spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 552 วิธียุติ
ท่านนักพรตตู๋อธิบายออกมาช้าๆ เล่าเรื่องที่เขาเจอเมื่อ 20 ปีก่อนให้พวกเราฟัง
แต่หลังจากที่ผมและอาจารย์ฟังเรื่องพวกนี้จบแล้ว ในสมองก็มีเสียง “ เวิง ” ขึ้นมาทันที
เล่นบ้าอะไร ลงไปแดนอเวจีทั้งเก้างั้นเหรอ แถมยังต้องไปอาบน้ำล้างกาย และยังต้องไปปีนผาหินแปะมือสาบานอีก
มันจะเป็นไปได้ยังไง แดนอเวจีทั้งเก้าคืออะไร พูดภาษาชาวบ้านมันก็คือนรกนั่นเอง
นรกเป็นที่ที่มนุษย์เข้าไปได้งั้นเหรอ อีกอย่างหากลงไปแล้ว ยังจะกลับออกมาเป็นๆได้งั้นเหรอ
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ยังต้องลงบ่อจ่งฉวนฉุ่ยล้างกายใหม่อีก นี่มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระสิ้นดีงั้นเหรอ
ถ้าผมยังสามารถใช้น้ำในนรกล้างตัวได้ งั้นพลังของผมคงสั่นสะเทือนฟ้าดินได้เลยมั้ง
ในช่วงเวลานั้น ผมรู้สึกว่านี่เป็นวิธีที่พึ่งพาไม่ได้หรือไม่มีทางทำให้เป็นจริงได้ มันเกินจริงเกินไป
แม้แต่เหล่าเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็ยังพูดกับท่านนักพรตตู๋ในเวลานี้ “ อาจารย์ ที่อาจารย์พูดมันหลุดโลกเกินไปหรือเปล่า ? ”
พอท่านนักพรตตู๋ได้ยินแบบนั้น ก็ถอนหายใจออกมาทันที “ เรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องที่ฉันอ่านมาจากในหนังสือเล่มนั้นจริงๆ ไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาแม้แต่น้อย แล้วเรื่องยันต์นั้นตอนนี้ฉันก็ยังวาดได้ ”
ท่านนักพรตตู๋พูดด้วยความจริงจัง แต่ในน้ำเสียงของเขา ยังฟังดูเหมือนตัวเขาเองก็ไม่อยากเชื่อเช่นกัน
“ เหล่าตู๋ นายยังวาดยันต์นั่นได้ด้วยเหรอ ? งั้นพอนายกลับไปแล้ว ช่วยวาดให้พวกเราสักสองแผ่นได้ไหม ? ” อาจารย์พูด
ท่านนักพรตตู๋ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย เขาพยักหน้าตกลง และพูดว่าได้ในทันที
เรื่องที่ท่านนักพรตตู๋เล่าให้ผมฟัง เป็นเรื่องที่หลุดโลกมากจริงๆ ทำให้ใจผมสั่นทันที
ผมกลับไปคิดถึงเรื่องที่ท่านนักพรตตู๋เล่าให้ฟังอีกรอบ กลั่นกรองทุกคำพูดของท่านนักพรตตู๋
ทุกอย่างที่ท่านนักพรตตู๋พูด มาจากหนังสือที่มีชื่อว่า “ การแต่งงานผี ”
ด้วยเหตุนี้ ผมเลยพูดกับท่านนักพรตตู๋ว่า “ ลุงตู๋ งั้นลุงจะยังหานักพรตเมื่อ 20 ปีก่อนเจออีกไหม ?
หาหนักสือแต่งงานผีเล่มนั่นได้ไหม ? ”
พอท่านนักพรตตู๋ได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ส่ายหัวในทันที “ ไม่ได้แล้ว พูดไปแล้วก็แปลกดี ตอนนั้นหลังจากฉันอ่านหนังสือแต่งงานผีเล่มนั้นจบ ช่วยลูกชายของครอบครัวนั้นให้แต่งงานสำเร็จแล้ว ฉันยังไม่ทันศึกษาให้ละเอียด หนังสือเล่มนั้นก็ดันเผาตัวเองขึ้นมาดื้อๆ สุดท้ายก็เหลือแต่ขี้เถ้า ตอนนี้จะหาชิ้นส่วนหรือสำเนาอื่นก็ไม่เจออีกแล้ว ! ”
ท่านนักพรตตู๋ค่อนข้างเศร้า ส่วนคิ้วของผมก็เลิกตามเขาไปด้วย
หากเป็นแบบนี้ เราก็เสียแหล่งอ้างอิงไปหมดแล้ว
และตอนนี้ผมก็มีแค่สองทางเลือก ทางเลือกแรกคือไม่เชื่อ
คิดแค่ว่าท่านนักพรตตู๋โม้ให้ฟัง ว่าตัวเองไปเจออะไรมาเท่านั้น
ทางเลือกที่สอง ก็คือเชื่อแบบสุดติ่ง
ในเมื่อเลือกจะเชื่อ งั้นก็ต้องเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ
เชื่อว่าบนหนังสือเล่มนั้น เขียนเรื่องวิธียุติการแต่งงานผีเอาไว้จริงๆ
ในเมื่อเป็นเรื่องจริง งั้นผมก็มีทางให้ทำตามแล้วใช่ไหม
ต้องลงไปที่แดนอเวจีทั้งเก้า ลงบ่อจ่งฉวนฉุ่ย ยุติการแต่งงานของผมกับมู่หลงเหยียนจริงๆใช่ไหม
ในสมองของผมคิดถึงเรื่องพวกนี้ไม่หยุด คิดแล้วคิดอีก แต่สุดท้ายก็หาคำตอบไม่ได้สักที
อาจารย์เห็นผมยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เลยเอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบาๆ “ เอาเถอะน่าเสี่ยวฝาน ให้เรื่องนี้มันสิ้นสุดแค่นี้ก่อน ไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว ! ”
จู่ๆก็ได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ผมเลยได้สติขึ้นมาทันที
ผมฝืนยิ้ม จากนั้นก็พยักหน้าให้อาจารย์ “ ตกลง ! ”
อาจารย์เห็นผมพยักหน้า เลยหันไปพูดกับคนอื่นว่า “ ตอนนี้ฟ้าสางแล้ว พวกเรากลับกันก่อนเถอะ ! เหล่าตู๋เรื่องที่นายเล่ามันฟังดูเกินจริงไปหน่อย อาจไม่ใช่เรื่องจริง พวกเราไปหาข้อมูลต่อแล้วค่อยว่ากันใหม่เถอะ ”
ท่านนักพรตตู๋เองก็พยักหน้า แม้แต่ตัวเขาเอง ก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อเลย
ทำไมการยุติการแต่งงานผี ต้องไปทำที่ยมโลก ในเมื่อมียันต์พิเศษแผ่นนั้นอยู่ ก็ทำบนโลกมนุษย์ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ
ในเรื่องนี้หากไม่มีคำอธิบายที่สมบูรณ์ ทุกคนก็จะมีข้อสงสัยต่อวิธียุติการแต่งงานผีนี้ตลอดไป
หลังจากนั้น พวกเราก็เริ่มเดินต่อ เพื่อกลับไปที่รถของผม
ต่อจากนั้นผมก็ขับพาทุกคนกลับมาที่ตำบลชิงฉือใหม่ ท่านนักพรตตู๋เพิ่งหายป่วย จึงจำเป็นต้องพักผ่อน
ผมและอาจารย์ไม่ได้อยู่รบกวนเขา หลังจากส่งท่านนักพรตตู๋และเหล่าเฟิงเสร็จแล้ว พวกเราก็ขับรถกลับบ้านทันที
หลังมาถึงบ้านแล้ว ผมก็จุดธูปให้มู่หลงเหยียนและเผ่าจิ้งจอก หลังจากนั้นก็หันมาพูดกับอาจารย์ว่า
“ อาจารย์ อาจารย์ว่าที่ท่านนักพรตตู๋พูด เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า การยุติการแต่งงานผี จำเป็นต้องไปทำในนรกจริงๆเหรอ ”
อาจารย์เอนตัวพิงโซฟา ท่าทางจะเหนื่อยน่าดู “ เฮ้อ ! อาจารย์ก็ไม่รู้เหมือนกัน ! ตอนอาจารย์ฝึกทำพิธีแต่งงานผี โดนบอกว่ามันไม่มีทางแก้ อาจารย์เองก็ไม่รู้จะพูดยังไง ที่เหล่าตู๋พูดจะเป็นเรื่องจริงหรือโกหก หรือจะจริงกี่เปอร์เซ็นต์ โกหกกี่เปอร์เซ็นต์ ! ”
อาจารย์หรี่ตา สำหรับเรื่องนี้ ตัวเขาเองก็ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง
พอผมเห็นอาจารย์เป็นแบบนั้น ก็หันไปมองป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียนอีกครั้ง ผมอยากบอกเรื่องนี้กับเธอเร็วๆ
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆอาจารย์ก็พูดขึ้นมาว่า “ เสี่ยวฝาน ! ถึงฉันจะไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือโกหก
แต่ฉันเชื่อเหล่าตู๋ เขาต้องพูดเรื่องจริงแน่นอน ตอนนี้แกอายุยังน้อย อายุขัยยังมีอีกมาก ถ้าใกล้ถึงช่วงอายุที่น้ำมันใกล้จะหมดแล้ว ถึงเวลาที่แกกับเธอต้องเลือกแล้วจริงๆ พวกแกสองคนก็ลองกั่วหยินกันดูก็ได้นิ ”
พอได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ใจผมก็เต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง
กั่วหยิน นี่คือคำพูดของวงการพวกเรา หรือก็คือลงนรกนั่นเอง
ผมสู้หายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดกับอาจารย์ว่า “ อาจารย์ มนุษย์กั่วหยินได้จริงๆเหรอ ? ”
พออาจารย์ได้ยินผมถามแบบนั้น ก็ทำตาเบิกกว้างอีกครั้ง จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ “ ได้ ! พอตายแล้ว ก็จะมีประตูนรกหรือทางไปนรก ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็จะไปถึงจุดเปลี่ยนของโลก และหลังจากลงทะเบียนที่นั่นเสร็จแล้ว สุดท้ายก็จะโดนพาตัวไปที่ประตูผี จากนั้นก็เดินไปตามถนนยมโลก ไปยังสถานที่ที่ยมบาลอยู่ ”
“ อาจารย์เคยได้ยินว่าเมื่อก่อนมีผู้อาวุโสจำนวนมาก พวกเขามีระดับพลังที่สูงมาก จนสามารถกั่วหยินได้ด้วยตัวเอง นำวิญญาณไปส่งหรือไปเยี่ยมวิญญาณด้วยตัวเองที่จุดเปลี่ยนโลก ”
“ อาจารย์ เหมือนจุดเปลี่ยนของโลกไม่ได้อยู่ในสามภพนะ ที่สำคัญมันไม่ได้อยู่ในแดนอเวจีทั้งเก้า
ท่านนักพรตตู๋บอกว่า หากผมคิดจะยุติการแต่งงานผี ก็ต้องลงไปในนรก ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็ต้องผ่านประตูผี หรือเดินบนถนนยมโลกไม่ใช่เหรอ ? ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วผมจะยังได้กลับมางั้นเหรอ ?
อีกอย่าง ผู้อาวุโสสมัยก่อน ทำแบบนั้นได้จริงๆเหรอ ? ” ผมถามคำถามติดกันเป็นหางเว่า
อาจารย์ขมวดคิ้ว เหมือนเขาจะปวดหัวเหมือนกัน
ผ่านประตูผี เดินบนถนนยมโลกไปแล้ว จะยังมีใครกลับมาได้อีกละ นี่มันไม่ใช่ล้อกันเล่นหรือไง
แต่ต่อจากนั้นพักหนึ่ง อาจารย์พูดขึ้นมาดื้อๆ “ อาจารย์เองก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แต่อาจารย์ได้ยินว่า บนโลกนี้
มีสามคนที่เคยผ่านประตูผี เดินบนถนนยมโลก แล้วสุดท้ายก็กลับมาบนโลกได้มาแล้ว ! ”
อาจารย์พูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ หลังจากได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ผมก็ดีใจขึ้นมาทันที
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ งั้นใครคนนั้นก็คงเก่งสุดๆ แม้แต่ประตูผี ถนนยมโลกก็ยังผ่านมาแล้ว แถมยังสามารถกลับมาบนโลกได้อีกครั้ง
โชคแบบนั้น การผจญภัยแบบนั้น ย่อมทำให้ผู้คนตกใจหรือหวั่นเกรงอย่างแน่นอน
“ อาจารย์ สามคนนั้นเป็นใครเหรอ ? ” ดวงตาของผมเบิกกว้างด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อาจารย์พยายามย้อนกลับไปคิดพักหนึ่ง หลังจากนั้นก็หันมาจ้องผม “ สองคนที่เหลืออาจารย์ไม่รู้ แต่มีคนนึงที่โด่งดังอยู่ในลัทธิเต๋าปัจจุบัน คนที่ไม่ค่อยออกมาปรากฎตัวให้ผู้คนเห็นเท่าไหร่ หรือก็คือหลงฉวนตัวจริงที่เคยช่วยชีวิตแกครั้งนึงแล้ว ! ”