spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 110 ลดจำนวนคน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดหวังซีซีก็ยอมกลับบ้าน เธออิงแอบกับแขนของเขาไปตลอดทางพร้อมรอยยิ้มหวานบนใบหน้า เธอมอบหัวใจของเธอให้แก่ลู่หยวนและหวังว่าพวกเขาจะไม่มีวันพรากจากกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเข้าใกล้บ้านพักมากขึ้น หวังซีซีก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายและรู้สึกผิด ในที่สุดเธอก็ปล่อยแขนเขา ลู่หยวนโล่งอก เขายังนึกไม่ออกว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้หวงเจียฮุยฟังได้อย่างไร
พวกเขาสองคนไม่ได้หลงรักกันอย่างแน่ชัด พวกเขาเป็นมากกว่าคู่นอน แต่พวกเขาเคยชินที่มีอีกฝ่ายอยู่เคียงข้างหลังจากผ่านเรื่องต่างๆมาด้วยกันมากมาย เขาไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของเธอถ้าทำได้ เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมาก ลู่หยวนไม่มีเวลาพอที่จะเตรียมตัว มันเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในการมีความรักกับเด็กสาว แต่มันก็ปวดหัวหนักด้วยเช่นกัน
“มาดูกันว่าเราทำอะไรได้บ้าง” ลู่หยวนคิดพร้อมกับถอนใจ
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินคนในบ้านกรีดร้องและเสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้
“เกิดอะไรขึ้นข้างใน?” ลู่หยวนถามหวังซีซีด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เกิดเรื่องขึ้นที่นั่น พี่จะไปดูก่อน ดูแลตัวเองนะ”
หวังซีซีได้ยินเสียงกรีดร้องนั่นเช่นกัน แม้ว่าเธอจะหวังให้ลู่หยวนอยู่กับเธอนานกว่านี้ เธอก็ไม่ได้ขอร้องเขา เธอพูดว่า “พี่ลู่รีบไปเถอะ ฉันไม่เป็นไร”
ลู่หยวนพยักหน้า มันไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ ไม่อย่างนั้นเจ้ากิ้งก่าต้องเตือนเขาแล้ว เขารีบพุ่งไปที่บ้านพักและพบว่าทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ลานว่างหน้าบ้าน จ้าวกังกำลังกลิ้งไปมาและกรีดร้องอยู่บนพื้น จินเหมยลี่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของหวงเจียฮุย
ลู่หยวนพุ่งเข้าไปหาพวกเขา และถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับจ้าวกัง
“เราไม่รู้ เรากำลังพักผ่อนกันที่หน้าประตูหลังการฝึก แล้วอยู่ๆเขาก็บอกว่าเขาปวดท้อง จากนั้นเขาก็ล้มลงบนพื้นกลิ้งไปมาไม่หยุด” โฮวตงรีบอธิบาย
ใบหน้าของจ้าวกังบิดเบี้ยวและขาวซีด เหงื่อออกเต็มหน้าผาก ดูเหมือนกำลังเจ็บปวดอย่างหนัก เลือดเริ่มไหลออกมาจากจมูกและปาก เห็นได้ชัดว่าเขาคงอยู่ได้อีกไม่นาน ทุกคนเอาแต่ตะโกนและถอยหลัง
“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉัน!” จินเหมยลี่หน้าซีดเผือด เธอเอาแต่ดิ้นรนอยู่ในอ้อมกอดของหวงเจียฮุย แต่เธออ่อนแอเกินกว่าจะดิ้นหลุดออกมาได้
ดูเหมือนเธอจะขาดสติไปแล้วและเริ่มด่าทอลู่หยวน “แก! แกฆ่าเขา! แกบังคับให้เขาฝึก! ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก! พวกแกทุกคน! ไม่มีใครคิดจะช่วยเขาเลย! พวกแกจะต้องไม่ตายดี!”
ลู่หยวนไม่โต้ตอบ เขาไม่อยากเกรี้ยวกราดใส่เธอ เขารู้ว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน แค่ดูสามีของเธอทรมานจากความเจ็บปวด เธอก็แทบจะล้มพับลงไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆจะไม่เกรี้ยวกราดใส่เธอเช่นเขา ทันใดนั้นเชาหลินก็ตรงเข้ามาหาจินเหมยลี่แล้วตบหน้าเธอ “หุบปาก!” เธอตะโกนใส่
“แกกล้าดียังไง!” จินเหมยลี่อึ้ง เธอกุมหน้าเอาไว้แล้วพยายามจะข่วนเชาหลิน แต่เชาหลินหลบเธอได้
“แล้วไงเล่า? ทุกคนก็ฝึกเหมือนกันหมด แต่คนอื่นไม่เป็นอะไรสักคน! มันเป็นอุบัติเหตุ ควบคุมตัวเองหน่อยเถอะ เราไม่ได้ติดหนี้อะไรเธอสักหน่อย!” เชาหลินพูด
“เงียบทั้งคู่นั่นแหละ!” ลู่หยวนตะโกน
เชาหลินหงุดหงิดอย่างชัดเจน แต่เธอไม่พูดอะไรออกมาอีก จินเหมยลี่ดูจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ไม่กล้าเหมือนกัน หลังจากโดนเชาหลินตบเอา เธอก็กลับมามีสติเหมือนเดิม ลู่หยวนเดินตรงไปที่จ้าวกังและเห็นว่าเขาอ่อนแรงลงทุกที เขาหยุดดิ้นรนแล้ว ลมหายใจก็อ่อนลงด้วย และมีเสียงเหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอของเขา เลือดยังคงไหลออกมาจากจมูกและปาก เขากำลังจะตายในไม่ช้า
จินเหมยลี่เริ่มร้องไห้อีกครั้งขณะที่เฝ้ามองเขา ลู่หยวนใช้มีดแทนมือพลิกร่างของเขาอย่างระมัดระวัง เขาอยากดูว่ามีบาดแผลอยู่ที่ไหนหรือไม่ จ้าวกังดูไม่เหมือนว่าจะถูกกัดหรือต่อยโดยพวกสัตว์กลายพันธุ์ เลือดของเขาแดงเหมือนปกติ
ลู่หยวนถามทุกคนอย่างสงสัย “เขาเพิ่งกินอะไรเข้าไปรึเปล่า?”
“ไม่แน่ใจนะ เขาอยู่กับเราตลอดเวลา เขาไม่ได้กินอะไรนอกจากอาหารกลางวัน เออใช่ เขาดื่มน้ำหลังจากฝึกด้วย” โฮวตงพูด
“น้ำ? น้ำอะไร?” ลู่หยวนถาม
“น้ำแร่” โฮวตงตอบ
ทุกคนกินอาหารเหมือนกัน และน้ำแร่ก็ถูกปิดผนึกแบบสุญญากาศ งั้นก็ไม่น่าจะใช่สาเหตุ ลู่หยวนลุกขึ้นจากพื้นแล้วตรวจสอบรอบๆอีกครั้ง แต่เขาไม่พบว่ามีสิ่งใดแปลก เขามองไปยังขวดน้ำที่อยู่บนพื้น และเห็นว่ามีขวดหนึ่งที่มียี่ห้อต่างออกไป เขารู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที ถึงแม้เขาจะเก็บรวบรวมน้ำแร่มาหลายยี่ห้อก็เถอะ มันก็แปลกอยู่ดีที่ขวดนี้มียี่ห้อต่างออกไปอยู่ขวดเดียว
“ขวดน้ำอันนั้นเป็นของใคร?”
“ของจ้าวกัง” ซันเสี่ยวหวู่พูด
ทุกคนมีขวดน้ำเป็นของตัวเอง น้ำแร่ส่วนใหญ่ในเขตนี้ถูกพวกเขาเก็บรวบรวมมาในช่วงไม่กี่วันมานี้ มีน้ำแร่จากหลายยี่ห้ออยู่ประมาณ 50 ลัง หวงเจียฮุยแจกจ่ายให้แก่ทุกคนในทุกๆเช้า
“เจียฮุย วันนี้เธอแจกน้ำลังเดียวกันหรือเปล่า?” ลู่หยวนถาม
หวงเจียฮุยดูสับสนเช่นกัน “ฉันแจกน้ำแร่ยี่ห้อฟาร์มเมอร์มาสองสามวันแล้ว ฉันไม่คุ้นยี่ห้อนี้เลย”
ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างออกและรีบดูที่ขวดน้ำทันที “จริงด้วย!” เขาตกใจ
ลู่หยวนเห็นหนอนตัวกึ่งโปร่งใสหลายตัวว่ายอยู่ในน้ำ หนอนพวกนี้ตัวเล็กและสีของพวกมันก็คล้ายกับสีน้ำซึ่งทำให้ยากที่จะสังเกตเห็น เขายังเห็นรูเล็กๆบนฝาขวดที่ดูคุ้นตาอีกด้วย หลินเสี่ยวจีเอาขวดน้ำไปจากลู่หยวนและมองดูบ้าง ทันใดนั้นเขาก็ทิ้งขวดน้ำลงแล้วก้าวถอยหลัง “ทำไมมีหนอนอยู่ข้างในได้เนี่ย?” เขาถาม
พวกเขาสองสามคนเดินเข้ามาดูบ้าง แล้วก็รีบถอยหลังทันที จินเหมยลี่ดูตกใจมาก เธอนิ่งเฉยและตัวสั่นในเวลาเดียวกัน ลู่หยวนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดจริงจังว่า “จินเหมยลี่ น้ำขวดนี้มาจากที่ไหน?”
“ฉัน ฉันหยิบมันมา” เธอตอบ
“เธอหยิบมันมาจากที่ไหน?”
“มัน มันเป็นคืนที่ฉันเดินละเมอ!” จินเหมยลี่เอาแต่ร้องไห้จากความรู้สึกผิด “ฉันไม่รู้ว่ามีหนอนพวกนี้อยู่ข้างใน ถ้าฉันรู้ฉันจะไม่เอามันมา ฉันไม่รู้ว่ามันจะฆ่าเขา!” จินเหมยลี่ดูเสียใจมาก
ลู่หยวนถอนใจขณะที่ดูเธอร้องไห้ เขาไม่คิดว่าขวดน้ำที่เธอเอากลับมาจะฆ่าใคร โชคดีที่ทุกคนมีขวดน้ำเป็นของตัวเอง ทันใดนั้น ร่างของจ้าวกังก็กระตุกอีกครั้ง เขาตดออกมาดังมาก กางเกงของเขาเปียกและมีกลิ่นเหม็นๆออกมาจากร่างเขา ตาของเขาเบิกกว้างและจ้องขึ้นไปบนท้องฟ้า ร่างของเขาสั่นกระตุกแต่ไม่มีสัญญาณของลมหายใจอีกต่อไป หวังซีซีปิดปากด้วยความตกใจขณะที่เฝ้ามองเหตุการณ์
ลู่หยวนรู้สึกหดหู่ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เขาเพิ่งคุยด้วยไม่นานมานี้ได้ตายแล้ว เขานิ่งเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ซันเสี่ยวหวู่ พวกนายไปเก็บฟืนมาเผาศพ เราเก็บร่างคนตายเอาไว้นานไม่ได้”
หนอนปรสิตจะออกมาจากร่างที่ตายแล้วเพื่อหาร่างที่อยู่ใหม่ มันจะสายเกินไปถ้าพวกเขาไม่เผาศพให้ทันเวลา จินเหมยลี่ร้องไห้และพยายามหยุดพวกเขา แต่ไม่มีใครสนใจเธอ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นวิญญาณหลอนโตขึ้น ลู่หยวนต้องตัดต้นไม้ส่วนใหญ่ในเขตนี้และเอามันไปทำฟืน
“ไปดูเขาเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ” ลู่หยวนพูดกับจินเหมยลี่
จินเหมยลี่มองสามีของเธอแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“พาเขาไป” ลู่หยวนบอกทุกคนหลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง
นอกจากลู่หยวนแล้ว มีผู้ชายอยู่สี่คนในที่นั้น หลินเสี่ยวจีหยิ่งมาก และเขาไม่ยอมขยับ โฮวตงมองซันเสี่ยวหวู่และเฉินเชี่ยนฟงอย่างร้อนใจ ทันใดนั้น เฉินเชี่ยนฟงก็เอาผ้ามาพันที่ขาศพ โฮวตงจึงตามมา
ตอนแรกซันเสี่ยวหวู่ก็อยากจะไปช่วย แต่เขาไม่ทำเนื่องจากเขากลัวทั้งหนอนและศพ โฮวตงและเฉินเชี่ยนฟงเคลื่อนย้ายศพไปวางไว้บนฟืน เปลวไฟกลืนกินร่างของเขาในไม่กี่นาที ทุกคนพากันนิ่งเงียบและยืนมองอยู่ห่างๆ จินเหมยลี่ยังคงร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิด