หน้าแรก > Epoch of Twilight
ตอนที่ 117  มาฆ่าคนกันเถอะ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 117  มาฆ่าคนกันเถอะ

ความรู้สึกนั้นช่างยอดเยี่ยมและยังเหนือจริงในเวลาเดียวกัน

ลู่หยวนเปิดหน้าต่างคุณสมบัติขึ้นมาอย่างเงียบๆ

“ชื่อ : ลู่หยวน”

“อาชีพ : นักล่า”

“เลเวล : 8”

“ค่าประสบการณ์ : 3,400/38,400”

“คุณสมบัติ :-”

“ความแข็งแรง : 12 (10)”

“ความคล่องแคล่ว : 13 (10)”

“ร่างกาย : 13+3 (10)”

“ความฉลาด : 13 (10)”

“การรับรู้ : 13+1 (10)”

“พลังจิต : 14+1 (10)”

“ทักษะ : ฟิสิกส์ 16, คณิตศาสตร์ 14, ภาษาจีนกลาง 19, ภาษาอังกฤษ 16, การเงิน 17, การคำนวณ 9, การเต้น 1, วาดรูป 3, เล่นเกม 6, การประชุมเจรจา 9, การเข้าสังคม 7, ทำอาหาร 3, ขับรถ 1, การต่อสู้มือเปล่า 5, ทักษะดาบ 13, ยิงปืน 1”

“ทักษะพิเศษ : ตรวจสอบ, สังเคราะห์”

“สัตว์อสูรสงคราม : กิ้งก่ายักษ์ (เลเวล 3)”

“ทักษะติดตัว : กระทืบปฐพี (เลเวล 3)”

“คะแนนคุณสมบัติที่ยังไม่ได้ใช้ : 1”

“คะแนนทักษะที่ยังไม่ได้ใช้ : 5”

“ภารกิจที่ยังไม่สำเร็จ : ไม่มี”

ลู่หยวนสังเกตเห็นว่าหน้าต่างคุณสมบัติได้มีตัวเลือกเพิ่มเข้ามาเหมือนของเจ้ากิ้งก่ายักษ์

เขาเลือกเข้าไปที่ทักษะติดตัว

“กระทืบปฐพี”

“เลเวล : 3 (ขึ้นอยู่กับการรับรู้และความแข็งแรง)”

“ผลของทักษะ : Regional Attack, มีโอกาสทำให้มึนงง ; ความแข็งแรง + 3 (ขึ้นกับเลเวล)”

“ธาตุ : ดิน”

“หมายเหตุ : อย่าออกห่างจากพื้น  พื้นดินคือเพื่อนของคุณ  คุณจะไม่มีวันเหนื่อยตราบใดที่ขาทั้งสองของคุณอยู่บนพื้น ; คุณจะรู้สึกถึงชีพจรของมันอยู่ตลอดเวลา  ความแข็งแกร่งของมนุษย์มีจำกัด  แต่ความแข็งแกร่งของจักรวาลนั้นไร้ที่สิ้นสุด  ด้วยความแข็งแกร่งของผืนแผ่นดินที่อยู่กับคุณ  คุณจะไม่มีวันพ่ายแพ้!”

“การวิวัฒนาการอันนี้แข็งแกร่งสุดๆไปเลย!”

เขาสามารถรู้สึกได้ถึงทุกอย่างที่อยู่บนพื้นดินภายในระยะ 50 เมตรจากจุดที่เขายืนอยู่  มีการเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างเขากับพื้นดิน  เขาไม่สามารถรับรู้ได้ไกลกว่านี้  ดูเหมือนว่าระยะทางที่สัมผัสได้จะขึ้นอยู่กับการรับรู้ของเขา

ชีพจรของพื้นดินทำให้เขารู้สึกสับสน  แรงสั่นสะเทือนมันยุ่งเหยิงซับซ้อนเกินไป  ดูไม่เป็นระบบเหมือนความวุ่นวายหลายๆแบบมาผสมเข้าด้วยกัน  อย่างไรก็ตาม  ก็มีรูปแบบของมันอยู่  เขาเดาว่าระลอกคลื่นที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้เชื่อมโยงเข้ากับอีกอันหนึ่ง  บางทีก็มาผสมรวมกัน

เขาคงทำได้แค่ทดลองเพื่อค้นหารูปแบบที่แน่นอนของมัน

เขาลืมตาขึ้นพร้อมด้วยสีหน้ายินดี  ถึงแม้ความแรงในการโจมตีจะอ่อนแอ  แต่คะแนนพิเศษ 3 คะแนนของความแข็งแรงก็เพียงพอที่จะทำให้เขามีความสุข

น่าเสียดายที่ค่าร่างกายของเขาไม่สามารถพัฒนาความแข็งแรงในเวลานี้ของเขาได้  ในเวลาอันสั้นเช่นนี้  ค่าร่างกายแบบนี้มันเสียของเปล่าๆ  แล้วยังมีผลประโยชน์ในการอัพเกรดครั้งต่อไปอีก  ค่าร่างกายของเขาก็คงต้องเก็บไว้ก่อนเพื่อเอามาเพิ่มให้แก่ความแข็งแรงและความคล่องแคล่วในอนาคต

ถึงอย่างไรก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบ  ร่างกายของคนที่วิวัฒนาการแล้วนั้นพิเศษมาก  เหมือนมันจะทลายขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา  ในระหว่างนี้  หลินเสี่ยวจีและหนิงเสี่ยวหลานพัฒนาขึ้นมาก  ลู่หยวนไม่รู้ว่าความสามารถของหลินเสี่ยวจีคืออะไร  แต่มันมีผลโดยตรงกับร่างกายของเขา  ขณะที่หนิงเสี่ยวหลาน  ลู่หยวนประเมินว่าความแข็งแรงของเธอน่าจะเกิน 11 แต้มไปแล้ว

นี่ไม่ใช่เพราะพวกเขาได้กินเนื้อของสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีฟ้า  ถึงแม้การกินเข้าไปมากๆจะยกระดับร่างกายให้ขึ้นถึง 11 แต้มได้  แต่นั่นก็แค่ผู้ชายเท่านั้น  ผู้หญิงส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 10-11 แต้ม  หวังซีซีและหวงเจียฮุยก็อยู่ในช่วงนี้

นี่จึงอธิบายได้ว่าเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษของคนที่วิวัฒนาการแล้ว

แน่ล่ะว่าหวังซีซีก็วิวัฒนาการด้วยเหมือนกัน  แต่บางทีคนที่วิวัฒนาการแล้วก็มีค่าคุณสมบัติที่แตกต่างกัน  นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ร่างกายของเธอไม่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปเลย

ลู่หยวนตัดสินใจที่จะฝึกฝนอย่างหนักเพื่อดูว่าเขาจะสามารถทลายขีดจำกัดของตัวเองได้หรือไม่  แบบนั้นเขาถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาค่าคุณสมบัติของเขาได้

“มีอะไรเหรอ?”  หวงเจียฮุยที่ยังคงเป็นกังวลถามขึ้น  เธอมองเขาที่ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ที่เดิม  แล้วคิดว่าเขาอาจจะยังเจ็บแผลอยู่

ลู่หยวนกลับมาได้สติ  พอเห็นใบหน้ากระวนกระวายของหวงเจียฮุยเลยได้รู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นมาสักพักแล้ว  เขาจึงพูดให้เธอวางใจว่า  “แค่คิดอะไรบางอย่างน่ะ”

เขาเห็นว่าทุกๆคนกำลังมองเขาอยู่ห่างๆอย่างไม่สบายใจ  แต่พวกเขาไม่กล้าเข้ามาใกล้กว่านี้  ลู่หยวนถามอย่างสงสัยว่า  “นั่นหวงยู่อิงใช่ไหม?”

หวงเจียฮุยนิ่งเงียบ  สีหน้าเฉยเมย

เป็นหวังซีซีที่พูดขึ้นด้วยความโกรธว่า  “ยัยคนไม่มีสำนึกนั่น!  คราวที่แล้วมันขโมยอาหารเราไป  คราวนี้มันก็พาคนมายึดบ้านเรา  พวกมันฆ่าหลินเสี่ยวจีด้วย!”

“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?”  ลู่หยวนหันไปถามหวงเจียฮุย  เขาไม่เชื่อคำพูดของหวังซีซี

หวงเจียฮุยเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบให้เขาฟัง

เมื่อเขาได้ยินว่าซันเสี่ยวหวู่ทรยศ  สีหน้าของเขาก็ซึมลง  เขาคิดว่าซันเสี่ยวหวู่เป็นคนดี  ไม่เคยคิดเลยว่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้  ในเวลาคับขันเช่นนี้  เขาไม่เพียงแต่ไม่ช่วยเท่านั้น  แต่ยังพูดจาเหลวไหลแล้วไปเข้าร่วมกับศัตรูอีก

“พวกนั้นมีกันกี่คน?  คนที่วิวัฒนาการแล้วมีไหม?”  ลู่หยวนถามนิ่งๆ

ยิ่งลู่หยวนนิ่งมากเท่าไร  คนอื่นก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากเท่านั้น  พวกเขาสัมผัสได้ถึงความโกรธและความต้องการฆ่า

“พวกเขาไม่ได้แสดงความสามารถของพวกเขา  เราถูกล้อมก่อนที่จะรู้ตัว”  หวงเจียฮุยดูอับอาย  ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอแย่มาก  เธอไม่ได้ระวังตัวหรือรู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย  ถ้าพวกเขาไม่ได้กลัวเจ้ากิ้งก่ายักษ์  สถานการณ์คงเลวร้ายกว่าที่พวกเขาจะคาดคิดได้  เธอรู้สึกหวาดกลัว

“หวงยู่อิงเป็นพวกนั้นด้วยเหรอ?”  ลู่หยวนถาม

หวงเจียฮุยลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า

สีหน้าของลู่หยวนน่ากลัว  ขณะที่เขาเดินเข้าไปหาหวงยู่อิง  มีบางคนถึงกับหันหน้าหนี  พวกเขาไม่กล้ามองภาพที่น่ากลัว  หวงเจียฮุยอยากจะพูดบางอย่าง  แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูด

หวงยู่อิงดูแก่ขึ้นมากในช่วงเวลาสั้นๆ  ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยรอยเปื้อนและรอยช้ำ  ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน  ชุดของเธอเต็มไปด้วยรูและไม่สามารถปกปิดร่างกายที่น่าเย้ายวนของเธอได้

เมื่อเห็นลู่หยวนเดินตรงมาที่เธอ  หวงยู่อิงก็ตัวสั่นระริกราวกับนกน้อยที่กำลังหวาดกลัว  ดูเหมือนเธอจะจำภาพเหตุการณ์นองเลือดที่ลู่หยวนฆ่าศัตรูจำนวนมากได้

“อยากจะพูดอะไรไหม?”  ลู่หยวนถาม

หวงยู่อิงสงบนิ่งได้อย่างไม่คาดคิดเมื่อเธอพูดว่า  “ถ้าอยากฆ่าฉันก็เอาเลย  ฉันเหนื่อยที่จะอยู่ต่อไปแล้ว  ฉันบอกให้พวกเขาเอาอาหารไปแล้วไงล่ะ?  ก็พวกนายไปกันหมดแล้ว  ทำไมฉันจะเอาไปบ้างไม่ได้?  ฉันทำอะไรผิด?”

เขาพูดไม่ออก  หวงยู่อิงไม่ได้ทำอะไรผิดในกรณีนั้น  พวกเขาทิ้งเสบียงพวกนั้นแล้ว  มันก็แค่เขาไม่คิดว่าเขาจะไม่สามารถเข้าไปที่ชั้นใต้ดินได้และต้องกลับไปที่นั่นอีกครั้ง

ดูจากสภาพของเธอ  แม้ว่าเธอจะจัดหาเสบียงอาหารให้พวกนั้น  เธอก็ยังถูกปฏิบัติอย่างเลวร้าย  ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ  และมีแผลเป็นหลายแห่งที่ดูเหมือนเป็นรอยบุหรี่  ลู่หยวนไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง  ในโลกที่โหดร้ายใบนี้  ความมีมนุษยธรรมเป็นสิ่งที่หาได้ยาก  และความโหดร้ายทารุณก็อยู่นอกเหนือการควบคุม  ความสวยงามไม่ใช่คำอวยพรจากพระเจ้าอีกต่อไป  แต่เป็นคำสาปจากปีศาจร้ายต่างหาก

ลู่หยวนมองหวงยู่อิงที่ดูสิ้นหวังแล้วเขาก็ส่ายหัวพลางพูดนิ่งๆว่า  “สิ่งที่เธอทำ ทำให้ฉันโกรธมากจริงๆ  แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะฆ่าเธอ  เห็นสภาพเธอแล้วฉันก็บอกได้ว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของหลินเสี่ยวจี”

หวงยู่อิงไม่ได้คาดคิดว่าลู่หยวนจะปล่อยเธอไปง่ายๆอย่างนั้น  เธอรู้สึกโล่งอก  ใครจะอยากตายถ้ายังมีทางอื่นให้เลือก?  ลู่หยวนหันหลังจากไป  หวงยู่อิงลังเลเล็กน้อยก่อนจะตะโกนขึ้นว่า  “เดี๋ยว  พวกนั้นมีคนที่วิวัฒนาการแล้ว 3 คน!  ฉันเคยเห็นคนหนึ่งใช้พลังของเขา  เขาสามารถยิงลำแสงได้  คนที่ถือปืนก็แข็งแกร่งมากเหมือนกัน  ระวังตัวด้วยนะ”

ลู่หยวนพยักหน้า  ในตอนที่เขากำลังจะเดินจากไปนั่นเอง  เขาก็หันกลับมาแล้วพูดว่า  “ถ้าเธออยู่กับพวกนั้นแล้วไม่มีความสุข  จะกลับมาก็ได้นะ!”

สำหรับลู่หยวน  การมีคนเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคนก็หมายถึงมีคนกินอาหารเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง  อย่างไรก็ตาม  สำหรับหวงยู่อิงนั้น  นี่เป็นเหมือนแสงสว่างในความมืด  ทำให้โลกทั้งใบของเธอสว่างไสวขึ้นมา

หญิงสาวเอามือปิดปาก  น้ำตาไหลลงมาตามแก้มไม่หยุด  ตกกระทบพื้นหยดแล้วหยดเล่า  คำพูดของลู่หยวนทำให้เธอซาบซึ้งตื้นตัน  รู้สึกเหมือนมีอะไรขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอขณะที่เธอร้องไห้อย่างไร้เสียง

เมื่อลู่หยวนเดินห่างออกไป 10 เมตร  เธอก็ลงนั่งยองๆร้องไห้ออกมาอย่างเต็มที่  ทำให้ทุกคนพากันรู้สึกสงสารเห็นใจ

หลินเสี่ยวจีนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้น  เสื้อผ้าของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือดสดๆ

ลู่หยวนมองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบเอาลูกกระสุนออกมาจากร่างของเขา  แล้วทันใดนั้นลู่หยวนก็เตะศพและพูดว่า  “ลุกขึ้น  เลิกเสแสร้งได้แล้ว!”

แต่ศพนั้นก็ยังไม่ขยับ

ลู่หยวนฉีกยิ้ม  “อยากให้ฉันแทงนายอีกรึไง?”

หลินเสี่ยวจีลืมตาที่ปิดสนิทของเขาขึ้นมาและลุกขึ้นยืนอย่างเก้ๆกังๆ

เขาไม่คิดเลยว่าคนพวกนั้นจะดุร้ายขนาดนี้  หลังจากถูกยิงไปสองสามที  เขาก็เริ่มเสียใจที่พูดออกไป  ไม่ว่าความสามารถในการรักษาตัวเองของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม  ถ้าเขาถูกยิงเข้าที่หัวหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส  เขาก็จะตาย  ด้วยความกลัวตาย  เขาจึงแกล้งทำเป็นตายไปแล้ว

ตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ  หวังซีซีจ้องหน้าเขา  “นายแค่แกล้งตายงั้นเหรอ?”

หลินเสี่ยวจีหน้าแดงและพูดว่า  “ที่จริง  ฉัน......ฉันเป็นลมไปน่ะ”

ลู่หยวนดูไม่พอใจการกระทำของเขาอย่างแท้จริง  ตาของเขาจ้องเขม็งที่หลินเสี่ยวจีแล้วพูดช้าๆว่า  “ครั้งนี้ฉันจะปล่อยไป  แต่อย่าให้มีครั้งหน้าล่ะ  ทหารที่หนีทัพจะต้องถูกประหารด้วยการยิงเป้า”

หน้าของหลินเสี่ยวจีกลายเป็นสีแดง  หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว  เขากลัวคำขู่ของลู่หยวนมาก

ลู่หยวนรู้ว่าชายคนนี้มีความหยิ่งในตัวเองสูงมาก  เขาไม่คิดว่าหลินเสี่ยวจีจะทำเรื่องผิดพลาดงี่เง่านี้อีก  ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจยกโทษให้

ประสาทสัมผัสที่เฉียบคมของลู่หยวนจับสังเกตได้ว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ที่ทางเข้าบ้านพัก  สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป  พร้อมกับที่ร่างกายของเขาหายไปจากตรงนั้น  ความเร็วของเขาระเบิดถึงจุดสูงสุด  เขาพุ่งไปเกิน 10 เมตรในชั่วพริบตา

มีคนคนหนึ่งพยายามจะส่องดูเจ้ากิ้งก่ายักษ์ผ่านรอยแง้มระหว่างประตู  เขาได้ยินเสียงดาบ  และรู้สึกถึงบางอย่างที่น่าจะเป็นใบมีดเย็นๆที่พุ่งตรงเข้ามาที่ตาของเขา  ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้ขยับ  ลู่หยวนก็แทงดาบตรงเข้าไประหว่างคิ้วของเขาทะลุออกหลังหัว

ทุกคนเห็นคนคนนั้นล้มลงกับพื้นผ่านทางช่องประตู

ลู่หยวนดึงเอาดาบของเขาออกมาช้าๆ  เลือดทะลักออกมาเต็มพื้นไปหมด  เขามองไปที่ประตู  ไม่สามารถระงับความต้องการฆ่าได้อีกต่อไป

หวงเจียฮุยยังคงรู้สึกอับอายเกี่ยวกับปฏิกิริยาของเธอก่อนหน้านี้  เมื่อเธอเห็นลู่หยวนเตรียมตัวไปฆ่าพวกนั้น  เธอก็รีบอาสาเพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็น  “นายต้องการคนช่วยไหม?”

ลู่หยวนอยากจะปฏิเสธ  แต่พอคิดว่าคนของเขาถูกล้อมโดยไม่มีโอกาสได้สู้กลับ  เขาก็ลังเล

ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาทุกคนที่ขาดความสามารถในการต่อต้าน  พวกเขามีคนที่วิวัฒนาการแล้ว 3 คน  หวงเจียฮุยเองก็ยิงปืนได้อย่างยอดเยี่ยม  เธอสามารถรับมือกับสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีฟ้าได้  ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีความสามารถในการต่อสู้  อย่างน้อยก็ในทฤษฎีน่ะนะ  แต่ความเป็นจริงก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่  ถึงแม้ว่า  ถ้าจะมองอย่างยุติธรรม  เธอคงมัวแต่กระวนกระวายที่เห็นเขาหมดสติไป

ไม่ต้องคิดถึงเรื่องความแข็งแกร่งของพวกเขา  ถ้าพวกเขาไม่มีแม้กระทั่งความระวังตัวขั้นพื้นฐาน  วันข้างหน้าพวกเขาก็คงไม่รอด  ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องเห็นเลือดกันบ้างแล้ว

“หวังซีซีจะเข้าไปข้างในกับฉัน  ส่วนเธอ  หนิงเสี่ยวหลาน  แล้วก็หลินเสี่ยวจีคอยเฝ้าทางออกไว้  อย่าให้ใครหนีไปได้เด็ดขาด  ระวังตัวด้วย!”

หวงเจียฮุยมองหวังซีซีแล้วพยักหน้า

“ซีซี  เธอกลัวไหม?”  ลู่หยวนถาม

“ไม่!”  ความกลัวท่วมท้นอยู่ในใจหวังซีซี  แต่เธอพยายามรวบรวมความกล้า

“ฉันกำลังพูดถึงการฆ่าคนนะ”  ลู่หยวนจริงจัง

“ฉันไม่......กลัว”  หวังซีซีลังเล

“ดังกว่านี้!”

“ฉันไม่กลัว!”  หวังซีซีตะโกน

“ดี  มากับฉัน  คอยอยู่ข้างหลังไว้นะ”  ลู่หยวนมองใบหน้าเล็กๆของหวังซีซี  มันเต็มไปด้วยความกลัวและความตื่นเต้นผสมกัน  เขารู้สึกไม่ดีขึ้นมากะทันหัน  เธออายุเพียง 14 ปีเท่านั้น  ไม่ควรจะต้องมากังวลกับอะไรทั้งนั้น  และยิ่งไม่ควรที่จะถูกบังคับให้ต้องฆ่าคนแบบนี้

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.