หน้าแรก > Epoch of Twilight
ตอนที่ 142: ข้ามเส้น

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 142: ข้ามเส้น

โต๊ะนั้นแทบจะไม่มีอาหารหลงเหลือเลย ใครๆก็รู้สึกได้ถึงความอคติที่มองมาที่ ลู่หยวน และเพื่อนในตอนที่พวกเขาเข้ามา  ลู่หยวน ตะหนักได้ว่าการนัดเจอนี่เป็นกับดัก

“ นั่งก่อนสิ ทุกคน  อาหารจะมาเสิร์ฟในไม่ช้า ไม่มีคนนอกหรอก  หยาหลี่ ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย  มีอย่างอย่างที่ฉันอยากจะบอกก่อนไม่งั้นฉันกลัวว่าพวกนายจะกินอาหารกันยากหน่อย “ – ซู่เฮา พูดขึ้นและจุดบุหรี่ เขาไม่ต้องแกล้งทำตัวดีเพราะ หยาหลี่ ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย

“ ปัญหาเยอะจริงๆ..แค่กินข้าวเนี้ย นายอยากจะพูดอะไรกันแน่ ? “ - ลู่หยวน แสยะยิ้มออกมาพร้อมเดินเข้าไปที่โต๊ะ  เขาเอามือบีบโต๊ะจนเป็นรูและค่อยๆเอาเศษไม้ที่ติดมือมาวางไว้บนโต๊ะ

การกระทำที่ทำให้ทุกคนหมดคำพูดแต่ ซู่เฮา กลับหัวเราะออกมา – “ กล้าดีนิ แต่นายต้องเข้าใจว่านี่เป็นเขตของฉัน ฉันรู้ว่านายไม่ได้อ่อนแอเพราะนายมาถึงที่นี่ได้และเข้ามาที่นี่โดยที่ไม่กลัว...แต่เตือนไว้ก่อนนะ ฉันมีปืนกลเล็งมาที่เตนท์นี้ตั้งแต่ที่พวกนายเข้ามาแล้ว  ถ้านายกล้าทำอะไรตลกๆ ฉันกลัวว่านายจะไม่ได้ออกไป “ – ซู่เฮา พูดขึ้นเบาๆพร้อมกับสูบเข้าไปคำหนึ่งแล้วหัวเราะเบาๆ

ทุกคนต่างก็มองไปที่ ลู่หยวน ด้วยท่าทีกลัวแต่ก็ใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นว่าเขายังมีท่าทีเคร่งขรึมอยู่

ลู่หยวน เคาะโต๊ะเบาๆและพูดขึ้นอย่างเย็นชา – “ บอกฉันทีสิ “

“ ได้ “ – ซู่เฮ่า พ่นลมออกมา เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกอึดอัดตอนเขาเผชิญหน้ากับ ลู่หยวน ราวกับว่าเขาเผชิญหน้ากับสัตว์กลายพันธุ์แทนที่จะเป็นมนุษย์  เขาพยายามควบคุมสถานการณ์ตั้งแต่ที่พวกนี้เข้ามาแต่ชัดเจนแล้วว่าเขาทำไม่สำเร็จ

“ มาสนเรื่องตัวเองกันดีกว่า ฉันไม่ต้องการเรื่องยุ่งยาก  เซาหย่าหลี่ เป็นแฟนของฉัน ดังนั้นพวกนายควรกลับออกไปทันทีที่กินข้าวเสร็จ  โชคดีที่เธอเป็นแค่ผู้หญิงสวย  ถ้านายต้องการ ฉันเอาผู้หญิงสวยกว่านี้ให้นายก็ได้แต่สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในแคมป์นี้แล้ว เธอได้รับการคุ้มครองราวเป็นเทพเจ้าเลยทีเดียว ดังนั้นนายไม่ต้องกังวล ฉันจะดูแลเธออย่างดีเลย “

ไม่ต้องเดาเลยว่า ซู่เฮา นั้นเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าเมื่อไหร่ต้องยอมเมื่อไหร่ต้องไม่ยอม เขารู้ว่าต้องทำอะไรให้ได้รับสิ่งที่ต้องการมา  เซาหยาหลี่ นั้นไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดาแต่ถือเป็นพลังให้กับเขาด้วย

การมาของ ลู่หยวน ทำให้เขารู้สึกว่ามันวิกฤต  ใครที่ไม่ตาบอดก็ยังเห็นได้ว่าเธอยังรู้สึกกับชายคนนี้อยู่ ถ้าเป็นผู้หญิงธรรมดา เขาคงส่งเธอให้เพื่อเชื่อมมิตรภาพแต่มันแตกต่างกันสำหรับ เซ่าหยาหลี่  การมีเธอหมายถึงมีสัตว์กลายพันธุ์ระดับสี่อยู่ด้วย

สัตว์ตัวนั้นสำคัญสำหรับเขาและสำหรับแคมป์นี้  เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือที่ที่นี่ยังคงปลอดภัยได้อยู่เพราะการมีสัตว์กลายพันธุ์นั่นอยู่  เขาต้องเก็บมันไว้ที่นี่ไม่ว่ายังไงก็ตามและการเก็บมันไว้ที่นี่หมายถึงการเก็บ เซ่าหยาหลี่ ไว้ที่นี่ด้วย  เขาได้หาทางแก้ปัญหาไว้สองทางก่อนที่จะเรียกพวกนี้มากินข้าวด้วย  พวกเขาจะเลือกทางยากรึทางง่ายก็ได้แต่เขาต้องส่ง ลู่หยวน ออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

ลู่หยวน หงุดหงิด  เขาไม่ใช่คนที่มีเหตุผลอยู่แล้วและ เซ่าหยาหลี่ ก็เป็นแฟนของคนอื่นอยู่แล้วด้วย  ตอนนี้เขาควรที่จะยอมแพ้แต่บางเหตุผลทำให้เขาไม่พอใจ มันเหมือนกับมีไฟลุกขึ้นในสมองของเขา

เขายังคงเงียบอีกสักพักจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพูดช้าๆ – “ และถ้าฉันไม่เห็นด้วยล่ะ ? “

การเอาตัวรอดนั้นยากอยู่แล้วเพราะมันมีอันตรายที่คาดเดาไม่ได้อยู่เต็มไปหมดซึ่งอาจทำให้คุณตายตอนไหนก็ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากนัก

มือของ ซู่เฮา จับไปที่ปืนและบรรยากาศตรงนั้นก็เหมือนกับเย็นชาขึ้นซึ่งอาจเกิดการต่อสู้กันตอนไหนก็ได้

“ นายไม่ไว้หน้าฉันเลยนิ เธอเป็นผู้หญิงของฉันแล้ว “  - ซู่เฮา บ่นออกมา

คำพูดของเขาทำให้ ลู่หยวน เจ็บ หน้าของเขาหม่นลง ตาของเขาจ้องไปที่อีกฝ่าย  ออร่าอันแสนอันตรายปะทุออกมาจากตัวของเขาและอากาศตรงนั้นก็เริ่มอึดอัด แม้แต่เศษไม้เองก็ยังเริ่มลอยขึ้นมา

ชายหนุ่มที่เป็นยามตรงทางเข้ารู้สึกว่าดาบสีดำข้างๆเขาสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่ามันอยากออกมาจากตรงนั้น  เขากดมันลงแต่ดาบนั่นก็ยังสั่นไม่หยุด

ข้างในนั้นเงียบสนิท

เหงื่อเริ่มไหลลงมาจากหน้าผากของ ซู่เฮา และพวก  มือของพวกเขาจับอยู่ที่ปืนแต่นิ่งอย่างกับก้อนหิน  สัญชาตญาณบอกพวกเขาว่าต้องเกิดเรื่องยุ่งขึ้นแน่ๆถ้าพวกเขาลงมือทำอะไรลงไป

ในที่สุด ซู่เฮา ก็รู้ว่าทำไมเขาถึงอึดอัดนักตอนเผชิญหน้ากับ ลู่หยวน  ชายคนนี้แข็งแกร่งเกินไป เพียงแค่มองก็ทำให้คนไม่กล้าขยับ  เขาอาจจะฆ่าทุกคนที่นี่ได้ในพริบตาถ้าเขาอยากจะทำ

“ ลู่หยวน พอได้แล้ว “ - หวงเจียฮุย พูดขึ้น เธอไม่ได้ใจดี  แต่ครั้งนี้ ลู่หยวน ทำเกินไป  เธออาจไม่สนใจในตอนที่ ลู่หยวน ฆ่าคนแต่เขาควรฆ่าคนที่สมควรตายไม่ใช่ฆ่าคนที่เขาอยากฆ่าโดยเฉพาะแฟนของผู้หญิงคนอื่น

ออร่าค่อยๆหายไป ลู่หยวน ยืนนิ่งสักพักและพูดขึ้น – “ ไปกันเถอะ “

เสียงของเขาเหมือนกับคนหมดแรง ทุกคนรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจที่เขามี

ซู่เฮา ต้องการจบเรื่องนี้ดีๆแต่ก็ตระหนักได้ว่าคำพูดของเขานั้นจุกอยู่ที่ลำคอ

ในตอนที่ ลู่หยวน กำลังจะออกไปก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากแคมป์

 “ มันคือหมายักษ์ “ – หนึ่งในลูกน้องของ ซู่เฮา ตะโกนออกมา

ก่อนที่จะตะโกนจบก็ได้มีเสียงคำรามขึ้นมาจากไกลๆ  สัตว์กลายพันธุ์ทั้งสองตัวกำลังต่อสู้กันเพื่อทำการแข่งขัน

“ กรร ! “

“ แฮ่ ! “

สีหน้าของ ลู่หยวน เปลี่ยนไป  เขาเดินออกจากเตนท์และหยิบดาบของเขาก่อนที่ยามตรงทางเข้าจะได้ทำอะไร  ซู่เฮ่า และพวกเดินตามเขาออกมาหลังจากลังเลอยู่สักพัก

ต้นไม้ตรงหน้าหน้าพังลงไปเผยให้เห็นสัตว์กลายพันธุ์ขนาดใหญ่

คนรอบๆต่างก็กรีดร้องกันออกมาและบางคนก็วิ่งเข้าชนกับเตนท์รอบๆ

“ กิ้งก่ายักษ์มาที่นี่ “ - หวังซีซี พูดขึ้นอย่างดีใจ

กิ้งก่านั้นตามกลิ่นของ ลู่หยวน มาเนื่องจากเขาหายไปนาน

เล่าหวง ทำการป้องกันตรงทางเข้าแคมป์ ขนสีแดงของมันปลิวขึ้นมาพร้อมกับสายลม  มีชั้นไฟลุกไหม้ที่ด้านบนของขนมัน  มันคำรามอย่างโกรธไปที่กิ้งก่าตัวนั้นแต่ เซ่าหยาหลี่ นั้นไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย เป็นไปได้ว่าเธอถูกพาไปซ่อนแล้ว

 ลู่หยวน เห็นปืนใหญ่รอบๆเล็งไปที่กิ้งก่า เขารีบดึง ซู่เฮา มาข้างๆและตะคอกใส่ – “ สั่งให้พวกนั้นหยุดเดี๋ยวนี้ “

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก  ซู่เฮา นั้นยังคงงงอยู่แต่ในที่สุดก็เข้าใจว่าคนพวกนี้ก็มีสัตว์กลายพันธุ์ระดับสี่ด้วย  เขาพยักหน้าเพราะกลัวว่า ลู่หยวน จะฆ่าเขาแล้วตะโกนออกมาดังๆ – “ ทุกคนหยุด ทุกคนหยุด ! “

มันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้ยินคำสั่งของเขาในเหตุการณ์ตอนนี้ ดังนั้นปืนใหญ่จึงยิงแทบจะทันทีแต่ต้องขอบคุณที่ไม่มีใครยิงมันได้ดีจึงทำให้การยิงครั้งแรกพลาดเป้าไป

แต่มันก็ยังทำให้กิ้งก่านั้นตกใจ เกล็ดของมันชูขึ้นและมันได้วิ่งเข้ามาหา เล่าหวง

แม้แต่ ลู่หยวน ก็ตามการเคลื่อนที่แบบฉันพลันของกิ้งก่านี้ไม่ทัน

มันมีค่า ความคล่องตัว 15 หน่วยทำให้ทุกคนมองเห็นแต่ภาพเบลอ ในเสี้ยวพริบตามันก็ชนเข้ากับ เล่าหวงและทำให้อีกฝ่ายกระเด็นไป  เล่าหวงกลิ้งไปตามแรงและมันได้ใช้ขาหน้าของมันจิกเข้าที่พื้น

ก่อนที่มันจะหยุดกลิ้ง กิ้งก่าก็ได้พุ่งเข้ามาอีกครั้ง  มันใช้กงเล็บฝังเข้าที่ตัวของ เล่าหวง พร้อมกับอ้าปากของมันออกเล็งไปที่คอของหมา

แม้ว่าสัตว์กลายพันธุ์ทั้งคู่นั้นจะอยู่ในระดับสีฟ้าเข้มแต่กิ้งก่านั้นยังแข็งแกร่งกว่าเพราะค่า AP  ทั้งคู่นั้นอยู่คนละชั้น  ความเร็วของกิ้งก่าอย่างเดียวก็จัดการ เล่าหวง ได้แล้ว

“ ทุกคนหยุด “ – ลู่หยวน ตะโกนออกมา

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย กิ้งก่าได้หยุดการเคลื่อนที่ทันที  มันหันหน้ามองไปรอบๆ กงเล็บของมันนั้นยังคงฝังอยู่ที่ตัว เล่าหวง  เล่าหวง ร้องโอดโอยออกมา ตัวของมันนิ่งไม่อาจขยับได้

คนใกล้ๆนั้นได้เตรียมปืนใหญ่อีกครั้ง  ลู่หยวน พุ่งไปสับปืนใหญ่ออกขาดครึ่ง ทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นต้องอึ้ง

ซู่เฮา เห็นความเร็วอันสุดยอดของ ลู่หยวน ก็ได้รีบสั่งการให้ทุกคนหยุด

ในที่สุดทุกคนก็หยุดเคลื่อนไหวแต่อันที่จริงตอนนี้แคมป์นั้นวุ่นวายกันไปหมดแล้ว

เสียงร้องของ เล่าหวง ทำให้ หยาหลี่ วิ่งออกมาจากเตนท์ของเธอ

“ บอกให้สัตว์ของนายปล่อย เล่าหวง เดี๋ยวนี้ ไอ้บัดซบ  นายทำให้มันเจ็บ “ - เซ่าหยาหลี่ จับไปที่เสื้อของ ลู่หยวน และตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

ลู่หยวน ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆและตะโกน – “ กิ้งก่ายักษ์ กลับมา ! “

กิ้งก่าคลายมือของมันออกและหันกลับมาทำให้พื้นดินตรงนั้นสั่นไหวในตอนที่มันเดินมาแต่ละก้าว  คนที่ยืนใกล้ๆ ลู่หยวน ต่างก็ถอยหนีไปอีกครั้ง

เซ่าหยาหลี่ ปล่อย ลู่หยวน ทันทีและรีบวิ่งเข้าไปหา เล่าหวง

แม้ว่า เล่าหวง จะกลายพันธุ์แล้วแต่นิสัยของมันยังคงเหมือนเดิม มันร้องโอดครวญออกมาและไปยืนขึ้นซ่อนอยู่ด้านหลัง หยาหลี่ แล้วเลียแผลของตัวเอง

ความต่างของขนาดและท่าทีของมันนั้นน่าตลกแต่ไม่มีใครหัวเราะออกมาเลย

หวงเจียฮุย ยังคงใจเย็นอยู่ เธอตระหนักได้ว่า ซู่เฮา ที่ซึ่งได้เดินเข้าไปบอกสถานการณ์ทุกอย่างให้ เซ่าหยาหลี่ ฟังนั้นตอนนี้และได้ให้เธอแอบอยู่ในฝูงคน อีกทั้งเขายังได้ไปสั่งการกับลูกน้องตัวเอง

เธอมองไปที่ ลู่หยวน และผู้คนที่สับสน  ดูเหมือนว่าเธอจะตระหนักได้ถึงบางอย่างและยกปืนขึ้นไปชี้ที่ ซู่เฮา ที่อยู่ไกลออกไป

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.