spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 140: ผู้รอดชีวิต
“ มีคลังแสงอยู่ใต้ดินด้วย “ -โฮวตง และคนอื่นๆวิ่งมารายงานในตอนที่ ลู่หยวน ออกไปดูรอบๆ – “ แต่ของส่วนมากโดนขนไปแล้ว ปืนใหญ่ 7 อันก็โดนขนออกไปด้วย “
ลู่หยวน ตามพวกนั้นไปที่ใต้ดิน มีคลังแสงซึ่งแทบจะว่างเปล่าหมดห้อง นอกจากมิสไซน์ขนาดใหญ่ที่เหลืออยู่ที่มุมห้อง แทบจะไม่มีแม้แต่กล่องกระสุนเหลืออยู่แม้แต่กล่องเดียว
“ นายว่าใครขนพวกมันไป ? “ - ลู่หยวน ถามออกมา
“ ไม่น่าจะเป็นทหารที่นี่ ถ้าพวกนั้นจะขน พวกนั้นต้องเอารถถังไปด้วยแทนที่จะทิ้งไว้ที่นี่ ความเป็นไปได้เดียวก็น่าจะเป็นคนรอดชีวิตใกล้ๆ “ – โฮวตง พูดขึ้น
ทุกคนต่างก็ดีใจ
“ ยังมีคนรอดชีวิตเหลืออยู่อีกเหรอ ? “ - ลู่หยวน ช็อค
มันเป็นเรื่องที่ไม่คุ้นเคยเอาซะแล้ว นอกจากต้นไม้และสัตว์กลายพันธุ์ ความสิ้นหวังและโดดเดี่ยวต่างก็ถูกสลักไว้ในใจของพวกเขา สถานที่แห่งนี้เองก็เหลือทิ้งไว้แค่ร่องรอยของมนุษย์ที่โดนกวาดล้าง เมื่อรู้เรื่องนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกเบาใจขึ้นมา
“ ฉันเดาว่าน่าจะอยู่แถวๆนี้ “ – โฮวตง พูดขึ้น – “ ที่นี่มันใกล้ทะเล ดินที่นี่เลยเค็มทำให้ไม่ค่อยมีต้นไม้ เราน่าจะปลอดภัยกว่าถ้าอยู่ที่นี่ “
“ แต่พวกนั้นไม่คิดหน้าคิดหลังเลย พวกนั้นไม่ทิ้งอะไรไว้ด้วยซ้ำ ! ผ้าห่มและผ้าเช็ดตัวยังเอาไปหมด “ – หวังซีซี บ่นออกมา
ลู่หยวน คิ้วขมวดนิดหน่อย พกวเขาแทบไม่เหลืออะไรแล้วเนื่องจากของของพวกเขาหายไปหมดแล้ว พวกเขาอย่างจะมาหาของกันที่นี่แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย
“ หาเกลือเจอมั้ย ? “ - ลู่หยวน ถาม
เกลือ ไม่ใช่ของที่มีตามฤดูกาลแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายมนุษย์เพื่อรักษาสมดุลของเหลวให้กล้ามเนื้อและช่วยให้ประสาททำงาน
พวกเขาไม่ได้รับเกลือมานานกว่าห้าวัน แม้ว่าจะดื่มเลือดของพวกสัตว์กลายพันธุ์ทุกวันก็เถอะ แต่จำนวนโซเดียมในเลือดนั้นเทียบไม่ได้กับเกลือช้อนเดียว แม้แต่ ลู่หยวน ยังรู้สึกอึดอัด ถ้าไม่เจอเกลือเร็วๆนี้ เขาน่าจะทนต่อไปได้ไม่นาน
“ ไม่ เราหาทั่วแล้ว “ - หวงเจียฮุย ส่ายหน้า – “ ถ้าเรารู้ เราคงหามันมาตามทาง “
“ ก่อนหน้านี้เรากำลังรีบ มันก็แค่เกลือ ไม่มีใครรู้หรอก เขาจะไปคิดว่ามันจะหายากขนาดนี้ ฉันจะไปที่ฐานตรงกันข้าม บางทีที่นั่นอาจจะมีก็ได้ “- ลู่หยวน พูดพร้อมกับถอนหายใจ
ไม่ถึงนาที เขาก็กลับมา ที่นั่นเองก็เหมือนกัน ทุกอย่างโดนเอาไปหมด
หวงเจียฮุย ถอนหายใจออกมา – “ เราขาดมันมาตั้งหลายวันแล้ว อีกแค่วันเดียวคงไม่ต่างอะไร ฉันดาว่าสถานีใกล้ๆน่าจะโดนขนของออกไปหมดแล้วด้วย ไปหาใหม่วันพรุ่งนี้ดีกว่า “
“ เราทำได้แค่ตอนนี้เท่านั้น โชคดีที่ที่นี่เป็นน้ำเค็ม เราแค่ต้มมันให้ได้เกลือถ้าเราหาอะไรไม่เจอ “ - ลู่หยวน พูดพร้อมกับส่ายหน้า
ทั้งกลุ่มกินอาหารเสร็จก่อนจะตกเย็น ไม่มีใครหิวมากเท่าไหร่เพราะมันไม่มีเกลือ พวกเขาเลือกที่จะขังตัวเองไว้ในห้องและนอนอยู่ที่นั่นแทน
แม้ว่าสภาพตอนนี้จะย่ำแย่ซึ่งไม่มีแม้แต่ผ้าห่มให้ใช้แต่ห้องสี่เหลี่ยมนี่ก็ดูหรูหราถ้าเทียบกับรูต้นไม้ในป่า
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างสงบสุข ในที่สุดทุกคนก็ได้หลับสบายกันสักที
อากาศในวันต่อมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การปะทุของภูเขาไฟนั้นอาจจะเกิดตอนไหนก็ได้ ท้องฟ้าสีเทาไปหมดมานานแล้ว
ลู่หยวน นั่งอยู่ในห้องตั้งแต่เช้า คอยปัดฝุ่นออกจากมีดและเสื้อผ้าของเขาพร้อมกับจ้องไปที่มัน
หลังจากที่ใช้ดาบของเขาพร้อมกับพลังจิตมานาน จิตใจของเขานั้นดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับมันได้ เมื่อถือดาบไว้ในมือมันรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นแขนของเขาอีกอัน
มันฟังดูลึกลับแต่ก็พอเข้าใจได้ สายสัมพันธ์จะเกิดกับสิ่งของที่ใช้บ่อยๆ เทคนิคมากมายมีวิธีใช้ในตัวมันเองไม่ได้แลกเปลี่ยนกับใครง่ายๆนอกซะจากว่าโดนบังคับ ถ้าต้องแลกเปลี่ยนกัน ของใหม่จะดูไม่คุ้นเคย การเชื่อมจิตนั้นต้องใช้เวลานาน ถ้าไม่มีสายสัมพันธ์นี้ ดาบของเขาจะอ่อนแอลงกว่าเดิมมาก
ลู่หยวน เก็บดาบไปที่หลัง เมื่อคิดว่าต้องออกไปแล้วเขาก็บอกให้ทุกคนเก็บของตัวเองให้เสร็จ
ในตอนที่เขาพร้อมเดินทาง เขาก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันจากที่ไกลๆ เขามองไปข้างหน้าหลังจากตอนแรกที่ยังคงช็อคอยู่
ในทะเลนั้นมีคนเจ็ดคนกำลังเดินอย่างระมัดระวังและพูดคุยเสียงเบาๆ บทสนทนานั้นค่อนข้างคลุมเครือเพราะเขาอยู่ไกล
พวกนั้นมีอาวุธและระเบิดอยู่กับตัว พวกนั้นดูเหมือนกำลังออกล่า คน 5 คนตรงหน้าคอยใช้หอกของตัวเองแทงลงไปที่พื้น คนสองคนด้านหลังถือไรเฟิลคอยระวังให้อยู่ ลู่หยวน รู้สึกได้ถึงความเครียดว่าจะอยู่ห่างออกมาหลายกิโลเมตร
โชคของพวกนั้นก็ไม่ได้แย่ มีบางอย่างเคลื่อนไหวในดินหลังจากเดินมาได้หลายนาที ชายคนที่แทงลงไปบนร่างของสัตว์กลายพันธุ์ก็โดนหางฟาดกระเด็น เขารีบยืนขึ้นพร้อมกับปากที่เต็มไปด้วยเลือดแต่เขาก็รีบกลับมาประจำตำแหน่ง
ชายสองคนรีบเล็งไปที่พื้นแล้วยิงออกมา สัตว์กลายพันธุ์นั้นยิงและโคลนตรงนั้นก็ค่อยๆโดนย้อมเป็นสีแดง
พวกนั้นไม่มีกระสุนเหลืออยู่มาก เสียงปืนจึงสงบลงหลังจากนั้นไม่กีวินาที
คนที่เหลือเข้าไปใช้หอกแทงลงไปในโคลนนนั่น ส่วนคนอื่นๆโดนอัดกระเด็นออกมา
คนพวกนี้ไม่ปราณี พวกนั้นทำการโจมตีไม่หยุด สิ่งที่ดิ้นอยู่ในโคลนนั้นเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
ไม่กี่นาทีต่อมาโคลนนั้นก็หยุดเคลื่อนไหว สัตว์กลายพันธุ์คล้ายปลาไหลยาวประมาณ 4 ม.โผล่ออกมาเมื่อคนพวกนั้นขุดโคลนออก
หนึ่งในนั้นได้ใช้หอกแทงเข้าไปในตัวของสัตว์ จากนั้นกลุ่มคนพวกนั้นก็ได้แบกมันไว้ที่หลังแล้วเดินหายเข้าไปในป่าทันที
หวงเจียฮุย เดินเข้ามาหาและเห็นว่า ลู่หยวน กำลังมองลงไปข้างล่างจึงถามอย่างสงสัย – “ มีอะไรเหรอ ? “
“ ฉันเห็นคนข้างล่าง ไม่น้อยเลยด้วย “ – ลู่หยวน พูดขึ้น
หวงเจียฮุย อุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ – “ มีคนข้างล่างเหรอ ? น้ำจะขึ้นแล้ว พวกนั้นอยู่ต่อได้ยังไง ? “
“ ที่นี่คือผืนทะเลและน้ำขึ้นก็ขึ้นไม่นาน แน่นอนมันปลอดภัยกว่าถ้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่ด้านนอก “ – ลู่หยวน พูดอย่างไม่ใส่ใจ เมื่อเห็นว่าที่นี่มีต้นไม้น้อยกว่าที่อื่น – “ พวกเธอรอไปก่อน ให้ฉันไปดูว่ามันมีอะไรบ้าง ถ้าอยู่ในระยะที่เดินไปได้ เราก็จะผ่านก้นทะเลไปได้ ถ้าไม่อย่างน้อยก็อาจได้เกลือกลับมาบ้าง “
“ นายอยากเอาคนไปด้วยมั้ย ? ถ้าพวกนั้นเอาวุธทั้งหมดที่นี่ไป พวกนั้นน่าจะมีอยู่เยอะ ฉันไม่เชื่อว่าคนพวกนั้นไร้หัวใจแต่เราน่าจะระวังไว้ก่อน “ - หัวเจียฮุย พูดขึ้นด้วยความกังวล เธอใสซื่อน้อยลง หลังเธอผ่านอะไรมากมายแล้ว
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้คนเปลี่ยนไป ความกดดันเพื่อที่จะรอดนั้นมีเพิ่มมากกว่าเดิม
“ มีแต่จะสร้างปัญหาถ้าคนเยอะเกินไป ไม่ต้องกังวล ฉันจะกลับมาเร็วๆ “ - ลู่หยวน พูดขึ้น ด้วยความสามารถของเขาตอนนี้ เขาจะไม่บาดเจ็บนอกซะจากว่าโดนระดมยิง ถึงอย่างนั้นเขาคงได้แค่บาดแผลเล็กๆมาเพราะมีการป้องกันของเสื้อผ้าอยู่ เขายังคงหนีรอดมาได้ ถ้าเขาเอาคนไปเยอะๆ เขาอาจเสียเปรียบแทน
หวงเจียฮุย รู้ว่า ลู่หยวน เป็นยังไง ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่บอกให้เขาระวังตัว
ลู่หยวน พยักหน้าแล้วกระโดดลงจากสะพานที่ซึ่งสูงสิบเมตรจากพื้น เขาใช้พลังจิตของตัวเองพยุงตัวให้ลอยช้าลงอย่างกับขนนกและไม่นานก็ตกลงมาที่พื้น
หวงเจียฮุย กลับมารู้สึกตัวในตอนที่ ลู่หยวน ส่งสัญญาณให้กับเธอ
เส้นทางเองก็ไม่ได้เดินทางได้ง่ายดาย ที่นี่เต็มไปด้วยโคลนและหลุม รองเท้าและกางเกงของเขานั้นเต็มไปด้วยโคลนอย่างรวดเร็ว เขาสลัดรองเท้าเพื่อสลัดโคลนพวกนั้นทิ้งไป
หลังจากนั้นสักพักขาเขาก็ไปติดในโคลน ในที่สุด ลู่หยวน ก็มาถึงจุดที่กลุ่มก่อนหน้านี้ทำการล่า มีรอยเท้ายาวเข้าไปถึงข้างในป่า บ่งบอกถึงว่าพวกนั้นอยู่ที่ไหน
ต้นไม้ที่นี่ดูเตี้ยสูงแค่ 3 ม. พวกมันดูเหมือนสวนมากกว่าที่จะเป็นป่าถ้าตัดสินตามมาตรฐานตอนนี้
ลู่หยวน เดินตามรอยเท้านั้นมาได้ครึ่งชั่วโมงก็มาถึงหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง
ต้นไม้ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรถูกโค่นลงหมด มีเตนท์หลากหลายสีวางอยู่ที่ตรงกลาง ที่ทำให้ ลู่หยวน ช็อคคือมีคนอยู่ที่มากมายที่ดูเหมือนกำลังฉลองกันอยู่ พวกนั้นต่างก็สวมเสื้อผ้าที่ฉีกขาดแต่ใบหน้าของพวกนั้นเหมือนเอาสีบางอย่างมาทาหน้าไว้ปกปิดว่าหน้าตาที่แท้จริงเป็นยังไง
สีพวกนั้นต้องมีผลอย่างแน่นอนไม่งั้นแล้วคงไม่มีใครใช้สีนั้นทาใส่ตัวเอง ลู่หยวน ได้กลิ่นมันตั้งแต่ตำแหน่งที่เขายืนอยู่
ลู่หยวน เริ่มเดินต่อไปตอนเขารู้สึกได้ถึงออร่าที่แข็งแกร่งที่พรั่งพรูออกมา
เขาเดินเข้าไปต่อและไม่นานก็พบกับบางอย่างอยู่ที่มุมของหมู่บ้าน – “ สัตว์กลายพันธุ์ระดับสีฟ้าเข้ม ! มีสัตว์กลายพันธุ์ระดับสีฟ้าเข้มอยู่ที่นี่ด้วย ! “
มันคือสัตว์ที่คล้ายกับสิงโตสีแดงที่ดุร้ายแต่ตัวใหญ่กว่าและดูกล้าหาญยิ่งกว่าสิงโต แม้ว่ามันจะนอนอยู่แต่มันก็สูงถึง 3 ม. ขนของมันนั้นอย่างกับลูกไฟที่กำลังลุกไหม้
หูของมันบิดไปมาและมันก็ได้ยืนขึ้นพร้อมกับลืมตาขึ้นเพื่อมองมาที่ ลู่หยวน พร้อมกับที่เขาเดินเข้าไปหามัน
มือของ ลู่หยวน ค่อยเอื้อมไปที่ดาบของตัวเองในตอนที่เขาค่อยๆถอยหลังช้าๆ
เขาไม่อยากเริ่มการต่อสู้ใดๆ สัตว์กลายพันธุ์นี่ชัดแล้วว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของใครบางคน มันจะถือเป็นภัยพิบัติของทั้งหมู่บ้านถ้ามันบาดเจ็บรึถูกฆ่า
สิ่งมีชีวิตนี้ไม่ได้เข้าโจมตี สายตามันแสดงความสับสนออกมาในตอนที่จ้องมาที่ ลู่หยวน โดยไม่ได้ลงมืออย่างอื่น
ทันใดนั้นหางมันก็แกว่งไปมาด้วยความดีใจ ความลังเลในตาของมันก็ได้หายไปด้วย
ในตอนที่ ลู่หยวน มองมันอยู่ สิ่งมีชีวิตนั้นได้เดินเข้าไปที่เตนท์ซึ่งอยู่ด้านซ้ายและหยุดตรงทางเข้า มันได้ก้มหัวเข้าไปในเตนท์และหอนออกมาเบาๆ ไม่นานหลังจากนั้นผู้หญิงที่มีสีทาที่หน้าก็ตามสัตว์กลายพันธุ์ออกมา