spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 219 เทพอมตะนิรันดร์
**** @ขอแก้คำศัพท์ จากนักสู้แห่งดวงดาว เป็นเปลี่ยน นักสู้ระดับดวงดาวค่ะ ***
อาณาจักรที่มีอารยธรรมในระดับต่ำเป็นเหมือนมด เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้านายของดาวเคราะห์ยุนโม
ลู่ฟงตกใจกับประโยคนี้
จักรวรรดิ Silverblue นี้เป็นอาณาจักรใหญ่ที่ควบคุมกาแล็กซี่ทางช้างเผือก, กาแล็กซี่เบต้า และกาแล็กซีอีก 6 แห่ง ! กาแล็กซีทางช้างเผือกมีดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตเพียง 210,000 ดาว ดังนั้นจักรวาลนี้จะต้องมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ ? โลกเปรียบเหมือนเม็ดทรายในมหาสมุทร เมื่อเทียบกับอาณาจักรนี้ !
แต่จักรวรรดิที่มีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนจะไม่มีค่าอะไรในความคิดของบาบาต้า
" ไม่ต้องสงสัยเลย "
" คุณไม่สามารถแม้แต่จะเริ่มจินตนาการถึงพลังของเจ้านายของฉันได้ " ดวงตาของบาบาต้ามีแสงเป็นประกาย
" กาแล็กซีทางช้างเผือก กาแล็กซีเบต้า และกาแลคซีอีก 6 แห่ง ได้รวมตัวกันเพื่อสร้างจักรวรรดิ Silverblue ซึ่งเป็นอารยธรรมระดับต่ำในจักรวาล ! "
" ตามที่แผนที่จักรวาลอธิบายไว้ กาแล็กซีของคุณเป็นส่วนหนึ่งของ ' Black Dragon Mountain '
ซึ่งมีกาแล็กซี 8,000 แห่ง ! และจักรพรรดิ ' Black Dragon Mountain Star ' คือผู้ควบคุม พวกเขาถือเป็นอาณาจักรที่มีอารยธรรมระดับกลางของจักรวาล "
" อาณาจักร Black Dragon Mountain มีการควบคุมกาแล็กซีมากกว่า 6,000 แห่ง และจักรวรรดิที่มีอารยธรรมในระดับต่ำอีกกว่า 500 แห่ง และจักรวรรดิ Silverblue เป็นเพียงหนึ่งในจักรวรรดิที่เป็นของจักรพรรดิ Black Dragon Mountain Star " บาบาต้า พูดได้อย่างคล่องแคล่ว
ลู่ฟงรู้สึกอึดอัดใจ
จักรพรรดิ Black Dragon Mountain Star ? ประกอบด้วยกาแล็กซีมากกว่า 6,000 แห่งอย่างงั้นเหรอ ?
แถมยังมีการควบคุมจักรวรรดิมากกว่า 500 แห่ง ? จักรวรรดิ Silverblue เป็นเพียงหนึ่งในจักรวรรดิที่อยู่ภายใต้การควบคุม
" ฉันจะยกตัวอย่างให้ดู "
“ แม้ว่าจักรพรรดิ Black Dragon Mountain Star จะมีพลังมากและแข็งแกร่ง แต่ก็ยังต้องสุภาพเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้านายของฉัน ! " บาบาต้ากล่าว “ สำหรับนักสู้ที่มีประสิทธิภาพ ถ้าพวกเขาพัฒนาขึ้นตามปกติ ประมาณ 1,000 กาแล็กซี จะให้กำเนิดนักสู้ระดับเทพเจ้า ”
" หยุด ! "
ลู่ฟงตะโกน
" อะไรล่ะ ? " บาบาต้ามองไปทางลู่ฟง
" อะไรคือระดับเทพเจ้า ? ผมได้เรียนรู้หลายระดับจากซากโบราณสถาน # 9 ว่านักสู้ถูกจัดอยู่ในระดับนักเรียน นักสู้ระดับดวงดาว นักสู้ระดับจักรวาลและนักสู้ระดับเหนือจักรวาล " ลู่ฟงถาม ขณะที่เขาฟัง
บาบาต้าพูด เขารู้สึกเหมือนกำลังมองขึ้นไปบนภูเขาที่สูงมาก และตระหนักว่ามีภูเขาที่สูงกว่าภูเขาลูกนี้
จักรวาลมีนักสู้ที่ทรงพลังจำนวนไม่สิ้นสุด !
" โอ้ ให้ฉันอธิบายให้ความรู้กับคุณสักหน่อย " บาบาต้ากล่าว " นักสู้และผู้อ่านจิตวิญญาณสามารถแบ่งออกเป็น โอ้ และอย่าพูดถึงนักเรียนด้วย นักเรียนไม่มีสิทธิ์ที่จะถูกเรียกว่า นักสู้ซะด้วยซ้ำ "
" พวกเขาส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นนักสู้ระดับดวงดาว นักสู้ระดับจักรวาล นักสู้ระดับเหนือจักรวาล
และนักสู้ระดับห้วงมิติ อีกห้าขั้น ที่สำคัญเหล่านี้ เมื่อคุณเหนือกว่านักสู้ระดับห้วงมิติ คุณจะกลายเป็นอมตะ ! "
“ นักสู้ระดับดวงดาว สามารถเดินไปรอบๆในจักรวาลได้ พวกเขาสามารถเป็นยาม หรือคนรับใช้ หรือคนให้อาหารสัตว์ " บาบาต้ากล่าว เขาดูค่อนข้างรังเกียจ
“ นักสู้ระดับดวงดาวสามารถนับเป็นคนสำคัญได้ในดวงดาวที่ไม่สำคัญบางดวงในจักรวาล ยังไงก็ตามในดวงดาวบางดาวที่สำคัญ พวกเขายังถือเป็นนักสู้ชั้นต่ำ ”
" นักสู้ระดับจักรวาล อืมม, ใช่, พวกเขาสามารถนับได้ว่าเป็นนักสู้ที่มีความแข็งแกร่ง ! ในทุกกาแล็กซี มักจะให้กำเนิดนักสู้ระดับจักรวาลเพียงคนเดียวเท่านั้นในหนึ่งกาแล็กซี่ พวกเขาสามารถได้รับดวงดาวหลายสิบดวง เป็นดินแดนของตนเองหลังจากที่เข้าร่วมกับจักรวรรดิต่างๆ "
" นักสู้ระดับเหนือจักรวาลสามารถนับได้ว่าเป็นราชาของพื้นที่ ! จักรวรรดิอารยะในระดับต่ำจะไม่กล้ายุ่งวุ่นวายกับนักสู้ระดับเหนือจักรวาล และพวกเขาสามารถสร้างกองกำลังและกองทัพของตนเองได้
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ไม่มีจักรวรรดิไหนกล้าต่อสู้กับนักสู้ระดับเหนือจักรวาล ! "
" ส่วนนักสู้ระดับห้วงมิติ ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกเขามีพลังและอำนาจมาก ! มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับพวกเขาที่จะเป็นเจ้าของกาแล็กซี่ทั้งหมด ! นักสู้ระดับห้วงมิติ คือระดับที่พวกเขาสามารถสร้างโลกได้
พวกเขาสามารถควบคุมทั้งโลกได้ ลู่ฟง ถ้าคุณสามารถกลายเป็นนักสู้ระดับห้วงมิติ และไม่มีความทะเยอทะยาน คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวในจักรวาลได้ " บาบาต้าพูดเหมือนติดตลก ขณะที่เขามองไปที่ลู่ฟง
ลู่ฟงฟังอย่างตั้งใจ
ตามสิ่งที่เขาได้ยินในซากโบราณสถานหมายเลข 9 ในหมู่ดาวเคราะห์จำนวนนับไม่ถ้วนจะให้กำเนิดนักสู้ระดับจักรวาลเพียงหนึ่งคน ดังนั้นจึงดูเหมือนเป็นเรื่องสิ้นหวังสำหรับลู่ฟง และตอนนี้เขาได้ยินว่ายังมีระดับที่เหนือกว่าระดับจักรวาลคือ ระดับเหนือจักรวาล ! และมีแม้แต่ระดับเทพเจ้า ที่เหนือกว่าระดับเหนือจักรวาล ! เขาไม่สามารถคิดถึงความยากลำบากในการก้าวไปให้ถึงระดับดังกล่าวได้เลย !
" เหนือระดับห้วงมิติ เท่านั้น ที่คุณจะกลายเป็นอมตะ "
การแสดงออกของบาบาต้าเริ่มเคร่งเครียดขึ้น
“ ไม่ว่าจะเป็นนักสู้ระดับจักรวาล ระดับเหนือจักรวาล หรือระดับห้วงมิติ พวกเขาทั้งหมดมีชีวิตอยู่ภายใต้เวลา นักสู้ระดับดวงดาวสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในยุคเดียว นักสู้ระดับจักรวาลสามารถมีชีวิตอยู่ได้มากที่สุด 10 ยุค นักสู้ระดับเหนือจักรวาลสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 100 ยุค และนักสู้ระดับห้วงมิติ สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 1,000 ยุค ! แน่นอนว่าหากเทียบกับเวลาของดาวโลกของคุณ นักสู้ระดับห้วงมิติ สามารถมีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 10 ล้านปี ”
" การดำรงอยู่ของนักสู้ระดับห้วงมิติ ยังคงอยู่ภายใต้กาลเวลา ! "
" เฉพาะผู้ที่มีพลังเกินระดับห้วงมิติ เขาถึงจะกลายเป็นอมตะ ! นักสู้นิรันดรเรียกอีกอย่างว่าเทพ "
ดวงตาของบาบาต้ากำลังส่องแสง " เมื่อคุณกลายเป็นนักสู้ที่ไม่มีวันตายแล้ว คุณก็จะได้สนุกกับชีวิต
นิรันดร์ ! และเจ้านายเป็นนักสู้ที่ไม่มีวันตาย ! "
ลู่ฟงกลั้นลมหายใจเอาไว้
นักสู้อมตะ ?
นักสู้ระดับดวงดาว , ระดับจักรวาล, ระดับเหนือจักรวาล, ระดับห้วงมิติ , ระดับอมตะ !
" นักสู้ที่ไม่มีวันตาย มีความสามารถพิเศษมากมายนับไม่ถ้วน ! "
“ แม้กระทั่งนักสู้ที่แข็งแกร่ง ผู้ที่สามารถบดขยี้กาแล็กซีให้กลายเป็นไอ ยังไม่สามารถทำร้ายนักสู้อมตะ
ได้ ! " บาบาต้ายิ้ม " ตอนนี้คุณควรเข้าใจว่าทำไมฉันถึงพูด ว่าจักรวรรดิอารยธรรมในระดับต่ำเป็นเหมือนมด เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้านายของฉัน "
เลือดลู่ฟงกำลังเดือด
การโจมตีที่สามารถทำให้กาแล็กซีกลายเป็นไอได้ทันที ? และไม่สามารถแม้แต่จะทำร้ายนักสู้อมตะได้ ?
" อย่าได้คิดไกลเกินไป "
" โดยทั่วไปแล้ว 1,000 กาแล็กซี จะให้กำเนิดนักสู้ระดับห้วงมิติ เพียงคนเดียวเท่านั้น ! "
" ลู่ฟง แม้จะมีมรดกของเจ้านายของฉัน และความช่วยเหลือของฉัน คุณก็แทบจะไม่สามารถกลายเป็นนักสู้ระดับห้วงมิติได้ภายใน 100,000 ปี ! และเรื่องไปถึงระดับอมตะ มีความเป็นไปได้คือ ศูนย์ ! "
บาบาต้าส่ายหัวอย่างช้าๆ " มนุษย์ไม่ได้มีความสามารถที่เหมาะสมทั้งหมด ถ้าคุณพลาดตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว มันก็ยิ่งยากมากที่จะบรรลุถึงระดับสูงสุดได้ ! "
ลู่ฟงรู้สึกท้อแท้ เขาพูดออกมาว่า " บาบาต้า คุณไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นก็ได้ "
" ฮิฮิ "
บาบาต้ายิ้มกว้าง เผยให้เห็นว่ามีเขี้ยวเล็กๆสองซี่ " ฉันพูดแค่ว่าเป็นศูนย์ ! แต่ยังมีวิธีที่จะเพิ่มความเร็วในการฝึกของคุณ ทำให้คุณแข็งแกร่งมากขึ้นถึงสิบเท่า "
" วิธีอะไร ? "
" การถ่ายทอดวิญญาณ ! " บาบาต้ายิ้มอย่างลึกลับ
" ถ่ายทอดวิญญาณ ? "
แน่นอนว่าลู่ฟงรู้ว่านี่หมายถึงอะไร
บาบาต้ายิ้มพลางพูดว่า " คุณย่อมรู้ดีว่าผู้สืบเชื้อสายของนักสู้ ในแผ่นดินของคุณมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นนักสู้ "
"ใช่ " ลู่ฟงพยักหน้า
ลูกของนักสู้มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นนักสู้ ! นั่นเป็นเพราะยีนของพ่อแม่ของพวกเขามีความยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ดังนั้นยีนของพวกเขาจะไม่ขาดช่วง !
" นี่คือวิวัฒนาการแบบหนึ่ง " บาบาต้ากล่าว " ถ้าโลกของคุณใช้เวลาอีก 10,000 ปีหรืออีก 100,000 ปี
คนทุกคนบนโลกจะกลายเป็นนักสู้ระดับนักเรียน "
" และในจักรวาลอันกว้างใหญ่ มีมนุษย์บางเผ่าพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ " บาบาต้าถอนหายใจ
" ตัวอย่างเช่น เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ติดอันดับ 10 อันดับแรก ในแง่เชื้อสาย - มนุษย์ดวงดาว Manka
แม้ว่ามนุษย์ดาว Manka มีจำนวนไม่มากนัก แต่ละคนจะเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งในระดับนักสู้ระดับนักเรียน เมื่อวัยเด็ก พวกเขาส่วนใหญ่จะมีความแข็งแกร่งในระดับดวงดาว เมื่อพวกเขาโตเป็นคนหนุ่มสาว พวกเขาส่วนใหญ่จะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับจักรวาล และเมื่อพวกเขาเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาจะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเหนือจักรวาล ! พวกเขามีสายเลือดที่ดีที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ "
ลู่ฟงรู้สึกลำบากใจ
นี่คือความแตกต่าง !
ความแตกต่างที่น่าโมโหมาก
มนุษย์ทุกคนในโลกใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางที่ขมขื่น พวกเขาพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้พวกเขาบางคนอาจโชคดีได้พบครูที่ดี และในที่สุด อัจฉริยะที่แท้จริงก็จะก้าวเข้าสู่ระดับนักสู้แห่งดวงดาว !
แต่พวกเขาล่ะ ?
พวกเขาเพียงดื่มและเล่น และเมื่อพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่พวกเขาก็อยู่ในระดับเหนือจักรวาล
สามารถที่จะทำลายดาวเคราะห์ได้ง่ายราวกับพลิกผ่ามือ
" นี่เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว " ลู่ฟงไม่ได้รู้ว่าจะพูดอะไรอีกแล้ว
“ ไม่เป็นธรรม ? นั่นเป็นเพราะบรรพบุรุษของมนุษย์บนดาวเคราะห์ Manka พวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อปรับปรุงให้พวกเขาพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่การพัฒนาไปจนถึงขีดสุด พวกเขาก็คงที่ในระดับนั้นแล้ว ! ” บาบาต้ากล่าวด้วยความไม่พอใจ " ถ้าโลกไม่ให้กำเนิดนักสู้ที่มีพลังจำนวนมาก ผู้คนบนแผ่นดินโลกก็จะไม่มีวันแข็งแกร่งขึ้น "
ลู่ฟงพยักหน้า
ใช่ เนื่องจากการฝึกฝนของบรรพบุรุษของพวกเขา ทำให้สามารถสร้างยีนที่แข็งแกร่งมากขึ้นและสมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งทำให้เชื้อสายของพวกเขามีความสามารถมากขึ้น !
" ผู้คนบนดาวเคราะห์ Manka พวกเขาใช้เวลาฝึกฝน พัฒนา นานแค่ไหนเมื่อเทียบกับคนบนโลกของคุณ ? คุณสามารถจินตนาการได้หรือเปล่า ? " บาบาต้าหัวเราะเยาะ " ในกาแล็กซีทางช้างเผือกทั้งหมด
มีดาวเคราะห์ 210,000 ดวง ที่มีผู้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ จำนวนประชากรทั้งหมดไม่สามารถนับได้
แต่ถึงอย่างนั้นหากในกาแล็กซีทางช้างเผือกสามารถให้กำเนิดนักสู้ระดับจักรวาลได้หนึ่งคน แต่สำหรับดาวเคราะห์ Manka เมื่อพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาจะมีความแข็งแกร่งระดับเหนือจักรวาล ! "
" ดังนั้น ! "
" ถ้าคุณต้องการที่จะกลายเป็นนักสู้อมตะ วิธีหนึ่งคือการ รอให้ตัวเองมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งและจากนั้นก็ขโมยร่างกายของนักสู้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ! " บาบาต้าหันไปทางโลงศพคริสตัล
" คุณเห็นไหม ? ถึงแม้ว่าร่างกายเดิมของเจ้านายฉันจะดีกว่าพวกคุณ แต่ก็ไม่ได้ดีกว่ามากนัก "
“ หลังจากนั้น ภายใต้โอกาสและโชค เจ้านายได้ใช้เทคนิคการโอนจิตวิญญาณ และเอาร่างของชายหนุ่มจากชนเผ่า Longke ! เผ่า Longke นี้สามารถจัดอยู่ใน 30 อันดับแรกของเผ่ามนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด
เมื่อพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาสามารถมีพลังถึงระดับจักรวาล ! ด้วยร่างกายนี้ ความเร็วของการฝึกฝนพลังจิตวิญญาณจะเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่น่าอัศจรรย์ ! และในที่สุด เจ้านายก็สามารถฝึกฝนจนกลายเป็นนักสู้อมตะได้ ! ”
" นับเป็นเรื่องที่ยากมาก สำหรับการที่คนจากดาวเคราะห์ Manka หรือคนจากดาวเคราะห์ Longke ที่จะกลายเป็นนักสู้อมตะ ! "
บาบาต้าหันไปทางลู่ฟงและยิ้ม " คุณมีอะไรสงสัยเกี่ยวกับการถ่ายทอดวิญญาณไหม ? คุณไม่สามารถสละร่างกายของคุณได้อย่างงั้นเหรอ ? "
ลู่ฟงยอมรับว่าเขาไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ด้วยร่างกายของตัวเอง
" โง่จริงๆ ! " บาบาต้าเม้มริมฝีปากของเขาอย่างไม่เต็มใจ ดวงตาสีแดงเลือดของเขามองไปทางลู่ฟงด้วยความรังเกียจ " คุณเป็นผู้อ่านจิตวิญญาณ คุณไม่รู้เหรอว่าสาระสำคัญของตัวเองคือจิตวิญญาณ ? "
" โอ้ ดี "
" การโอนจิตวิญญาณไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณสามารถย้ายจิตวิญญาณไปยังเป้าหมายได้เมื่อเป้าหมายมีจิตวิญญาณที่อ่อนแอกว่าคุณ ถ้าคุณพบใครบางคนที่มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง คุณจะต้องกำจัดให้หมด "
บาบาต้าส่ายหัว " แม้ว่าคุณจะแย่มากๆ และคุณไม่มีพรสวรรค์อะไร แต่ดีที่คุณมีความแข็งแรงของสมองระดับ 22 เอาละ ฉันจะไม่พูดมากไปกว่านี้แล้ว "
" ไม่ มันควรเป็น 21 สิ ? " ลู่ฟงถาม
บาบาต้าตีหัวเล็กๆของเขา " บ้าบอจริงๆ คุณมันไร้เดียงสา คุณซื่อบื้อเกินไป ! คุณคิดว่าถ้าคุณฝึกฝนเป็นผู้อ่านจิตวิญญาณ ความแข็งแรงของสมองของคุณจะไม่เพิ่มขึ้นหรือยังไง ? เมื่อคุณอยู่ในระดับนักเรียนขั้น 9 ความแข็งแรงของสมองของคุณคือ 21 ยังไงก็ตามการก้าวผ่านนักสู้ระดับดวงดาว เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของคุณ ดังนั้นความแข็งแรงของสมองของคุณจึงเพิ่มขึ้นเป็น 22 "
" แต่อย่าได้อวดดีไป ตัวเลขเหล่านี้สามารถโอ้อวดได้ในกาแล็กซีทางช้างเผือกเท่านั้น " บาบาต้าส่ายหัวด้วยความรังเกียจ “ ในบางดวงดาวที่มีพลังมาก หรือดาวเคราะห์หลักในจักรวรรดิ มีคนที่มีความแข็งแรงของสมองถึง 30 หรือแม้แต่ 40 พวกเขาเป็นเพียงนักสู้ระดับนักเรียน ! ”
" แย่มากที่ฉันไม่มีทางเลือก หรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ ฉันสามารถเลือกได้เท่านี้บนโลกใบนี้ "
" ต้องเลือกคนที่สูงที่สุดจากคนแคระ "
" ฉัน ปีศาจบาบาต้าผู้ยิ่งใหญ่ จะเมตตาช่วยให้นักสู้ระดับดวงดาวอย่างคุณแข็งแกร่งขึ้นเอง " บาบาต้ายกศีรษะขึ้น