หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 556 เทียบเชิญผี

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 556 เทียบเชิญผี

พอเห็นเทียบเชิญผีที่เขาว่ากัน ผมก็รู้สึกว่าในใจมีคลื่นเกิดขึ้นมาไม่น้อย

เพราะในเรื่องเล่า หากคนรับเทียบเชิญผี ก็แทบไม่มีใครมีชีวิตรอดสักคน

 

เย่เฟิงถือเทียบเชิญไว้ เห็นผมไม่ยอมรับสักที เลยอดไม่ได้จะลอบยิ้ม “ คุณชายติง เป็นอะไรไป กลัวแล้วเหรอ ? ”

จู่ๆก็โดนเย่เฟิงดูถูก ผมเลยไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

 

บางแง่มุม เย่เฟิงตนนี้คือศัตรูหัวใจของผม ดังนั้นผมจะเสียหน้าต่อหน้าศัตรูหัวใจไม่ได้อีกแล้ว

มุมปากผมยกยิ้มอย่างเย็นชา “ กลัวงั้นเหรอ ? ฉันจะกลัวอะไร คงเป็นกลัวนายไม่มีเหล้าดีเตรียมไว้ต้อนรับนะซิ ! ”

 

พอพูดจบแล้ว ผมก็เอื้อมมือไปรีบเทียบเชิญฉบับนั้นทันที

แต่เจ้าเทียบเชิญฉบับนั้นเพิ่งเข้ามาอยู่ในมือ ผมก็รู้สึกว่ามีกระแสความเย็นแล่นเข้ามาในมือผมทันที

 

มันเป็นความเย็นเข้ากระดูก ราวกับสิ่งที่ผมจับอยู่ไม่ใช่เทียบเชิญ แต่เป็นน้ำแข็งก้อนหนึ่ง

และทันใดนั้นเองควันดำพวกนั้นก็โพยพุ่งออกมายิ่งกว่าเดิม พวกมันแพร่ออกมาด้านนอกอย่างต่อเนื่อง 

ควันดำพวกนั้นเหมือนกับเปลวไฟ พวกมันดูน่ากลัวมาก

 

ไม่ใช่แค่นั้น เทียบเชิญฉบับนั้นเหมือนมีชีวิต มันขยับได้ ราวกับคิดจะดิ้นออกมาจากมือผม

เทียบเชิญยังแสดงปฏิกิริยาปฏิเสธผมสุดๆ หรือแม้แต่ผมสัมผัสได้ถึงปราณมรณะ ราวกับปราณมรณะพวกนั้นคิดจะเจาะเข้าไปในมือผม

 

มือผมสั่นนิดหน่อย รู้สึกควบคุมไม่ค่อยอยู่

แต่ตอนนี้ผมจะยอมปล่อยมือได้ยังไง นั่นมันน่าอายมากเลยนะ

 

นี่เป็นเทียบเชิญที่เจ้าหมอนั่นมอบให้ ถ้าคุณทำตกพื้น อย่างแรกเลยคือคุณไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย 

ต่อจากนั้นตัวเองก็จะขายหน้า แค่เทียบเชิญก็ยังถือไว้ไม่ได้ จะนับว่าเป็นตัวอะไรได้

 

ดังนั้น ถึงแม้ตอนนี้เทียบเชิญจะเกิดมีชีวิตขึ้นมา ผมก็ต้องจับมันไว้ให้ได้ ผมคิดแบบนี้ในใจ

ผมกัดฟัน ตัวสั่น แอบเดินพลังสยบกระแสความเย็นบนเทียบเชิญนั้นเอาไว้

 

แต่ผมกลับพบว่า กระแสความเย็นนั้นทรงพลังมาก ผมเริ่มสยบมันไว้ไม่ไหว

ส่วนเจ้าเย่เฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับทำหน้ายิ้มไม่ยิ้มออกมา

 

มู่หลงเหยียนขมวดคิ้ว เหมือนเธออยากพูด แต่ก็คิดจะลงมือด้วย แต่พอเห็นผมเดินพลังสู้ เธอก็ไม่เคลื่อนไหวอีกครั้ง

 

เทียบเชิญผีนี่ค่อนข้างประหลาด และต่อต้านคนสุดๆ ดูเหมือนพลังทั่วไปจะสยบกระแสความเย็นบนนี้ไว้ไม่อยู่

ส่วนเจ้าเย่เฟิง ก็คงอยากเห็นผมหน้าแตก

 

ผมวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว คิดว่าเจ้าเด็กคนนี้มีเจตนาไม่ดี

แต่จะทำให้เขาสมปรารถนาได้ยังไง ในเมื่อพลังทั่วไปเอาไม่อยู่ งั้นผมก็จะใช้พลังเฟิงเทียน

 

พลังนี่น่าเกรงขามมาก และรุนแรงมากเช่นกัน

พอคิดได้แบบนั้น ผมก็รีบเปิดใช้วิชาเฟิงเทียนกง ปลดปล่อยพลังเฟิงเทียนอย่างไร้สุ่มเสียง

 

พลังเฟิงเทียนเพิ่งถูกปลดปล่อยออกมา ความเย็นที่แขนผม ก็ลดลงไม่น้อย

ไม่เพียงแค่นั้น ผีชายหญิงวัยกลางคนที่ยื่นนิ่ง เหมือนท่อนไม้อยู่ด้านหลังเย่เฟิง ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที หลังจากที่ผมปลดปล่อยพลังเฟิงเทียนออกมา

 

ดวงตาจับจ้องมาที่ผม หรือแม้แต่เผยท่าทีประหลาดใจออกมาเล็กน้อย

เย่เฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆผม ก็พบว่าผมเริ่มสยบพลังหยินนั่นได้ทีละนิด และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังพิเศษที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวผม

 

กลิ่นอายนั่นมีผลต่อเขามาก ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมาทันที

ส่วนเทียบเชิญฉบับนั้น มันเริ่มหยุดดิ้น ควันดำพวกนั้น ก็หายไปอย่างรวดเร็ว

 

ท้ายที่สุด เทียบเชิญก็กลับมาเป็นเทียบเชิญสีดำธรรมดาอีกครั้ง

พอเห็นภาพนี้ ผมก็ถอนหายใจออกมาในใจทันที

 

มู่หลงเหยียนที่อยู่ข้างๆ ก็แอบเหงื่อตกเพราะผม

เทียบเชิญผี ย่อมไม่เหมือนกับของธรรมดา มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการควบรวมของความตาย  ในโลกของคนเป็น มันไม่มีทางปรากฎขึ้นแน่

 

หากผีสัมผัสกับสิ่งนี้ย่อมไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากคนสัมผัสเข้า ก็จะเป็นเหมือนกับผมเมื่อกี้

ก่อนอื่นจะสัมผัสได้ถึงไอเย็น หลังจากนั้นก็จะโดนต่อต้าน แล้วสุดท้ายเจ้านี่ก็จะกลับมาเป็นฝ่ายทำร้ายผู้ถือ

 

โดนกระแสความเย็นจากปราณมรณะ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ไม่ต้องคิดก็รู้

หากปราณมรณะเข้าไปในร่างมนุษย์ เบาหน่อยก็ป่วยหนักสักรอบ หากหนักหน่อยก็ถึงกับชีวิต

 

นากจากคนที่ถือจะปราบปราณมรณะนั้นได้ ไม่อย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้

แน่นอน เมื่อกี้ผมทำได้แล้ว ผมใช้พลังเฟิงเทียนปราบปราณมรณะพวกนั้น

 

ที่จริงเจ้าเย่เฟิงนี่ คิดจะทำให้ผมหน้าแตกต่อหน้ามู่หลงเหยียน

ส่วนมู่หลงเหยียนก็ไม่มีทาง ปล่อยให้ปราณมรณะพวกนั้นเข้าไปในร่างกายผมได้จริงๆ

 

เนื่องจากอีกฝ่ายอุตส่ามอบเทียบเชิญให้กับผม หากผมถือเทียบเชิญเอาไว้ไม่อยู่ และยังต้องให้คนข้างๆคอยช่วย หน้านี้ของผมก็คงอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว

 

สาเหตุที่มู่หลงเหยียนไม่ได้เข้ามาช่วยผมตั้งแต่แรก ก็เพราะเรื่องนี้แหละ

โชคดีที่สุดท้ายผมจัดการได้ ไม่เพียงถือเทียบเชิญผีฉบับนี้เอาไว้ได้ แต่ยังไม่ขายหน้าด้วย

 

เย่เฟิงเห็นผมควบคุมเทียบเชิญได้แล้ว จึงฝืนยิ้มให้ผมอีกรอบ “ คุณชายติงฝาน พลังพิเศษเมื่อกี้ ร้ายกาจจริงๆ เทียบเชิญนี่รวบรวมปราณมรณะร้อยปีเอาไว้ หากเป็นผีอย่างพวกข้าดูดกลืน ก็จะสามารถเพิ่มพลังได้ 

หากมนุษย์สัมผัส อย่างน้อยก็ต้องป่วยหนัก หนักกว่านั้นก็ลดอายุขัย คุณชายติงฝานอยู่แค่เต้าชือขั้นแรก 

ก็สามารถสยบปราณมรณะได้แล้ว ช่างเก่งจริงๆเลย ! ”

 

เย่เฟิงหัวเราะฮ่าๆ แต่ผมกลับตกใจ

ผมยังไม่ทันทำอะไร เจ้าหมอนี่ก็ใช้เพียงแต่ดวงตา มองระดับพลังของผมออกแล้ว จะเห็นได้ว่าเย่เฟิงคนนี้ร้ายกาจขนาดไหน

 

แน่นอน ผมเองก็ได้ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับเทียบเชิญผี ว่ามันเป็นของที่ใช้รวบรวมปราณมรณะเอาไว้

เพราะก่อนหน้านี้ ผมไม่รู้ว่าเทียบเชิญผีมีปรามณมรณะควบรวมอยู่ เมื่อกี้แค่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายและความน่ารังเกียจเท่านั้น ถึงได้เปิดใช้พลังเฟิงเทียนขึ้นมา

 

ในเวลาเดียวกันก็คิดไม่ถึงว่าการรับเทียบเชิญผี จะมีความลับซ่อนอยู่

ถึงว่าทำไมผู้คำถึงได้ว่าบอกว่า “ เทียบเชิญผี ” น่ากลัว เพียงแค่ตัวเทียบเชิญ คนก็แตะต้องไม่ได้แล้ว

 

แต่ผมก็ไม่ได้พูดไร้สาระ เพียงตอบกลับเบาๆว่า “ ข้าน้อยรับเทียบเชิญของคุณชายเย่เอาไว้แล้ว ต่อจากนี้สามวัน ต้องไปร่วมงานเลี้ยงอย่างแน่นอน ! ”

 

เย่เฟิงหัวเราะ “ ฮ่าๆ ” “ ดี ! ข้ายังต้องไปส่งเทียบเชิญให้ที่อื่นอีก แม่นางมู่หลง คุณชายติง ขอตัวก่อน ! ”

พอพูดจบ เจ้าเย่เฟิงนี่ก็ทำมือคารวะให้ผมกับมู่หลงเหยียน

 

เย่เฟิงไม่ได้อยู่นาน ต่อจากนั้นก็หมุนตัว แล้วพาคนรับใช้อีกสองคนของตัวเองเดินออกไปจากที่นี่ทันที

เย่เฟิงไม่ใช่วิญญาณร้าย เพียงแต่เกี่ยวกับเรื่องของมู่หลงเหยียน พวกเราสองคนเป็นศัตรูกัน และมันจะเป็นแบบนี้จนวันสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย……

 

พอเย่เฟิงไปแล้ว ผมก็ยกเทียบเชิญผีขึ้นมาดู

จากภายนอก นี่เป็นแค่เทียบเชิญสีดำธรรมดาใบหนึ่งเท่านั้น มันไม่มีอะไรพิเศษเลยสักนิด

 

ผมลองพลิกมันดูรอบหนึ่ง ด้านในเขียนเอาไว้แค่สถานที่

สถานที่ก็ง่ายมาก มีเพียงคำว่าถนนหลงหยางหมายเลข 137

 

ผมรู้จักถนนหลงหยาง มันอยู่ในย่านเมืองเก่า ส่วนหมายเลขที่ 137 คือที่ไหน ผมเองก็ไม่ค่อนแน่ใจเหมือนกัน

 

หลังผมเห็นสถานที่แล้ว มู่หลงเหยียนที่อยู่ข้างๆก็พูดกับผมว่า “ ติงฝาน นายเอายันต์มาแปะไว้บนเทียบเชิญ ไม่อย่างงั้นปราณมรณะบนนั้น อาจทำร้ายนายได้ ! ”

 

พอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดด้วยความเป็นห่วงแบบนั้น ผมก็พยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ใช้ยันต์ผนึกมันเอาไว้

เมื่อทำแบบนี้แล้ว ปราณมรณะในนั้นก็จะทำร้ายผมไม่ได้แล้ว

 

หลังผนึกเทียบเชิญเสร็จ ผมก็พูดกับมู่หลงเหยียนว่า “ น้องศพ สามวันหลังจากนี้ พวกเราไปด้วยกันนะ ”

มู่หลงเหยียนพยักหน้าเบาๆ “ อือ ! ได้ซิ อือใช่ ก่อนหน้านี้นายบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกฉันไม่ใช่เหรอ ? 

มีเรื่องอะไรเหรอ ? ”

 

มู่หลงเหยียนเปลี่ยนหัวข้อ เธอถามด้วยน้ำเสียงสงสัย

พอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็รีบตั้งสติ เรียบเรียงความคิด แล้วพูดกับมู่หลงเหยียน ด้วยสีหน้าจริงจัง “ เป็นแบบนี้ เราหาทาง หาทางยุติการแต่งงานผีเจอแล้ว ! ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.