spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 147: ความเสียหายทาง DNA
ฐานป้องกันนี้เหมือนกับที่พวกเขาเห็นในอีกฝั่งเป๊ะ
แต่ ลู่หยวน ได้ให้สัญญาณให้ทุกคนหยุดเมื่อเข้าไป อันที่จริงพวกเขาไม่กล้าเข้าไปถ้าไม่มีคำสั่งของ ลู่หยวน
มีใยแมงมุมขึ้นอยู่ทุกที่โดยเฉพาะตามมุม มีแม้แต่ไข่แมงมุมวางอยู่ด้วย บางพวกรูปร่างเหมือนมนุษย์เลยก็มี
ลู่หยวน ลองก้าวไปเหยียบที่ใยแมงมุมที่พื้นดูและรู้สึกได้ว่ามันเหนียวเอามากๆ คนทั่วไปคงหนีออกมาไม่ได้แม้ว่าแค่ขาของเขาจะติด เขาจะรู้ว่าตัวเองคงหนีออกมาไม่ได้ ถ้าตัวของเขาเกิดเข้าไปติดกับใยแมงมุมนั้น
การเข้าไปแบบเร่งรีบอาจทำให้เขาต้องตาย ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังไว้ก่อน เขาเรียกกิ้งก่ายักษ์ให้เข้ามา
กิ้งก่านั้นฉลาดขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่มันกลายพันธุ์แล้ว ทักษะหนึ่งที่มันมีคือการสังเกตซึ่งแสดงให้เห็นถึงความฉลาดที่มากกว่าเดิม ด้วยการฝึกฝนที่ได้มาทำให้ตอนนี้มันสามารถเข้าใจคำสั่งง่ายๆได้บ้าง
อย่าง ‘ พ่นไฟ ‘
กิ้งก่าส่ายหน้าเล็กน้อยและอ้าปากของมันพ่นไฟออกมาใส่พื้น
“ ตูม ! “
เสียงเหมือนกับป้อมปราการนี้โดนระเบิด มันสั่นไหวเล็กน้อย ไฟนั้นพุ่งไปไกลกว่า 2 ม.
กิ้งก่านั้นไม่ใช่สัตว์ธาตุไฟอย่าง เล่าหวง เปรียบเทียบกันแล้วมันไม่สามารถพ่นไฟได้ดีเท่า มันสามารถพ่นแก๊สที่ทำให้เกิดไฟออกมาได้ ดังนั้นเมื่อแก๊สจำนวนมากถูกปล่อออกมาในพื้นที่ปิด ผลของมันจึงมากกว่าที่ ลู่หยวน ได้คาดเอาไว้
ไฟนั้นได้ทำให้เกิดการระบิดขั้นที่ชั้นบน โชคดีที่ลูกระเบิดไม่ได้มากเท่าไหร่มันจึงไม่ได้ร้ายแรงนัก ถ้ามิสไซน์อยู่ที่นี่ด้วยงั้นที่นี่คงเละเป็นฝุ่น
“ ว๊า ! “ – เสียงน่าขนลุกดังนับไม่ถ้วนของลูกแมงมุมดังขึ้นมาพร้อมกับมีแมงมุมกลายพันธุ์ที่ตัวเต็มไปด้วยไฟวิ่งหนีผ่านประตูออกมา พบเจอกับความตายในตอนที่กิ้งก่ากระทืบมัน ตัวที่หนีมาได้ก็โดน ลู่หยวน ตัดเป็นสองท่อน
นาทีต่อมาเสียงก็ได้หยุดลง หลุมประมาณสองเมตรโผล่ขึ้นมาที่พื้นพร้อมกับควันลอยขึ้นมา
ใยก่อนหน้านี้โดนเผาไปหมดแล้ว มีสัตว์กลายพันธุ์และโครงกระดูกคนกระจายไปทั่ว
สถานที่นี้ถูกเผาจนดำ มีโต๊ะและประตูที่ยังคงไหม้อยู่ กลิ่นเหม็นไหม้ลอยมาจากข้างในและมีแมงมุมเกือบสิบตัวที่หนีออกไปไม่ได้ ร่างกายของมันเกือบโดนเผาแต่ด้วยความอึดของมันทำให้พวกมันยังคงดิ้นรนอยู่ได้
ลู่หยวน ต้องการฆ่ามันทั้งหมดแต่ก็เปลี่ยนความคิด
เกาหลิง นั้นอยู่ในช่วงวิกฤตอยู่ แมงมุมพวกนี้คือแหล่งพลังงานชีวิตชั้นดีที่จะช่วยเขาได้
ไม่ใช่แค่ชั้นแรกแต่ทั้งฐานทัพโดนเผาหมด ลู่หยวน ไปเช็คทั้งตึกและได้ให้กิ้งก่าออกไปดูด้านนอกคอยเผาทุกอย่าง แต่อย่างน้อยของที่อยู่ใต้ดินก็ยังปลอดภัยเพราะมันมีประตูเหล็ก
ลู่หยวน สับประตูให้เปิดอกและพบกับคลังแสง
กล่องปืนลูกปืนถูกวางเรียงราย แม้ว่าจะยืนอยู่ด้านนอก ลู่หยวน ก็เห็นกล่องนี่เป็นร้อยกล่อง เขาประมาณว่ามันน่าจะมี 300 กล่องถ้านับข้างในด้วย มีกระสุนไรเฟิลประมาณสิบกล่องได้ มีกล่องระเบิดอีกหลายสิบกล่องและกล่องมิซไซน์อีกร้อยกล่อง ในอีกด้านของคลังแสงมีปืนใหญ่ 7 กระบอก, ไรเฟิลหนัก 5 กระบอกและไรเฟิลชนิดอื่นๆอีกหลายสิบกระบอก จำนวนของอาวุธนั้นพอที่จะทำสงครามขนาดเล็กได้เลย
คนอื่นๆได้มาถึงและได้แบก เกาหลิง และ หวังซีซี มาด้วย พวกเขาก็ต้องอึ้งกับสิ่งที่เห็น
คนธรรมดาคงไม่มีโอกาสที่จะชื่นชมอาวุธแบบนี้ที่ถูกเก็บไว้ในคลังแสงอย่างดี แม้ว่าพวกเขาจะเคยอยู่ในคลังแสงอื่นๆแต่อาวุธถูกเอาไปหมดแล้ว แต่ไม่เหมือนกับที่นี่ที่ทุกอย่างยังคงอยู่
“ สุดยอด คนแคมป์นั่นเอาของไปเท่าไหร่กันแน่ ? “ – หลินเสี่ยวจี บ่นออกมา
โฮวตง อดตื่นเต้นไม่ไหว เขาเดินเข้าไปที่ลังพวกนั้นแล้วหยิบไรเฟิลหนักขึ้นมาแล้วลองเล่นกับปืนอื่นๆพร้อมกับพูดด้วยความตื่นเต้น – “ ไม่มาก ฉันเดานะ ที่นี่ดูเหมือนจะเพิ่งเติมของใหม่ ไม่อย่างนั้นแล้วคลังแสงคงไม่เต็มแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าทำไมทุกคนต้องถอย “
คนที่เหลือนั้นต่างก็ไปหยิบอาวุธมาเล่นเมื่อเห็น โฮวตง เข้าไปจับมันดูแล้ว สีหน้าของพวกเขาต่างก็แสดงความรู้สึกกลัว อาวุธนั้นคือสิ่งจำเป็นของคนยุคนนี้ ความสามารถในการจบชีวิตของใครก็ได้ด้วยปืนนั้นน่าสนใจอย่างมาก
“ ลู่หยวน มันจะสายเกินไปถ้าเรายังรอไปอีก “ – หวงเจียฮุย เตือนพร้อมกับมองไปที่ เกาหลิง ที่ซึ่งหน้าซีดกว่าเดิม
เธอเหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ถ้าช้ากว่านี้อาจไม่มีอะไรช่วยเธอได้
“ หยุดเล่นก่อน เราค่อยมาดูกันทีหลัง “ - ลู่หยวน รีบพูดขึ้น – “ ทุกคนออกมาก่อน เลือกห้องและทำความสะอาด ฉันจะไปดูแล เกาหลิง “
ระเบิดนั้นมีอยู่ทุกที่ แค่ประกายไฟนิดเดียวก็อาจทำให้เกิดระเบิดได้ มันอันตรายเกินไปที่จะมาเล่นอยู่แถวนี้
ลู่หยวน แบก เกาหลิง จากชั้นใต้ดินไปที่ห้องชั้นสอง เขาวางเธอลง เขาหักขาแมงมุมตัวใหญ่ที่สุดจากชั้นแรกแล้วแบกขึ้นมาบนห้อง
ทุกคนต่างก็ถอยหลังเพราะแมงมุมนี่มันน่ากลัว หลังของมันมีหน้าของมนุษย์โผล่ออกมาราวกับถูกสลักเอาไว้ หน้าของมันก็ดูน่ากลัว เขี้ยวนั้นได้โผล่ออกมาอย่างชัดเจน หน้าของมนุษย์นั้นตาปิดสนิทดูเหมือนจะตายไปแล้ว
พวกเขาคิดว่ามันเป็นการอำพรางตัวและมันเป็นสิ่งที่ไม่ได้หายากตามธรรมชาติแต่เมื่อ ลู่หยวน เอาดาบแทงลงไปในตัวของมัน หน้านั้นก็อ้าปากออกมาเผยฟันให้เห็นและยังกรีดร้องเหมือนเด็กจนดังก้องห้อง
ตาเริ่มมีเลือดไหลออกมาตามมาด้วยเสียงร้อง เสียงร้องนั้นเต็มไปด้วยความแค้นและความเจ็บปวด ทุกคนต่างก็อึ้งและรู้สึกว่าที่นี่มันยังกับนรก
ลู่หยวน คำรามออกมาเบาๆ เสียงของเขาดูเหมือนมีพลังความมุ่งมั่นอยู่ด้วย ทั้งกลุ่มกลับมารู้ตัวอีกครั้งและตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ลู่หยวน ได้เห็นเหตุการณ์นี้มาแล้ว แมงมุมนี่ตัวใหญ่ที่สุด ตัวของมันมีขนาดประมาณ 1 ม. มันคือสัตว์ระดับสีฟ้า
พลังของมันก็พิเศษทำให้เกิดภาพหลอน แย่หน่อยที่มันต้องมาเจอกับกิ้งก่ายักษ์และตายไปโดยไม่ได้สู้เพราะไฟของกิ้งก่า
ไม่มีภารกิจที่เกี่ยวกับสัตว์ระดับสีฟ้าให้ทำอีกแล้ว ด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วของเขา การเพิ่มเลเวลในอนาคตคงเป็นเรื่องยากกว่าเดิม
เมื่อรู้สึกได้ว่าดาบนั้นเริ่มร้อนขึ้นมาก็ได้มีพลังงานที่แข็งแก่งกว่าสัตว์ระดับสีฟ้าอ่อนไหลออกมา ลู่หยวน เองก็รู้สึกผลของมันด้วย ความเหนื่อยล้าที่มีก่อนหน้านี้ได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง
เขาไม่กล้าจะเสียเวลาและรีบส่งด้ามจับเข้าไปในมือของ เกาหลิง
ตอนแรกร่างกายของเธอตอบโต้ได้ไม่ทันแต่ไม่กี่นาทีต่อมาสีหน้าที่ซีดขาวของเธอก็กลับมาเป็นสีชมพูอีกครั้ง
ร่างกายของเธอนั้นดูมีน้ำมีนวลขึ้น ลมหายใจเริ่มเร็วขึ้นและผมเปียกๆของเธอก็เริ่มมีไอร้อนขึ้นมา
พลังงานจากสัตว์ระดับสีฟ้านั้นทรงพลังเกินไปสำหรับคนธรรมดา แม้ว่าแมงมุมนั้นจะเกือบตายแต่มันก็ยังคงมากเกินไปสำหรับ เกาหลิง
หวงเจียฮุย แตะที่ผมของ เกาหลิง และต้องรีบดึงมืออก หน้าผากของเกาหลิงนั้นร้อนถึง 40-50 องศา เธอถามอย่างกังวล – “ เธอจะโอเคมั้ย ? “
ลู่หยวน ส่ายหน้า เขาไม่รู้ว่าจะมีปัญหามั้ยถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โดยทฤษฎีแล้วเธอกำลังดูดซับพลังงานชีวิต ดังนั้นเธอควรไม่เป็นไร เพื่อให้ปลอดภัยเขาจึงหยุดไม่ให้เธอดูดซับพลังงานต่อ
ตัวของ เกาหลิง เริ่มเย็นลงกับเป็นปกติ การหายใจเองก็คงที่หลังจากที่ตัดพลังงานออกไป นอกจากนี้ดูเหมือนว่าเธอจะดูดีขึ้นกว่าเดิมอีก
เมื่อมองไปที่แมงมุมตอนนี้มันได้ตายเรียบร้อยแล้ว ที่ทำให้เขารู้คือรอยแผลที่ดาบที่เขาทำ
มีน้ำเหลืองจำนวนมากไหลออกมาจากบาดแผล เปลือกเองก็เริ่มที่จะหม่นลงจนไม่มีสดใสเหมือนแต่ก่อน
ลู่หยวน สงสัย เขาลองเคาะเปลือกดูและเคาะอย่างแรงจนมันเกิดรูขึ้นมา
เขาเคาะต่อไปจนเกิดรูกว้างขึ้นเผยให้เห็นเนื้อที่อยู่ข้างใน เขาลองเอาไม้เขี่ยข้างในดูและพบว่าเนื้อทั้งหมดนั้นเละผสมกับเลือดหมดแล้ว
เขาคิดเรื่อง ‘ ความเสียหายทาง DNA ‘ ขึ้นมาทันที
นี่เป็นครั้งแรกของ ลู่หยวน ต้นไม้ใหญ่ก่อนนหน้านี้สามารถเติมพลังตัวเองโดยราก ดังนั้นชีวิตของมันจึงไม่ได้ตายไปอย่างสิ้นเชิง มีแค่ใบของมันเท่านั้นที่ร่วงตอนพวกเขาจากมาและมันไม่ได้มีวี่แววว่าจะเสียหายทาง DNA เลย