หน้าแรก > Epoch of Twilight
สรุป 51 - 70

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Ch.51 ทะเลสาบ

ลู่หยวนเลือดกำเดาไหลเนื่องจากการใช้สัมผัสที่หกนั้นเป็นภาระให้กับสมองมากเกินไป เขารู้ว่าถ้าอยู่แถวนี้ต่อคงงต้องแย่งแน่ๆ  เขาได้ตัดสินใจที่จะจัดการเรื่องนี้ เขากระโดดเข้าหาอีกฝ่ายด้วยความเร็วสูง อีกฝ่ายได้สั่งให้โยนระเบิดเข้าใส่ลู่หยวนแต่มันก็ไม่เป็นผล  ลู่หยวนวิ่งเข้าไปหาชายที่ปาระเดบิดและจัดการตัดหัวทิ้ง  เขาจัดการหยิบเอาไรเฟิลข้างๆยิงเข้าไปใส่ชายวัยกลางคนอีกฝ่าย 3 นัดแต่ชายคนนั้นใส่เสื้อเกราะกันกระสุนอยู่จึงไม่ตายและกระเสือกกระสนที่จะหนี ลู่หยวนเล็งขึ้นไปที่หัวและยิงออกไป ในตอนนั้นเขาก็ได้ทกัษะการยิงปืนมาด้วยการยิงไม่กี่ครั้ง  พวกเซียนต้ากุยวิ่งเข้ามาหาและตกใจกับเลือดที่อาบตัวลู่หยวน พวกนั้นคิดว่าลู่หยวนบาดเจ็บแต่เมื่อเขาล้างหน้าพวกนั้นก็ตกใจ  พวกเขาพบศพไร้หัวและอีกคนที่โดนเป่าสมอง  ลู่หยวนถามว่าควรฆ่าชายที่โดนปลิงเข้าไปดีมั้ยแต่เซียนต้ากุยก็ปฏิเสธเนื่องจากมันจะทำให้ปลิงออกมาซึ่งยิ่งจะแย่กับพวกเขาคงมีแตต้องเผามัน พวกเขาเดินทางต่อและลู่หยวนได้สอบถามว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะไปถึงจุดหมายและได้รู้ว่าทะเลสาปที่จะไปนั้นมีสายพันธ์ระดับสองและมีขนนกอยู่ข้างๆทะเลสาปนั้น  พวกเซียนต้ากุยดูกลัวมากๆแม้แต่ลู่หยวนที่มีปืนเองก็ยังกังวัลว่าเขาจะเอาชนะสัตว์กลายพันธ์ระดับสีน้ำเงินได้เหรือไม่

 

Ch.52 ฆ่าอย่างรวดเร็ว

เมื่อมาถึงทะเลสาบพวกเขาได้พบกับจิ้งจกกลายพันธุ์ตัวหนึ่ง ลู่หยวนตัดสินใจที่จะเข้าปาและได้สอบถามกับอีกสามคน พวกนั้นได้ตัดสินใจที่จะไปล่าที่อื่นเพราะที่แห่งนี้มันอันตรายเกินไป  พวกนั้นกำชับว่าต้องใช้กระสุนปืนทึ่ยึดมาให้หมดเพราะยังไงก็ต้องโดนยึดคืนไปอยู่ดี  ตอนแรกลู่หยวนคิดจะรอให้จิ้งจกนั้นจากไปซะก่อนแต่แล้วเขาก็หมดความอดทน ในตอนที่เขาเล็งอยู่นั้นเขาก็ได้รับภารกิจมา เขารู้สึกคึกทันทีและคิดว่าคงฆ่ามันได้อย่างรวดเร็ว เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆและเล็งไปที่ตาขวาขจองมัน  สัตว์กลายพันธุ์ระดับสีน้ำเงินนั้นมีพลังป้องกันที่สูงมากๆดังนั้นเขาจึงต้องเล็งไปที่ส่วนที่อ่อนแอที่สุด ในตอนที่ยิงออกไปนั้นเองสัตว์มันก็ได้ร้องขึ้นด้วยความกระหายเลือดพร้อมกับเลือดที่กระเซ็นออกมา มันลุกขึ้นและพุ่งเข้ามาหาลู่หยวน  เขาหยิบระเบิดขึ้นมาสองลูกซึ่งเป็นระเบิดแสงและระเบิดไฟโยนเข้าหามันจนทำให้มัเสียสมดุงพุ่งเข้าไปชนกับต้นไม้ใหญ่  เขารวบรวมพลังไว้ที่มือและฟันจิ้งจกนั้นอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่นานเขาก็จ้องไปที่จิ้งจกซึ่งกำลังจะตาย มันพยายามหนีแต่คอของมันมีเลือดพุ่งออกมา มันเสียเลือดอย่างรวดเร็วจนในที่สุดก็ได้ตายลงไป ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ได้รับแจ้งเตือนว่าทำภารกิจสำเร็จและได้ยกระดับ แต่แล้วความตื่นเต้นที่มีก็ได้หายไปเพราะเมื่อยกระดับแล้วภารกิจง่ายๆจะไม่ปรากฎมาอีกครั้ง ระดับความยากของภารกิจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   เขาตัดสินใจใช้คะแนนที่ได้มาลงไปกับค่าความคล่องแคล่วทำให้ตอนนี้เขาเร็วกว่าคนทั่วไป 3.375 เท่า

Ch.53 งูยักษ์

เขาลองเคลื่อนที่ไปรอบๆและทดสอบความเร็วดูและพบปัญหาใหญ่ เขาต้องใช้แรงเยอะในการเหวี่ยงดาบและคงโจมตีได้แค่สิบครั้งเท่านั้น  เขาเดินไปที่ศพของจิ้งจกและเอาเกล็ดของมันออกมา เขาผ่าต่อเอาหัวใจของมันออกมากินแต่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เขาได้ชำแหละต่อและได้เอาสมองของมันออกมาใส่ถุงพลาสติกไว้หวังว่าจะเอาไปให้สองสาวทีร่บ้านของเขากิน  เขาเดินไปหาศพของนกฮูกที่มีคนยิงตายไว้เขาพบว่ามีกระสุนอยู่ในตัวมันเจ็ดนัดน่าจะเป็ฯทหารรึเครื่องบินรบที่เป็นคนยิงมัน  ขนนกหล่นกระจายไปทั่ว เขาใช้เวลากว่าสิบนาทีและเก็บมันมาได้กว่า 800 ขน ในตอนที่กำลังจะเดินทางกลับเขาก็ได้ยินเสียน้ำไหล เขารู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบๆนั้นเปลี่ยนไปและเมื่อหันกลับไปดูก็ต้องตะลึงเมื่อพบกับงูยักษ์ ปลาต่างก็เป็นอาหารของมัน  มันมีขนาดใหญ่มากๆจนเทียบกับตัวที่อยู่ในเมืองเกาถางไม่ได้ นอกจากรูปร่างและเกล็ดของมัน ส่วนอื่นๆไม่ถือว่าเป็นงูอีกเลย ปากของมันราวกับจระเข้ จมูกของมันเองก็ยังพ่นหมอกสีขาวๆออกมา ตอนนั้นเองก็ได้มีภารกิจแจ้งเตือนขึ้นมาให้ฆ่างูนี่ในเวลา 30 นาทีเป็นภารกิจระดับ E+  เขาคิดจะปฏิเสธ ภารกิจ E+ นี่คือการให้ฆ่าสัตว์กลายพันธ์ระดับสีฟ้าเข้ม เขาคงทำลายการป้องกันของมันไม่ได้ เขาวิ่งหนีออกมาและหันกลับไปดูก่อนจะพบว่างูนั่นเข้าไปเขมือบศพของจิ้งจกแทน  ศพของนกฮูกดำก็อยู่แถวนั้น ถ้าเขาวิ่งหนีไปคงไม่เหลืออะไรอีกแน่ๆ เขาคิดว่าจะใช้ระเบิดที่เลหือยู่ทั้งหมด  เขาใช้ระเบิดที่มีเขวี้ยงเข้าใส่งูและทำให้ท้องของมันแตกออกในตอนที่มันอ้าปากจะงับเขา มันส่งเสียงออกมาอย่างทรมานพร้อมสะบัดหางไปมา เขาคิดเสียดายที่ไม่รับภารกิจก่อนหน้านี้ งูได้หนีลงกลับไปในน้ำ  ลู่หยวนได้วิ่งเข้าไปเช็คที่ศพของจิ้งจกและพบว่าสมองนั้นยังคงเหลืออยู่และได้พบกับบางอย่างที่อยู่ข้างถุงพลาสติกซึ่งดูไม่เหมือนกับเนื้อจิ้งจกเลย

 

Ch.54 การแช่แข็ง

เขาพบว่ามันคือเกล็ดงูและเมื่อตรวจสอบมันก็พบได้ว่ามันคือเกล็ดมังกรระดับสีฟ้า เขารู้สึกเสียดายที่ไม่สู้กับมันก่อนหน้านี้ เพราะมันตัวเดียวก็มีค่ามากว่าจิ้งจกนี่เป็นสิบๆตัวแล้ว  เขาคิดว่ามันต้องมีเกล็ดนี้อีกและได้พบกับอีกสองอันอยู่ตรงต้นไม้ เขาได้เก็บรวบรวมของทุกอย่างก่อนที่จะออกจากที่นั่นมา  เขากลับมาที่ทางออกและกังวลว่าของที่ได้มานั้นจะถูกยึดเนื่องจากคนขายบอกว่าของต่างๆนั้นมีค่ามากแค่ไหน  เขาได้หยิบเอาหัวรบความร้อนมาผสมเข้ากับขนนกฮุกและเริ่มสังเคราะห์ดาบ เขาใช้เกล็ดที่ได้มาในการสังเคราะห์ดาบและทำให้มันเป็นดาบเยือกแข็งขึ้นมา เขาเดินหน้าสังเคราะห์ต่อกับรองเท้าและแจ็คเก็ตของเขาจนมันไม่พัฒนาอีก  เขาเจอรถที่ชายห้าคนได้ทิ้งไว้และขับกลับไปที่ฐาน เขากลับไปที่ฐานและได้ส่งเนื้อขาหลังจิ่งจกไปให้ตรวจ ผู้ตรวจได้บอกว่าถ้าเก็บของสิ่งใดไว้ใช้เองจะเป็นการผิดกฏและเขาก็ได้ยืนยันว่ามีแค่นั้จริงๆ ทหารนั้นตกใจเมื่อตรวจได้ว่าเนื้อนี้เป็นเนื้อระดับสามและสอบถามลู่หยวนว่าเขาเป็นคนฆ่ามันหรือไม่  ลู่หยวนปฏิเสธและทำให้ทหารคนนั้นโกรธขึ้นมา ทหารคนนั้นขู่ที่จะตรวจรถและจับลู่หยวน เขาขู่ออกมาว่าถ้าเขาเป็นทหารเขาคงมีตำแหน่งสูงกว่าชายคนนั้นและชายคนนั้นคงต้องโดนไล่ออก ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมามีแต่แสดงสีหน้าไม่พอใจ

 

Ch.55 มูลไส้เดือน

เขาแลกเนื้อที่ได้มากับแสตมป์อาหาร เขาค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มา เขาเอาของที่เหลือยัดเข้าใต้ที่นั่งในรถ เขาคิดว่าคงจะมีปัญหาถ้ามีการตรวจสอบเข้ามาจริงๆ  เมื่อกลับมาถึงเขตที่พักเขาก็ได้กลิ่นฉุนจางๆและพบกคนมุงดูบางอย่างอยู่ เขาพบกัวหวงเจียหุยและหวังซีซีที่นั่นด้วย เมื่อสอบถามก็พบว่ามีไส้เดือนเจาะหลุมในเมืองและมีคนตกลงไป เขาเดินเข้าไปสำรวจและพบว่าคงต้องมีหลุมแบบนี้เกิดขึ้นมาอีกแน่ มีทหารได้เข้ามาและกันทุกคนให้ออกจห่างออกไป  ทหารเข้าไปประจำการรอบๆรู้นั้น อยู่ๆก็ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาและได้มีงูสีม่วงยาวกว่า 7-8 ม.พุ่งขึ้นมาทำให้ผู้คนตกตะลึง ทหารรอบๆแม้ว่าจะอึ้งแต่ก็ทำการยิงออกไป ไม่นานหลังจากนั้นไส้เดือนนั่นก็นิ่งลงไป ทหารต่าสงก็ได้พยายามดึงมันขึ้นมาและพบว่าตัวมันยาวประมาณ 10 ม.  ทหารได้โยนระเบิดลงไปในหลุมอีกแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมา เมื่อทั้งสามคนกลับมาบ้านหวงเจียหุยก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของเมืองนี้ ลู่หยวนบอกว่าเมืองนี้ไม่ปลอดภัยแล้วแม้ว่าไส้เดือนนั้นจะดูเหมือนตายแต่มันก็อาจกลับมามีชีวิตได้เพราะไส้เดือนปกติก็เป็นเช่นนั้น เขากำชับสองคนไม่ให้ออกไปบ้านนอกและเขาจะเป็นคนหาอาหารมาให้เอง เขาบอกว่าคงต้องย้ายไปที่อื่นตอนนี้เขามีรถสองคันแล้วอีกคันนั้นได้มาจากชายห้าคนที่เขาไปสู้มา การย้ายไปที่อื่นคงสะดวกขึ้นกว่าเดิม

 

Ch.56 การกลายพันธุ์

หวังซีซีได้บอกว่าลู่หยวนนั้นได้ซื้อเสื้อผ้ามาใหม่แต่อันที่จริงเขาไม่ได้ซื้อมันมาเลย เขาจึงได้บอกความจริงกับทั้งสองไปว่าเขาได้พัฒนาแล้วและได้บอกว่าใช้ขนสีดำในการสังเกคราะห์เสื้อผ้าพวกนี้ขึ้นมา เขาบอกว่าจะทำให้พวกเธอด้วย ที่เขาไม่บอกเรื่องนี้เพราะกังวลว่าถ้าเรื่องนี้หลุดเอาพวกรัฐบาลคงต้องเลือกเขาไปอย่างแน่นอน  ลู่หยวนบอกให้หวังจีหุยเอาเนื้อไปหั่นดูและบองเอามากินเผื่อว่าจะมีวิวัฒนาการ เธอยังเจอก้อนตับซึ่งเมื่อรู้ราคาของมันแล้วก็ตกใจ หวังซี่ซี่ยังได้สอบถามเรื่องด้วงที่เธอเคยเห็นว่าอยู่ในระดับไหนและยังถามอีกว่าระดับสี่นั้นเป็นแบบไหน ลู่หยวนไม่คิดบอกเรื่องนี้กับเธอเพราะจะทำให้เธอกลัว  ลู่หยวนยังคงคิดถึงเรื่องงูอยู่และคิดว่ามันคงต้องเกี่ยวข้องกับงูจงอางแน่ๆ  หวงเจียหุยเห็นว่าลู่หยวนเอาเนื้อระดับสามและสี่มาซึ่งไม่ได้พบตามตลาดทั่วไปจึงได้ถามว่าเขาไปที่ป่ามาหรือไม่ เธออยากขอไม่ให้เขากลับไปที่ป่าอีกแต่ก็ทำไม่ได้และเดินกลับไปที่ครัว ไม่นานเขาก็เข้าใจว่าเธอเป็นห่วงและได้เดินตามไปอธิบายเรื่องการรอดชีวิตให้เธอได้ฟัง เมื่อทั้งสามคนทำการกินเนื้อนั้นอยู่ๆหวังซีซีก็ปวดหัวขึ้นมาและมีใบหน้าที่แดงขึ้น ในตอนที่ลู่หยวนจะลุกขึ้นไปดูก็พบว่าตัวเธอมีแผลพุพองเต็มไปทั่วร่างกายล

 

Ch.57 ความก้าวหน้า

หวงเจียหุยเดินเข้ามาใกล้และลู่หยวนก็ห้ามเธอ ผมของเธอลอยขึ้นมาและเธอเองก็แปลกใจก่อนจะคิดว่าหวังซีซีนั้นวิวัฒนาการแล้ว  ลู่หยวนเองก็ยืนยันและบอกให้ใครอย่าไปเข้าใกล้ ทั้งคู่ถอยห่างออกไปแต่ก็ยังมองไปที่เด็กน้อยอยู่ มีพลังงานที่มองไม่เห็นนแผน่ออกมาจนตะเกียบบนโต๊ะลอยขึ้นมาตามด้วยจานและเก้าอี้  พลังงานมันกระจายออกมาจนทั้งสองคนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้น เขารีบบอกให้หวงเจียหุยออกจากที่นี่ไปก่อนแต่ในตอนที่จะบิดลูกบิดทุกยอ่งาก็ได้หายไป ทุกอย่างตกลงมาทันที  หวังซีซีตื่นขั้นมาและถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจำได้แค่ว่าปวดหัวและหมดสติไป ลู่หยวนได้อธิบายว่าเธอนั้นวิวัฒนาการแล้วเธอคงมีพลังจิตแต่ต้องฝึกใช้มันซะหน่อย เมื่อเธอเพ่งเกินไปเธอจะปวดหัวขึ้นมาทันที  หวงเจียหุยเหมือนจะน้อยใจที่เธอคนเดียวที่ยังไม่พัฒนา ลู่หยวนเองก็อธิบายว่ามันก็เหมือนกับโชคเร่งอะไรมาไม่ได้ เขาได้บอกให้เธอนอนไปเลยส่วนเขาจะนั่งสมาธิ เขาออกไปจากบ้านและเลือกจุดเงียบบๆไปนั่งสมาธิที่นั่น ไม่นานเขาก็ลืมตาขึ้นมาและดวงตาของเขาก็แผ่รังสีฆ่าฟันออกมาและพลังงานนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนได้มีเสียงแหลมๆฟันผ่านอากาศมา เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นแล้ว  ตอนนี้แม้ว่าลู่หยวนจะไม่สามารถจัดการศัตรูที่ร้ายกาจะได้แต่เขาก็สามารถสะก้ดจิตและมองภาพศัตรูได้  สิบนาทีต่อมาเขาก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง รังสีที่เขาแผ่ออกมาดูเหมือจะหายไปอีกครั้ง เขาได้โยนก้อนหินขึ้นมาและลองใช้ไม้ตีมันดู ความกลัวที่เขามีต่อพลังนั้นค่อยๆหายไป ต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงกว่าเขาจะเอาชนะความกลัวมาได้ ในที่สุดสติเขาก็สามารถกลับมาควบคุมได้แบบปกติแล้ว  เขาคิดว่าเขาคงใช้มันออกมาได้ไม่มากเนื่องจากจิตใต้สำนึกของเขามีเพียงแค่ 13 แต้ม เขาคงยังพัฒนาถึงขึ้นที่ใช้มันอย่างอิสระไม่ได้

 

Ch.58 กฎระเบียบ

เขาพัฒนาทักษะดาบขึ้นไปอีกขั้น  เมื่อเขากลับมาบ้านด้วยอาการอ่อนล้า หวังเจียหุยก็ได้เข้ามาถามแต่เขาก็บอกไปว่าคงไม่ได้นอน หวังซีซีเองก็ยังใช้พลังได้ไม่คล่องเท่าไหร่ เขาได้เรียกหวังซีซีไปคุยเป็นการส่วนตัวเพราะความเครียดของผู้พัฒนานั้นไม่ได้ปกติเหมือนคนทั่วไป เขาเดินเข้าไปในเมืองผ่านหลุมเหม็นของไส้เดือนที่ทำขึ้นมา เขาคิดว่าผมเขายาวเกินไปและไม่สะดวกในการต่อสู้ด้วย เขาได้เข้าไปในร้านตัดผมและพูดคุยกับคนในร้าน คนนั้นร้านนั้นกำลังพูดเรื่องผู้พัฒนาที่มีเรื่องกับทหารแล้วหนีไปได้และได้รู้มาว่าตอนนี้มีกฏหมายใหม่ไว้ใช้กับผู้พัฒนาแล้ว ตอนนี้เขาอยากกลับมาบ้านเพื่อเตือนหวังซีซีไม่ให้เผยไพลังให้คนอื่นได้เห็นแต่เขาต้องห้ามตัวเองเพราะถ้าออกไปตอนนี้คงเป็นพิรุธแน่ๆ

 

Ch.59 โรคเฉียบพลัน

พวกพัฒนานั้นได้ก่อคดีฆาตกรรมและข่มขืนขึ้นมาจนรัฐบาลหมดความอดทนและตัดสินใจที่จะกวาดล้างคนเหล่านั้น ไม่ใช่ว่าเขากลัวที่จะต้องไปรบให้รัฐบาลแต่ว่าเขากลัวที่จะโดนจับไปทดลองมากกว่า อยู่ชายแก่คนตะกี้ก็ขอกลับกับยู่หลวนเพราะกลัวที่จะต้องไปเจอกับไส้เดือนดิน ที่เขาออกมาด้านนอกเพราะในบ้านนั้นไม่มีของกินอะไรเหลืออยู่แล้ว ในตอนที่ออกจากร้านก็ได้มีแมลงตัวพอกับกำปั้นบินผ่านมาเขาขีย้มันและพบว่ามันมีสารปนเปื้อนอยู่ เขาฆ่าแมลงไปหลายตัวจนมีภูมิคุ้มกันไปแล้ว ชายแก่ยังเล่าต่อว่าบ้านเขายังมีแมลงอีกตั้งหลายอย่างและยังได้พูดถึงยุงด้วย อยู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมา ลู่หยวนได้ไปดูและพบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีผิวหนังโปร่งพองและมีฟองที่ปาก หลายคนต่างก็เรียกหมอให้มาช่วย ลู่หยวนบอกให้คนคอยปฐมพยาบาลเอาไว้เขาจะวิ่งไปเอารถโดยที่รักษาระดับความเร็วให้เหมือนปกติที่สุด เมื่อเขากลับมาก็พบว่าเธอตายไปแล้ว อยู่ๆก็มีคนในฝูงคนเป็นอีกเช่นเดียวกัน หลายคนบอกว่ามันเป็นโรคติดต่อและรีบวิ่งหนีกันอย่างบ้าคลั่ง

 

Ch.60 สถานการณ์วิกฤต

ผู้คนต่างก็กลัวของแบบนี้กันอยู่แล้วแต่ลู่หยวนนั้นยังคงยืนนิ่งๆ เขาเห็นยุงโผล่ออกมาจากชายที่ล้มลงไปเมื่อตะกี้ คอของชายคนนั้นพองเป็นสีแดงอมม่วงขึ้นมา กระแสเลือดค่อยๆดำลงเรื่อยๆดูเหมือนว่ามันจะมีพิษด้วย รัฐบาลนั้นสามารถกักกันสัตว์ขนาดใหญ่ๆได้แต่สัตว์ตัวเล็กแบบนี้คงจะทำไมได้ สัตว์พวกนี้เป็นอันตรายกับมนุษย์เท่านั้น  เขาได้สติขึ้นมาและรีบขี่ไปที่ตลาดเพื่อจะซื้อข้าว คนพวกนั้นกำลังจะปิดบ้านแต่ลู่หยวนก็เข้าไปหยุดไว้ก่อน เขาได้ยัดเงินจำนวนมากเพื่อซื้อข้าวจนคนในนั้นต้องตะลึงกับเงินที่ได้  เจ้าหน้าที่พวกนั้นรีบวิ่งไปเอาของให้ทันที ในตอนที่ขนของเสร็จและพวกนั้นจะปิดร้านลู่หยวนก็ได้ให้เงินติดสินบนไว้อีก  เมื่อมองไปรอบๆก็พบว่าไม่มีใครอยากเปิดร้านอีกแล้วและเขาก็ต้องกลับมาที่บ้านตัวเอง เมื่อกลับมาบ้าน หวงเจียหุยได้สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ลู่หยวนก็บอกว่าไม่ต้องกังวลอะไรมากยังไงก็สร้างไวรัสมาต้านได้ เขายังกำชับให้ปิดหน้าต่างเอาไว้ด้วยและยังได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เธอได้ฟัง  หวังซีซีเดินออกมาพร้อมกับน้ำผสมน้ำส้มสายชู เธอเอาไปพ่นจนบ้านเหม็นเปรี้ยวสุดๆ ลู่หยวนทนไม่ได้และบอกให้เธอหยุดทำและเรียกทุกคนมาคุยด้วย

 

Ch.61 การทิ้งศพ

ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูขอความช่วยเหลือและพบว่าคนที่ขอมาความช่วยเหลือคือคนที่เขารู้จัก ชายคนนั้นบอกว่าเมียเขาโดนยุงกัด ลู่หยวนจึงต้อออกไปดู เมื่อมาถึงก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นได้ตายไปแล้วแต่เมื่อเขาก็เหมือนจะรั้งไว้ ลู่หยวนบอกว่ามันไม่ใช่โรคติดต่อก็แค่ฆ่ายุงที่เกาะอยู่บนเพดาน  ชายคนั้นได้ขอร้องให้ลู่หยวนฆ่ายุงตัวนั้นให้จนสุดท้ายเขาก็ต้องใช้ไม้กวาดในการฆ่ามันเพื่อให้ดูเหมือนคนธรรมดา ในตอนที่เขาจะกลับชายคนนั้นก็ยังขอร้องให้ช่วยเอาศพของเมียไปทิ้งและได้ออกมาทันที เมื่อกลับมาสองสาวก็ได้ถามเรื่องที่เกิดขึ้น ยู่หลวนเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเลยไม่อยากพูดถึงมัน เขากลับมากินข้าวโดยอาหารมื้อนี้เป็นแบบปกติเพราะถ้าไม่กินมันก็คงจะเน่า เนื้อกลายพันธุ์นั้นถูกหมักเอาไว้อยู่การกินตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่ควร  ในตอนเย็นได้มีทหารสองคนที่สวมชุดป้องกันพร้อมกับเครื่องพ่นไฟออกมาฆ่ายุงแม้ว่าเครื่องพ่นไฟจะใช้ได้นานแต่มันคงไม่พอที่จะฆ่ายุงให้หมดจากทั้งเมืองอยู่ดี

 

Ch.62 อาหารไม่เพียงพอ

เจ็ดวันมาแล้วแต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ทั้งเมืองไม่มีคนออกมาเดินเลยสักคน หัวเว่ยชายชราที่เพิ่งพบกับลู่หยวนที่ร้านตัดผมเองก็เช่นกัน เขาและครอบครัวต้องประสบกับการขาดแคลนอาหาร หัวเว่ยตัดสินใจที่จะไปขออาหารจากนายวังคนที่เขาเคยขายประกันให้ ตอนนี้อาหารนั้นมีค่ายิ่งกว่าทองคำไปแล้ว เขาเดินที่ตึกตรงกันข้ามพร้อมกับใส่เสื้อกันฝนที่รัฐบาลบอกว่ายุงไม่สามารถกัดผ่านมาได้ แม้ว่าจะขอซื้อเพียงใดแต่นายวังเองก็ไม่ได้มีอาหารมากและบอกให้ไปขอคนอื่นแทน  ในนตอนนั้นเองลู่หยวนกำลังออกกำลังกายอยู่พร้อมกับหวังซีซีที่แอบมอง เพราะการแตกเนื้อสาวทำให้เธอรู้สึกอย่ากรู้อยากเห็น ความจริงเขาอยากออกไปวิ่งข้างนอกแต่เพราะยุงนั้นจะทำให้เขาดูแปลกชาวบ้าน แม้ว่ายุงจะคุกคามคนปกติแต่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ อันที่จริงเขาค่อนข้างผิดหวังกับการฝึกหลายวันมานี้เพราะเขาไม่สามารถฝึกแบบเต็มที่ได้

 

Ch.63 โรคติดต่อ

ในตอนลู่หยวนก็ได้กลิ่นโจ๊กเนือ้ที่ลอยมาจากในครัวซึ่งหวงเจียหุยเป็นคนทำและแอบคิดถึงหยาลี่ หวังซีซีขอให้ยู่หบลวนไปช่วยอะไรสักหน่อยโดยเข้าไปในห้องของเธอ เธอเอาบราสีขาวและชมพูออกมาให้ดูและบอกว่ามันเก่าไปแล้วและคง้องเปลี่ยนใหม่เพราะขนาดของเธอมันใหญ่ขึ้นเธอยังบอกเลยว่าอยากได้แบบของหวงเจียหุย เขาไม่คิดว่าจะทำขึ้นมาอีกเพราะหวงเจียหุยหลังๆมาก็ไม่ได้ใส่แล้ว หวังซีซีจึงขอให้ลู่หยวนจับบราเพื่อวัดขนาดเพื่อจะทำบราให้เธอ เขาอึดอัดแต่เธอก็ยังยืนกรานจนเขาต้องยอม  ขากลับเข้าไปในห้องตัวเองและหยิบบราขึ้นมาดูก่อนจะเปิดลิ้นชักที่เก็บขนนกฮูอกออกมาโยเลือกขนสั้นๆแต่ในตอนนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นราวกับเสียงระเบิด เขารีบวิ่งไปที่เตียงแล้วปิดตู้เสื้อผ้าทันที หวังเจียงหุยที่เข้ามาไม่ทันสังกตุว่าเกิดอะไรขึ้น  เขาเลยบอกกับหวงเจียหุยว่าตอนนี้ยังทำเรื่องอย่างว่าไม่ได้เพราะหวังงซีซียังไม่หลับ หวงเจียหุยยังยืนกรานแม้ว่าหวังซีซีจะได้ยินเสียงก็เถอะ อันที่จริงเธอกลัวเขาไปติดผู้หญิงคนอื่นรึแม้แต่หวังซีซีที่พยายามอ่อยยู่หลวนด้วย เมื่อทำได้ไม่นานเขาก็หลั่งออกมาโดยนั่นก็เพราะการตอบสนองที่เพิ่มขึ้นทำให้เขารับรู้ได้มากกว่าเดิม ในตอนที่จะต่อรอบสองอยู่ๆก็ได้มีเสียงคะประตูดังขึ้น

 

Ch.64 การซื้อที่จำเป็น

เมื่อไปเปิดประตูเขาก็พบกับหัวเว่ย ตอนนี้ชายคนนั้นซูบผอมอย่างมาก หัวเว่ยได้ไปขอร้องเพื่อนบ้านหมดแล้วและนี่เป็นครั้งแรกที่เขากล้าเข้ามาหาลู่หยวน ลู่หยวนได้แนะนำว่าหวงเจียหุยเป็นแฟนเขาทำให้เธอดีใจอย่างมาก เธอถึงกับชวนหัวเว่ายกินข้าวด้วย เขาปฏิเสธเพราะคิดถึงลูกเมียที่อยู่ที่บ้านและเอ่ยปากเรื่องขอซื้ออาหารแม้ว่าจะขอเพิ่มราคาแต่ยู่หลวนก็ยังยืนกรานที่จะขายราคาเท่าเดิมให้ สุดท้ายยู่หลวนก็ให้ข้าวหัวเว่ยไป 15 ถุง  หวงเจียหุยก็ยังงงเธอไม่ค่อยอยากให้ข้าวนักเท่าไหร่ หัวเว่ยเห็นแบบนั้นจึงขอแค่ 10 ถุงก็ได้แต่ยู่หลวนก็ยังคงยืนกรานที่จะให้ 15 ถุงอยู่ดีจนทำให้หัวเว่ยรู้สึกดีใจอย่างมาก หวงเจียหุยเอาข้าวมาให้กับหัวเว่ยจนหัวเว่ยนั้นถึงกับน้ำตาซึมและให้คูปองอาหารเป็นค่าตอบแทนของข้าว ลู่หยวนไม่ได้เสนอของไปมากกว่านี้เพราะถ้าให้มากก็คงมีปํญหาตามมาอีก อันที่จริงลู่หยวนไม่ได้กังวลเรื่องหัวเว่าย เขากังวลเรื่องสองสาวนี่มากกว่าถ้าเขาปฏิเสธไป ถึงหวังซีซีจะใช้พลังได้แต่ความแข็งแกร่งของเธอก็ยังต้องพัฒนา หวงเจียหุยเองก็ยังไม่มีพลัง ถ้ามีคนบุกเข้ามาแย่งอาหารในตอนที่ลู่หยวนไม่อยู่ เขาคิดไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และความคิดของลู่หยวนก็ได้การพิสูจน์ มีเสียงกรีดร้องดังไปทั่วตึก ดูเหมือนจะมีการปล้นกันเกิดขึ้นแล้ว  กลิ่นของสพเหม็นหึ่งไปทั่วจนลู่หยวนได้กลิ่นแม้ว่าอยู่ในบ้านตัวเอง แม้ตอนนี้พวกนั้นจะยังไม่มาที่บ้านของเขาแต่มันคงขึ้นอยู่กับเวลา ในระหว่างนี้เขาเองก็ฝึกความแข็งแกร่งให้หวังซีซีไปด้วย  ลู่หยวนบอกให้ทั้งสามคนมานอนรวมกันเพื่อทีน่จะง่ายต่อการปกป้องยิ่งขึ้น มันทำให้หวังซีซีดีใจอย่างมาก

 

Ch.65 ความผิดหวังและหมดหวัง

หลิวหมิงและหั่วยู่อิงเองก็เป็นคนที่ได้รับผลกระทบนี้ หัวยู่อิงต้องใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อให้พวกนั้นข่มขืน แม้สามีของเธอจะรู้สึกแค้นเพียงใดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ชายสามคนที่เขามานั้นต่างก็ซะใจที่ได้ทำแบบนั้นแม้แต่ต่อหน้าสามีของเธอก็เถอะ หลิวหมิงต้องกำกำปั้นเพื่ออดทนความแค้นนี้และคอยย้ำกับตัวเองว่านั่นไม่ใช่เมียเขาอีกแล้วเธอเป็นแค่โสเภณี เขาคอยมองไปที่มีดซึ่งซ่อนอยู่ใต้โซฟาแต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะคว้ามันขึ้นมา เขาต้องนอนดูภรรยาที่น้ำตาอาบแก้มและทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายแล้วหัวยู่อิงก็ขอติดตามไปกับคนที่ข่มขืมเธอเนื่องจากผัวของเธอเพิ่งตบเธอมาก่อนหน้านี้ เธอบอกว่าไม่อยากอยู่ร่วมกับคนไร้ประโยชน์ แม้ว่าเมียจะโดนเอาตัวไปแต่หลิวหมิงก็ยังขออาหารแลกตัวกับภรรยา สุดท้ายสามคนนั้นก็เยาะเย้ยก่อนจะเดินจากไปโดยที่ไม่ให้อะไร เขาเดินดูภรรยาที่เดินจากไป สุดท้ายแล้วก็คลั่งขึ้นมาเปิดเตาแก๊ศขึ้นและหยิบขวดน้ำมันเทราดลงใส่พื้นและโยนกระดาษหนังสือพิมใส่พื้นที่รอบๆ

 

Ch.66 ออกไป

ในตอนเย็นที่ลู่หยวนสูบบุหรี่อยู่ก็ได้เกิดระเบิดขึ้น  ลู่หยวนออกไปดูและพบว่าตึกนี้กำลังจะระเบิด พวกเขาต้องรีบออกจากที่นี่ เขารีบบอกให้สาวๆรีบออกจากที่นี่โดยไม่ต้องสนเสื้อผ้า เขาเองก็ไม่มีเวลามาห่วงอาหารเช่นกัน ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องการกักแรงเพื่อซ่อนตัวอีกต่อไป ในตอนที่ลงไปนั้นแม้แต่หวงเจียหุยเองก็ยังลนลาน ลู่หยวนเริ่มกังวลและบอกให้หวังซีซีใช้พลังของเธอกักควันเอาไว้ เมื่อฝึกมาได้หลายวันเธอเองก็ทำได้ตามที่เขาขอ เธอดีใจอย่างมากที่ทำได้ตามที่เขาบอก พวกเขาลงมาที่ชั้นที่สอง ถ้าหวังซีซีไม่ใช้พลังของเธอป่านนี้พวกเขาคงโดนไฟคลอกตายไปแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็ไปต่อไปม่ได้จนต้องกลับมาอยู่ที่ชั้นสาม ลู่หยวนบอกให้หวังซีซีมาอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกับเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดอะไรแต่เด็กน้อยคนนั้นก็ยังหน้าแดงอยู่ดี จากนั้นลู่หยวนก็ทำการแบกหวงเจียหุยไว้แม้ว่าหวงเจียหุยจะบ่นแค่ไหนแต่ลู่หยวนก็ยังแบกเธออยู่ดี  ลู่หยวนทำการหายใจลึกๆและวิ่งลงบันไดมาเรื่อยโดยไม่สนว่ามันจะยุบหรือไม่ เมื่อมาเจอกับเปลวไฟ เขาก็ได้หวังซีซีใช้พลังของเธอกักไฟเอาไว้ เขาใช้แรงที่มีทั้งหมดวิ่งฝ่าลงมาโดยไม่ถึง 10 วินาที  เขาวางทั้งสองลงและถามทั้งคู่ หวังซีซีนั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารู้สึกกับลู่หยวนจนทำให้หวงเจียหุยรู้สึกไม่ค่อยพอใจ  เขาบอกว่าคงต้องหาที่อยู่ใหม่และข้าวที่เขาโยนลงมาในตอนแรกคงพอให้อยู่ได้ 2-3 วัน  ลู่หยวนเดินไปที่ด้านข้างของตึกและพบว่าข้าวสองถุงที่เขาโยนลงมานั้นหายไปแล้ว เมื่อมองไปรอบๆก็พบกับคนใส่เสื้อกันฝนสี่คนถือถุงข้าวพวกนั้นเอาไว้อยู่

 

Ch.67 หมู่บ้าน

ลู่หยวนไปพบกับคนที่เอาถุงข้าวเขาไปโดยสามคนเป็นผู้ชายและอีกคนเป็นผู้หญิงโดยสามคนนั้นใส่หมวกกันน็อคปิดบังใบหน้าเอาไว้ เขาทวงเอาถุงข้าวคืนแต่พวกนั้นก็รู้ว่าลู่หยวนน่ะแข็งแกร่งแต่พวกนั้นก็ยังคงยืนกรานที่จะให้พวกนั้นเอาถุงข้าวคืนมา อันธพาลพวกนี้คือพวกเดียวกับที่ทำเรื่องข่มขืนและฆ่าในคราวก่อนและยังเป็นต้นเหตุในการทำให้เกิดไฟไหม้ด้วย ผู้หญิงคนนั้นได้พูดเหน็บขึ้นมาทำให้หัวหน้าอันธพาลอับอายและจึงจำเป็นต้องลงมือกับลู่หยวนแม้ว่าจะเกรงกลัวก็ตาม  ลู่หยวนชักดาบและปล่อยพลังออกมาทำให้ทั้งสามคนวิ่งมาสักพักก็เหนื่อยล้า ลู่หยวนจัดการฆ่าลูกน้องของมันสองคนก่อนที่พวกนั้นจะได้รู้ตัวและจัดการฆ่าหัวหน้านั้นด้วย ผู้หญิงคนนั้นอ้อนวอนให้ยู่หลวนพาเธอกลับไปด้วยแต่ยู่หลวนปฏิเสธอย่างไรเยื่อใย เขากลับเดินกลับไปหาหวังซีซีและหวงเจียหุย  เด็กสาวหน้าซีดเมื่อเห็นการฆ่ากันตรงหน้า  หวงเจียหุยยังคงบ่นที่เขาฆ่าคนแต่ก็ยังถามเขาออกมาด้วยความเป็นห่วง  ทั้งสามคนเดินหน้าไปยังหมู่บ้านเพราะที่นั่นจะมีบ้านที่ใหญ่โตกว่าและแข็งแรงกว่าที่อพาทเมนต์ พื้นที่ยังเป็นที่ดินซึ่งทำให้ง่ายต่อการหนีอีกด้วย ทั้งสามคนเดินหน้าต่อโยมีหัวยู่อิงวิ่งตามพวกเขามาเรื่อยๆ

 

Ch.68 ศพที่ผิดปกติ

พวกเขามาถึงบ้านเดี่ยวหลังหนึ่งและพบว่ามันล็อคและเมื่อเรียกแล้วก็ไม่มีใครตอบอะไรกลับมา ลู่หยวนให้หวังซีซีเปิดล็อคประตูบ้านให้เมื่อเปิดประตูออกมาแล้วก็ได้มีกลิ่นเหม็นหึ่งลอยออกมาและลู่หยวนก็คิดว่าที่นี่น่าจะมีซากศพอยู่ แต่เมื่อตรวจสอบทุกห้องแล้วเขาก็ยังไม่พบซากศพอยู่เลย หวงเจียหุยบอกว่าที่นี่น่าจะมีห้องใต้ดิน ลู่หยวนคิดทันทีว่าศพนั้นต้องอยู่ห้องใต้ดินแน่ๆ   เจียหุยได้เสนอให้เรียกผู้หญิงคนที่ตามมานั้นเข้ามาในบ้านด้วยแต่หวังซีซีก็ขัดเพราะคิดว่าเธออาจจะมาแก้แค้น  ลู่หยวนได้บอกว่าให้ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไว้เดี๋ยวพอมือดเธอก็ไปเอง  เขาเดินหาไปเรื่อยจนมาพบทางเข้าลับอยู่ในตู้เสื้อผ้า เขาเปิดมันออกและลงไปที่ห้องใต้ดิน ห้องใต้ดินนั้นมีอาหารการกินที่เจ้าของบ้านเก็บไว้มากมายแต่ตอนนี้เรื่องศพต้องมาก่อน เขาเดินจนไปเจอกับศพแต่มันยังคงหายใจอยู่ ! เมื่อยู่หลวนเดินเข้าไปใกล้ศพนั่นก็อ้าปากพร้อมทำตาโตก่อนจะส่งส่งออกมาและวิ่งเข้าหาลู่หยวน

 

Ch.69 หนอนมนต์เสน่ห์

ผีดิบวิ่งเข้าหาเขา เขาหลบมันและทำให้แขนและขาของมันขาดออก แม้ว่าแขนขาจะขาดแต่ผีดิบนั่นก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกเจ็บปวดอะไรและยังมีเลือดสีแดงไหลออกมาจากบาดแผลของมันด้วย เขาไม่ต้องการให้เลือดของผีดิบไปเปื้อนอาหารที่กักตุนไว้จึงได้ใช้พลังของดาบออกมาให้อุณหภูมิของห้องลดลง เขาจัดการใช้ดาบนั้นแช่แข็งมันแต่เขาก็กลัวว่ามันยังคงมีชีวิตอยู่จึงใช้ดาบแทงผ่านกะโหลกของมันไป ทุกอย่างในโลกนี้ล้วผิดปกติไปตั้งแต่พืช, สัตว์และยังมาคนอีก คนทั่วไปอาจแยกแยะผีดิบกับคนธรรมดาไม่ได้และนั่นคงเป็นอันตรายอย่างมาก เขาเริ่มเก็บกวาดซากศพแต่แล้วในตอนที่เขากำลังจะจัดการส่วนตัวกับหัวของมัน ศพก็ได้อ้าปากออกและได้มีหนอนสีขาวคลานออกมา เขาจัดการฆ่ามันและตรวจสอบมันทันที สรุปได้คือมันคือหนอนผีดิบที่เป็นปรสิตแต่ตัวนี้เป็นระดับสีขาว ถ้าเป็นระดับสีน้ำเงิน ลู่หยวนเองก็คงสู้กับมันไม่ได้  เขาเก็บกวาดและได้เอาซากศพไปทิ้งนอกบ้าน ในตอนนั้นเขายังพบว่าหัวยู่อิงยังคงนั่งอยู่นอกบ้านแต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรและกลับมาสำรวจบ้านต่อ เมื่อทำการทำความสะอาดเสร็จแล้วลู่หยวนก็ฉุกคิดขึ้นมาถึงตู้เซฟที่อยู่ห้องใต้ดินและกลับลงไปเปิดมันออกเพื่อดูว่าข้างในนั้นมีอะไร

 

Ch.70 ช่วยเหลือ

เมื่อเปิดออกมาแล้วเขาก็พบว่ามีของมีค่าคือพวกแสตมป์อาหารและปืนสั้นซึ่งถือได้ว่าเป็นสมบัติแห่งชาติเลยก็ว่าได้ เขาคิดว่าจะเอาปืนนี้ให้กับหวงเจียหุยเพื่อป้องกันตัว  เขากลับมาบอกสาวๆเรื่องอาหารและปืน ทั้งสองคนดีใจอย่างมากไม่คิดว่าจะมีอาหารกักตุนได้เร็วขนาดนี้หลังจากที่เสียอาหารไปกับการไฟไหม้ครั้งที่แล้วง  ทั้งสามคนเริ่มกินอาหารกระป๋องในบ้านกันอย่างอิ่มเอม  หัวยู่อิงที่อยู่ข้างนอกเริ่มร้องไห้คิดถึงความหลังที่เกิดขึ้นกับสามีและอันธพาลสามคนนั้น อันที่จริงเธอเป็นคนยุยงให้ลู่หยวนฆ่าสามคนนั้น เธอน่าจะมีความสุขกับการแก้แค้นแต่เธอก็ล้มเหลวในการขอให้ลู่หยวนเอาเธอไปด้วย เธอนั่งสลดอยู่ตรงพุ่มไม้สักพักและได้เห็นเงาบางอย่างพุ่งขึ้นมา เธอพบว่านั่นคือยุงและได้วิ่งเข้าไปที่บ้านของลู่หยวนเพื่อขอความช่วยเหลือ

 

 

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.