spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 555 เย่เฟิงมาหา
หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ในสมองเต็มไปด้วยใบหน้าของมู่หลงเหยียน และฉากที่ผมกำลังจะได้กอดเธอ
ในสายตาของผม ในวินาทีต่อไปในอ้อมกอดของผมจะมีมู่หลงเหยียนอยู่ ตอนนี้แค่คิดผมก็รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขแล้ว
ไม่เพียงแค่นั้น ผมยังรู้สึกร้อนที่ลำคอ หรือแม้แต่ในสมองยังมีภาพจูบอย่างดูดดื่มกับมู่หลงเหยียน
แต่ สิ่งผมไม่คิดไม่ฝันเลยก็คือ
ในช่วงเวลาสำคัญนั้น จู่ๆสาวใช้ไม่มีตาตนหนึ่งก็เดินเข้ามาในลานแห่งนี้
สาวใช้เดินไร้สุ่มเสียง ผมไม่สังเกตเห็นเธอเลยสักนิด
หลังยัยนี่ปรากฎตัวแล้ว เธอก็ขึ้นมาจากทางด้านหลังพวกเรา “ คุณหนู คุณผู้ชาย…… ”
เสียงนี้ดูเหมือนกับเสียงภูตผี มันดังขึ้นมาจากด้านหลังดื้อๆ
เดิมทีในสมองของผมเต็มไปด้วยฉากรักกับมู่หลงเหยียน และความกล้าหน้าด้านที่จะทำเรื่องเลวๆ ผลลัพธ์จู่ๆเสียงของยัยนั่นก็ดังขึ้น ทำให้ผมตกใจในทันที
“ กึก ” เหมือนมีน้ำราดมาจากบนหัวของผม ความรู้สึกแบบนั้นเป็นอะไรที่รับได้ยากจริงๆ
ไม่ใช่แค่ผม เหมือนร่างอันบอบบางของมู่หลงเหยียนตรงหน้าผม ก็จะสั่นไหวพักหนึ่ง
แต่มันเบามาก เพียงชั่วพริบตาก็หายไปแล้ว
ตอนนี้ ยังไม่รอให้ผมตอบสนองใดๆ มู่หลงเหยียนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม ก็หันกลับมาแล้ว
ในวินาทีนั้น ใบหน้าของเธอยังคงมีสีแดงระเรื่ออยู่ ราวกับไม่กล้ามองผมตรงๆ ท่าทางเขินอายหน่อยๆ
น้ำเสียงก็ค่อนข้างลนลาน เธอพูดกับสาวใช้คนนั้นว่า “ มีเรื่องอะไร ? ”
ขณะพูด มู่หลงเหยียนก็เดินผ่านตัวผมไปแล้ว เธอเดินตรงออกไป
ผมกลอกตาในทันที ยัยสาวใช้สมควรตายนี่ จะมาตอนไหนไม่มา ดันมาตอนที่ผมกำลังจะรุกหัวใจของ
มู่หลงเหยียนพอดี เธอจะออกมาทำไม ฉันละอยากฉีกเธอเป็นชิ้นๆจริงๆ
ผมบ่นพึมพำในใจ คิดว่ายัยสาวใช้คนนี้มาทำลายบรรยายกาศพลอดรักของผมกับมู่หลงเหยียน
แต่ยัยสาวใช้คนนั้นละ ทำท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในเวลานี้พอเธอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น
ก็ตอบกลับในทันที “ คุณหนูเจ้าค่ะ คุณชายเย่เฟิงขอพบเจ้าค่ะ ! ”
“ เย่เฟิง ? ”
“ เจ้าค่ะ คุณชายเย่เฟิงรออยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าแล้วเจ้าค่ะ ” สาวใช้พูดต่อ
พอผมได้ยินคำพูดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเครียดขึ้นมา
เจ้าเย่เฟิง ก็คือเจ้าผีที่คิดจะตีท้ายครัวบ้านผม มันเป็นผีหนุ่มที่มีฉายาว่าห้าขุนศึกอะไรนั่น
เจ้าหมอนี่คิดอะไรกับมู่หลงเหยียน คราวก่อนก็ใส่ร้ายผมบอกว่าผมหอบผ้าห่มเข้าไปในป่ากับฉู่ยเฉิงจิง
เจ้าชาติหมาเอ้ย ถ้าไม่ได้เป็นเพราะผมสู้เขาไม่ไหว ผมคงอัดเจ้าหมอนี่จนตายไปนานแล้ว
พอมู่หลงเหยียนได้ยินแบบนั้น ก็พยักหน้าเล็กน้อย “ ได้ ! เจ้าให้เขารอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปพบเขา ! ”
“ เจ้าค่ะ ! ” สาวใช้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงหุ่นยนต์ หลังจากนั้นก็ถอยออกไปทันที
พอสาวใช้ออกไปแล้ว มู่หลงเหยียนก็หันมาพูดกับผมว่า “ ติงฝาน เย่เฟิงมาน่ะ นายกลับไปก่อนไหม ?
วันหลังค่อยมาหาฉันใหม่ ”
ผมเห็นเต็มสองตา ท่าทีที่มู่หลงเหยียนปฏิบัติต่อผมในตอนนี้ และยังเรียกชื่อของผมอีก มันบ่งบอกให้เห็นว่าเธอเปลี่ยนไปแล้ว
โดยเฉพาะสายตาที่ใช้มองผม ผมรู้สึกถึงความใกล้ชิดที่ไม่เคยมีมาก่อน
ผมดีใจมาก แต่วันนี้ผมยังไม่ได้บอกเรื่องวิธียุติการแต่งงานผีกับเธอเลย
ตอนนี้เจ้าเย่เฟิงยังมาอีก ผมเลยถามขึ้นมาว่า “ น้องศพ เจ้าเย่เฟิงมาหาเธอทำไม ? ”
มู่หลงเหยียนส่ายหน้า “ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาแบบนี้ไหม ! พวกเราเข้าไปด้วยกัน ฉันว่าถ้านายกลับไปเร็วแบบนี้ ก็คงนอนไม่หลับแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมอีก ! ”
ตอนพูดถึงประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของมู่หลงเหยียนเหมือนจะฟังดูโมโหหน่อยๆ
ผมเงียบไปพักหนึ่ง ดูเหมือนมู่หลงเหยียนจะเข้าใจตารางเวลาชีวิตผมอยู่เหมือนกัน
ตอนนี้พอเห็นเธอเต็มใจพาผมไปเจอเย่เฟิงด้วย ผมก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ผมพูดขึ้นมาทันที “ ได้ ! รอเจอเย่เฟิงเสร็จแล้ว ฉันยังมีเรื่องจะคุยกับเธออีก และมันยังเป็นเรื่องที่สำคัญมากด้วย ”
มู่หลงเหยียนไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงมองผมด้วยสายตาสงสัยเท่านั้น “ ตกลง ! งั้นอีกเดี๋ยวนายค่อยบอกฉัน ! ”
หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็ยิ้มหวานให้ผม
ตอนมู่หลงเหยียนยิ้ม เธอสวยมากๆๆ เหมือนกับการได้ดื่มด่ำไปกับสายลมฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่น
ต่อจากนั้น มู่หลงเหยียนก็พาผมออกมาจากที่นั่น แล้วไปยังห้องโถงด้านหน้าที่เย่เฟิงอยู่
ต่อจากนั้นไม่นาน พวกเราก็มาถึงลานด้านหน้า
เพิ่งเข้ามาในลาน ผมก็สัมผัสได้ถึงไอเย็น
เห็นห้องที่อยู่ไกลออกไปมีคนอยู่ประมาณสองสามคน หนึ่งในนั้นกำลังนั่งอยู่ เขาคือคุณชายผู้สง่างาม รูปร่างหน้าตาเหมือนคนแต่งหน้ามา
เขาไม่ใช่ใครอื่น คุณชายคนนั้นก็คือหนึ่งในห้าขุนศึกผีที่อยู่ในถิ่นพวกเรา ผู้นำของเหล่าผีหนุ่มสาว ที่มีพลังมหาศาล แม้แต่มู่หลงเหยียนก็ยังบอกว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
นอกจากเย่เฟิงแล้ว ด้านหลังของเขายังมีชายหนึ่งหญิงหนึ่ง พวกเขาเป็นผีวัยกลางคน น่าจะเป็นคนรับใช้ของเจ้าเย่เฟิง
ตอนผมมองไปที่เย่เฟิง เขาเองก็เห็นผมกับมู่หลงเหยียน ในเวลานี้จึงวางถ้วยชาลงแล้วลุกขึ้นยืน
ในเวลาเดียวกัน เจ้าหมอนี่ก็คลี่ยิ้มออกมา “ แม่นางมู่หลง ! ”
ขณะพูด เจ้าหมอนี่ก็ทำมือคารวะมู่หลงเหยียนอย่างมีมารยาทสุดๆ หลังจากนั้นก็หันมามองผม
“ โอ้ ! นี่มันติงฝาน เอ๊ะคุณชายติงไม่ใช่เหรอ ? ”
พอเห็นเจ้าหมอนี่ทำหน้าเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้มให้ผม ผมก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที แม่งเอ้ยไม่มีเรื่องอะไรก็คอยแต่จะวิ่งมาหาเมียผม มันต้องคิดไม่ดีอยู่แน่ๆ
“ คุณชายเย่ ! ไม่เจอกันนานนะ ! ” ผมตอบกลับอย่างเรียบนิ่งทั้งไม่ตกใจและดีใจอะไรทั้งสิ้น
ในเวลาเดียวกัน มู่หลงเหยียนก็พูดว่า “ คุณชายเย่เฟิง เรื่องวันเวลาที่จะบุกเราได้คุยกันเสร็จแล้ว ไม่ทราบว่าคืนนี้ มาด้วยเรื่องอะไรเหรอคะ ? ”
มู่หลงเหยียนพูด “ ฟรึบ ” พับในมือเย่เฟิงถูกสะบัดออก หลังจากนั้นเขาก็สะบัดมันที่หน้าอกช้าๆ
แล้วหัวเราะออกมา “ แม่นางมู่หลง ที่ข้ามาในคืนนี้ เพราะจะมาส่งเทียบเชิญให้ ! ”
“ เทียบเชิญ ? ” มู่หลงเหยียนพูดด้วยความสงสัย
ผมที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
เย่เฟิงพยักหน้า หลังจากนั้นก็พูดต่อ “ ใช่ ส่งเทียบเชิญ วันนี้น้องสาวของข้าออกด่าน สาววันหลังจากนั้นเป็นวันเกิดอายุครบ 180 ปีของเธอพอดี ข้าก็เลยถือโอกาสมาเชิญชวนสหายทั้งหลายไปร่วมงาน ”
น้องสาวของเย่เฟิง แถมยังอายุ 180 ปีแล้ว ผมที่ยืนอยู่ข้างๆอึ้งไปในทันที แต่ก็ไม่ได้ตกใจมากนัก
เนื่องจากในแวดวงของมู่หลงเหยียน เธอกำลังคบค้ากับพวกผีพเนจรทั้งหลาย ดูเหมือนถ้าไม่มีอายุร้อยสองร้อยปี จะเป็นเรื่องที่รับกันไม่ได้
ผมเพิ่งคิดได้แบบนั้น เย่เฟิงก็พูดกับผมว่า “ ในเมื่อคุณชายติงก็อยู่ด้วย งั้นก็ขอเชิญคุณชายติงไปร่วมงานด้วยนะขอรับ ! ”
หลังจากพูดจบ เย่เฟิงก็ยื่นมือออกมา
ต่อจากนั้น ผมก็เห็นผีผู้ชายวัยกลางคนข้างหลังเขา เอาเทียบเชิญสีดำออกมาสองฉบับ
บนเทียบเชิญพวกนั้น มีอักษรสีแดงคำว่า “ เชิญ ” อยู่หนึ่งตัว บนเนื้อกระดาษสีดำสนิทแบบนั้น มันดูสะดุดตามาก
เย่เฟิงรับเทียบเชิญมาถือไว้ หลังจากใช้มือเขย่า ก็มีควันสีดำโพยพุ่งออกมาจากบนเทียบเชิญ
ต่อจากนั้น เขาก็คลี่ยิ้มเล็กน้อย แล้วส่งมันมาให้พวกเรา “ แม่นางมู่หลง คุณชายติง ! ”
มู่หลงเหยียนคลี่ยิ้ม เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงรับเอาไว้เท่านั้น
ขณะมองควันดำที่โพยพุ่งอยู่บนเทียบ ผมก็รู้สึกตกใจไม่น้อย
เทียบเชิญผี ในสายงานของพวกเรา ใครๆก็เคยได้ยินสามคำนี้มาไม่มากก็น้อย และผมยังได้ยินว่ามีข่าวลือประเภทนี้ด้วย
เช่น ได้รับเทียบเชิญจากผี พอไปร่วมงานเลี้ยงแล้วก็จะตาย แต่ถ้าไม่ไปร่วมก็ต้องตายอยู่ดีอะไรประมาณนั้น
แต่ถ้าให้พูดว่ามีใครเคยเห็นบาง ก็คงมีไม่กี่คนเท่านั้น
แต่ตอนนี้ละ ผมไม่เพียงเจอ “ เทียบเชิญผี ” ที่ว่านี้ด้วยตัวเอง แต่ยังถูกเชิญด้วย……