หน้าแรก > Epoch of Twilight
ตอนที่ 138: สิ่งตกค้างจากระเบิดนิวเคลียร์

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 138: สิ่งตกค้างจากระเบิดนิวเคลียร์

 

ฝนหยุดแล้วแต่น้ำนั้นยังไม่ได้หายท่วม

ความอันตรายยังคงมีอยู่ใต้น้ำสกปรกนี่ ดังนั้นมีนจึงชัดเจนแล้วว่าพวกเขายังเดินทางไม่ได้แต่อารมณ์ของทุกคนดูจะดีขึ้นพร้อมกับสภาพอากาศเองก็ด้วย  แม้แต่ ลู่หยวน  ก็ไม่ได้ทำตัวเหินห่างและเขาเองก็ขออาสาออกไปหาอาหารเองด้วย

จริงๆแล้วยังมีแหล่งอาหารมากมายในป่าตราบใดที่คุณสนใจและบอกได้ว่ามันเป็นพิษหรือไม่

ลู่หยวน เจอพืชพันธุ์มากมาย น้ำต้นไม้บางต้นนั้นหวานอย่างกับนมวัว ผลไม้ป่าและแม้แต่สัตว์ป่าตัวโต

มันทำให้เขาทั้งแปลกใจและดีใจ

เขาแปลกใจเพราะน้ำที่ท่วมนี้ไหลเชื่อมไปทั้งแม่น้ำและแอ่งน้ำทำให้มีน้ำนี่นั้นอันตรายอย่างมากและเขาดีใจเพราะปลาระดับสีฟ้านี้มีขนาดตัวมหึมา มันทำให้พวกเขาอยู่ได้จนกว่าน้ำจะไหลออกไปหมด

ลู่หยวน ลากปลาตัวโตกลับไปที่รูต้นไม้ ต้นไม้ต้นนี้โดนสูบพลังงงานหมดแล้ว ใบไม้ของมันนั้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในเวลาแค่คืนเดียว

เขาสับปลาออกเป็นหลายชิ้นเพราะขนาดของมันนั้นใหญ่เกินไปที่จะเข้าไปรูนั่นได้

เมื่อเห็นว่าเขากลับมา ทุกคนก็ออกมาช่วย พวกเขาแบกปลาเอาไปเก็บไว้ที่มุมหนึ่ง กองกันสูงกว่าหนึ่งเมตร   ลู่หยวน เก็บหนังปลาเอาไว้เพราะมันบางและยังยืนหยุ่นได้มากกว่าหนังสัตว์ทั่วไปและมันยังเหมาะกับการใส่น้ำและของอื่นๆด้วย

หวงเจียฮุย และ เกาหลิง นั้นออกไปเก็บฟืนและเริ่มก่อไฟขึ้นมา พวกเขาไม่กังวลว่าจะเผาต้นไม้ตั้งต้นเพราะรูนั้นยังคงชื้นจากฝนก่อนหน้านี้อยู่

โฮวตง ก็เอาไม้จากต้นไม้ออกมาและใช้มันเพื่อเผาเนื้อปลาเหล่านั้น กลิ่นและเสียงของเนื้อปลาที่โดนไหม้นั้นกระตุ้นความอยากอาหารของทุกคนขึ้นมา

หวงเจียฮุย เอาน้ำต้นไม้ให้ทุกคนคนละแก้วเพื่อให้เขาพักผ่อนสบาย

น้ำที่สดใหม่นั้นเอาให้ทุกคนจิบแทนที่จะกระดกลงไป  ผลไม้เองก็รสชาติดี สัมผัสของมันทำให้คนรู้สึกราวกับกินข้าวอยู่

ทุกคนต่างก็กินเยอะอย่างมากหลังจากที่อดอยากมานา แม้แต่ หวังซีซี เองที่ปกติกินน้อยก็ยังกินมากกว่าเดิมสามเท่า

ลู่หยวน กินเนื้อปลาไปมากกว่า 10 ชุดเพื่อทดแทนส่วนที่ไม่ได้กินมาหลายวันก่อน คิดจากร่างกายของเขาแล้ว เขาไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป เขาสามารถอยู่ได้โดยไม่กินอะไรได้หลายวันแต่การนั่งอย่างเดียวอาจกินพลังงานหลายวันไปเลยก็ได้

เมื่อเวลาผ่านไปอาการบาดเจ็บของทุกคนก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลังจากผ่านมาสามวัน น้ำที่ท่วมอยู่ก็ได้หายไปเหลือแต่โคลนอยู่ทุกที่  บางที่ยังมีปลากลายพันธุ์ดิ้นอยู่เลยก็มี

หวงเจียฮุย เช็คของพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอหยุดเช็คเมื่อมั่นใจว่าไม่ได้ทิ้งอะไรไว้

พวกเขาไม่ได้เอาของติดตัวไปมาก แค่น้ำ ผลไม้ไม่กี่สิบชุดที่ใส่ไว้ในหนังปลา, เนื้อปลาประมาณสิบชิ้น แบ่งออกเป็นชุดละชิ้น , ไฟแช็คสามอัน, อาวุธส่วนตัวและกระสุน, เสื้อผ้าที่สะอาดแต่ขาดแล้วซึ่งแม้แต่ขอทานก็ยังไม่อยากใส่

นั่นแหละคือทุกอย่าง

ลู่หยวน แบกเป้ของตัวเองซึ่งมีเนื้อประมาณ 10 ชุดที่เขาเพิ่งทำมาก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะกระโดดลงจากต้นไม้ เขาได้ดึงดาบออกมา ดาบที่ซึ่งเคยแทงลงไปในต้นไม้มาก่อน

คนที่เหลือขึ้นไปยังบนกิ้งก่ายักษ์แล้วค่อยๆวางพรมลงบนหลังของมัน

พวกเขาไม่ได้อยู่เฉยๆในหลายวันที่ผ่านมา หลังของกิ้งก่าตอนนี้ปูไปด้วยพรมที่ทำขึ้นมาจากหวาย ดังนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะลื่นตกลงไปอีก

มันคำรามออกมาและค่อยๆเริ่มเดินหน้าช้าๆ

พวกแมลงมีอยู่แทบทุกที่เมื่อน้ำลดลง  แมลงเหล่านี้ตัวเล็กยิ่งกว่าข้าวแต่บินมาเป็นกองทัพคล้ายกับหมอกที่พรั่งพรูออกมา พวกมันไม่กล้าบินเข้าใกล้ ลู่หยวน แต่มันก็ยังโดนฆ่าอยู่ดีถ้าบินช้าเกินไป

ลู่หยวน เห็นทุกอย่างเหมือนเดิมในตอนที่พวกเขายังอยู่ในรูต้นไม้  พวกเขาได้ทำขึ้นมาตรงทางเพราะห่วงเรื่องอากาศหายใจแต่ไม่มีแมลงแม้แต่ตัวเดียวที่สามารถบินเข้าไปได้

แมลงนั้นไม่ได้พยายามหลบเขารึกิ้งก่าแต่มันหลบดาบของเขา

เนื่องดาบนั้นได้พัฒนาจนอยู่ในระดับสีเขียว ดาบนั้นจึงเปล่งออร่าอันแข็งแกร่งออกมา

แต่ออร่านั้นยังคงอ่อนแรงอยู่ คนธรรมดาจะรู้สึกถึงมันได้ตอนที่โดนฟันแต่มันแตกต่างกับพวกแมลง  สิ่งมีชีวิตอ่อนแอเหล่านี้รู้ว่าเป็นภัยสำหรับมันเอง  ดังนั้นแมลงปกติจึงไม่กล้าที่จะมาเข้าใกล้พวกเขา

หลังจากเดินทางมาได้ครึ่งชั่วโมงต้นไม้ก็เริ่มน้อยลงเรื่อยจนทำให้เห็นท้องฟ้า มันยังคงดูน่าขนลุกอยู่  เมฆที่ลอยล่องอยู่ด้านบนและพระอาทิตย์ที่ซ่อนตัวอยู่หมอกภูเขาไฟอยู่หลายวันแต่ตอนนี้การปะทุของภูเขาไฟได้หยุดลงแล้ว

แต่มันไม่ได้หยุดความน่ากลัวไว้แค่นั้น

“ ในที่สุดเราก็ออกมาได้ “ – โฮวตง พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“ ฉันคิดว่าเราจะออกจากป่าโดยใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที “ - เกาหลิง พูดพร้อมกับยิ้มออกมา

“ ฉันต้องหาเตียงกับผ้าห่มและนอนหลับบ้าง  ความหนาวนั่นทำให้ฉันตื่นทั้งคืนเลย “ - หวังซีซี พูดเสียงหวานออกมา

หวงเจียฮุย ยิ้มออกมา เด็กสาวนี่ทนทรมานกับการนอนข้างนอกอยู่หลายวันโดยไม่ได้อาบน้ำรึแม้แต่แปรงฟัน  ต้องขอบคุณที่มันจบสักที  แนวป้องกันที่อยู่บนไฮเวย์ต้องมีผ้าห่ม,เตียงและของใช้ส่วนตัวอยู่แน่

พวกเขาคุยกันตามทางไปเรื่อยๆแต่รอยยิ้มนั้นเกือบจะเลือนหายไปจากใบหน้าแล้ว

ต้นไม้นั้นน้อยลงในตอนที่เดินลึกเข้าไปแต่พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างแปลก ต้นไม้พวกนี้บิดเบี้ยวและมีใบไม้น้อยกว่าต้นไม้ปกติ ใบไม้ส่วนมากนั้นร่วงลงมาแล้วด้วยทำให้ต้นไม้นั้นดูผิดปกติจากที่เคย

โครงกระดูกของสัตว์กลายพันธุ์มีให้เห็นตามทางอยู่เรื่อยๆ ส่วนมากครึ่งตัวของโครงกระดูกเหล่านั้นโดนฝังอยู่ในโคลนแต่ในตอนที่พวกเขาเดินหน้าต่อไปก็เจอกับพวกโครงกระดูกเล็กขึ้นมาแทน

ดูเหมือนจะมีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่

ลู่หยวน คนที่ซึ่งนิ่งกว่าใครไม่ได้แปลกใจกับอะไรง่ายๆ ตราบใดที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่สูงกว่าระดับสีเขียวโผล่ออกมา เขาก็ไม่ต้องกลัวอะไร  เขาไม่ได้สั่งให้กิ้งก่าหยุดเดินแม้ว่าจะรู้สึกบางอย่างแปลกไปนิดหน่อย  เส้นทางนี้คือเส้นทางที่ใกล้ไฮเวย์มากที่สุด ถ้าพวกเขาต้องเดินอ้อมจะเสียเวลาไปมากกว่านี้

ประมาณ 10 นาทีต่อมาต้นไม้เริ่มมีรูปร่างเดียว ต้นไม้ที่ตายแล้วมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีแค่ไม่กี่ต้นที่ยังคงมีชีวิตอยู่  แม้ว่าจะดูแปลกก็เถอะ พวกมันไม่มีใบไม้และกิ่งของมันก็ดูเหมือนกงเล็บอันน่ากลัวที่ดิ้นไปมาอยู่บนอากาศ

บรรยากาศตอนนี้ทำให้นึกคถึงความตายและรอบข้างที่นี่ก็เงียบสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงของแมลงให้ได้ยิน ทุกคนรู้สึกว่าอย่างกับตัวเองกำลังเดินทางไปนรกอยู่

กิ้งก่ายักษ์เองก็รู้สึกบางอย่าง มันพ่นควันออกมาทางจมูกและดูเหมือนจะไม่เต็มใจที่จะเดินหน้าต่อ

หวงเจียฮุย อุทานออกมาเสียงสั่น – “ เดี๋ยว ! กลับไป นี่มันคือที่ที่เกิดระเบิดนิวเคลียร์ ! “

ลู่หยวน ช็อค – “ เธอหมายความว่าไง ? “

“ นายจำไมได้เหรอ ? มีระเบิดหลายลูกระบิดในป่ารอบๆเมืองเฮดง ฉันกลัวว่ามันคือที่นี่แหละ “ - หวงเจียฮุย พูดขึ้นด้วยความกังวล

หน้าของทุกคนซีดเผือดพร้อมกับมองไปรอบๆด้วยความกลัว

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงเงียบนัก ต้นไม้ก็มีรูปร่างแปลกๆเพราะระเบิดพวกนั้น มันเป็นไปได้ที่จะยังมีรังสีปนเปื้อนที่นี่  ลู่หยวน ลูบหัวกิ้งก่าและให้สัญญาณให้มันกลับหลังไปทางที่พวกเขาจากมา

“ เราอยู่ที่นี่มานานแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเรามั้ย ? “ – หวังซีซี  ถามออกมาด้วยความกังวล รูปของคนที่โดนสารพิษนั้นเป็นสิ่งที่เธอจำฝังใจ

“ ไม่ ร่างกายของเราแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก นอกจากนี้เรายังมาอยู่ที่นี่แค่สิบนาที เราจะไม่เป็นไร “ - หวงเจียฮุย พูดขึ้น  มันเหมือนกับการปลอบใจตัวเองมากกว่าคนอื่น – “ เห็นมั้ย ไม่ใช่ว่ายังมีต้นไม้ที่ยังไม่ตายอยู่เหรอ ? ”

“ แต่พวกมันดูแปลก ไม่ใช่ว่าพวกมันวิวัฒนาการเหรอ ? “ - หวังซีซี ถามออกมาด้วยท่าทีหนักใจ

หวงเจียฮุย เงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา – “ ไม่ พวกมันวิวัฒนาการไปแล้ว “

ทันใดนั้นตัวของ หวังซีกวง ก็สั่นซะจนเกือบตกลงจากหลังกิ้งก่า  ลู่หยวน รีบจับตัวเธอไว้และถามออกมา – “ เธอเป็นไรมั้ย ? “

หวังซีกวง ส่ายหน้าพร้อมกับตอบเสียงสั่น – “ ฉันแค่เวียนหัวนิดหน่อย “

“ ฉันด้วย ฉันอยากอ้วก “ - หวังซีซี พูดออกมาเบาๆ มือของเธอกุมเข้าที่เสื้อของ ลู่หยวน

ทุกคนดูเหมือนจะเจอปัญหาแล้ว พวกเขารู้สึกคล้ายๆกัน

“ ทนไว้อีกนิด เราจะออกจากที่นี่แล้ว “ - ลู่หยวน มองไปที่ทุกคนแล้วรู้สึกหนักใจ ดูเหมือนว่านอกจากเขาและ หลินเสี่ยวจี นั้นคนอื่นๆได้รับผลกระทบจากรังสีหมด แม้แต่ หวังซีซี เองก็โดนไปด้วย

ครั้งนี้รังสีนั้นแตกต่างจากครั้งที่แล้ว ตอนนั้นห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร จำนวนรังสีปนเปื้อนยังต่ำ ดังนั้นคนธรรมดาจึงรับมือได้สบาย  ครั้งนี้มันใกล้เกินไป

ต้นไม้ที่กลายพันธุ์นั้นแข็งแกร่ง ทำให้รังสีทำอะไรมันไม่ได้มาก  พวกต้นที่ตายนั้นก็เพราะอยู่ใกล้จุดระเบิดเกินไป

“ พี่ลู่ คุณช่วยหักกิ่งไม้ที่นี่ได้มั้ย ? “- เกาหลิง พูดขึ้นมาเมื่อมองไปที่ต้นไม้แปลกๆ

“ เธอจะเอากิ่งไม้ไปทำอะไร ? “ - ลู่หยวน ถาม

“ กิ่งไม้พวกนี้ไม่มีใบ รังสีดูเข้มข้นและไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นรอบๆ ต้นไม้พวกนี้ไม่ได้ใช้สิ่งมีชีวิตอื่นเป็นแหล่งอาหาร  ดังนั้นโอกาสที่มันจะดูดซับรังสีเลยสูง “ - เกาหลิง อธิบายพร้อมทำท่าทีตื่นเต้น

“ มันอาจเป็นไปได้ มีคำบอกว่า ‘ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีพิษ มันต้องมีวิธีรักษา “ – โฮวตง พูดตัดบทขึ้นมาเพราะรู้สึกได้ถึงความหวังเล็กน้อย

ลู่หยวน มองไปที่ต้นไม้รูปร่างแปลกๆและคิดไปตามคำพูดของ เกาหลิง ว่าบางทีอาจจะถูก  เขารีบพูดขึ้นมา – “ พวกนายรออยู่นี่ ให้ฉันไปเช็คดูก่อน “

เขากระโดดลงจากหลังกิ้งก่าและเดินเข้าไปในต้นไม้หนึ่งในพวกนั้น

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.