หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 544 วินาทีวิกฤต

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 544 วินาทีวิกฤต

“ ดาดฟ้างั้นเหรอ ? ” ผมเผลอถามกลับ

ว่านเหวยพยักหน้า “ ใช่ เสี่ยวจินไม่มีทางผิดแน่ ! ”

 

“ แม่งเอ้ย ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องจัดการเจ้าหมอผีนี่ให้ได้ ! ” เหล่าเฟิงพูดด้วยความโมโห หลังจากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในตึกทันที

 

ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ผมกลับไม่มีอะไรดีๆจะพูดออกมา

ผมกับว่านเหวย เองก็รีบวิ่งตามไปทันที

 

ส่วนงูทองในมือของว่านเหวย ก็เลื้อยเข้าไปในแขนเสื้อของว่านเหวยเหมือนเดิม

ไม่พูดไม่ได้ ว่านเหวยคนนี้มีรสนิยมแปลกมาก แล้วแบบนี้ต่อไปจะมีผู้ชายคนไหนกล้าคบกับเธอบ้างเนี่ย

 

แน่นอน ในเวลานี้ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ เพียงแค่วิ่งหน้าตั้งขึ้นไปบนตึกเท่านั้น

ตึกหลังนี้มีทั้งหมด 11 ชั้น และมันเชื่อมกันด้วยบันไดล้วนๆ

 

หลังวิ่งขึ้นมาถึงชั้นที่ 11 ผมก็รู้สึกปวดขาทั้งสองข้าง แต่ก็ยังฝืนทนต่อไปได้อีก

ในวินาทีที่เหล่าเฟิงถีบประตูดาดฟ้า ผมก็เห็นหมอผีคนนั้น หรือเป่าชิงหวังอยู่บนนั้นจริงๆ

เพียงแต่เหตุการณ์ตรงหน้า กลับดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

 

เพราะตอนนี้เป่าชิงหวัง กำลังกดพี่เฟิงเอาไว้กับพื้น มืออีกข้างหนึ่งของเขากำลังถือแมลงชือหยินตัวนั้นเอาไว้ เขาคิดจะยัดมันเข้าไปในปากพี่เฟิง

ดวงตาของพี่เฟิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาอยากจะหลบมัน

 

แต่ตรงหัวของพี่เฟิง มียันต์แปะเอาไว้หนึ่งแผ่น

ตอนนี้เขาไม่สามารถพูดได้ ทำได้เพียงตัวสั่น และขยับมือและเท้าได้เล็กน้อยเท่านั้น

 

พอเห็นถึงตรงนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็ตกใจกันในทันที

เมื่อวานพลังเต้าจวินของพี่เฟิง ยังเอาชนะเจ้าหมอผีนี่ได้อยู่เลย แล้วทำไมวันนี้ถึงได้เป็นแบบนี้ได้ละ

 

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเจ้าเป่าชิงหวังกำลังจะยัดหนอนใส่ปากพี่เฟิง

นี่คือแมลงชือหยินเชียวนะ เป็นแมลงพิเศษที่สามารถกลืนกินวิญญาณได้

 

หากเจ้าหมอนี่ยัดเข้าไปในปากพี่เฟิงจริงๆ พี่เฟิงจะยังมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกงั้นเหรอ

พอคิดมาถึงตรงนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็พูดออกมาพร้อมกัน “ หยุดเดี๋ยวนี้ ! ”

 

พอเป่าชิงหวังได้ยินคำพูดนี้ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา “ หยุดงั้นเหรอ ? ไม่ไม่ไม่ ข้าหยุดไม่ได้หรอก ! ”

หลังจากพูดจบ เป่าชิงหวังก็เอาหนอนในมือ ยัดใส่เข้าไปในปากพี่เฟิง

 

ทันใดนั้น สีหน้าของพี่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันที เขาเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา และตัวสั่นขึ้นมาทันที

แต่เขาพูดไม่ได้ และคลายออกมาก็ไม่ได้

 

ส่วนเจ้าแมลงหยินชือตัวนั้น หลังเข้าไปในปากพี่เฟิง มันก็เริ่มดูดกลืนพลังวิญญาณพี่เฟิงทันที

ถึงพวกเราจะอยู่ห่างออกมาหลายเมตร แต่เราก็สัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของพี่เฟิงกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว

 

หากยึดตามความเร็วนี้ พี่เฟิงต้องโดนเจ้าหนอนนั่น ฆ่าตายภายในเวลาไม่เกินห้านาทีแน่ แล้วสุดท้ายวิญญาณเขาก็ต้องแตกสลาย

 

เมื่อเวลานั้นมาถึง เหล่าเฟิงก็จะตายเหมือนกัน

ตาของผมและเหล่าเฟิงเบิกกว้าง ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องหยุดอีกฝ่ายให้ได้

 

ผมไม่ลังเลยสักนิด เปิดใช้พลังทั้งหมด เคลื่อนพลังเฟิงเทียนคิดจะสู้ตายกับอีกฝ่าย

ผมคิดจะสังหารอีกฝ่าย ช่วยพี่เฟิง และแย่งแมลงหยินชือกลับมา

 

พอเจ้าหมอผีคนนั้นเห็นผมและเหล่าเฟิงเริ่มลงมือ มันก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างเย็นชา และประสานมือทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเอง ลมกระโชกแรงก็ก่อตัวขึ้น

 

เจ้าหมอนั่นเป็นเหมือนเมื่อคืน แก้มพองโตเหมือนกบไม่มีผิด

หลังจากนั้นมันก็เป่ามาทางพวกเรา เรารู้สึกเหมือนติดอยู่ในพายุ ไม่อาจเดินไปข้างหน้าได้ง่ายๆ

 

ต่อจากนั้น เราก็เห็นหมอกดำเริ่มก็ตัวกันระลอกแล้วระลอกเล่า

เราเห็นฉากนี้เมื่อคืนแล้ว เจ้าหมอนี้กำลังเรียกทาสผีออกมา

 

ในขณะที่สายหมอกทั้ง 12 สายนั้นปรากฎขึ้น ผ่านไปแค่ชั่วพริบตาเดียวพวกมันก็แปลเปลี่ยนเป็นวิญญาณร้าย 12 ตัว

 

แต่เจ้าวิญญาณทั้ง 12 ตัวนี้ไม่ใช่ผีร้ายตัวเดิมที่เราเจอเมื่อคืน เพราะผีร้าย 12 ตัวเมื่อคืน โดนพวกเรากำจัดไปหมดแล้ว

 

ไม่ว่าจะเป็นแรงอาฆาตหรือพลังหยินของผีร้ายทั้ง 12 ตัวนี้ ก็ไม่ได้ทรงพลังเท่าผีร้ายตัวเมื่อคืนเลย

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น พวกเราก็ไม่กล้าประมาท

 

เนื่องจากฝั่งเราคนน้อยกว่า หากประมาทเพียงเล็กน้อยอาจทำให้สถานการณ์แย่จนแก้กลับมาไม่ได้

ต่อจากนั้น เป่าชิงหวังก็ตะโกนออกมาหนึ่งครั้ง ผมและเหล่าเฟิงต่างโดนผลักให้ถอยออกไปทันที

 

หลังจากนั้นเราก็เห็นผีร้ายทั้ง 12 ตนลืมตาขึ้น และพุ่งเข้ามาหาพวกเราสองคนทันที พวกมันเคลื่อนไหวได้เร็วสุดๆ

 

ผมและเหล่าเฟิงก็ไม่ยอมแพ้ พี่เฟิงกำลังตกอยู่ในอันตราย และมันก็เกี่ยวข้องกับชีวิตของเหล่าเฟิง

ส่วนเจ้าแมลงชือหยินตัวนั้น ก็เกี่ยวข้องกับความเป็นตายของท่านนักพรตตู๋

 

ในเวลานี้หากไม่สู้สุดชีวิต ต่อไปเราก็คงไม่มีโอกาสได้ทำแล้ว

ผ่านไปเพียงชั่วพริบตา พวกเราก็เริ่มสู้กับอีกฝ่ายแล้ว

 

เพิ่งปะทะกัน ผมก็พบว่าผีร้ายพวกนี้มีระดับพลังไม่สูงมาก

ถ้าเทียบกับผีร้ายทั้ง 12 ตัวเมื่อวาน พวกมันอ่อนแอกว่ามาก ส่วนใหญ่อยู่ที่เต้าฉือขั้นกลาง ระดับสูงสุดก็คือเต้าฉือขั้นสุดเท่านั้น

 

ภายใต้พลังเฟิงเทียนของผม ผมสามารถบดขยี้พวกมันได้อย่างเต็มที่

เพียงแต่อีกฝ่ายมีเยอะกว่า สองมือไม่สู้สี่แขน เลยไม่สามารถแยกแยะผลแพ้ชนะได้ในทันที

 

แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ สถานการณ์ของพี่เฟิงแย่ขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายเขาเริ่มสั่นไหวสองสามครั้ง

และทุกครั้งที่สั่นไหว ตัวของเหล่าเฟิงก็จะสั่นตามไปด้วย ในฐานะหนึ่งร่างสองวิญญาณ ความเจ็บปวดที่มาจากวิญญาณ ทำให้เขารู้สึกทรมานมาก

 

เป่าชิงหวังที่ยืนอยู่ข้างๆ มองพี่เฟิงที่กำลังตัวสั่น และท่าทางทรมานของเหล่าเฟิง แต่เขากลับหัวเราะ “ ฮ่าๆ ” ออกมา “ เมื่อคืนประมาทไปหน่อย แต่คืนนี้ ข้าไม่มีทางเกรงใจแน่นอน ถึงเจ้าจะเป็นคนของสกุลเหลียงจริงๆ แต่ก็ต้องตายในคืนนี้ และก็ไม่มีทางรู้แน่ว่าเป็นผีมือของข้า ! ”

 

หลังจากพูดจบ เจ้าหมอนั่นก็ชื่นชมการต่อสู้ของพวกเราอย่างมีความสุข

แม่งเอ้ย คราวนี้ไม่ได้เอาดาบไม้ออกมาจากบ้านด้วย ในเวลานี้แทบจะใช้มือเปล่าสู้กับผีร้าย 12 ตัวนี้

 

แม้พวกมันจะไม่แข็งแกร่งเท่าพวกเรา แต่พอไม่มีอาวุธอยู่ในมือ ก็สู้ได้ไม่ง่ายเลยจริงๆ

ในเวลานี้คิดจะบุกก็บุกไม่ได้ จะถอยก็ถอยไม่ได้ เป็นอะไรที่ไม่สบอารมณ์สุดๆ

 

แต่ ในช่วงเวลาสำคัญนั้น ว่านเหวยก็ออกมาปรากฎตัวอีกครั้ง

ฝีเท้าของเธอไม่ได้ดีเท่าผมกับเหล่าเฟิง ในเวลานี้เธอเพิ่งขึ้นมาถึงดาดฟ้า

 

เธอหายใจหอบเหนื่อย พอเห็นพวกเรากำลังต่อสู้อยู่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

แต่ เธอไม่ได้ตกใจนานนัก หลังจากนั้นเธอก็ยกมือขึ้น แล้วตะโกนออกมาว่า “ เสี่ยวจิน ! ”

 

เสียงนี้เพิ่งเงียบลง เจ้างูทองตัวเล็กตัวนั้นก็เลื้อยออกมาจากแขนเสื้อว่านเหวย แล้วพุ่งออกไปหาหมอผีคนนั้นทันที

 

ไม่ใช่แค่นั้น ในแขนเสื้ออีกข้างหนึ่งของว่านเหวย ก็มีตะขาบยักษ์อีกตัวคลานออกมาด้วย

เจ้าตะขาบยักษ์นั่นเพิ่งลงมาถึงพื้น มันก็กลายเป็นสายฟ้าสีดำ พุ่งตรงมายังผีร้ายทั้ง 12 ที่อยู่ทางพวกเรา

 

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ว่านเหวยยังสามารถควบคุมเจ้าแมลงชือหยินตัวนั้นได้

หลังปล่อยงูตัวนี้ออกมา เธอยังพูดอีกว่า “ เสี่ยวเฮย กลับมานี่ ! ”

 

เสียงของว่านเหวยเพิ่งเงียบลง แมลงชือหยินที่อยู่ในปากพี่เฟิง ก็หยุดดูดกลืนพลังวิญญาณของพี่เฟิงทันที 

มันยกหัวขึ้น ดวงตาดวงเล็กคู่นั้นจับจ้องมาที่ว่านเหวย จากนั้นมันก็ค่อยๆยกตัวขึ้น เหมือนมันกำลังคิดจะกระโดด

 

พอเป่าชิงหวังเห็นแบบนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

เขาหลบจากเจ้างูทองตัวนั้นก่อน หลังจากนั้นก็พลิกมือ เข้าไปจับแมลงชือหยินกลางอากาศตัวนั้นอีกครั้ง

 

“ หลานสาว มาจากไหนก็ไสหัวกลับไป ไม่อย่างนั้นอาจารย์ลุงคนนี้ จะไม่เกรงใจแล้วนะ ! ” เป่าชิงหวังพูดอย่างเย็นชา

 

“ อย่ามามั่ว ฉันไม่มีอาจารย์ลุงอย่างแก ! เสี่ยวจินกัดมันให้ตาย ! ” ว่านเหวยพูดต่อทันที

เจ้างูเสี่ยวจินตัวนั้นหันมามอง หลังจากนั้นก็เริ่มโจมตีเป่าชิงหวังทันที

 

งูเสี่ยวจินตัวนั้นเหมือนกับสายฟ้าสีทอง “ ซือๆๆ ” ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แค่มองก็รู้แล้วว่าเจ้างูตัวนั้นเป็นงูพิษ หากโดนกัดเข้า ต้องโดนพิษเล่นงานจนตายแน่ๆ

สีหน้าของเป่าชิงหวังเรียบนิ่ง เขาหลบอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเดียวกันก็คิดจะหาโอกาสฆ่างูทองตัวนี้……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.