หน้าแรก > Epoch of Twilight
ตอนที่ 149: การวางไข่ของเต่ายักษ์

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 149: การวางไข่ของเต่ายักษ์

 

ค่ำคืนนั้นเงียบราวกับน้ำนิ่ง

ในปลายของสะพานลมทะเลได้พัดโหมกระหน่อย่างแรงซึ่งมาพร้อมกับกลิ่นอับชื้น

เสียงของน้ำดังขึ้นมาจากไกลๆ มันต้องเงียบสงบมากกว่านี้แต่ตอนนี้นั้นมันกลับมีเสียงดังอึกทึกครึกโครม มันราวกับว่ามีคลื่นยักษ์พุ่งมาทางที่พวกเขาอยู่  จากนั้นฝนจึงเริ่มตกปอยๆลงมา

ลู่หยวน เอามือแตะหน้าตัวเองและรู้ว่ามันชื้นเล็กน้อย

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เห็นเงาขนาดใหญ่ มันพุ่งข้ามทะเลเข้ามาด้วยความเร็วสูงซึ่งทำให้เกิดคลื่นสูงตามมาด้วย

ทะเลสีฟ้านั้นสามารถปกปิดร่างกายของมันได้  แขนขาทั้งสี่ของมันกวัดแกว่งไปมาในน้ำอย่างรวดเร็ว  ในตอนที่มันพุ่งเข้ามาหาพวกเขา น้ำที่พุ่งมาพร้อมกับมันก็เริ่มสูงขึ้นทำให้มันน่ากลัวไปยิ่งกว่าเดิม คลื่นซัดเข้าหาชายฝั่งอย่างรุนแรง

ในตอนที่มันเข้ามาใกล้ ในที่สุด ลู่หยวน ก็ได้เห็นมันชัดเจนสักที

มันไม่ได้เหมือนกิ้งก่ายักษ์ การกลายพันธ์ของมันนั้นไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่  ลู่หยวน จำได้ทันทีว่ามันคือตัวอะไร  ไม่ต้องเดาเลยว่ามันมันคือเต่าทะเลที่มีตัวขนาดใหญ่อยู่แล้ว มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 30-40 ม. กิ้งก่าของเขาเทียบกับมันไม่ได้เลย

มันเป็นเต่าสีเทา กระดองของมันมีหนามคมๆงอกออกมา  หนามพวกนั้นส่องประกายแม้ว่าอยู่ในที่มืด เทียบกับเต่าธรรมดาแล้ว คอของมันยาวและหนากว่ามาก หัวของมันนั้นดูเหมือนเปลี่ยนไปแล้วและฟันของมันก็ได้งอกออกมาจากปากทำให้มันดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก  เต่าตัวนี้แน่นอนว่าต้องน่ากลัวกว่าเต่าธรรมดาอย่างแน่นอน

ลู่หยวน กลั้นหายใจและหันไปมองมันอีกครั้งก่อนจะรีบหันหนี ชัดเจนแล้วว่าเขารู้สึกอึดอัด  แม้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้จะยังอยู่ห่างออกไปแต่เขารู้สึกได้ถึงความอึดอัด ในตอนที่เขาหันกลับมาดูว่ากิ้งก่าเขาอยู่ไหนนั้นก็พบว่ามันอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร

มันกำลังซ่อนตัวอยู่ เขารู้สึกได้เลยว่ากิ้งก่าของเขากำลังสั่นด้วยความกลัว

“ ฮ่งงง  ! “ – ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากไกลๆ

สะพานสั่นไหวอย่างรุนแรง เคเบิลที่หนาพอๆกับแขนของคนบิดไปมาอย่างรุนแรงทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา เคเบิลเหล่านั้นเริ่มขาดไปทีละเส้นๆ และสะพานก็ได้ถล่มลงไปทีละส่วนๆ

หัวใจของเขาแทบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม  เขาไม่ได้สนว่าสะพานมันสั่นแรงแค่ไหน เขารีบจับที่ด้านข้างสะพานและได้มองไปด้านล่าง  ตอสะพานเองก็ถล่มลงไปด้วยฝีมือของสัตว์ตัวนี้และได้เริ่มแตกเป็นชิ้นเล็กๆ

เขาอึ้ง สะพานนี้มันแข็งแกร่งและมีโครงสร้างที่แข็งแรง  เรือธรรมดานั้นไม่สามารถทำแบบนี้ได้ นอกซะจากว่าเรือขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักว่าหมื่นตันวิ่งเข้ามาชนด้วยความเร็วสูง ก็ไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำลายมันได้แบบนี้

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสีเขียวแต่ตอนนี้เขาไม่แน่ใจแล้ว

ลู่หยวน ไม่เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเลเท่าไหร่  เขาไม่รู้สถานการณ์ตอนนี้ดีเท่าไหร่ด้วย แต่เขามั่นใจได้ว่าความสามารถของสิ่งมีชีวิตในทะเลนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกที่อยู่บนพื้นดิน ถ้าต้องมาสู้กันมันแน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตในทะเลนั้นรับมือได้ยากกว่า

ในวันสุดท้ายของจีน ด้วยการจัดการป้องกันพื้นที่ต่างๆและการกั้นเขตพื้นที่ป่า สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นั้นหาได้ยากเอามากๆ   พวกมันไม่ได้เข้ามารุกรานหมู่บ้านเลยด้วยซ้ำ  ในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 หมาป่า, หมีและสิ่งมีชีวิตขนาดกลางยังคงมีอยู่ในเขตภูเขาแต่ก่อนที่จะเกิดจุดจบพวกมันก็ได้หายไป ไม่มีร่องรอยแม้แต่เงาให้เห็น แม้แต่กระต่ายเองก็ยังยากที่หาได้

มีแค่สัตว์ใช้งานและสัตว์เลี้ยงเท่านั้นที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้  สัตว์กลายพันธุ์จำนวนมากได้โดนฆ่าตายก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ  สัตว์ส่วนมากนั้นกลายพันธุ์มาจากสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ แม้แต่มนุษย์เองก็ยังต้องถอยเมื่อต้องเจอกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกแบบนี้

หลังจากที่เต่ายักษ์ได้ว่ายข้ามสะพานไป มันก็ไม่ได้หยุดและเดินหน้าต่อ

มันหายไปจากสายตาของเขาในอีกไม่นาน  ลู่หยวน ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก  ต้องขอบคุณที่มันออกไปแล้วไม่งั้นเขาคงนอนหลับไม่ได้แน่ในคืนนี้

เขาเอามือแตะหน้าผากตัวเองและรู้สึกได้ว่าหน้าผากเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ ตัวของเขาเองก็รู้สึกอ่อนแรงลงเล็กหน้อย ใบหน้าของเขาก็แสดงออกมาถึงความรู้สึกอันขมขื่น แม้ว่าจะแค่ยืนใกล้ๆไม่ได้เข้าไปสู้แต่ก็หนักหนาเอาการแล้ว เขาสงสัยว่าป้อมปราการที่อยู่ห่างออกไปนั้นจะรู้สึกยังไง มันคงไม่ต่างจากที่เขารู้สึกมากเท่าไหร่

แต่เขามีคำถามแว็บขึ้นมา สิ่งมีชีวิตในทะเลนั้นมาจากทะเล ทำไมมอนเตอร์นี่ถึงได้โผล่ออกมาที่นี่ ?

มันคือช่วงลมมรสุมและนี่คือมหาสมุทร แต่เขตส่วนมากนั้นเต็มไปด้วยโคลน  แม้แต่ทะเลใหญ่ที่สุดก็ไม่ใช่บ้านของสิ่งมีชีวิตตัวขนาดใหญ่แบบนี้

ตามทฤษฎีการวิวัฒนาการแล้ว สิ่งมีชีวิตตัวแรกที่เดินบนดินได้ซึ่งมาจากทะเลนั้นเป็นพวกอ่อนแอซึ่งโดนไล่ไปได้อย่างง่ายดายหลังจากที่สู้แพ้ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการเอาตัวรอดในทะเล  มันไม่น่าจะรู้สึกว่าโดนขับไล่จนต้องหนีมาบนดินแบบนี้

ความสงสัยนั้นเป็นผลดีกับเขาและเป็นแรงกระตุ้นให้เขาต้องออกมาดู

เขาดูมันสักพัก ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาตีหนึ่งเลย เขาลังเลไปชั่วครู่แต่ก็รู้ว่าเต่านั้นได้ว่ายน้ำออกไปไกลแล้ว มันไม่น่าจะอันตรายอีกต่อไป เขาจึงรีบวิ่งกลับไปที่ชายหาดทันที

ชายหาดตอนนี้แทบจะกลายเป็นป่าแต่เพราะที่นี่ดินมันเค็มพื้นที่ตรงนั้นจึงดูรกร้างอยู่บ้าง แมลงปอที่ดูคล้ายแมลงขนาดพอๆกับกำปั้นบินว่อนไปทั่วทั้งป่า  มีพืชที่ส่องแสงออกมาอยู่ใกล้ๆทำให้ป่านี้ดูรื่นรมย์ขึ้นมาบ้าง

ลู่หยวน วิ่งด้วยความเร็วเต็มที่เข้าไปในป่านั้น เขาวิ่งเร็วราวกับสายฟ้า ความสามารถของเขาตอนนี้เขาเองก็ยังไม่ทราบขีดจำกัดได้  ต้นไม้ทั้งด้านซ้ายและขวาต่างก็เอนไปตามแรงลมเพราะความเร็วของเขา

หลังจากวิ่งมาครึ่งชั่วโมงเขาก็ปีขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่เพื่อส่องดูรอบๆ

ท้องฟ้ายังคงเต็มไปด้วยเมฆดำยากที่จะเผยให้เห็นพระจันทร์เต็มดวง

ระยะทางจากที่เขายืนอยู่กับเต่ายักษ์นั้นแค่สามกิโลเมตร มันกำลังจะออกจากทะเลไปแล้ว ในค่ำคืนที่น่าขนลุกนั้นมันได้ปีนกลับขึ้นไปบนโคลน  ที่นั่นเงียบสงบ สิ่งมีชีวิตแถวนั้นต่างก็รีบซ่อนตัว เสียงแมลงที่ได้ยินทุกคืนนั้นเงียบสงบเพราะพวกมันต่างก็กลัวเต่านั่น

ลู่หยวน กลั้นหายใจและไม่ได้ขยับตัวเลยสักนิด

เต่ายักษ์เดินขึ้นไปบนดินเรื่อยๆและได้หยุดลง หัวของมันได้โผล่ออกมาเพื่อดูรอบๆราวกับว่ามันรู้ว่าโดนจับตาดู  ในตอนที่ตาของมันหันมาทางทิศของ ลู่หยวน มันก็ได้หยุดเคลื่อนไหวเล็กน้อย

เมื่อโดนตาแบบนั้นจ้องมองมา ลู่หยวน รู้สึกเหมือนหัวเขาจะระเบิด หัวใจของเขาหยุดเต้นและเขาเกือบที่จะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีออกมา

โชคดีที่มันมองไปทางอื่นต่ออย่างรวดเร็ว

ในตอนนั้นเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนแล้วว่าเขาโดนเต่านั่นเห็น วิธีซ๋อนตัวของเขาไร้ประโยขน์สำหรับสิ่งมีชีวิตตัวนี้แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้สนใจการมีอยู่ของเขา บางทีเขาก็แค่ตัวตนเล็กๆในสายตาของมัน

ในตอนที่เขาไม่รู้ว่าควรจะอยู่ต่อรึกลับไปดี เต่านั่นก็เริ่มใช้ขาทั้งสี่ของมันขุดดิน ไม่นานพื้นตรงนั้นก็กลายเป็นหลุมกว้างกว่า 40-50 ม. ส่วนความลึกนั้นไม่อาจทราบได้  ไม่นานมันก็หยุดขุด

มันนอนลงในหลุมโดยไม่ได้ขยับ หางของมันปักแน่นลงที่ปากหลุม

นี่มัน..

ใจของ ลู่หยวน เต้นรัว เหตุการณ์นี้เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้ เต่ายักษ์นั้นกำลังอ่อนแรง เสียงของมันนั้นแฝงไปด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นสักพัก มันก็ค่อยๆยืนขึ้นและเริ่มฝังหลุม ด้วยความรุ่ยของโคลนและทรายทำให้มันกลับมากลบหลุมได้อย่างดี

หลังจากที่ทำเสร็จมันยังไม่ได้ออกไปทันที มันยังคงมองไปรอบๆ ครั้งนี้มันระวังมากกว่าเดิม มันใช้เวลาไม่นานในการมองไปรอบๆ ในตอนที่ ลู่หยวน จับตาดูอย่างกังวล มันก็ค่อยๆกลับไปที่ทะเล ดูเหมือนมันจะอ่อนแรงอย่างมากในตอนนั้น

ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสีเขียวอ่อนธรรมดานั้นนี่คงเป็นโอกาสที่เพอร์เฟ็คแต่ต้องเจอกับสัตว์ทะเลที่เขาไม่รู้ระดับ เขาคงคิดจะทำแบบนั้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

มันเดินลงไปที่ทะเล ด้วยแสงของดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมา มันได้กลับไปยังทิศทางที่มันจากมาและได้หายไปอย่างรวดเร็ว

ลู่หยวน ยังคงแอบอยู่บนต้นไม้ไม่ได้ขยับไปไหน หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงชายฝั่งก็เงียบสงบ เขากระโดดลงมาจากต้นไม้และรีบวิ่งไปที่ชายฝั่ง

สักพักเขาก็เดินไปที่หลุมนั่น แม้ว่าเต่ายักษ์จะจากไปแล้วแต่ลมหายใจของมันยังคงอยู่ที่นี่ แต่ลมหายใจที่อ่อนแรงนี้ไม่ได้ส่งผลต่อ ลู่หยวน ที่ซึ่งมีความมุ่งมั่น 15 หน่วย

หลุมนั้นใหญ่พอๆกับสนามบาสซึ่งความลึกยังไม่อาจทราบได้  ลู่หยวน เริ่มรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาเมื่อยืนอยู่ตรงนั้น  อยู่ๆเขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมา  มันมาที่นี่เพื่อที่จะวางไข่ !

แต่น่าเสียดายที่วางไข่แค่เพียงใบเดียว  สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งนั้นจะผลิตลูกได้น้อยลง ในอีกด้านสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอนั้นจะมีการผลิตที่ไม่ได้ซับซ้อน ถ้าการผลิตของมันเป็นเหมือนก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติโดยวางไข่เป็นร้อยๆฟองต่อครั้ง มันคงยึดทะเลไปเรียบร้อยแล้ว

โชคร้ายที่เขาไม่มีเครื่องมือมาด้วย ดาบนั้นไว้ใช้สำหรับฆ่าได้แต่ไม่ใช่สำหรับการขุดดิน

ที่นี่มีแค่ดินที่ลุ่ยเท่านั้น อีกอย่างเมื่อเต่าขึ้นฝั่งเมื่อมาวางไข่ สิ่งมีชีวิตต่างๆได้หนีไปเมื่อรู้สึกตัวตนของมัน  พวกที่หนีไปไม่ทันมักจะเคลื่อนไหวไม่ได้เนื่องจากลมหายใจของเต่ายักษ์ยังคงอยู่ที่นี่  หลังจากนั้นสักพักเขาก็ตระหนักได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เป็นภัยอยู่รอบตัวเขา

แต่ไข่นั้นถูกฝังอยู่ลึกเกินไป ประมาณ 20 ม.  เขากลัวว่าถ้าเขาลองขุดมันขึ้นมาในคืนนี้เขาคงไม่ได้นอน

แต่ชัดเจนแล้วว่าเขามั่นใจในความสามารถการขุดของตัวเองเกินไป

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะขุดหลุมลึก 20 ม.โดยเฉพะดินที่เป็นโคลนแบบนี้  มันจะถล่มลงมาและถมกลับคืนอีก  ไข่นั้นสู.กว่า 2 ม. เปลือกของมันหนาแต่ก็พอมองผ่านได้ ความยาวของมันประมาณ 5 ม. ถ้าขุดเล็กเกินไป ไม่ใช่แค่มันจะถล่มแต่ก็ยังไม่สามารถเอาไข่ออกมาได้ด้วย

เขาจะทำมันไม่สำเร็จถ้าไม่มีแผน  เขาต้องขุดให้มีขนาดใหญ่เหมือนที่เต่าทำตะกี้ ไม่ต้องเดาเลยว่ามันต้องได้ผล

ลู่หยวน ขุดอยู่ได้ครึ่งชั่วโมงและรู้สึกเคืองขึ้นมา เมื่อมองไปที่หลุมที่กว้างหนึ่งเมตรและลึกครึ่งเมตร เขาก็ได้แค่ยิ้มแบบขมขื่นออกมา  เขาอาจจะต้องขุดมันสามวันสามคืนเพื่อให้ได้ไข่มาแต่ถ้าฝนตกลงมากอีกเขาคงต้องเริ่มใหม่อีกรอบ

ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไป

เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ! ทำไมเขาต้องขุดด้วยตัวเองด้วย ? ไม่ใช่ว่าเขามีกิ้งก่ายักษ์อยู่เหรอ ? แม้ว่ามันจะเทียบกับเต่านั่นไม่ได้แต่มันคงใช้เวลาไม่นานแน่

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.