spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Ch.100 ความกล้าหาญ
คนในกลุ่มหวังจะใช้ประโยชน์จากลู่หยวนแต่เมื่อคิดถึงวันแรกที่มาถึงบ้านหลังนี้กับการตอบโต้ของลู่หยวนแล้วเขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้ง ลู่หยวนเริ่มให้คนออกไปเผชิญหน้ากับอันตรายบ้างเพื่อจะได้รู้วิธีรับมือกับอันตรายต่างๆ ลู่หยวนเริ่มมอบหมายหน้าที่ในการหาอาหารให้กับผุ้ชายคนอื่นๆ มีบางคนเสนอให้พวกเขาย้ายไปที่เมืองหลวงแทนเพราะที่นั่นน่าจะปลอดภัย ในตอนนั้นเองอยู่ๆหวังซีซีก็ตะโกนบอกว่ามีสัตว์ร้ายมากมายอยู่ในสวนและมีคนได้รับบาดเจ็บด้วย ในตอนนั้นคนอื่นๆได้ขอร้องให้ยู่หลวนออกไปช่วยแต่ยู่หลวนยังคงยืนกรานให้พวกที่โดนโจมตีอยู่นั้นรอดมาได้ด้วยตัวเอง สุดท้ายพวกที่โดนโจมตีอญู่ก็รับมือกับสถานกาณณ์และฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ได้ จริงๆแล้วพวกนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายเท่าไหร่ ที่บาดเจ็บสุดก็เป็นเพียงโดนกัดที่นิ้วทั้งสองข้าง การทำแบบนี้จะทำให้พวกนั้นมีทักษะในการเอาตัวรอดได้มากขึ้น สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่อ่อนแอพวกนี้แหละที่เหมาะฝึกคนพวกนี้มากที่สุด
ตอนที่ 101 แสงไฟ
ถึงแม้คนพวกนั้นจะมีประสบการณ์การเคลียร์พื้นที่ที่น่าตื่นเต้น พวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่สามารถพักผ่อนได้ในตอนเย็น
หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารกลางวันแล้ว พวกเขาก็เริ่มย้ายเข้าไปในบ้านใหม่ของพวกเขา
ไม่มีใครบ่นเรื่องมีข้าวของมากเกินไปในช่วงเวลาเลวร้ายเช่นนี้ กระทั่งเก้าอี้ที่แตกหักก็ยังมีประโยชน์โดยเอามันไปทำเป็นฟืนได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้ตระหนักว่าพวกเขามีข้าวของมากเกินไปในตอนที่เริ่มเคลื่อนย้ายพวกมัน
เตียง, ผ้าปูที่นอน, เฟอร์นิเจอร์, ข้าวสาร, เสื้อผ้า, น้ำมันเบนซิน, เครื่องปั่นไฟ, เครื่องเทศ, กระทะ, ถ้วยชาม......การขนทุกอย่างนั้นกินทั้งเรี่ยวแรงและเวลาของพวกเขา
เมื่อพวกเขาย้ายข้าวของทั้งหมดเข้าไปในบ้านใหม่เสร็จ มันก็ค่ำแล้ว
ทุกคนดีใจ แต่ผู้มาใหม่ดีใจยิ่งกว่า เพราะพวกเขาไม่ต้องเบียดกับคนอื่นๆอีกต่อไปแล้ว ผู้หญิงยังดีกว่าผู้ชายเพราะพวกเธอไม่ต้องเจอกับความไม่สะดวกสบายและน่าอายอย่างที่ผู้ชายต้องเจอ ผู้หญิงต้องหลีกเลี่ยงคนอื่นๆเพียงแค่จะไปเข้าห้องน้ำ
บ้านใหม่นั้นใหญ่กว่าบ้านเก่าของพวกเขา และมีห้องว่างเพียงพอ ดังนั้นจึงสามารถแชร์ห้องนอนสองคนต่อหนึ่งห้องได้ ขณะที่มีคนโชคดีสองสามคนได้ครองห้องทั้งห้องคนเดียว
ลู่หยวนได้ห้องนอนใหญ่ รูปภาพแต่งงานของเจ้าของคนเก่าถูกโยนลงถังขยะ ห้องนอนถูกทำความสะอาดและผ้าปูที่นอนเดิมถูกแทนที่ด้วยผ้าปูที่พวกเขานำมาจากบ้านเก่า
ไม่ใช่เพราะผ้าปูผืนเดิมนั้นเคยเป็นของคนตาย ถึงยังไงทุกคนก็คุ้นเคยกับความตายแล้วในตอนนี้ ถ้าความตายเป็นของต้องห้าม พวกเขาอาจจะไม่สามารถกินพวกสัตว์กลายพันธุ์ในเมืองได้ เพราะไม่มีพวกมันตัวใดที่ไม่เคยกินคนมาก่อน
ถึงแม้พวกเขาจะย้ายข้าวของเข้าบ้านใหม่เสร็จแล้ว งานของพวกเขาก็ยังไม่เสร็จอยู่ดี บ้านพักทั้งหลังถูกรักษาไว้อย่างดีหลังการโจมตีจากสัตว์กลายพันธุ์ฝูงใหญ่ แต่หน้าต่างทุกบานแตกหมด ดังนั้นบ้านจึงยังไม่ปลอดภัยที่จะใช้อยู่อาศัย แน่ล่ะว่าลู่หยวนไม่ได้หวังว่าตัวบ้านพักจะปกป้องพวกเขาจากสัตว์กลายพันธุ์ขนาดใหญ่ได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันสัตว์อันตรายที่ตัวเล็กกว่าได้ อย่างเช่นยุงกลายพันธุ์ ไม่ให้พวกมันเข้ามาได้
เขาค้นหาไปทั่ว โชคดีที่พบปูนซีเมนต์สองสามถุงในห้องเก็บของเล็กๆในที่จอดรถใต้ดิน เขา, โฮวตง และคนอื่นๆช่วยกันรวบรวมอิฐ ผสมปูนด้วยน้ำ และทำการปิดหน้าต่าง, รู, ท่อแอร์ และที่ดูดควัน
พอพวกเขาปิดหน้าต่างบานสุดท้ายเสร็จ ทั้งบ้านก็พลันมืดมิดราวกับตึกโบราณ แสงสว่างจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียวมาจากการเปิดประตู
บ้านอาจจะมืด แต่พวกเขากลับรู้สึกปลอดภัย สุดท้าย ลู่หยวนก็ขนเครื่องปั่นไฟไปที่ห้องใต้ดินแล้วเปิดเครื่อง เครื่องปั่นไฟส่งเสียงดังออกมา และทันใดนั้นทั้งบ้านก็สว่างขึ้น
เขาเปิดเครื่องปั่นไฟที่ห้องใต้ดินเพราะคิดว่าบางทีเจ้าของบ้านคนเก่ามีงานอดิเรกที่ไม่ธรรมดาและได้ออกแบบห้องใต้ดินให้เก็บเสียงได้ อย่างที่คาดไว้ พอเขาปิดประตู เสียงก็ถูกปิดไว้เกือบหมด
ขณะเดียวกัน ในห้องนั่งเล่น พวกเขาพากันร้องออกมาอย่างยินดี รู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้กลับไปยังวันเก่าๆเมื่อได้เห็นแสงไฟสีขาวส่องสว่างขึ้นมา
ลู่หยวนยิ้มขณะที่มองทุกคนที่กำลังตื่นเต้น แม้แต่คนที่เคร่งขรึมที่สุดก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้ในช่วงเวลาเช่นนี้ พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะได้เห็นแสงไฟอีกครั้ง เหมือนกับที่พวกเขาไม่เคยคิดว่าแสงไฟที่พวกเขาได้ช่วยบริจาคในอดีตนั้นจะทำให้พวกเขามีความสุขได้มากมายเช่นนี้
“ฉันอยากชาร์จมือถือหน่อย” หนิงเสี่ยวหลานเช็ดน้ำตา ดูเหมือนเธอจะนึกอะไรบางอย่างออก และเริ่มรื้อกระเป๋าตัวเอง แต่เธอหามือถือของเธอไม่เจอ บางทีเธออาจจะทำหายที่ไหนสักแห่ง หญิงสาวกังวลใจมากและดูใกล้จะร้องไห้แล้ว
“เธอใช้ของฉันก็ได้!” เชาหลินปลอบใจเธอพร้อมกับเอามือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋า หาที่ชาร์ตแบตแล้วกดสวิตช์เปิด
“ ได้ ได้! ” หนิงเสี่ยวหลานบิดมุมเสื้อขณะที่พยักหน้าอย่างขอบคุณ ดวงตาของเธอจ้องไปยังมือถือที่เปิดขึ้นมาพร้อมเสียงอันไพเราะ
ไม่นาน คนอื่นๆก็เอามือถือของตัวเองออกมาบ้าง ชาร์จแบตแล้วเปิดเครื่อง
ทุกคนพากันเงียบ ความตื่นเต้นของพวกเขาถูกแทนที่ด้วยความกังวลและหดหู่
“ทำไมเธอไม่ไปชาร์จแบตมือถือตัวเองล่ะ?” ลู่หยวนถามหวงเจียฮุย
“ไม่ล่ะ ไม่เป็นไร” หวงเจียฮุยฝืนยิ้มให้เขา “ที่จริงฉันโทรไม่ติดมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนแบตจะหมด”
“พี่ลู่ ขอฉันยืมมือถือพี่ได้ไหม ? ฉันอยากโทรหาพ่อกับแม่ หวังว่าฉันจะยังติดต่อพวกท่านได้นะ” หวังซีซีที่ยืนอยู่ข้างพวกเขาขอร้องขึ้นทันที ใบหน้าเล็กๆของเธอมืดมนราวกับว่าเธอกำลังพยายามสงบนิ่ง
ขณะที่เขามองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กซึ่งอายุยังไม่ถึงสิบสี่ปีคนนี้ ลู่หยวนก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมา “ เดี๋ยวนะ ให้พี่ไปเอามือถือจากข้างบนมาก่อน ”
ลู่หยวนวิ่งไปที่ห้องนอนใหญ่บนชั้นสอง รื้อค้นไปทั่ว และเจอมือถือกับที่ชาร์จแบตของเขาในกล่องที่เขาเก็บของจิปาถะ จากนั้นเขาก็วิ่งลงมาที่ชั้นล่าง ชาร์จมือถือแล้วเปิดเครื่อง เขาพยายามปลอบใจหวังซีซี “อย่าห่วงเลย ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นไร”
“พี่ลู่ พี่ไม่ต้องปลอบฉันหรอก ยังไงก็ไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้ว มันใช้เวลาไม่นานในการตามหาฉันหรอกถ้าหากว่า......” หวังซีซีไม่พูดต่อให้จบประโยค เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป น้ำตาของเด็กหญิงไหลลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ประโยคที่เหลือของเธอถูกแทนที่ด้วยเสียงร้องไห้
“ไม่มีสัญญาณแล้ว” เชาหลินพูดอย่างเคร่งเครียดขณะที่มองโทรศัพท์ ทันใดนั้นสีหน้าของหนิงเสี่ยวหลานก็พลันซีดขาว เธอนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง ขณะที่โฮวตงก็วางมือถือของเขาลงพลางถอนใจอย่างผิดหวัง บรรยากาศกลายเป็นหดหู่
ลู่หยวนมองมือถือของเขาจนกระทั่งมันเปิดขึ้นมาในที่สุด มันไม่มีสัญญาณเลย แต่มีข้อความที่ไม่ได้อ่านอยู่หนึ่งอัน เมื่อพิจารณาว่ามือถือไม่สามารถรับข้อความได้โดยปราศจากสัญญาณ ก็เห็นได้ชัดว่าข้อความนี้ถูกส่งมาตั้งแต่ตอนที่แบตเตอรี่ยังไม่หมดดี และมือถือก็ปิดไปแบบอัตโนมัติก่อนที่เขาจะมีเวลาอ่านมัน
น่าประหลาดที่ข้อความนี้มาจากหวงเซียกวง ลู่หยวนสูดหายใจเข้าลึก แล้วอ่านข้อความไปทีละตัว เขาใช้เวลาอ่านอยู่หลายนาทีทั้งๆที่มันค่อนข้างสั้น
“ลู่หยวน มาหาเราถ้านายยังอยู่ในเมืองเหอตง พ่อของฉันกับเพื่อนของเขาสร้างสถานีใต้ดินเล็กๆขึ้นมา ฉันรู้ว่านายไม่ชอบพึ่งคนอื่น แต่ความปลอดภัยสำคัญกว่าศักดิ์ศรี ถ้านายหาที่ซ่อนดีๆไม่ได้ นายก็มาหาเราได้นะ ที่อยู่คือย่านตงกวง อันเซียโนเบิ้ล เขต18 ”
หลังจากการพบกันครั้งสุดท้ายของเขากับหวงเซียกวงที่สวนสาธารณะตงหู่ เขาก็ไม่ได้พบเธออีกเลย หลังจากเขาปฏิเสธความรักของเธอซ้ำๆ เขาก็ได้ทำร้ายเธออย่างมาก และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เย็นชาขึ้นทีละน้อยจนในที่สุดก็ไม่ได้ติดต่อกัน ลู่หยวนค่อยๆลืมเธอไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คาดว่าเธอจะยังคงห่วงใยความปลอดภัยของเขา
หวงเซียกวงเป็นคนที่แจ้งเขาให้รู้ตัว ดังนั้นเขาจึงสามารถออกจากเมืองตงหู่ไปพร้อมกับคนกลุ่มแรกได้ ถึงแม้ลู่หยวนจะทำตัวเลือดเย็นเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูได้ แต่เขาก็ยังคงมีอารมณ์ความรู้สึก
“อันเซียโนเบิ้ล เขต 18 ดูเหมือนไม่ไกลไปจากที่นี่นัก” ลู่หยวนพูดกับตัวเอง
ทุกคนค่อนข้างเงียบระหว่างที่ทานอาหารเย็น พวกเขาดูเหมือนมีบางสิ่งอยู่ในใจ และกินได้ไม่เยอะนัก
เพื่อที่จะประหยัดน้ำมันไว้ ลู่หยวนปิดเครื่องปั่นไฟก่อนที่พวกเขาจะเข้านอน และเปิดไฟฉายในมือถือของเขาแทน
ทันทีที่เขาเดินเข้ามาในห้องนอน หวงเจียฮุยก็ปิดประตูราวกับขโมย เมื่อเธอหันมาทางเขา ใบหน้าของเธอก็เป็นสีแดง หญิงสาวหายใจเร็ว ดวงตาชื้น เธอดูร้อนแรงและเย้ายวน
ไฟในตัวของลู่หยวนถูกจุดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จากสัญญาณที่ชัดเจนนั้น เขาไม่ได้มีเซ็กซ์มานานแล้วจึงรู้สึกตื่นเต้น ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่เพิ่มค่า AP ให้ร่างกายของเขา คุณสมบัติทางร่างกายของเขาก็สมดุลกัน และตอนนี้เขาสามารถควบคุมร่างกายของเขาได้เต็มที่ เขาแทบจะทนรอทดสอบความสามารถบนเตียงของเขาอีกครั้งไม่ไหวแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะหวังซีซีนอนอยู่ห้องเดียวกับพวกเขา เขาก็คงไม่ทน
พวกเขาไม่พูด เพียงแค่โอบกอดกันและกัน และจูบกันอย่างดูดดื่ม มือของลู่หยวนขยับไปที่หน้าอกของเธออย่างรวดเร็ว แล้วถูไถนวดเฟ้นอย่างมันมือ ลมหายใจของพวกเขาเร็วขึ้น ลู่หยวนไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป เขากดเธอติดกับผนัง ปลดเข็มขัดเธอออกอย่างไม่สบอารมณ์ และดึงกางเกงกับชั้นในของเธอลง จากนั้นเขาก็หมุนตัวเธอแล้วดันเธอติดกำแพง
“เตียง!” หวงเจียฮุยหันมา เสียงของเธอสั่นพร่าขณะที่ใบหน้าก็ร้อนฉ่า
“ทำที่นี่เถอะ” ลู่หยวนยืนกราน
ใต้แสงไฟฉายจากมือถือ สะโพกของเธอช่างขาวและกลมราวกับพระจันทร์วันเพ็ญ ลู่หยวนถูไถมันอย่างเพลิดเพลิน นิ้วของเขาเคลื่อนไหวไปทั่ว หลังจากกินสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงมานาน ผิวของหวงเจียฮุยก็ละเอียดอ่อนและเรียบลื่นราวผ้าไหม
ทั่วร่างของหญิงสาวขึ้นสีแดงและรู้สึกร้อนเป็นอย่างมาก
ลู่หยวนลูบไล้เธออยู่สักพักจนเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาปลดเข็มขัด เอาลู่หยวนน้อยออกมา แล้วสอดใส่มันเข้าไปช้าๆ
เขาสูดหายใจเข้าลึกและหายใจออกช้าๆ
ไม่ใช่แค่ผิวของหวงเจียฮุยเท่านั้นที่กำลังร้อน ข้างในตัวเธอก็ร้อนด้วย เห็นชัดว่าหญิงสาวไม่ได้ทำมานาน พอเขาเข้าไปในตัวเธอ หวงเจียฮุยก็เริ่มครางออกมาอย่างพอใจ
ลู่หยวนเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อยๆ หวงเจียฮุยไม่สามารถยันตัวเองไว้ได้อีกต่อไป มือของเธอที่เกาะผนังอยู่เริ่มเลื่อนไหลลงมา
“ไม่ ไม่ไหวแล้ว......” ผมของหวงเจียฮุยยุ่งเหยิง และหน้าผากก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
ลู่หยวนลืมตากว้าง กอดหญิงสาวเอาไว้แน่น และประคองสะโพกสีขาวนุ่มนิ่มของเธอไว้ ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น ท้องของเขากระแทกกับสะโพกของเธออย่างรุนแรง
หวงเจียฮุยรู้ว่าลู่หยวนเกือบจะเสร็จแล้ว เธอจึงพูดว่า “ช่วงนี้ปลอดภัย!”
ลู่หยวนคำราม กอดหวงเจียฮุยไว้แน่น ยังคงประคองสะโพกของเธอเอาไว้
ขณะที่พวกเขากำลังเพลิดเพลินดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุข ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“พี่ลู่ พี่หวง ฉันนอนไม่หลับ ฉันอยากนอนกับพี่ๆด้วย”
ลู่หยวนรู้สึกรำคาญใจ และสงสัยว่าทำไมเขาไม่นึกได้ก่อนหน้านี้ว่าการที่พวกเขาทั้งหมดนอนด้วยกันนั้นมันไม่เหมาะสมแค่ไหน
ในตอนที่เขาพบหวังซีซีครั้งแรกนั้น เธอยังเป็นเด็ก ดังนั้นเขาจึงมองเธอเช่นนั้นมาตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนทำให้เขาตระหนักว่าหวังซีซีไม่ใช่เด็กอีกต่อไป เธอโตแล้ว อย่างน้อยก็ทางด้านจิตใจ มันไม่ถูกต้องสำหรับพวกเขาที่จะนอนด้วยกันอีก
ที่สำคัญที่สุด มันเป็นสิ่งที่หวงเจียฮุยต้องการ เขาจึงพยายามให้คำแนะนำเธออย่างเต็มที่ “เธอไม่เคยนอนคนเดียวมาก่อนเหรอ? สักสองสามวันเดี๋ยวก็ชินน่า”
“แต่ถ้าฉันไม่ได้กอดพี่ตอนนอน ฉันจะฝันร้ายนะ!” หวังซีซีพูดอย่างอ่อนไหวขณะที่เม้มปาก เสียงของเธอฟังดูไม่สบายใจเหมือนมีอะไรผิดปกติ
ลู่หยวนเกือบใจอ่อน แต่เขาต้องเข้มงวดกับเธอ “อย่าหาข้ออ้าง เป็นเด็กดีแล้วกลับไปนอนซะ”
“ฉันคิดถึงพ่อกับแม่” ในที่สุดหวังซีซีก็ตัดสินใจใช้ไม้ตาย
ลู่หยวนและหวงเจียฮุยมองหน้ากัน แล้วหวงเจียฮุยก็ถอนหายใจและพูดว่า “ให้เธอเข้ามาเถอะ!”
จากนั้นเธอก็เอาทิชชู่มาเช็ดส่วนลับของเธอ หลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินไปเปิดประตู