หน้าแรก > ราชันสามภพ
บทที่ 271 โอกาสในการรีดไถ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

เจี้ยงเฉินไม่สนใจข้อตกลงที่ซูยี่และเหล็กต้าฉีกำลังเสนอ ความคิดเดียวของเขาตอนนี้คือการส่งทั้งสองไปสู่สุขคติ

ลูกศรของเขากำลังจะถูกปลดปล่อยด้วยความคิดแบบนั้น

เสียงเบาดังขึ้นในอากาศในขณะนี้ "เจี้ยงเฉิน ช้าก่อน!"

เสียงนี้ดังขึ้นและแผ่กระจายไปในอากาศเช่นเสียงกลองหรือเสียงระฆังใหญ่

หืม?

หูของเจี้ยงเฉินกระตุกขณะที่ทักษะนัยน์ตาของพระเจ้ากำลังจ้องมองไปในระยะไกล เขาเห็นแสงสีเขียวกระพริบออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าและเขาเห็นเย่ชองหลิวนั่งอยู่บนมังกรไวเวิร์น

ถ้าเป็นใครคนอื่นแม้แต่ราชาแห่งอาณาจักรนภาจันทร์ เจี้ยงเฉินก็คงจะไม่ขมวดคิ้วในขณะที่กำลังจะปล่อยพลังทำลายล้าง

เย่ชองหลิวเป็นข้อยกเว้นอย่างเดียว

เจี้ยงเฉินสามารถหักหน้าทุกคนภายในราชอาณาจักร แต่เขาต้องแสดงความเคารพและให้เกียรติท่านอาจารย์

เขาใช้นิ้วดึงคันธนูไว้และเขาไม่ทันได้ยิงลูกศรออก แต่เขาก็ไม่ได้เก็บลูกศรใส่ซองไว้เช่นกัน

กองทัพนกหงส์ที่อยู่ข้างใต้เขายังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมและคอยระมัดระวังอยู่

"ท่านอาจารย์ ท่านทำอะไรที่นี่?" เจี้ยงเฉินไม่รู้มาก่อนว่าท่านอาจารย์ได้รีบกลับออกมาจากนิกาย เขาคิดว่าชายชรากลับมาจากคฤหาสน์ของเขา

ท่านอาจารย์ยิ้มบูดเบี้ยว"ข้าได้ยินจากแหล่งข่าวภายในนิกายว่าตระกูลเหล็กแอบส่งคนเข้าเมืองหลวงเพื่อก่อให้เกิดปัญหาบางอย่างเมื่อข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าเดาว่าพวกเขาอาจจะมาหาเรื่องเจ้า ข้าจึงรีบกลับมา ข้าไม่คิดว่า ...  ”

ท่านอาจารย์ยังตกใจมาก เขารีบกลับมาเพราะเกรงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจี้ยงเฉิน

ความจริงแล้วไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเจี้ยงเฉินเลย เขาไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ

คนที่ตกอยู่ในอันตรายคือคนที่เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะของนิกาย เหล็กต้าฉี !

ท่านอาจารย์เกือบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเขาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า

เขารู้ว่าเจี้ยงเฉินแข็งแกร่งและมีศักยภาพที่ดี เมื่อเขาได้เห็นวิธีการของเจี้ยงเฉินอย่างแท้จริงแล้ว เขาก็ตระหนักว่าเขาประเมินความสามารถของเด็กคนนี้ต่ำไป

แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาได้สรรเสริญหนุ่มคนนี้แล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ เขาประเมินผิดไปในท้ายที่สุด

อัจฉริยะอาณาจักรปราณจิตวิญญาณปฐพีระดับ 5 อีกคนระดับ 4 และกลุ่มสาวกผู้ฝึกฝนอาณาจักรปราณจิตวิญญาณได้ถูกบังคับให้เข้าสู่สถานการณ์ที่หมดหวังที่หน้าประตูคฤหาสน์เจี้ยง และพวกเขาอาจถูกทำลายได้ทุกเมื่อ!

ถ้าเขาไม่เห็นด้วยตาของเขาเอง ท่านอาจารย์จะไม่เชื่อเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ภาพตรงหน้าทำให้เขาเชื่อสิ่งที่เห็น

เขาระงับความตกใจที่กระแทกในหัวใจของเขาและเขามาถึงด้านบนของค่ายกล สายตาของเขาห่างเหินขณะที่เขามองไปยังเหล็กต้าฉีและซูยี่ที่ติดอยู่ในค่ายกลเหมือนสัตว์

ใบหน้าของซูยี่ข่มขื่นเมื่อเขาเรียกว่า "ท่านอาจารย์เย่ ... "

"หึ หึ ! ข้าคิดว่าสาวกของนิกายทุกคนมีดวงตาอยู่บนศีรษะและไม่สนใจชายแก่อย่างข้าคนนี้ เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ? "

ซูยี่รู้ว่าท่านอาจารย์กำลังพูดตรงกันข้ามและเขาพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบมาพากลว่า "ชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของท่านอาจารย์เป็นที่รู้จักทั้งภายในและภายนอกนิกายดั่งเช่นฟ้าร้องก้องหูของเรา"

"เช่นนั้นรึ?"  ท่านอาจารย์พ่นลมทางจมูก. "ฟ้าร้องก้องหูของเจ้ารึ? ข้าไม่คิดอย่างนั้น ! ชายชราคนนี้เคยบอกว่าข้ามองเจี้ยงเฉินเป็นเหมือนหลานชาย ใครก็ตามที่ต่อต้านเขาก็เท่ากับว่าต่อต้านข้าด้วย ข้าเดิมพันว่าเจ้าไม่ได้ใส่ใจกับคำเหล่านั้นเลยและปฏิบัติต่อมันอย่างสายลมที่พัดผ่านหูใช่หรือไม่ "

"เราจะไม่กล้า ... จะไม่กล้าทำเช่นนั้นเลย!" ซูยี่หัวเราะเสียงแห้ง "เรามาสืบสวนเกี่ยวกับการตายของประมุขวิหารอุดรครามสวรรค์ เราไม่คิดว่าความขัดแย้งจะเลยมาจนถึงจุดนี้ "

"นั่นหมายความว่าข้ากล่าวหาเจ้าโดยไม่จำเป็นหรือ?" เสียงของท่านอาจารย์เย็นชา

"ไม่ ไม่ใช่ เราเองที่ผิดที่ปล่อยให้มันเลยเถิด เราหุนหันพลันแล่นมากเกินไป และเราไม่ได้สื่อสารกับเจี้ยงเฉินอย่างถูกต้อง " บุคคลหนึ่งต้องอ่อนน้อมเมื่อพวกเขาอยู่ใต้หลังคาของคนอื่น

“ขี้ขลาด”  ดวงตาของเย่ชองหลิวจู่ ๆ ก็เปิดกว้างขึ้นขณะที่เขาข่มขู่ว่า "นิกายพฤกษาสวรรค์ที่ชอบโอ้อวดผลิตคนขี้ขลาดเช่นเจ้าออกมาได้ยังไง? เจ้าคิดว่าข้าแก่หง่อมสินะ?! เจ้ากำลังโกหกทั้ง ๆ ที่ตาเปิดกว้างงั้นรึ? พวกเจ้ามาสืบสวนการตายของประมุขวิหารอุดรครามสวรรค์? เป็นข้ออ้างที่ชอบธรรมมาก อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ทันว่าเจ้าได้ใช้ช่องว่างในช่วงเวลาที่ข้าไปเยี่ยมเยียนนิกายเพื่อที่จะมายังเมืองหลวง พวกเจ้าแค่คิดไม่ถึงว่าพละกำลังของเจ้าจะอ่อนแอกว่าเจี้ยงเฉินและกลับเป็นฝ่ายต้องเหยียบเท้าตัวเอง "

ซูยี่พูดไม่ออก

เขารู้ว่าถ้าเขาถกเถียงกันต่อไปอีกในตอนนี้ เขาจะทำให้เย่ชองหลิวรำคาญมากยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้เขาเคยกลัวว่าเย่ชองหลิวจะมาปรากฏตัว แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าบางทีการปรากฏตัวของท่านอาจารย์ก็ไม่ได้แย่มากนัก

พวกเขาเคยกลัวมาก่อนเพราะพวกเขารู้สึกว่าพวกเขามั่นใจว่าจะได้ชัยชนะและพวกเขาต้องการที่จะต่อสู้อย่างรวดเร็วหลีกเลี่ยงความสนใจของเย่ชองหลิว

ตอนนี้เย่ชองหลิวได้มาปรากฏตัว เขารู้สึกว่าอาจจะมีร่องรอยแห่งความหวังในสถานการณ์อันสิ้นหวัง

ถ้าเย่ชองหลิวไม่ได้บอกให้เจี้ยงเฉินวางมือ ลูกศรนั้นคงจะบินไปแล้ว และเหล็กต้าฉีก็จะกลายเป็นซากศพที่ตายแล้ว

"ท่านอาจารย์ เหล่าคนชั่วไม่เคารพใครทั้งนั้น ! ถ้าเราไม่แสดงบทเรียนให้พวกเขาเห็นสักหน่อย พวกเขาจะยิ่งจองหองมากขึ้น! "

เจี้ยงเฉินขยับตัว ความตั้งใจที่จะสังหารบนใบหน้าของเขาก็ไม่ถดถอยลงแม้แต่น้อย

ซูยี่สั่นสะท้าน ตอนนี้เขากลัวเจี้ยงเฉินจริง ๆ เขากลัวยิ่งกว่าว่าท่านอาจารย์จะไม่ยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้และอาจจะสนับสนุนให้เจี้ยงเฉินทำลายพวกเขา

"เจี้ยงเฉิน มันง่ายมากที่จะฆ่าพวกเขา คนอย่างพวกเขามีให้เห็นมากมายในนิกาย เจ้าจะไม่สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ "

เย่ชองหลิวใช้สติของเขาเพื่อพูดให้เจี้ยงเฉินคิด เขากล่าวว่า "ตอนนี้การคัดเลือกใกล้เข้ามาเต็มที เหล็กหลงแห่งนิกายพฤกษาสวรรค์จะต้องมาจัดการเจ้าแน่หากเจ้าสังหารพวกเขา ข้าไม่ได้กลัวเขา แต่ถ้าเจ้าฆ่าหลานชายของเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะใช้อำนาจทั้งหมดที่มีรอบ ๆ ตัวในการจัดการเจ้า เขาอาจจะวางกับดักต่าง ๆ สำหรับเจ้าในการคัดเลือก ทำให้เจ้าไม่สามารถที่จะป้องกันตัวเองจากเขาได้ ! "

คิ้วของเจี้ยงเฉินโค้งขึ้นขณะที่เขาตอบแบบเดียวกันว่า "ถึงข้าจะไม่สังหารเหล็กต้าฉี ตระกูลเหล็กก็คงจะไม่ปล่อยให้ข้ามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายอยู่ดี เหล็กต้าฉีมีความคิดของแมงป่อง มันจะเป็นการปล่อยเสือเข้าป่า ถ้าข้าปล่อยเขาไป "

"ฮ่าฮ่า เจี้ยงเฉิน เหล็กต้าฉีและเหล็กคินจะสร้างปัญหาให้เจ้าแน่ถ้าเจ้าปล่อยเขาไป แต่อย่างน้อยเหล็กหลงก็จะไม่ตื่นตระหนก อำนาจของเหล็กคินและเหล็กต้าฉีมีข้อจำกัด และพวกเขาจะไม่ได้มีอิทธิพลมากมายหากพวกเขาวางกับดักให้เจ้าในการคัดเลือก "

ท่านอาจารย์โน้มน้าวเขาอย่างลับ ๆ ว่า "แน่นอนว่าความก้าวหน้าของอัจฉริยะไม่ควรถูกขัดขวาง เจ้าควรจะสังหารเมื่อเจ้าจำเป็น นี่คือความหมายที่แท้จริงของเต๋าศิลปะการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม ชายชราคนนี้รู้สึกว่ามันจะเป็นโอกาสสำคัญถ้าเจ้าไม่ได้สังหารพวกเขา "

"โอกาส?"  เจี้ยงเฉินงง

"ใช่โอกาส เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการรีดไถเงินจากตระกูลเหล็ก ! " ท่านอาจารย์เผยรอยยิ้มที่มีเล่ห์เหลี่ยม

รีดไถเงิน?

ความคิดของเจียงเฉินวิ่งตามขณะที่เขาเข้าใจความหมายของท่านอาจารย์

รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเจี้ยงเฉินในขณะนั้น รีดไถเงินจากพวกเขา ! นั่นเป็นข้อเสนอแนะที่เยี่ยมมาก

ในช่วงหลังมานี้เขาหัวเสียกับแหล่งวัตถุดิบของโอสถจิตวิญญาณหลายครั้ง

แม้ว่าเหล็กต้าฉีและซูยี่เป็นผู้ฝึกฝนอาณาจักรปราณจิตวิญญาณปฐพี ด้วยระดับการฝึกอบรมในปัจจุบันของเจี้ยงเฉิน เขาไม่จำเป็นต้องกลัวการแก้แค้นของพวกเขาไม่ว่าในสถานการณ์ใด

เขาสามารถสังหารได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

ถ้าพวกเขากล้าแก้แค้นในระหว่างการคัดเลือก เจี้ยงเฉินมีวิธีการมากมายที่จะทำลายพวกเขา

ถ้าเขาสังหารพวกเขาตอนนี้ เขาก็จะพอใจ แต่นอกเหนือจากการได้แก้แค้นอย่างคึกคะนอง ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์อื่นใดในเรื่องนี้

เจี้ยงเฉินเป็นคนปฏิบัติจริง เขาถูกล่อลวงเมื่อเขาได้ยินคำแนะนำของท่านอาจารย์

ใช่แล้ว ทำไมไม่ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการรีดไถตระกูลเหล็กให้หมดตัว?

พวกเขาอยู่ในมือของเขาแล้ว เขามีความสามารถมากพอที่จะทำข้อแลกเปลี่ยนกับตระกูลเหล็กโดยมีท่านอาจารย์คอยสนับสนุน ไม่ต้องพูดถึงว่า เขามีสาวกหอบังคับใช้กฎหมาย 16 คนที่อยู่ในกำมือเช่นกัน

ทุกคนได้รับบาดเจ็บ พวกเขายังไม่ตาย

เนื่องจากพวกเขายังมีชีวิตอยู่ เขาสามารถเรียกค่าไถ่จากพวกเขาทั้งหมดได้

"เจี้ยงเฉิน เหล็กหลงเป็นคนแรกที่ได้รับความนิยมมีผู้คนนับหน้าถือตามากมายและตระกูลเหล็กเป็นหนึ่งในสองตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในนิกายนี้ ประวัติศาสตร์ของพวกเขามีชื่อเสียงและฐานรากของพวกเขามั่งคั่ง พวกเขามีสมบัติมากมาย อย่าสุภาพเกินไป ขอค่าไถ่จากราชา เจ้าจับคนของเขาเป็นตัวประกัน ตระกูลเหล็กต่างหากต้องเป็นฝ่ายกังวล ตอนนี้เจ้าอยู่ถูกทางแล้ว อย่าปล่อยให้พวกเขากลับไป ถ้าตระกูลไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงของเจ้า ประมุขของนิกายก็จะมีข้ออ้างที่จะสร้างปัญหาให้กับตระกูลเหล็ก ถ้ามีคนเอาเรื่องนี้ไปกระซิบบอกเขา"

ท่านอาจารย์ระบุรายละเอียดแผนการโจมตีในบทสนทนาลับ

เจี้ยงเฉินรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับแผนการภายในของนิกายและเขารู้ว่าด้านในของนิกายไม่ค่อยเป็นปึกแผ่นอันเดียวกันดั่งที่เห็น ทั้งสองตระกูลที่ยิ่งใหญ่ตระกูลซี่และตระกูลเหล็กได้ต่อสู้กันอย่างปกปิดและเปิดเผยเพื่อควบคุมทรัพยากรของนิกายเกือบทั้งหมด

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ตระกูลเหล็กมีทรัพยากรที่มั่งคั่งและแน่นอนว่าเจี้ยงเฉินจะสามารถรีดไถจากพวกเขาได้มากพอควร

"ท่านอาจารย์ เหล็กต้าฉีมีความสำคัญยังไงต่อเหล็กหลง?" เจี้ยงเฉินถาม

"เขาเป็นหลานชายโดยตรงที่มีศักยภาพพิเศษ เจ้าคิดว่าเขามีสถานะใด? เขากำลังได้รับการปลูกฝังให้เป็นศิษย์ที่แท้จริงของตระกูลเหล็ก! "

ศิษย์ส่วนบุคคลก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่สุดยอด

ถ้าหากเป็นศิษย์ที่แท้จริงแล้ว เขาจะถูกยกให้เป็นทายาท แม้ว่าอาจจะมีมากกว่าหนึ่งคน เมื่อคนหนึ่งสามารถเป็นศิษย์ที่แท้จริงได้แล้ว เขาก็จะเป็นหนึ่งในเบี้ยที่มีมูลค่ามากที่สุด

เจี้ยงเฉินรู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้

"ตกลง" เจี้ยงเฉินพยักหน้าและเรียก "เหล็กต้าฉี ถ้าไม่ใช่เพราะหัวใจอันเมตตากรุณาของท่านอาจารย์ในวันนี้ คงจะยากที่เจ้าจะหลบหนีความตาย ! "

ใบหน้าของเหล็กต้าฉีซีดเผือด เขาไม่เคยคิดว่าวันนี้เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานและอับอายเช่นนี้ เขาไม่ได้ตายเพราะคนของนิกายมาช่วยเขา แต่เขาไม่ตายเพราะเย่ชองหลิวร้องขอความเมตตาให้กับเขา

เย่ชองหลิวเป็นคนที่ตระกูลหลงเกลียดมากที่สุด !

เหล็กต้าฉีพ่นลมออกทางจมูกด้วยความฉุนเฉียว เขาหัวเราะหนาวเหน็บในหัวใจของเขา เย่ชองหลิวยังคงกลัวปู่ของข้า เหล็กหลง มิฉะนั้นแล้ว ทำไมเขาถึงได้ขอร้องให้เมตตาข้า?

เขากลัวที่จะถูกจับและถูกตำหนิเกี่ยวกับเรื่องนี้!

เหล็กต้าฉียิ้มอย่างเย็นชาเมื่อความคิดของเขามาถึงจุดนี้ "เจี้ยงเฉิน ไม่ต้องใส่ใบหน้าที่น่าเกลียดของผู้ชนะ ยังไม่ได้ถูกตัดสินอย่างแน่นอนว่าใครเป็นผู้ชนะ ! "

ชายคนนี้คือเป็ดที่ปรุงสุกแล้ว ฝีปากกล้าเป็นสิ่งเดียวที่เขาเก่งกาจในตอนนี้ เขาอยากจะพูดจาจิกกัดหลังจากได้เห็นท่าทีของเจี้ยงเฉินที่ดูเหมือนจะนุ่มนวลลง เขาจึงกลับมาหยิ่งจองหองอีกครั้ง

ใบหน้าของซูยี่เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น เหล็กต้าฉี ท่านเสียสติไปแล้ว! ทำไมท่านอยากจะมีเกียรติศักดิ์ศรีในเวลาเช่นนี้?

จริง ๆ แล้วใบหน้าของเจี้ยงเฉินเริ่มแข็งทื่อและเขาก็เริ่มหัวเราะอย่างเย็นชา "ยังไม่ถูกกำหนด? ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะต่อสู้กันต่อไปจนกว่าจะมีคนเดียวที่มีชีวิตรอด! "

ซูยี่รีบพูดว่า "เจี้ยงเฉิน เราพูดไปแล้วว่านี่เป็นความเข้าใจผิด อย่าสู้กันต่อไปเลย "

เหล็กต้าฉีอาจจะปากไวไปแต่เขาไม่ใช่คนงี่เง่า เมื่อเขาเห็นว่าท่าทางของเจี้ยงเฉินดูเหมือนจะไม่นุ่มนวลลงเลย เขาก็ไม่กล้าพูดถ้อยคำที่ไร้ประโยชน์เหล่านั้นอีกต่อไป

"เข้าใจผิด?"  เจี้ยงเฉินยิ้มจาง ๆ "ซูยี่ เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถแก้ตัวได้อย่างง่ายดายด้วยคำว่า "เข้าใจผิด" อย่างนั้นหรือ?"

"แล้วเจ้าต้องการจะทำอะไร?" หัวใจของซูยี่ห่อเหี่ยว เจี้ยงเฉินต้องการต่อสู้ต่อไปหรือ?

"เจ้าสามารถหลบเลี่ยงความตายได้ แต่เจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานในอนาคต! ข้าไม่ใช่เป็นคนไร้ความเมตตา แต่จะให้ข้าปล่อยเจ้าโดยไม่ได้รับบาดเจ็บในวันนี้ แล้วชื่อเสียงข้าล่ะ? เจ้าไปได้โดยมีข้อแม้ว่าเจ้าต้องจ่ายค่าไถ่ ! "

“ค่าไถ่?”  ซูยี่อึ้ง "เจี้ยงเฉิน เจ้าหมายความว่ายังไง?"

"เจ้าไม่เข้าใจหรอกหรือ?" ใบหน้าของเจี้ยงเฉินดูเฉยเมย "ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะไม่เข้าใจหรือเจ้าแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ ข้าจะพูดอีกครั้งหนึ่ง จ่ายค่าไถ่ถ้าเจ้าต้องการกลับ ถ้าของที่ข้าต้องการไม่ได้อยู่ที่นี่ภายใน 12 ชั่วยาม ข้าจะเริ่มฆ่าทีละคนทุก ๆ 1 เค่อ จนกว่าพวกเขาทั้งหมดจะตาย ! "

การฆ่าคนคนหนึ่งทุก ๆ  1 เค่อหมายความว่าทั้ง 18 คนจะตายภายในเวลา 2 ชั่วยาม !

ซูยี่ตกใจ แม้แต่ใบหน้าของคนอวดดีจองหองอย่างเหล็กต้าฉีก็ยังหม่นหมองลงด้วยความสยดสยอง

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.