spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 111 วิกฤต
“เพราะฉัน! ฉันเป็นฆาตกร! ฉันฆ่าเขา!” จินเหมยลี่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เธอคงล้มพับลงไปกับพื้นแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะหวงเจียฮุยจับตัวเธอเอาไว้แน่น ลู่หยวนหันมาแล้วพูดกับจินเหมยลี่ว่า “ฉันเสียใจด้วยจริงๆ”
จินเหมยลี่ส่ายศีรษะช้าๆด้วยความเสียใจ ในความสิ้นหวังลู่หยวนตระหนักได้ว่าชีวิตนั้นเปราะบางแค่ไหน กระทั่งสิ่งมีชีวิตเล็กๆก็สามารถเอาชีวิตของมนุษย์ไปได้
ลู่หยวนและคนที่เหลือตัดสินใจตรวจสอบอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดที่ห้องใต้ดินด้วยความกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น พวกเขาต่างตกใจที่เสบียงของพวกเขาบางส่วนถูกฉีกออก มีพวกหนอนกระดืบๆดุ๊กดิ๊กอยู่ในข้าวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ลู่หยวนพบหนอนที่มีสีอยู่สองสามตัวซึ่งยาวเกือบครึ่งเมตร
เสบียงทั้งหมดนั้นถูกเก็บมาจากพวกตึกร้าง พวกเขานำมาที่ห้องใต้ดินโดยไม่ได้ตรวจสอบอะไรมากนัก เขาดีใจที่มันยังไม่สายเกินไป ที่สำคัญที่สุดคือมีคนเพียงคนเดียวที่ดื่มน้ำนั่นเข้าไป และไม่มีใครอื่นอีกที่ได้กินอาหารปนเปื้อนพวกนี้ ไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะไม่รอดต่อให้มีค่าร่างกาย 13 แต้มก็ตามที ลู่หยวนและคนของเขาเอาอาหารที่ปนเปื้อนทั้งหมดออกจากห้องใต้ดิน และเผามันหน้าบ้านพัก
มีอาหารในห้องใต้ดินเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่ถูกเผา ลู่หยวนไม่ต้องการเสี่ยง แน่ล่ะว่าเขาสามารถระบุได้ว่าอาหารปลอดภัยหรือไม่ด้วยพลังที่เขามี แต่มันต้องใช้พลังงานมาก และอาการปวดหัวอย่างหนักจะตามมา ถ้าเขาใช้พลังจิตบ่อยเกินไป
จินเหมยลี่ขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดวัน กระทั่งถึงเวลาอาหารเย็นก็ยังไม่ยอมออกมา หวงเจียฮุยเคาะประตูห้องของเธอแต่ก็ไม่มีเสียงตอบ ทันใดนั้นลู่หยวนก็ได้กลิ่นเลือดจางๆภายในบ้าน และรู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปรกติ เขารีบหมุนลูกบิดประตูแต่มันถูกล็อคจากข้างใน
“หรือว่าเธอ......?” หวงเจียฮุยพูดอย่างกังวล เธอเคาะประตูรัวๆ “จินเหมยลี่ เปิดประตู! เปิดประตูซิ!”
“หยุดเคาะแล้วถอยออกมา” เขารู้ว่ากลิ่นคาวเลือดนั้นมาจากในห้อง
คนอื่นๆที่โต๊ะอาหารต่างรู้สึกพิกลๆกับสถานการณ์ตรงหน้า ลู่หยวนเตะประตูเปิดออก กลิ่นคาวเลือดฉุนกึกพุ่งปะทะจมูกของเขา หวงเจียฮุยรีบวิ่งเข้าไปในห้อง เธอไม่เห็นใครอยู่ข้างในจึงรีบวิ่งไปดูที่ห้องน้ำ และพบจินเหมยลี่อยู่ในอ่างน้ำด้วยใบหน้าซีดเผือด เสื้อของเธอชุ่มโชกไปด้วยเลือด
หวงเจียฮุยแตะหน้าผากของเธอแล้วพบว่าร่างของเธอเย็นชืดและแข็งทื่อ หญิงสาวส่ายหัวแล้วพูดว่า “เธอเสียชีวิตมาสองชั่วโมงแล้ว เฮ้อ......”
นี่เป็นครั้งที่สองที่ลู่หยวนได้เห็นการฆ่าตัวตาย ครั้งแรกเป็นชายวัยกลางคนผู้สูญเสียลูกชายจากการถูกสัตว์ขนาดใหญ่ยักษ์กระทืบเอา เขาเห็นคนตายมามากมายด้วยวิธีการต่างๆกัน แต่การฆ่าตัวตายนั้นเป็นอะไรที่แย่ที่สุด ทุกคนมองหาจดหมายลาตายของเธอ มันเปียกและยับยู่ยี่ ในจดหมายนั้น จินเหมยลี่กล่าวขอโทษอย่างจริงใจสำหรับความหยาบคายของเธอและขอร้องให้พวกเขาโปรยอัฐิของเธอพร้อมกับจ้าวกัง
ทุกคนต่างเศร้าเสียใจ หนิงเสี่ยวหลานและหวังซีซีพากันร้องห่มร้องไห้น้ำตาท่วม สาวๆร้องไห้ประสานเสียงกัน พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ขึ้น ไม่มีใครกินข้าวเย็นลงสักคน พวกเขาช่วยกันเคลื่อนย้ายศพของเธอไปที่ลานกว้างแล้วจุดไฟเผาอีกครั้ง ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะเสียสมาชิกไปสองคนในช่วงระยะเวลาสั้นๆในวันเดียว
เมื่อถึงเวลาเข้านอน หวังซีซีขอกลับไปที่ห้องของเธอ หวงเจียฮุยประหลาดใจในขณะที่ลู่หยวนเข้าใจ เขารู้สึกโล่งอกและหวงเจียฮุยก็มีความสุขมาก
“นายคิดยังไงกับการตัดสินใจของเธอ? นายบอกอะไรเธอรึเปล่า?” หวงเจียฮุยนึกถึงการกระทำแปลกๆของหวังซีซีจึงถามออกมาด้วยความสงสัย
“ฉันไม่ได้พูดอะไรมากหรอก เธอเป็นเด็กฉลาด แค่อธิบายให้เธอฟังง่ายๆเธอก็เข้าใจแล้ว” ลู่หยวนตอบ
หวงเจียฮุยตีเขา หน้าเธอแดงเพราะความโกรธ “นายพูดเรื่องแบบนั้นกับเธอได้ยังไง? เธอยังเด็กอยู่นะ!”
“เด็ก? เด็กเดี๋ยวนี้ฉลาดกว่าเราเยอะน่า” ลู่หยวนพูด
“ถึงอย่างนั้น นายก็ไม่ควรพูดแบบนั้น! แล้วนี่ฉันจะไปเจอหน้าเธอได้ยังไง?” หวงเจียฮุยพูดอย่างโกรธๆแล้วต่อยเขาไปอีกหมัด
“ก็ลืมมันซะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” ลู่หยวนตอบ
“ก็ได้ ฉันจะไม่พูดถึงมันอีก” เธอยังโกรธอยู่ แต่ตอนนั้นเองที่หญิงสาวพลันคิดถึงจ้าวกังและจินเหมยลี่ขึ้นมา จึงถอนหายใจ “ชีวิตนี่เปราะบางนะ นายไม่มีวันรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะฆ่าตัวตาย”
“มันอาจจะเป็นการปลดปล่อยเธอจากความเจ็บปวดทั้งหมดก็ได้นะ ไปนอนกันเถอะ” ลู่หยวนพูด
ลู่หยวนนอนลืมตาอยู่ในความมืด ฟังเสียงคำรามภายนอก ความคิดต่างๆวิ่งผ่านเข้ามาในหัว “ฉันจะต้องรอดให้ได้!”
การฟื้นตัวของเจ้ากิ้งก่าดีขึ้นอย่างน่าประทับใจหลังกินเนื้อของสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีน้ำเงิน อาการบาดเจ็บฟื้นตัวมาครึ่งหนึ่งแล้วภายในคืนเดียว ลู่หยวนเลิกรังแกเจ้ากิ้งก่าและจับมันฝึกทุกวันแทน วันที่สองขาที่บาดเจ็บของเจ้ากิ้งก่าก็หายสนิท มันมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆตามวันเวลาที่ผ่านไป พวกเขาเอาชนะการต่อสู้ด้วยกันมาสองสามครั้ง เจ้ากิ้งก่าเลื่อนขึ้นมาสองเลเวลแต่ลู่หยวนเพียงแค่เกือบๆจะอัพเกรดเท่านั้น เขาเพิ่มค่าความคล่องแคล่วของเจ้ากิ้งก่าไปอีก 2 แต้มกลายเป็น 14 แต้ม
ถึงแม้จะเพิ่มเพียงแค่ 2 แต้ม มันก็ทำให้เจ้ากิ้งก่ามีพลังเพิ่มขึ้นสองเท่า ลู่หยวนใส่คะแนนทักษะ 10 แต้มให้การกัดและการฟาดหาง ตอนนี้ทักษะกระโจนกัดของมันมี 19 แต้ม และทักษะฟาดหางพอถึง 15 แต้มก็อัพเกรดขึ้นเป็น “ทักษะฟาดหางระดับเชี่ยวชาญ : 0!”
การจัดการค่าสถานะต่างๆของเขาทำให้เจ้ากิ้งก่าแข็งแกร่งขึ้นมาก หางของมันสามารถเฉือนมนุษย์หรือสัตว์ให้ขาดเป็นสองท่อนได้! พวกเขาไปปะทะเข้ากับสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีน้ำเงิน และมันก็ถูกหั่นขาดสองท่อนก่อนที่จะทันได้ดิ้นรนซะอีก ถ้าลู่หยวนวิ่งเข้าใส่เจ้ากิ้งก่าแบบเมื่อก่อน เขารู้เลยว่าเขาจะไม่รอดชีวิตออกมาแน่นอน ลู่หยวนจัดการฆ่าพวกสัตว์กลายพันธุ์ตัวใหญ่และแข็งแกร่งที่อยู่ใกล้ๆทั้งหมด เหลือเพียงสัตว์กลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งแบบสุดๆอยู่ไม่กี่ตัวซึ่งเขาก็ลังเลที่จะเข้าโจมตี
การต่อสู้ในสองสามวันสุดท้ายนั้นทำให้พวกเขาเหน็ดเหนื่อยมาก เจ้ากิ้งก่าก็บาดเจ็บและต้องการเวลาในการพักฟื้น เขารู้ว่าพวกเขาทั้งคู่อ่อนแอลงในช่วงสองสามวันนี้ พวกเขาได้ยินเสียงคำรามอย่างดุร้ายจากสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสีน้ำเงินจากระยะทางใกล้ๆ และตอนนั้นเองเขาก็สามารถมองเห็นภาพล่วงหน้าได้ว่ามีสัตว์ที่แข็งแกร่งกว่าจากในเมืองกำลังมุ่งหน้ามา มันสายเกินไปแล้ว!