spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 146: การใช้อันชาญฉลาด
หวังซีซี บินสูงขึ้นเรื่อยๆในที่สุดเธอก็ได้หยุดในตอนที่สูงจากทะเลไป 5-6 ม.
มีลมบินวนอยู่รอบตัวเธอและผิวทะเลก็สั่นอย่างรุนแรงจนทำให้สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์นั้นต้องหนีไป
ทุกคนต่างก็ช็อค แม้แต่ ลู่หยวน เองก็ลืมว่าตัวเองว่ายน้ำอยู่
แม้ว่า ลู่หยวน จะคาดการณ์ไว้นานแล้วว่าต้องมีคนที่บินได้แบบนี้ในตอนที่มีพลังจิตพอที่จะแบกรับน้ำหนักตัวได้แต่เขาก็ยังคงอึ้งและอิจฉาในตอนที่เห็นมันเกิดขึ้นต่อหน้าตัวเอง
ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือความเร็วในการพัฒนาของเธอ หวังซีซี นั้นน้ำหนักราว 40-45 กก. ไม่กี่เดือนก่อนเธอแทบยกของหนัก 10 กก.ไม่ไหวแต่ตอนนี้เธอสามารถแบกตัวเองขึ้นมาได้แล้ว
ความเร็วในการพัฒนาความสามารถของเธอนั้นเร็วยิ่งกว่าเขาอีก
แน่นอนความแข็งแกร่งจะถูกปลดปล่อยออกมาในสภาพสิ้นหวังแต่ด้วยการฝึกเธอจะสามารถทำมันได้อีกง่ายๆ
ตอนนี้ หวังซีซี สั่นด้วยความกลัว เธอลอยอยู่บนฟ้า เธอเริ่มเสียสมาธิและเริ่มตกลงมา
ตาของเธอปิดสนิท หน้าเริ่มซีดขาวและหมดสติไปแล้ว
ลู่หยวน เห็นแบบนั้นจึงรีบพุ่งไปหาเธอราวกับลูกธนูเพื่อช่วยเธอ
เขาไม่กล้าที่จะอยู่ในน้ำนานและว่ายกลับไปหากิ้งก่าทันทีที่ได้ตัว หวังซีซี
หวงเจียฮุย นั้นรออยู่นานด้วยความกังวล เธอรีบดึง ลู่หยวน ขึ้นมาในตอนที่เขาเข้ามาใกล้
“ เธอเป็นไงบ้าง ? “ – ลู่หยวน วางเธอลงและถามอาการ เกาหลิง ที่ไม่ได้สติ
เกาหลิง นอนไม่เคลื่อนไหวเลยสักนิด ทุกคนจึงต้องเว้นระยะห่างกับเธอไว้เพราะกลัวบางอย่าง
“ เธอลืมตาขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วบอกว่าเธอเจ็บท้อง “ – หวงเจียฮึย พูดขึ้นอย่างกังวล – “..แล้วก็หมดสติไปอีกรอบแล้วหน้าซีด “
“ ไปต่อ ให้ฉันดูเอง “ – เขารีบขยับเข้าไปใกล้เธอ
หน้าของเขาหม่นลง ตอนนี้ไม่มีแหล่งน้ำสะอาดเหลืออยู่แล้วตั้งแต่ที่เกิดภัยพิบัติมา แม้แต่น้ำพุใสๆก็มีหนอนไม่ก็ไข่ของมัน การดื่มมันไปโดยตรงนั้นไม่ได้ดีกว่าการฆ่าตัวตายเลย
เขารีบดึงเสื้อของ เกาหลิง ขึ้นและพบกับบางอย่างที่กำลังดิ้นไปมาใต้ผิวของเธอ
ลู่หยวน ลองไปจับดูแต่เหมือนกับมีแรงลึกลับดันสัมผัสของเขากลับมา
หน้าของ เกาหลิง ซีดลงกว่าเดิมและตัวของเธอก็กระตุก เขาไม่กล้าที่จะลังเลอีกต่อไป เขากดไปที่ท้องของเธอเพื่อไล่น้ำออกแต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดยังไม่มาถึง
ในตอนที่เขาออกแรง ตัวของเธอก็ขดด้วยความเจ็บ เธอกระอักเลือดออกมาและหน้าของเธอก็เริ่มแดง
มีหนอนนับไม่ถ้วนดิ้นไปมาในกองเลือดที่เธอเพิ่งพ้นออกมาซึ่งนั่นทำให้ทุกคนรู้สึกขยะแขยง
ลู่หยวน มองไปที่เลือดพวกนั้นและรู้ว่าเธอคงผ่านพ้นมันมาไม่ได้แน่
เขาใช้ดาบของเขาแต่ค่อยๆคลายมือที่จับไว้ ถ้าเขากรีดท้องของเธอมันจำทำให้เธอแย่ลงกว่าเดิม
เหงื่อเริ่มผุดออกมาเต็มหน้าผากของเขา
“ เราจะรักษามันยังไง ? “ - หวงเจียฮุย ถามด้วยความกังวล – “ ไม่ก็ใช้ดาบนายดูดซับชีวิต – “
ลู่หยวน ส่ายหน้า – “ นั่นอาจทำให้เธอมีชีวิตได้นานขึ้นแต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม มันจะมีแต่ทำให้เธอเจ็บไปอีก ให้ฉันคิดก่อน เธอไปดู หวังซีซี เผื่อว่าจะกินน้ำเข้าไป “
หวงเจียฮุย พยักหน้าและหันไปดูอาการ หวังซีซี ซึ่งทำให้เธอเศร้าใจ
หวังซีกวง นั้นดูแล หวังซีซี อยู่แล้วและเธอได้ฝืนยิ้มออกมา – “ ฉันเช็คแล้ว โชคดีที่เธอไม่เป็นไร ปากของเธอไม่ได้เปียกเพราะน้ำทะเล เธออาจจะหมดสติแต่ไม่ใช่เพราะพวกนั้นแน่ๆ “
หวงเจียฮุย นั้นโล่งใจเล็กน้อยในตอนที่เห็น เฉินเซียนฟง ไม่เป็นไรด้วย อย่างน้อยสองคนก็ไม่เป็นไร
ลู่หยวน มองดู เกาหลิง ที่ซึ่งดิ้นไปมาพร้อมกับตบหลังกิ้งก่าด้วยความหงุดหงิด
กิ้งก่าคำรามออกมาด้วยความรู้สึกผิด ร่างกายของมันสั่นไหวอยู่ชั่วครู่ด้วย
ในตอนที่เขายกมือขึ้นมา อยู่ๆก็นึกบางอย่างได้
ความมุ่งมุ่น
ถ้ามีอะไรที่มีพลังในการฆ่าหนอนพวกนี้โดยไม่ทำร้ายคน มันต้องเป็นความมุ่งมุ่นเท่านั้น เวทย์เกี่ยวกับความมุ่งมุ่นนั้นจะทำงานตามความคิดของคน ในตอนที่โจมตีศัตรู ความมุ่งมุ่นจะเพิ่มพลังโจมตีแต่ตอนที่โดนโจมตีความมุ่งมั่นก็จะเพิ่มพลังป้องกันให้
มันอาจเป็นแสงและอาจเป็นความร้อน ความมุ่งมั่นมีอยู่ในรูปแบบไหนก็ได้ นี่คือพลังเวทย์มนต์ของมนุษย์
เขาไม่รู้ว่ามันจะได้ผลรึเปล่าแต่มันมีวิธีเดียวที่จะรู้ได้
เขากระพริบตาและพบกับแสงที่สว่างอยู่ในมือของเขา เขากดมือลงที่ท้องของ เกาหลิง ช้าๆ
ในตอนที่แตะโดนก็ได้มีคลื่นที่มองไม่เห็นพุ่งเข้าไปในร่างกายของเธอและทำให้มันหยุดนิ่ง พวกคนที่ดูอยู่ต่างก็เคร่งเครียด
ลู่หยวน ใช้ความมุ่งมั่นของตัวเองออกมาและแตะไปที่ท้องของเธอ นี่มันก็ผ่านไปสักพักแล้วตั้งแต่ที่หนอนข้างในนั้นดิ้นไปมา หนอนที่อยู่ในกองเลือดของเธอตอนนี้ก็ได้ตายไปหมดแล้ว
เขาเช็คร่างกายเธออีกครั้ง จังหวะการเต้นหัวใจของเธอยังไม่เป็นปกติ การหายใจติดขัดและเธอยังคงกระอักเลือดออกมาอยู่ มันต้องมีบาดแผลภายในหลายที่แน่ๆ
เธออยู่ในสภาวะวิกฤต หนอนนี่ต้องทำให้อวัยวะภายในบาดเจ็บแน่
โฮวตง ส่ายหน้า เขาไม่รู้ว่าแสงอะไรที่ ลู่หยวน ใช้ออกมา เขาเข้าใจว่าเธอบาดเจ็บร้ายแรงถ้ามันเป็นตอนที่ก่อนเกิดภัยพิบัติ
“ ลู่หยวน.. “ – หวยเจียฮูย ได้แต่ปลอบเขา
ลู่หยวน เหมือนจะไม่ได้ยินที่เธอพูด มือของเขาเปล่งแสงออกมาอีกครั้งในตอนที่เขายกมือขึ้น ครั้งนี้แสงดูต่างจากเดิมเล็กน้อย มันเข้มราวกับเมฆและเปลี่ยนเป็นรูปร่างอื่นในมือของเขา
เขากดมือลงไปที่ท้องของเธออีกครั้ง
ลู่หยวน ตระหนักได้ว่าความรู้สึกครั้งนี้มันต่างไปจากเดิม ก่อนหน้านี้มันคือการโจมตีและการทำลาย ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกถึงชีวิตแต่ครั้งนี้เขารู้สึกได้ถึงแรงต้านทาน
การป้องกันของร่างกายมนุษย์นั้นเหมือนกับลูกโป่ง มันจะแตกได้อย่างง่ายดายถ้าเอาเข็มมาจิ้มแต่กับน้ำนั้นยากที่จะซึมผ่านเข้าไป
แต่ความมุ่งมั่นของ ลู่หยวน นั้นแข็งแกร่งกว่าของ เกาหลิง ดังนั้นร่างกายของเธอจึงต่อต้านไม่ได้
ความมุ่งมั่นหนึ่งในสี่ส่วนได้ใช้ไปอย่างรวดเร็วแค่หนึ่งวินาที ในตอนที่เขาต่อสู้กว่าเขาจะใช้ได้จำนวนเท่านี้ก็ 7-8 วินาที แน่นอนว่าเวลาน่ะคำนวณทั้งการโจมตีและป้องกัน ถ้าเขาจำเป็นต้องรักษาสมาธิในการใช้ความมุ่งมั่นล่ะก็เขาสามารถใช้มันได้เป็นชั่วโมง
อันที่จริงตราบใดที่เขาไม่ได้ใช้มันการลดลงของความมุ่งมั่นนั้นจะน้อยมากๆเกือบแทบไม่ลดเลยทีเดียว
สองวินาทีต่อมา ลู่หยวน ก็ได้หยุด มันไม่ใช่เวลาที่ปลอดภัยที่จะมาใช้ความมุ่งมั่นทั้งหมดเพราะเผื่อมีการต่อสู้ที่ไม่คาดคิดเข้ามา
เขามองไปที เกาหลิง เลือดออกภายในของเธอหยุดแล้วแต่ก็แค่ชั่วคราว เธอยังคงอยู่ในสภาวะวิกฤตอยู่ถ้าไม่ช่วยเหลือเธอในเร็วๆนี้
ลู่หยวน ยืนขึ้นพร้อมปัดฝุ่นตามตัว กิ้งก่าได้ข้ามใจกลางทะเลนั้นมาแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ส่วนตื้นๆ
อีกสิบนาทีพวกเขาก็ได้มาถึงชายฝั่งและจากนั้นเขาก็เริ่มคิดหาทางแก้ปัญหาทางอื่น
ทุกคนเห็นว่า เกาหลิง นั้นฟื้นตัวแล้ว นอกจาก หวงเจียฮุย ที่ซึ่งเคยเห็น ลู่หยวน ใช้ความมุ่งมั่น คนอื่นๆต่างก็ช็อค, สับสนและนับถือกับวิธีที่เขาใช้รักษาเธอ
“ บอส นั่นใช่พลังภายในมั้ย ? “ – โฮวตง คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานก่อนจะถามออกมา เขาอดไม่ไหวอีกต่อไป เขาอยากถามคำถามนี้มานานแล้ว
แน่นอนนอกจากถามแล้วเขาเองก็หวังถึงมันด้วยเหมือนกัน
มันเป็นพลังภายในตำนาน ถ้ามันสามารถส่งผ่านได้ เขาเองก็สามารถปกป้องตัวเองได้ในยุคนี้
ลู่หยวน มองไปที่สายตาอยากรู้ของทุกคน นอกจาก หวงเจียฮุย ที่ซึ่งแอบยิ้ม แม้แต่ เซ่าหยาหลี่ เองก็เขยิบเข้ามาใกล้ เพื่อฟังเรื่องนี้
เขาหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้าแล้วอธิบาย – “ มันไม่ใช่พลังภายใน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ที่ฉันเคยเห็น มันก็ไม่ได้เวทย์มนต์จนเกินไป มันก็แค่ผลของความมุ่งมั่น พวกนายจะมีตอนนายโฟกัสความมุ่งมั่นทั้งหมดไปที่บางอย่าง “
ลู่หยวน หยุดอธิบายเมื่อเห็นว่าไม่มีใครเชื่อเขา มันยากที่จะอธิบายอยู่แล้ว คนที่เห็นแสงจากความมุ่งมั่นมักจะคิดว่ามันคือพลังภายใน
บางครั้ง ลู่หยวน ยังคิดว่าพลังภายในก็เป็นหนึ่งในพลังของความมุ่งมั่น
เขาเช็คอาการ หวังซีซี อีกรอบและพบว่าเธอนั้นแค่หมดสติจากการใช้พลังมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงยังไม่ได้ปลุกเธอ
ลู่หยวน คอยจับตามองดูรอบๆตลอด ในที่สุดกิ้งก่ายักษ์ก็ข้ามน้ำมาได้โดยไม่เจออันตรายอย่างอื่นอีก
ในที่สุดพวกเขาก็โล่งใจ การขมวดคิ้วเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากทะเลมากว่า 6 กม.ได้แล้ว
เมื่อรู้สึกถึงอารมณ์รีบร้อนของ ลู่หยวน กิ้งก่ารีบออกเดินทางทันที่และได้มาถึงแนวป้องกันที่อยู่อีกข้างของฝั่งได้สำเร็จก่อนตกกลางคืน