spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

เรื่องเช่นการกระอักเลือดเป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่ท่าทางของเหล็กคินที่ดูเครียดแค้นเลือดท่วมเป็นเรื่องตลกจริง ๆ ในสายตาของเจี้ยงเฉิน

แน่นอนการกระอักเลือดก็เป็นเรื่องหนึ่ง เหล็กคินไม่กล้าชักช้า เวลาไม่รอใคร

ถ้าเขาพลาดเวลาที่เหลืออีก 3 ชั่วยาม เจี้ยงเฉินจะยกใบมีดขึ้นมาและเริ่มสังหารทีละคน

หนึ่งต้องกล่าวว่าโชคชะตาของตระกูลเหล็กค่อนข้างน่าอัศจรรย์ เจี้ยงเฉินจะเรียกร้องค่าเสียหายที่น่าตกตะลึง เขาจะได้รับเงินทั้งหมดภายใน 3 ชั่วยาม

รายการเหล่านี้คงต้องใช้พื้นที่ของห้องลับ 3 ห้องในการจัดเก็บ

เจี้ยงเฉินเชิดชูรอยยิ้มเฉิดฉายหลังเก็บรายการสินค้า "ผู้อาวุโสเหล็กเป็นคนตรงไปตรงมา  ข้าหวังว่าจะมีโอกาสมากขึ้นสำหรับการทำการค้าที่เป็นมิตรเช่นนี้ในภายภาคหน้า "

ในภายภาคหน้า ?

เหล็กคินอยากจะฆ่าเจี้ยงเฉิน เขาพูดว่าในครั้งต่อไปงั้นหรือ ? เขาต้องการครั้งต่อไปหรือ ?

"เจ้าได้รับสิ่งที่เจ้าต้องการแล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่ปล่อยพวกเขาไปสักที?" เหล็กคินถามด้วยความโกรธอย่างเต็มที่

เจี้ยงเฉินหัวเราะเสียงดัง "ปล่อยพวกเขาไป ! "

คนที่อยู่ด้านหลังปล่อยให้เหล็กต้าฉีและซูยี่ออกมาเมื่อได้รับคำสั่งจากเจี้ยงเฉิน

เหล็กต้าฉีและซูยี่ต่างก็เหนื่อยกับการแสดงออกของตัวเอง และพวกเขาก็ยิ่งน่าอายมากขึ้นเมื่อได้เห็นเหล็กคิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กต้าฉีที่ร่างกายเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บและเขามีสภาพค่อนข้างน่ากลัว มีใบหน้าสีขาวซีด

เจี้ยงเฉินยืนอยู่ที่ประตูและยังคงสวมรอยยิ้มนิ่งเฉย เขาโบกมือให้เหล็กต้าฉี "ท่านเหล็กต้าฉี มาเยี่ยมข้าบ่อย ๆ ถ้าเจ้าไม่มีอะไรจะทำ"

เหล็กต้าฉีแทบจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ

เห็นได้ชัดว่าเจี้ยงเฉินต้องการกรรโชกสิ่งของเพิ่มเติมจากพวกเขาอีกครั้ง

เหล็กคินตัดสินใจที่จะฉีกหน้ากากแห่งความสุภาพเพราะว่าคนของเขาถูกปลดปล่อย เขาทำหน้าตาบูดเบี้ยว "เจี้ยงเฉิน อย่าคิดว่ามันจบแค่นี้ เจ้าต้องได้เจอกับตระกูลเหล็กอีกแน่! "

เหล็กคินได้รับคำตักเตือนจากพ่อของเขาไปแล้วและเขาก็ยังคงก้มหน้าอยู่ข้างใต้ความอัปยศอดสู ตอนนี้เขาเริ่มร่างแผนการในใจว่าจะแก้แค้นเจี้ยงเฉินได้อย่างไร?

"เจี้ยงเฉิน ถ้าเจ้ากล้าที่จะเข้าร่วมการคัดเลือก ตระกูลเหล็กของข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะตายอย่างอัปยศและน่ากลัว!" เจตนาฆ่าได้เพิ่มขึ้นสู่ท้องฟ้าภายในหัวใจของเหล็กคิน

…....

ตระกูลเหล็กทั้งสามรุ่นรวมตัวกันภายในห้องของตระกูล

มีเพียง 4 คนเท่านั้นที่อยู่ในห้องลับ

เหล็กหลง เหล็กคิน และเหล็กต้าฉีอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน รวมทั้งซูยี่ที่คอยให้บริการพวกเขา

การแสดงออกของเหล็กหลงแข็งตัวหลังจากฟังคำอธิบายของเหล็กต้าฉีและซูยี่ ดูเหมือนเขากำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง เขาถอนหายใจหลังจากนั้นสักครู่

"ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูสัตว์ยังถือว่าสัตว์ระดับวิญญาณเป็นสิ่งที่ยากที่จะฝึกให้เชื่องได้  เจี้ยงเฉินกลับสามารถบังคับให้พวกมันสู้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถฝึกให้พวกมันตั้งค่ายกล! น่าแปลกที่ชายวิปริตคนนั้นมาจากอาณาจักรสามัญ? นี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ! " เสียงของเหล็กหลงเต็มไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

"ท่านพ่อ ผายลมเน่าเหม็นเย่ชองหลิวหมกหมุ่นอยู่กับการเลี้ยงดูสัตว์วิญญาณเสมอมิใช่หรือ? เขาอาจจะสอนสิ่งที่เขาเรียนรู้ทั้งหมดให้เจี้ยงเฉิน? ไอ้เด็กชั่วช้านั่นน่าจะเป็นแค่เบี้ยลับของชายแก่ ท่านคิดยังไง? "  เหล็กคินจินตนาการให้ตัวเองฉลาดและเริ่มวิเคราะห์

“เป็นไปไม่ได้ !” เหล็กหลงส่ายหัวอย่างเด็ดขาด "ข้าคุ้นเคยกับความสามารถของเย่ชองหลิวมากกว่าทุกคน  ถึงแม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ในการเลี้ยงดูสัตว์วิญญาณ แต่เขาก็ไม่มีทักษะที่จะบังคับให้พวกมันก่อตั้งค่ายกล  เจี้ยงเฉินอาจจะบังเอิญโชคดีได้รับความรู้นี้จากคนอื่น! "

"บังเอิญได้รับมันหรือ?" เหล็กคินไม่ค่อยอยากจะเชื่อ "เขาเป็นเพียงคนธรรมดาจากอาณาจักรตะวันออก เขาจะไปบังเอิญโชคดีพบกับคนมีความรู้ในสถานที่ป่าเถื่อนเช่นอาณาจักรตะวันออกได้อย่างไร?"

เหล็กต้าฉีพยักหน้าเห็นด้วย "อาณาจักรตะวันออกเป็นอาณาจักรชั้นสามและไม่มีประโยชน์อะไรในการเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรทั้งสิบหก เจี้ยงเฉินมีโอกาสได้รับความโชคลาภแบบไหนกันเชียว? ท่านปู่ ในความคิดเห็นของข้า เจี้ยงเฉินเป็นเบี้ยลับที่เย่ชองหลิวแอบฝึกอบรม "

"จะยังไงก็ช่างมัน ... " เหล็กหลงถอนหายใจเบา ๆ "ต้าฉี ศักยภาพของเจ้ายอดเยี่ยม แสดงว่าความคิดของเจ้าอาจจะพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ การคัดเลือกคือโอกาสสำหรับเจ้า ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร มันก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเจ้า "

"โอกาส?"  เหล็กพูดซ้ำไปมา "ท่านพ่อ มีบางอย่างที่อยู่เบื้องหลังการคัดเลือกนี้หรือไม่"

เหล็กต้าฉียังมองไปยังเหล็กหลงด้วยการจ้องมองอย่างจริงจังและกระตือรือร้น

“หึม! ช่วงเวลาที่พวกเจ้าสร้างความวุ่นวายในราชอาณาจักรนภาจันทร์ กลุ่มบรรพบุรุษผู้อยู่ยงคงกระพันของนิกายเรียกตัวข้า ซี่เทียนชูและเย่ชองหลิวไปเพื่อหารือ ทั้งสี่นิกายกำลังเป็นเจ้าภาพในการคัดเลือกครั้งนี้ร่วมกัน เกณฑ์การคัดเลือกคราวนี้สูงกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์ นิกายแต่ละกลุ่มจะเลือกสาวกชั้นสูง 4 คนเพื่อสร้างกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดสิบหกคนจากทั้งสี่นิกาย "

"คนที่แข็งแกร่งที่สุด 16 คน?" เหล็กคินกระพริบตา "พวกเขาจะได้รับอะไรเป็นพิเศษหลังจากได้รับการคัดเลือก?"

"สิบหกคนเหล่านี้จะได้รับการฝึกพิเศษจากบรรพบุรุษ ! พวกเขาจะได้รับทรัพยากรหลักและความรู้ที่มีค่าที่สุดของนิกาย "

"อะไรนะ?" เหล็กต้าฉีรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก "ได้รับการฝึกอบรมพิเศษจากบรรพบุรุษ '?"

"ถูกต้อง  การฝึกพิเศษที่ไม่เกี่ยวกับทฤษฎี มันเป็นการฝึกอบรมตัวต่อตัวจริง ๆ! มันจะไม่เป็นการพูดเกินจริงที่จะกล่าวว่าพวกเขาจะกลายเป็นสาวกที่แท้จริงของบรรพบุรุษ เป้าหมายคือการเร่งระดับการฝึกฝนให้ก้าวไปสู่อาณาจักรต้นกำเนิด! "

เสียงของเหล็กหลงเต็มไปด้วยความชื่นชมและความปรารถนาเมื่อคำพูดของเขาหยุดลงที่จุดนี้

อาณาจักรต้นกำเนิด! เขาใช้ชีวิตมาหลายปีแล้ว แต่เขายังไม่ประสบความสำเร็จไปถึงอาณาจักรต้นกำเนิด เขาไม่มีความหวังที่จะวางเท้าสู่อาณาจักรต้นกำเนิดในชีวิตนี้

อาณาจักรต้นกำเนิดเป็นสิ่งที่เหล็กหลงเสียดายมากที่สุดในชีวิตของเขา

ดังนั้นเขาต้องการที่จะวางความหวังนี้ไว้ในหลานชายของเขา

"ต้าฉี เจ้าอาจจะสามารถกลายเป็นสิบอันดับแรกของเหล่าสาวกที่มีพรสวรรค์ของนิกายพฤกษาสวรรค์ แต่มันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าที่จะกระโดดเข้าสู่สี่คนแรก ดังนั้นข้าจะฝึกเจ้าเป็นพิเศษในอีกสองสามวัน! ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถให้เจ้าได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสี่อันดับแรกในการแข่งขันรอบสุดท้าย "

"ท่านปู่ แม้ว่านิกายมีอัจฉริยะหลายคน ข้ามั่นใจว่าข้าจะเป็นหนึ่งในสี่อันดับแรกถ้าสามารถเข้าสู่จุดสูงสุดของอาณาจักรปราณจิตวิญญาณปฐพีระดับที่ 6 ได้" เหล็กต้าฉีมั่นใจมาก

"ถูกต้อง ในนิกายมีเพียง 3 คนเท่านั้นในอาณาจักรปราณจิตวิญญาณระดับที่ 6 ในบรรดาสาวกหนุ่ม ถ้าเจ้าสามารถตัดผ่านไปถึงระดับที่ 6 ได้ และกลายเป็นอาวุธพิฆาตของตระกูลเหล็ก จะไม่มีปัญหาใด ๆ ที่เจ้าจะไปถึงสี่อันดับแรก "

เห็นได้ชัดว่าเหล็กหลงเรียกประชุมครั้งนี้ด้วยแผนการ "การฝึกพิเศษที่ข้ามอบให้เจ้าในครั้งนี้ก็มุ่งเน้นไปที่การตัดผ่านสู่อาณาจักรปราณจิตวิญญาณระดับที่ 6  เพิ่มด้วยทักษะลับของตระกูลและสมบัติล้ำค่าบางอย่างที่เป็นมรดกสืบทอดกันมา ข้าจะรู้สึกผิดหวังอย่างแท้จริงหากเจ้าไม่ได้เป็นหนึ่งในสี่อันดับแรก ทั้ง ๆ ที่เจ้าได้รับทรัพยากรอันมากมาย ต้าฉี"

ทักษะลับของตระกูลและสมบัติที่เป็นมรดกตกทอดกันมา สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความอิจฉาริษยาเพิ่มขึ้นในหัวใจของเหล็กคิน

เขาต้องการสิ่งเหล่านี้เมื่อตอนที่ยังหนุ่ม แต่พ่อของเขา เหล็กหลงให้ความสนใจส่วนใหญ่ในการเลี้ยงดูลูกชายคนโตของเขา ศักยภาพของเหล็กคินและความคิดของเขาด้อยกว่ากว่าพี่ชาย

เมื่อพี่ชายของเขา เหล็กหยงได้บังเอิญได้เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุ ในความเสียใจเหล็กคินก็มีความสุขเล็กน้อย  เขารู้สึกว่าเมื่อไม่มีพี่ชาย มรดกของตระกูลก็จะตกเป็นของเขา

อย่างไรก็ตาม วันนี้เขาได้ค้นพบว่าเขาคิดผิด

พ่อของเขาได้ข้ามเขาไปปลูกฝังคนรุ่นต่อไป ลูกชายของเหล็กหยง!

พ่อของเขาได้ประกาศต่อหน้าเขาว่าจะส่งต่อสมบัติของตระกูลและทักษะลับให้กับเหล็กต้าฉี !

หัวใจของเหล็กคินรู้สึกทุกข์ทรมานราวกับถูกงูพิษกัด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าเขาไม่รู้สึกอิจฉา!

อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์จะอิจฉา เขาได้ทำให้ความคาดหวังของพ่อของเขาลดลงหลายครั้ง

ถ้าเขายังไม่รู้จักสถานะของตัวเอง เขาอาจถูกถอดสิทธิ์ในการเป็นผู้ช่วยของเหล็กต้าฉีและเขาจะไร้อำนาจ กลายเป็นผู้อาวุโสหุ่นเชิด

สายตาของเหล็กหลงเลี้ยวไปทางด้านข้างเล็กน้อยขณะที่เขาขึงตาโหดเหี้ยมไปยังใบหน้าของเหล็กคิน

เหล็กคินไม่สามารถต้านทานได้ หัวใจของเขาเต้นอย่างบ้าคลั่ง เมื่อพ่อของเขาทำให้เขากดดันเขาด้วยท่าทางนี้

"เหล็กคิน เจ้ามีความคิดอะไรบ้างเกี่ยวกับการจัดเตรียมของข้า?" เสียงของเหล็กหลงฟังดูห่างเหิน

เหล็กคินหายใจเข้าลึก ๆ และตอบอย่างสุจริตว่า "ท่านพ่อ ข้าสนับสนุนการตัดสินใจของท่าน ทุกอย่างเป็นเพราะว่าข้าอ่อนแอตอนที่ยังหนุ่มและข้าพลาดช่วงเวลาที่สำคัญไปแล้ว ต้าฉีเป็นอัจฉริยะที่ยังหนุ่มและเราก็ควรจะใช้พลังทั้งหมดของเราในการอบรมดูแลเขา ข้าอาจโง่ แต่ข้าก็ยังเข้าใจเหตุผลนี้อยู่"

“อืม ดีแล้วที่เจ้าเข้าใจ. เจ้ายังมีข้อได้เปรียบบางประการ เจ้ายังไม่แก่ เจ้าอาจจะก้าวสู่อาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภาในชีวิตนี้ แต่คงไม่ทีโอกาสเป็นเทพวิญญาณได้ แตกต่างกับต้าฉี เขาอายุน้อยกว่า 30 ปีและเขาก็มีคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว นี่เป็นพยานถึงจุดแข็งของศักยภาพของเขา ถ้าเขาสามารถตัดผ่านสู่อาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภาได้ในเวลานี้ เขาจะมีศักยภาพที่จะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในอนาคต ต้าฉีคือทายาทที่จะสืบทอดตระกูลเหล็กของข้า"

เลือดในร่างกายของเหล็กต้าฉีเริ่มเดือดเมื่อเขาได้ยินคำเหล่านี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการยอมรับทางวาจาโดยตรงจากปู่ของเขา!

นั่นหมายความว่าบทบาทของเขาในฐานะหัวหน้าตระกูลเหล็กคนต่อไปได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ!

ถึงแม้เหล็กคินจะอิจฉา แต่เขาก็ต้องยอมรับชะตาชีวิตของตัวเอง เขารู้ดีว่าเขาไม่ได้มีอะไรเทียบกับเหล็กต้าฉีได้

อายุเป็นข้อเสียร้ายแรงของเขาโดยเฉพาะ

"ต้าฉี อย่าหยิ่งผยองมากจนเกินไป อย่าลืมว่าในฐานะเป็นอัจฉริยะของนิกาย เจ้าเพิ่งจะพ่ายแพ้ให้กับคนจากอาณาจักรสามัญ นี่จะเป็นมลทินในชีวิตของเจ้าและมันจะกลายเป็นปีศาจภายในที่เจ้าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ข้าหวังว่าเจ้าสามารถเปลี่ยนความอัปยศไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริงและมั่นคงด้วยตัวเอง ตัดสิ่งไร้สาระทั้งหมดออกและก้าวสู่เส้นทางแห่งอัจฉริยะ แม้ว่าเด็กธรรมดาอย่างเจี้ยงเฉินอาจโชคดีได้เจอคนที่เก่งกาจ แต่รากฐานและศักยภาพของเขาก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับเจ้าเลย เขาไม่มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับเจ้า เจ้าไม่สามารถปล่อยให้เขากลายเป็นอุปสรรคในเส้นทางของเจ้าในฐานะอัจฉริยะ เจ้าเข้าใจหรือไม่? "

แสงไฟที่แหลมคมออกมาจากดวงตาของเหล็กต้าฉีขณะที่เขาดูเหมือนจะคิดถึงบางสิ่งและเข้าใจอะไรบางอย่างด้วย

"ข้าเข้าใจ ท่านปู่ เจี้ยงเฉินทำให้ข้าต้องอับอายขายหน้า ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะข้าไร้ไหวพริบ กลอุบายและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ถ้าข้าควบคุมตัวเองได้ดีกว่านี้และไม่ได้ติดกับลงไปในหลุมพรางของเขา ข้าก็คงไม่เป็นแบบนี้ ข้าจะให้เหตุการณ์นั้นเป็นข้อระวังและเตือนสติตัวเองตลอดเวลา ข้าจะฆ่าเจี้ยงเฉินระหว่างการคัดเลือกและกวาดล้างปีศาจภายในตัวนี้ ! "

"ดี นี่เป็นสิ่งที่ข้าคาดหวังสำหรับเจ้า" เหล็กหลงยิ้มจาง ๆ  เขายังค่อนข้างพอใจกับความสามารถในการเข้าใจของเหล็กต้าฉี

"เอาล่ะ ต้าฉี เจ้าเป็นอัจฉริยะของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงไม่ต้องเข้าร่วมในรอบแรก ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากเวลานี้เปลี่ยนแปลงเจ้าได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เจ้าสามารถเอาชนะทุกคนด้วยการกระทำที่สวยงามในรอบที่ 2 ! "

เหล็กหลงเต็มไปด้วยความมั่นใจและความหวัง

เขาไม่ได้กล่าวถึงความสูญเสียที่ตระกูลได้รับในการจ่ายค่าไถ่ในครั้งนี้ เหล็กหลงตระหนักดีว่ายิ่งเขาหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ นี่จะกลายเป็นแรงจูงใจของเหล็กต้าฉี!

มุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญหลังจากประสบความอัปยศอดสู เป็นประสบการณ์ที่อัจฉริยะจำเป็นต้องประสบ