกรอบ การพัฒนาก็เร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง 2.5 ม., 2.7 ม., 3 ม. ในตอนที่ตัวโตขึ้นสามเมตรการเติบโตก็ได้หยุดลงแต่ลมหายใจเขาเริ่มคงที่และอุณหภูมิร่างกายก็ลดลงช้าๆ
ลู่หยวน รู้ว่าอีกฝ่ายยังคงหมดสติอยู่ เขาแอบเอามือกำเข้าที่ดาบของเขาเพื่อเตรียมพร้อม
ในตอนนั้นทุกคนยืนอยู่ที่ประตูและมองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากที่ไกลๆ บรรยากาศตอนนี้ตึงเครียดอย่างมาก
ไม่ถึงสิบวินาทีต่อมา ตาของ เฉินเซียนฟง ก็ได้บิดไปมาและเปิดออกมาให้เห็นดวงตาสีเขียว ตานั้นมองไปที่เพดานและได้กระพริบตาหลายครั้งเพื่อปรับโฟกัส
เขาค่อยๆนั่งขึ้นช้าๆ เขาสับสนกับหน้าตาตัวเอง หยาหลี่ เอามือปิดปากไว้ไม่ให้กรี๊ดออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่าย ด้วยความสูงกว่าสามเมตรทำให้เขาดูเหมือนกับยักษ์ แม้แต่ตอนนั่งเขาก็ยังสูงพอๆกับ ลู่หยวน ที่ยืนอยู่
ตอนนั้น เฉินเซียนฟง ก็เห็น ลู่หยวน อยู่ใกล้ๆ เขาอึ้งกับสายตาที่บ่งบอกให้เห็นถึงความสูงของเขา เขาพยายามอ้าปากพูดแต่เสียงที่พูดออกมานั้นแหบพร่า
เขามองไปที่ตัวของตัวเองก่อนจะร้องออกมาด้วยความกลัว เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและยืนขึ้นด้วยความหงุดหงิด
ชัดเจนแล้วว่าเขาปรับตัวกับร่างใหม่ของเขาไม่ได้ พลังใหม่ที่เขาได้มานั้นเขายังปรับตัวไม่ได้และล้มลงมาทันทีที่เขายืนขึ้น ตัวของเขานั้นตกลงไปที่โต๊ะใกล้ๆจนทำให้เกิดควันและฝุ่นคลุ้งไปหมด
เขาพยายามจะยืนขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ล้มลงไป
หลังจากพยายามอยู่หลายรอบ ในที่สุดเขาก็แสดงให้เห็นว่าร่างกายเขาแข็งแกร่งขนาดไหน เขาใช้แรงที่มีคำรามออกมาและต่อยกำแพงอย่างสุดแรง หินหล่นกระจายออกมาในตอนที่หมัดพุ่งลงไปที่พื้นที่ละครั้งๆ แม้ว่าที่นี่นั้นจะสร้างได้แข็งแกร่งขนาดไหนแต่มันก็ยังต้องสั่นสะเทือน
“ โฮ่งๆๆ...” –
ไม่นานพื้นตรงนั้นก็เกิดหลุมลึกกว่าครึ่งเมตรเผยให้เห็นแท่งเหล็กที่หนาเกือบสองนิ้วที่บิดไปมาเพราะแรงหมัดของเขา
ทันใดนั้นเขาก็ได้หยุดและมองมาที่ ลู่หยวน ตาของเขาดูโหดร้าย เขายืนขึ้นแบบสั่นๆและคำรามออกมาอย่างสัตว์กลายพันธุ์
“ เฉินเซียนฟง นายอยากให้ฉันปลุกนายหน่อยมั้ย ? “ – ลู่หยวน พูดขึ้นมา
เสียงที่เย็นชาแฝงไปด้วยความต้องการฆ่านั้นทำให้ เฉินเซียนฟง รู้สึกตัวและทิ้งอาการสัตว์ป่าเมื่อครู่ มันหายไปอย่างสิ้นเชิง ลู่หยวน นั้นประทับใจที่อีกฝ่ายดึงตัวเองกลับมาได้ เขาถอยกลับไปและตาของเขาก็กลับมาเป็นปกติ
“ ฉัน..ฉัน..เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ?” - เฉินเซียนฟง พูดขึ้นมาแบบอ้ำอึ้ง
ในตอนที่เขาเปิดปากพูด ลู่หยวน เห็นว่าลิ้นนั้นได้แยกออกเป็นสองแฉก ฟันนั้นโตกว่าเดิม ตอนนี้เขาคงไม่ถือว่าเป็นคนอีกแล้ว
ลู่หยวน ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งออกแต่ก็ยังคงจับดาบตัวเองไว้และตอบกับ – “ นายล้มเหลวในการพัฒนาแต่ตัวของนายได้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง นายโชคดีที่รอด และนายยังรู้ตัวดีอยู่ใช่มั้ย ? “
“ ฉัน..ไม่...ไม่รู้ “ – เขาส่ายหน้าด้วยความสับสนและพูดขึ้น
เมื่อเห็น เฉินเซียนฟง พยายามจะควบคุมสติของตัวเอง คนที่เหลือก็กล้าที่จะเข้ามาใกล้ เฉินเซียนฟง มองคนที่เข้ามาด้วยท่าทีกังวล สายตาของเขาเบลอเล็กน้อยและเขาก็ได้กำหมัดแน่นเพื่อป้องกันตัวเอง
ลู่หยวน ช็อคในตอนที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ การพัฒนาคงทำให้อารมณ์เขาได้รับผลกระทบไปด้วย
“ เฉินเซียนฟง นายยังจำเราได้มั้ย ? “ - โฮวตง ถามออกมาด้วยความกลัว
“ ฉัน...จำ..จำได้หมด “ – เฉินเซียนฟง ตอบกลับมา ตอนนี้สายตาของเขาดูโหดร้าย ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวอีกด้วย แต่ถึงยังไงเขาก็ควบคุมมันได้
“ ดีแล้วที่นายฟื้นขึ้นมา แม้ว่านายจะพัฒนาได้ได้ครึ่งหนึ่งแต่ความสามารถของนายก็แข็งแกร่งขึ้น ตราบใดที่นายรอดมาได้ก็ดีแล้ว นายต้องมีชีวิตต่อ นายต้องแข็งแกร่งขึ้น “ - เกาหลิง ให้กำลังใจอีกฝ่าย
“ ใช่ ความแข็งแกร่งของนายน่ะน่าทึ่ง ฉันคิดว่าตึกนี่กำลังถล่ม “ - หวังซีซี พูดขึ้น เธอไม่ได้กลัว อันที่จริงเธอเป็นคนเดียวที่มองเขาด้วยความสงสัย
เขาเห็นว่าท่าทีของ เฉินเซียนฟง เริ่มกลับมาเป็นปกติ ชัดแล้วว่าการเข้ามาแบบกะทันหันของทุกคน ทำให้เขากลัวจนเกือบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“ เขาอยากอยู่เงียบๆ ปล่อยเขาไว้สักพักเถอะ “ - ลู่หยวน พูดขึ้น