spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 141: พบเซาหยาหลี่ อีกครั้ง
ผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าหลากหลายสีปกปิดตัวเองไว้ เธอถือปืนสั้นและพึมพำไปในตอนที่เธอเดินมา “ เล่าหวง ข้างนอกมันอันตรายมาก ทำไมเจ้าถึงบอกให้ฉันออกมาข้างนอก ? ถ้าไม่มีอะไรสำคัญฉันอัดเจ้าแน่ “
ลู่หยวน รู้สึกเหมือนเขาเคยเห็นฉากนี้มาก่อนแล้ว
ผู้หญิงคนนี้สูงกว่าน่องของสัตว์กลายพันธุ์มานิดหน่อย มันอาจเผลอกระทืบเธอตายก็ได้ แต่ลิ้นของมันกลับห้อยและหางก็ส่ายไปมาคอยอ้อนเธอ
สัตว์กลายพันธุ์หยุดและหอนออกมาทางที่ที่ ลู่หยวน อยู่
ผู้หญิงคนนั้นมองมาตามและพบกับ ลู่หยวน เธออึ้งและไม่ทันรู้ตัวเธอก็ทิ้งปืนลงไปที่พื้นพร้อมกับปากที่สั่นระรัว – “ เสี่ยวหยวน “
ไม่มีใครเรียกเขาว่า เสี่ยวหยวน อีกแล้วแม้แต่คนที่แก่ที่สุดในกลุ่มอย่าง โฮวตง เสียงอันคุ้นเคยทำให้ ลู่หยวน อึ้ง เขาพูดตะกุกตะกักออกมา – “ พี่หยาหลี่ ? “
ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หยาหลี่ เธอสั่นยิ่งกว่าเดิม – “ นายยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ? “
เธอคิดถึงเรื่องนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วแต่ความคิดนั้นก็ได้พังเป็นเสี่ยงๆ เมื่อภัยพิบัติรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกว่าเขาคงตายไปพร้อมกับคนอื่นที่โดนพวกสัตว์กลายพันธุ์ฆ่า
เธอเคยผ่านเมืองดงฮูพร้อมกับผู้ลี้ภัยมาก่อน แต่เมืองที่เคยเจริญตอนนี้กลับกลายเป็นสลัม แม้แต่เมืองเฮดงเองก็ยังถล่ม เธอไม่คาดหวังอีกต่อไป ความทรงจำของเธอเกี่ยวกับ ลู่หยวน นั้นเริ่มหายไปตามกาลเวลา ใครจะไปคิดว่าเธอจะมาพบกับเขาในบ่ายวันธรรมดาแบบนี้
เมื่อเห็น ลู่หยวน ที่สภาพไม่ต่างจากตอนก่อนเกิดภัยพิบัติและเสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้าน เธอก็หมดคำพูด เธอเอามือจัดผมที่รุงรัง ก่อนที่จะจัดเสื้อผ้าตัวเองให้ดูเรียบอีกครั้ง
ลู่หยวน เดินเข้าไปหาพร้อมกับสั่นพอๆกัน – “ เป็นเธอจริงๆ แล้วลุงกับป้าล่ะ ? “
“ ห้าวันหลังจากที่นายจากไป พ่อและ เล่าหวง ก็ออกไปที่ฟาร์มเพื่อหาอาหารอีก แต่ก็ไม่ได้กลับมา แม่กังวลและออกไปหาพวกเขา ตอนบ่าย เล่าหวง ก็ลากร่างทั้งสองกลับมา ทั้งคู่ติดพิษจากหนอนจนตาย “ –หยาหลี่ พูดพร้อมกับสะอื้น
“ ฉันเสียใจด้วย “ - ลู่หยวน ถอนหายใจ
“ ไม่เป็นไร นี่มันก็นานมาแล้ว “ -หยาหลี่ ปาดน้ำตาและทำให้เกิดคราบเปื้อนบนหน้าของเธอ
มันทำให้ ลู่หยวน รู้สึกเจ็บ เขาเหยียดมือออกไปพยายามจับเธอไว้แต่เธอนั้นถอยตัวออกและหันหน้าหนี – “ อย่าทำอย่างนี้ “
ลู่หยวน คิดว่าเธอคงไม่ชินเพราะพวกเขาไม่ได้เจอกันนานและพยายามจะทำอีกครั้งแต่ก็โดนเสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัด
“ หยาหลี่ นั่นใคร ? “
ผู้ชายซึ่งถือหอกวิ่งมาอยู่ข้างๆหยาหลี่ โดยไม่สนใจ เล่าหวง ที่อยู่ข้างๆ หางของ เล่าหวง ส่ายไปมาอีกครั้ง ชัดเจนแล้วว่ามันคุ้นเคยกับชายคนนี้
เมื่อฟังวิธีที่ชายคนนั้นเรียกหยาหลี่ อย่างสนิท ลู่หยวน ก็เกิดรู้สึกแย่ขึ้นมา
หยาหลี่ ลดมือลง – “ เขาเป็นเพื่อนฉันจากเมืองดงฮุ เราเพิ่งเจอกันอีก “
ตาของเธอหลบสายตาของ ลู่หยวน – “ เสี่ยวหยวน นี่แฟนฉัน ซูเฮ่า “
ชายคนนี้ดูเหมือนจะไม่เห็นฉากที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขายิ้มออกมา – “ บังเอิญจริงๆที่นายพบที่นี่ เราซ่อนมันได้ดีแล้วนะ เนื่องจากนายเป็นเพื่อนของ หยาหลี่ งั้นนายก็เป็นเพื่อนของฉันด้วย ถ้านายไม่มีที่จะไปงั้นก็อยู่ที่นี่ มันค่อนข้างแห้งแล้งและนายต้องพบเจอกับความลำบากมามากกว่าจะมาที่นี่ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยในเวลาแบบนี้ “
ลู่หยวน รำคาญแต่ก็ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ - ขอบใจแต่ฉันอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก ฉันมาที่นี่เพื่อดูว่ามีเส้นทางที่ผ่านไปได้รึเปล่า มันก็แค่บังเอิญที่ฉันเจอกับ พี่หยาหลี่ “
เขาควรรู้ก่อนหน้านี้เพราะหยาหลี่ นั้นมีหน้าตาดี แม้ว่าเธอจะหน้าตาน่าเกลียดแต่ตราบใดที่ เล่าหวง อยู่กับเธอ มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีคนอยากเข้าหาเธอ ในยุคที่กระหายถึงพลังและความปลอดภัยนั้นไม่มีชายคนไหนที่ไม่อยากได้พลังของสิ่งมีชีวิตระดับสีฟ้าเข้มหรอก
ทั้งสองคนจากกันมานาน แม้ว่าจะมีความรู้สึกต่อกันอยู่แต่พวกมันก็เลือนหายไปตามกาลเวลา
ซู่เฮ่า เป็นคนรูปร่างดี หน้าตาก็ได้แย่เท่าไหร่แม้ว่าใบหน้าจะเปื้อนไปด้วยสี นอกจากนี้เสียงของเขาเองก็บ่งบ่อกว่าเป็นคนสุภาพ ฐานะในแคมป์ผู้รอดชีวิตของเขาคงไม่ต่ำแน่นอน ผู้หญิงอย่างหยาหลี่ ที่ซึ่งสุภาพและไม่ค่อยมันใจในตัวเองนั้นต้องต้านทานเขาไม่ได้แน่ตราบใดที่เขาดูแลเธอ
“ นั่นก็ดี เราอยู่ที่นี่นานไม่ได้ น้ำกำลังจะขึ้นในอีกไม่ช้า เราต้องหาที่ใหม่กันแล้วแต่ไม่ใช่ว่าจะรีบไปในตอนนี้ อยู่กินมื้อเที่ยงกันก่อน นายจะได้คุยกับ หยาหลี่ ด้วยเพราะพวกนายไม่ได้เจอกันมานาน “ - ซูเฮ่า ยิ้ม
รอยยิ้มของเขาดูเหมือนจะจริงใจต่อ ลู่หยวน ไม่มีร่องรอยบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ลู่หยวน มั่นใจว่าเขาเองนั้นคงทำแบบนี้ไม่ได้แน่ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เข้ากับคนง่ายแต่ก็มีแค่คนแบบนี้แหละที่จะสามารถเอาตัวรอดจากโลกอันโหดร้ายไปได้
เมื่อคิดแล้วเขาก็ไม่อยากจะอยู่ต่ออีกต่อไปและพูดขึ้นพร้อมกับส่ายหน้า – “ ไม่เป็นไร เพื่อนฉันรออยู่ ฉันจะกลับไปหลังจากถามเส้นทางแถวนี้ได้ “
ซู่เฮา โล่งใจแต่หยาหลี่ พูดขัดขึ้นมา – “ นายควรกลับไปหลังจากเราได้กินอาหารด้วยกัน นายไม่ดีใจเหรอที่เจอฉันอีก ? ถ้านายกังวลเกี่ยวกับเพื่อนนายก็บอกให้พวกนั้นมาที่นี่ด้วย “
ลู่หยวน ไม่สามารถปฏิเสธคำเชิญของเธอได้ ในที่สุดเขาก็พยักหน้าหลังจากที่มองไปในสายตาที่เรียกร้องของเธอ – “ ได้ ฉันจะบอกให้พวกนั้นมานี่ด้วย “
เมื่อเห็น ลู่หยวน ถอยกลับไป ซู่เฮา ก็หันกลับมาพูดกับหยาหลี่ – “ เราเพิ่งจับปลาไหลตัวโตได้ ฉันจะขอให้พวกเขาเตรียมมัน เธออยากไปช่วยหน่อยมั้ย ? ”
เซ่าหยาหลี่ ดูเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอขอโทษออกมาหลังจากเงียบอยู่สักพัก – “ ฉันเหนื่อยนิดหน่อย ให้ฉันได้พักสักนิดแล้วค่อยเรียกฉันตอน เสี่ยวหยวน กลับมา “
จากนั้นเธอก็กลับไปที่เต็นท์
สีหน้าของ ซู่เฮา เปลี่ยนไป ใครที่ไม่ได้ตาบอดก็เห็นท่าทีแปลกๆของทั้งสองคนได้ พวกเขาอาจกอดกันถ้าเขาเข้ามาไม่ทัน
เขาไม่ได้มีเซ็กส์กับหยาหลี่ และยังปฏิเสธผู้หญิงหลายคนที่เสนอตัวให้กับเขาและแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นห่วงเธอจริงๆในตอนที่หลบหนีออกมา แม้แต่ยอมรับใช้เธออย่างกับทาสเพื่อทำให้เธอพอใจ เขาได้ทุ่มเททุกอย่างแต่เขาไม่คิดว่าจะมีอุปสรรคโผล่ขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ในตอนที่เขากำลังจะทำมันเกือบสำเร็จ
เขามองไปที่ ลู่หยวน ที่ซึ่งเดินจากไปก่อนในที่สุดเขาเองก็ออกจากที่นั่นไปด้วย
สองชั่วโมงต่อมา ลู่หยวน และเพื่อนก็ได้มาถึง
เพื่อกันไม่ให้เกิดการแตกตื่น ลู่หยวน ไม่ได้เอากิ้งก่ามาด้วย แม้แต่กระเป๋าของพวกเขาก็ยังทิ้งไว้ในที่ที่อยู่ก่อนหน้านี้
แคมป์นั้นเต็มไปด้วยขยะ มีกลิ่นที่น่าขยะแขยงคลุ้งไปทั่ว มีผู้หญิงผอมแห้งที่ซึ่งสวมเสื้อผ้าฉีกขาดเดินมาถกกางเกงแล้วฉี่ต่อหน้าทุกคน
มีผู้ชายหลายคนมองไปที่ก้นของเธอและลากเธอเข้าไปในเต็นท์ก่อนที่เธอจะฉี่เสร็จ ในตอนที่เดินหน้าต่อมีเสียงผู้หญิงร้องครางและเสียงด่าของผู้ชายดังขึ้นจนทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
หวงเจียฮุย ที่ซึ่งไม่ค่อยมีความสุขอยู่แล้วเริ่มไม่พอใจเมื่อเห็นฉากนั้น
หลายคนกำลังขุดโคลนข้างๆหมู่บ้านเพื่อหาอาหาร
ชายผอมแห้งคนหนึ่งมีอาการชักกระตุกในตอนที่ขุดโคลนอยู่นั้น ผู้คนรอบๆเขาต่างก็ถอยหนีด้วยความกลัวโดยสีหน้าของพวกนั้นกลับไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรเลย ไม่มีใครกรีดร้องรึวิ่งหนี หลังจากที่มองไปที่ชายคนนั้นทุกคนกลับมาขุดโคลนรอบๆตามปกติ
หลังจากได้เห็นเหตุการณ์น่าสะเทือนใจแล้ว ทั้งกลุ่มเต็มใจอย่างมากในการติดตาม ลู่หยวน ถ้าไม่ใช่เพราะเขา พวกเขาคงต้องมีสภาพเป็นแบบคนพวกนี้
มีคนมากกว่าหนึ่งร้อยคนในแคมป์แต่ก็แบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจนแม้ว่าทั้งสองฝั่งจะเป็นผู้รอดชีวิตเหมือนกัน บางทีเพราะการขาดแคลนนอาหารทำให้ผู้รอดชีวิตที่นี่ส่วนมากนั้นหน้าซีดและมีตาที่เหม่อลอยเหมือนกับพวกเขาไม่มีแรงเหลืออยู่
ยังมีพวกที่ดูมีสุขภาพดีแต่ส่วนมากก็เป็นผู้ชายที่แข็งแรงและผู้หญิงที่สวย
ลู่หยวน รู้ว่าการแบ่งฐานะนั้นมีอยู่ทุกยุคสมัย มันเคยขึ้นอยู่กับความฉลาดแต่ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง มีแค่คนที่แข็งแก่รงกว่าที่จะมีชีวิตดีกว่าในโลกภัยพิบัติแห่งนี้และได้รับอาหารและผู้หญิงมากกว่าคนอื่น
เด็กหนุ่มที่มีรูปร่างกำยำเดินเข้ามาหาพวกเขา เขามองอย่างท้าทายมาที่ ลู่หยวน แต่สายตาเขายังคงโฟกัสไปที่สาวๆ
พวกเธอดูสะอาดสะอ้านถ้าเทียบกับผู้หญิงในแคมป์ เสื้อผ้าสะอาดของพวกเธอ,หน้าตา,และกลิ่นที่ส่งออกมานั้นทำให้ดูโดดเด่นเมื่ออยู่ที่นี่โดยเฉพาะ หวังซีซี หน้าตาที่สวยงามของเธอนั้นราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด ผิวขาวๆของเธอสว่างอย่างกับเทพธิดา
หวังซีซี เห็นท่าทีคุกคามนั้น – “ นายมองอะไร ? “
เด็กหนุ่มยิ้มกลับมา – “ ทุกคน ตามฉันมา “
ทั้งกลุ่มตามเขาไปที่หน้าเต้นท์ที่ใหญ่ที่สุดและเขาก็ได้หยุด – “ ไม่ให้เอาอาวุธเข้าไปที่นี่ พวกนายต้องส่งมันทั้งหมดให้กับฉัน ฉันหวังว่าพวกนายจะร่วมมือด้วยดี “
“ พวกนายมีตั้งหลายคนแต่กลัวพวกเราที่มีนิดเดียวเนี้ยนะ ? “ – หลินเสี่ยวจี พูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด
เด็กหนุ่มแสยะยิ้ม – “ ที่นี่คือที่ที่เราใช้ประชุม ห้ามไม่ให้เอาวุธเข้าไปที่นี่ กฎต้องเป็นกฎ ไม่มีใครได้รับการยกเว้น “
“ กฎของพวกนายใช้กับเราได้ตั้งแต่ตอนไหน ? “ - เกาหลิง ถามขึ้นมา
ลู่หยวน ลังเลและจากนั้นก็ได้พูดขึ้น – “ ช่างเถอะ เราเป็นแขก มันไม่ดีที่จะเอาอาวุธไปด้วย ส่งให้กับเขาซะ “
จากนั้นเขาก็ได้ยื่นดาบของเขาให้
ใบหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปในตอนที่ถือมัน น้ำหนักของดาบนั้นทำให้เขาต้องใช้ทั้งสองมือรับมัน
สีหน้าของเขาแสดงความอึ้งออกมาพร้อมมองไปที่ ลู่หยวน ที่ซึ่งถือดาบนี่ด้วยมือเดียวได้สบายๆ
ทุกคนต่างก็ทำตามเนื่องจาก ลู่หยวน ได้ส่งอาวุธตัวเองไปแล้วและจากนั้นทั้งกลุ่มจึงเดินเข้าไปในเตนท์
พื้นที่นี่มีเป็นไม้กระดานและมีพรมหนาๆปูทับไม้ไว้อยู่แต่มันก็ยังคงชื้นนิดๆ
มีโต๊ะกลมวางอยู่ในใจกลางเตนท์ซึ่งมีคน 7 คนนั่งอยู่ข้างใน ซู่เฮา นั่งอยู่ตรงตำแหน่งที่น่าจะเป็นหัวหน้าแต่หยาหลี่ ไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย