spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

บทที่ 279: ห้าการทดสอบของการคัดเลือกรอบแรก

อันที่จริงเจี้ยงเฉินคิดว่าทั้งสี่นิกายรู้สึกตัวว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในวิกฤต

ถ้าไม่ได้เพราะความรู้สึกวิกฤตนี้ สถานะอย่างสี่บรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่พวกเขาจะไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้ฝึกฝนสามัญ ไม่ต้องเอ่ยถึงการพูดคุยกับพวกเขา

บรรพบุรุษนักล่าตะวันยังคงประกาศกฎต่อ

"ข้าเชื่อว่าทุกคนได้ยินข่าวลับต่าง ๆ เกี่ยวกับการคัดเลือกคราวนี้ ข้ามาที่นี่เพื่อเน้นย้ำกฎ การคัดเลือกจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือการเลือกรอบแรก เมื่อพวกเจ้าผ่านมันไปได้ พวกเจ้าก็จะเข้าสู่รอบที่ 2 ซึ่งจะใช้เวลา 3 ปีพร้อมกับเหล่าสาวกของสี่นิกาย 64 คนที่แข็งแกร่งจะได้รับเลือกจากด่านนี้และพวกเขาจะเข้าสู่รอบสุดท้าย จากนั้นจะมีการเลือกคนที่แข็งแกร่ง 16 คนออกมาและพวกเขาจะถูกแบ่งไปยัง 4 นิกายโดยพวกเขาจะได้รับคำแนะนำส่วนบุคคลจากบรรพบุรุษ พูดกันตรง ๆ พวกเขาจะกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของเราเอง และเป็นสาวกที่แท้จริง "

ศิษย์ส่วนตัวได้รับคำแนะนำจากบรรพบุรุษเอง

แต่สาวกที่แท้จริงคือเหล่าสาวกที่สามารถสืบทอดมรดกของบรรพบุรุษซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าศิษย์ส่วนบุคคล

3 ขั้นตอนของการคัดเลือกถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน

รอบแรกคือการเลือกหัวกะทิคนที่แข็งแกร่งที่สุด ประมาณ 10,000 คนจากทั้งหมด 400,000 คน

พวกเขาก็จะเข้าร่วมกับสาวกนิกายในการเข้าสู่รอบที่สองของการคัดเลือก.

รอบนี้จะใช้เวลานานที่สุด ใช้เวลาในการดำเนินการทดสอบถึง 3 ปี

สามปีนี้จะไม่เพียงแต่เป็นรอบที่ 2 แต่ยังเป็นกระบวนการบ่มเพาะ ความสามารถและศักยภาพที่ซ่อนไว้จะปรากฏออกมาในขั้นตอนนี้ และการแข่งขันจะดุเดือดมากขึ้น

รอบนี้จะจัดอันดับผู้สมัครที่แข็งแกร่ง 64 คน

64 คนนี้จะเข้าสู่รอบที่ 3 ซึ่งในที่สุดจะเหลือเพียง 16 คนสุดท้าย

มีเพียง 16 คนที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้ชนะในขั้นสุดท้าย

แน่นอนว่าหลายคนในปัจจุบันขาดความปรารถนาที่จะท้าทายความสามารถในการเข้าถึง 16 คนสุดท้าย

พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าพลังของพวกเขาทำให้พวกเขามีสิทธิที่จะปะทะกับบรรดาสาวกที่โดดเด่น

อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถทำให้ตัวเองเข้าไปเล่นในช่องยาวเป็นหนึ่งในสามพันคนเพื่อเข้าร่วมนิกาย

นั่นเป็นเป้าหมายที่สมเหตุสมผล

"จำไว้ว่าเรากำลังใช้แนวทางพิจารณาองค์ประกอบรวมในการเลือกครั้งนี้ เจ้าอาจไม่ได้มีศักยภาพที่ดีที่สุด แต่ถ้าเจ้าแสดงพรสวรรค์พิเศษในด้านอื่น เจ้าอาจยังคงมีโอกาสที่จะเข้าร่วมนิกาย หากพรสวรรค์เหล่านี้เป็นสิ่งพิเศษอย่างยิ่ง เจ้าอาจได้รับความสนใจเพิ่มเติม เป้าหมายสำหรับเราสี่คนคือสี่สาวกส่วนตัว แต่ถ้าพวกเจ้ามีทักษะเฉพาะด้านอื่น ๆ เราจะเปิดประตูทางลับให้กับพวกเจ้า แน่นอนข้อแม้คือศักยภาพของพวกเจ้าต้องดีพอที่จะดึงดูดความสนใจของเราได้ "

"ตัวอย่างเช่น ถ้าพวกเจ้ามีทักษะที่น่าทึ่งในด้านเต๋าโอสถ หรือพวกเจ้ามีความสัมพันธ์ที่น่าทึ่งในการฝึกสัตว์วิญญาณ หรือถ้าพวกเจ้ามีความชำนาญในเรื่องภาษาโบราณ การสร้างกลไกความเข้าใจในการสร้างค่ายกล หรืออื่น ๆ พวกเจ้าก็ยังมีความหวังที่จะเข้าร่วมนิกายได้ "

บรรพบุรุษนักล่าตะวันอธิบายรายละเอียดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหยุดชั่วคราวหลังจากคำพูดเหล่านี้ เขาต้องการให้ผู้ชมใช้เวลาในการแยกแยะข้อความเหล่านี้ และให้ทุกคนมีเวลาเพียงพอในการวิเคราะห์ศักยภาพของตนเอง

"นั่นหมายความว่าถึงแม้ว่าข้าจะสูญเสียศักยภาพในด้านเต๋าศิลปะการต่อสู้ ข้าก็ยังมีโอกาสอยู่ถ้าข้าทำได้ดีในด้านอื่น"

"หึหึ อาจารย์ของข้าบอกว่าข้ามีความสามารถโดยธรรมชาติสำหรับการสร้างค่ายกล บางทีข้าอาจเป็นอัจฉริยะด้านการสร้างค่ายกล?"

"ฮ่าๆ ฝันต่อไปเถอะ การสร้างค่ายกลไม่ใช่เรื่องง่าย ข้ามีความสามารถในการสื่อสารกับสัตว์วิญญาณตั้งแต่ยังเล็ก บางทีข้าอาจจะกลายเป็นสาวกของนิกายจิตมหัศจรรย์! "

นิกายจิตมหัศจรรย์คือนิกายที่เก่งที่สุดในด้านการฝึกฝนและเลี้ยงสัตว์วิญญาณ สาวกเกือบทั้งหมดมีพรสวรรค์ในด้านนี้

ดังนั้น เมื่อมีการสู้รบกับสาวกของนิกายจิตมหัศจรรย์ มันไม่ใช่เพียงการต่อสู้กับผู้ฝึกฝน แต่จะต้องต่อสู้กับสัตว์วิญญาณของคู่ต่อสู้ด้วย

เป็นไปได้ว่าพลังของสัตว์วิญญาณของเหล่าสาวกที่ไม่น่าเชื่อบางคนแข็งแกร่งกว่าเจ้านาย !

"ฮ่าฮ่า ดี นี่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม ข้าไม่เคยมีหนทางให้แสดงความสามารถด้านเต๋าโอสถเลย นี่คือโอกาสของข้า เป้าหมายของข้าคือนิกายพฤกษาสวรรค์ ! "

นิกายพฤกษาสวรรค์มีชื่อเสียงมากในด้านโอสถหาที่ใดเปรียบเสมือนได้ในสี่นิกาย เยาวชนที่มีศักยภาพในด้านของโอสถจะถูกนิกายพฤกษาสวรรค์ดึงตัวไป

"ฮืม! พวกคนโง่ที่ชอบฝันกลางวัน ในโลกของเต๋าศิลปะการต่อสู้ ศิลปะการต่อสู้คือผู้นำ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะใช้วิธีการแหวกแนวเพื่อการก้าวหน้าในนิกาย หากเจ้าไม่แข็งแกร่งพอในเต๋าศิลปะการต่อสู้ เจ้าจะกลายเป็นคนรับใช้ของคนอื่น เฉพาะนักสู้ในด้านเต๋าศิลปะการต่อสู้เท่านั้นที่เป็นตำนานที่ไม่มีวันตายและเป็นผู้นำของทั้งหมด ! ในชีวิตนี้ เป้าหมายของข้ามีไว้เฉพาะในเต๋าศิลปะการต่อสู้ ข้าจะใช้ดาบในมือเป็นทางนำเพื่อเข้าร่วมนิกายตะวันม่วง! "

คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มุ่งเน้นไปที่เต๋าศิลปะการต่อสู้

เมื่อมันพูดถึงบรรยากาศของการต่อสู้และฐานรากของมัน แน่นอนว่านิกายตะวันม่วงแข็งแกร่งที่สุด

ส่วนนิกายวายุคลั่ง ไม่อาจเทียบได้กับนิกายพฤกษาสวรรค์ด้านเต๋าโอสถ ในด้านตำนานของเต๋าศิลปะการต่อสู้ก็ไม่สามารถเทียบได้กับนิกายตะวันม่วง และเมื่อพูดถึงการฝึกเลี้ยงดูสัตว์วิญญาณก็ไม่ได้เก่งกาจเท่ากับนิกายจิตมหัศจรรย์

อย่างไรก็ตาม นิกายวายุคลั่งมีทักษะที่ชำชองด้านอื่นที่ไม่มีนิกายใดสามารถทำได้ดีไปกว่าพวกเขาและนั่นก็คือความสามารถในการเปิดเผยอัจฉริยะ

นิกายวายุคลั่งมีชุดวิธีการที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการค้นพบอัจฉริยะที่ยังไม่ได้เปิดเผยศักยภาพของตน พวกเขาขุดทองออกจากกองทราย

ทักษะนี้ที่ช่วยให้นิกายวายุคลั่งค้นพบอัจฉริยะมากมาย วิธีการพิเศษเหล่านี้และพื้นฐานที่ไม่เหมือนใครทำให้มันสมบูรณ์แบบเทียบเท่ากับนิกายอื่น ๆ ได้

ผู้ฝึกฝนทุกคนมีนิกายที่ตนเองสนใจโดยเฉพาะ

นิกายตะวันม่วงเน้นย้ำในเรื่องเต๋าศิลปะการต่อสู้ นิกายพฤกษาสวรรค์ให้ความสำคัญกับโอสถ นิกายจิตมหัศจรรย์ยังคงเอนเอียงไปทางการทำให้สัตว์วิญญาณเชื่อง ส่วนคนที่มีพรสวรรค์พิเศษจะถูกระบุโดยนิกายวายุคลั่ง

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังกังวลอยู่

"แล้วรอบแรกนี้จะดำเนินการอย่างไร ? พวกเขาจะค้นพบว่าเรามีศักยภาพที่ผิดปกติได้อย่างไร? "

"ใช่แล้ว พวกเรามีจำนวนมากมาย ถ้าพวกเขาทำพลาดล่ะ?"

"พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าเชื่อว่าพวกเขาได้พิจารณาปัญหาเหล่านี้แล้ว เพราะพวกเขาเองกำลังดำเนินการเลือกนี้!"

"สี่นิกายมีศิลปะที่ยิ่งใหญ่ พวกเขามีวิธีของตัวเอง หยุดตีโพยตีพายได้แล้ว "

สี่บรรพบุรุษได้ยินเสียงบทสนทนาทั้งหมดที่เกิดขึ้นใต้เวที

บรรพบุรุษนักล่าตะวันหัวเราะอย่างจริงจัง "ต้องมีคนในหมู่พวกเจ้าที่กังวลว่าเราจะค้นพบศักยภาพของทุกคนในหมู่ผู้เข้าร่วมนับแสนคนได้อย่างไร?"

"ข้าบอกได้เลยว่า มันไม่ใช่เรื่องยาก!"

เสียงของบรรพบุรุษนักล่าตะวันมีความมั่นใจ. "ถ้าเจ้าไม่ตั้งใจซ่อนศักยภาพของตัวเองและไม่ต้องการที่จะถูกค้นพบ การทดสอบเป็นสิ่งที่เพียงพอที่จะแสดงความสามารถของทุกคนได้อย่างเต็มที่!"

"และตอนนี้ ข้าจะอธิบายกฎของขั้นตอนแรก"

"ในรอบแรกมี 5 การทดสอบ เราได้รวมลักษณะเฉพาะของอาณาจักรดั้งเดิมเพื่อสร้างการทดสอบ "

"การทดสอบแรกเกี่ยวกับหัวใจ ในโลกของเต๋าศิลปะการต่อสู้ โดยไม่คำนึงถึงว่าศักยภาพของเจ้าอยู่ระดับไหน เจ้าต้องผ่านการทดสอบหัวใจ ถ้าเจ้าไม่ผ่าน ถึงแม้ว่าเจ้าจะอยู่ในระดับใดในโลกนี้ หากไม่มีหัวใจที่เข้มแข็งบนเส้นทางของเต๋าศิลปะการต่อสู้ เจ้าจะไม่มีอะไรเหลือเลยในตอนท้าย! "

การทดสอบหัวใจเป็นการทดสอบครั้งแรก!

เจี้ยงเฉินแอบปรบมือให้ผู้อาวุโสนักล่าตะวันในใจ เหล่านี้เป็นกฎที่กำหนดไว้โดยบรรพบุรุษ ! การนำการทดสอบหัวใจให้อยู่ในลำดับแรก นี่พิสูจน์สถานะของพวกเขาว่าเป็นผู้ฝึกฝนอาณาจักรต้นกำเนิดที่แท้จริง

บรรดาผู้ที่เข้าสู่อาณาจักรต้นกำเนิดต่างรู้ดีว่าการสร้างทารกวิญญาณเป็นเรื่องยากเพียงใด

เย่ชองหลิวล้มเหลวอย่างต่อเนื่องเพราะเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งของหัวใจ

บรรพบุรุษไม่มีความสัมพันธ์กับเย่ชองหลิว พวกเขาจึงไม่ได้ให้คำแนะนำใด ๆ แก่เขา

การได้เห็นบรรพบุรุษตั้งการทดสอบหัวใจเป็นเรื่องแรก แสดงให้เห็นว่าพวกเขารู้ว่าความแรงของหัวใจเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จำเป็นในการตัดผ่านอาณาจักรต้นกำเนิด

"การทดสอบที่ 2 เกี่ยวกับความสามารถโดยธรรมชาติ พวกเจ้าจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจมากมายในการทดสอบนี้ เจ้าสามารถเลือกการทดสอบด้านเต๋าศิลปะการต่อสู้ การทดสอบด้านเต๋าโอสถหรือการทดสอบการสร้างค่ายกล แน่นอนสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำคือการผ่านทั้งหมดเพียงครั้งเดียว พวกเจ้าจะมีโอกาสมากขึ้นในการขุดค้นศักยภาพของตัวเองด้วยวิธีนี้! "

การวางการทดสอบความสามารถไว้ลำดับสองก็สมเหตุสมผลเช่นกัน

ไม่ใช่ว่าคนที่มีพรสวรรค์ธรรมดา ๆ ไม่สามารถยกระดับการฝึกของพวกเขาให้มีความสมบูรณ์แบบในโลกของเต๋าศิลปะการต่อสู้ได้ แต่พวกเขาก็หายากมากในระดับเดียวกับมังกรเมื่อเทียบกับอัจฉริยะ

เจี้ยงเฉินเคยได้ยินตัวอย่างดังกล่าวในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ชายคนนั้นมีชื่อว่าฮานลี้ เขาเกิดมาค่อนข้างปกติไม่มีฐานวิญญาณในร่างกายของเขา แต่กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกของเขาและก้าวเข้าสู่โลกอมตะในตอนสุดท้าย

อย่างไรก็ตามตัวอย่างของผู้ฝึกฝนที่มีความสามารถระดับปานกลางพัฒนาตัวเองจนไปถึงระดับที่สมบูรณ์แบบนั้นมีน้อยมาก

นอกจากนี้ยังกล่าวได้ว่าความสามารถยังคงมีความสำคัญมากในเส้นทางของการฝึกฝน

ศักยภาพของร่างกายของเจี้ยงเฉินถูกมองว่าเป็นคนธรรมดา แต่เขาสามารถยกระดับได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ที่เขาสะสมมาจากชีวิตในอดีตของเขา

"การทดสอบที่ 3 เกี่ยวกับความอดทนและศักยภาพ ในการทดสอบนี้พวกเจ้าจะเผชิญกับภูเขานับไม่ถ้วน ในภูเขาแต่ละลูกมี 10,000 ขั้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 10 ชั้น ระดับของพื้นและขั้นที่เจ้าสามารถก้าวไปได้จะแบ่งกั้นความอดทนและศักยภาพของพวกเจ้า จะมีคนมาอธิบายกฎที่แน่นอนอย่างละเอียดให้ทุกคนฟังก่อนที่จะเข้าไป "

"การทดสอบที่ 4 เกี่ยวกับการต่อสู้ในทางปฏิบัติ การต่อสู้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้บนเส้นทางของเต๋าศิลปะการต่อสู้ สิ่งนี้จะทดสอบทักษะของเจ้าในการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจริงและความหลักแหลมในทักษะการต่อสู้ของเจ้า ถ้าการทดสอบด้านพรสวรรค์คือการทดสอบทักษะโดยธรรมชาติของเจ้าแล้ว นี่คือการทดสอบความเข้าใจและทักษะของเจ้าในการต่อสู้ที่แท้จริง"

พรสวรรค์และความหลักแหลมคล้ายกัน แต่ก็ยังต่างออกไป

พรสวรรค์ในตัวคือศักยภาพพิเศษที่มีมาตั้งแต่เกิด เช่น ร่างฟีนิกซ์สวรรค์ของหลงยู่ซื่อ นั่นคือพรสวรรค์โดยธรรมชาติและเป็นสิ่งสำคัญ

ความหลักแหลมคือพลังแห่งความเข้าใจ

เป็นการยากที่จะพูดได้ว่าพรสวรรค์หรือความหลักแหลมสิ่งใดมีความสำคัญมากกว่าในโลกของเต๋าศิลปะการต่อสู้ แต่ถ้ามีทั้งสองแล้วพวกเขาก็จะเป็น "อัจฉริยะ" ที่คนมักพูดถึง

การทดสอบความอดทนและศักยภาพก่อน และทักษะในการต่อสู้ในทางปฏิบัติ นี่คือการหลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่จะมีผลต่อการทดสอบประเภทอื่น การจัดตารางแบบนี้มีเหตุผลเช่นกัน

เจี้ยงเฉินเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาเป็นผู้ฝึกฝนอาณาจักรต้นกำเนิดเก่าแก่ พวกเขาได้พิจารณารายละเอียดจากทุกแง่มุมอย่างละเอียดและไม่ได้เลือกออกแบบอย่างส่งเดช

"การทดสอบที่ 5 อาจฟังดูโง่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครควรมองข้าม เราจะทดสอบโชคลาภในการทดสอบนี้ โชคชะตาปรากฏเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรมและไม่มีตัวตน แต่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยในโลกของเต๋าศิลปะการต่อสู้ บางคนมีศักยภาพพิเศษ บางคนมีความเข้าใจที่ยอดเยี่ยม แต่ทำไมพวกเขาไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดของเต๋าศิลปะการต่อสู้? พวกเขาขาดอะไร? สิ่งที่พวกเขาขาดก็คือโชคลาภ ครั้งหนึ่งเคยมีผู้ฝึกฝนที่ยิ่งใหญ่ถูกสายฟ้าผ่าจนตายโดยบังเอิญในระหว่างการเดินทาง นี่เป็นตัวอย่างง่าย ๆ ของการขาดโชคลาภ อย่าถือว่านี่เป็นการทดสอบเล่น ๆ "

เจี้ยงเฉินประทับใจทั้งสี่บรรพบุรุษเมื่อได้ยินเรื่องการทดสอบครั้งสุดท้ายนี้

จากรูปลักษณ์ของสิ่งเหล่านี้ สี่บรรพบุรุษเป็นคนที่เก่งกล้ามากที่สุดในพันธมิตรทั้งสิบหกอาณาจักร!