spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 538 กลายร่างขั้นสอง
ท่านนักพรตตู๋ต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะอาจารย์ของผม เขาต้องโดนพิษปีศาจซึมเข้ากระดูก แล้วสุดท้ายถึงได้มีสภาพเหมือนสัตว์อย่างเช่นทุกวันนี้
ตอนนี้พออาจารย์ได้ยินผมพูดว่าหาทางขจัดพิษได้แล้ว อาจารย์ก็ต้องดีใจขึ้นมาเป็นธรรมดา
ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันที จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ “ จริง จริงเหรอ ? เมียแกหาวิธีได้แล้วจริงๆเหรอ ? ”
อาจารย์ไม่กล้าเชื่อ แต่ผมกลับพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ ใช่อาจารย์ ถึงน้องศพจะไม่ได้บอกว่ามีวิธีอะไร แต่เธอบอกว่าขอแค่หาของทั้งสามอย่างมาจนครบ เธอก็สามารถขจัดพิษให้ท่านนักพรตตู๋ได้แล้ว ! ”
“ ของสามอย่าง ทั้งหมดอยู่ที่ตาเฒ่าเซียงจู๋จางนั่นเหรอ ? ” อาจารย์ยังสงสัย
เพราะอาจารย์เป็นเหมือนผม ล้วนคิดว่าตาเฒ่าเซียงจู๋จางเป็นแค่คนขายของธรรมดาคนหนึ่ง
นอกจากธูป เทียน เงินกระดาษ และพวกพระเครื่องต่างๆแล้ว พวกเราไม่คิดว่าเขายังมีของอย่างอื่นอีก
ผมเองก็ไม่พูดอ้อมค้อมกับอาจารย์ บอกอาจารย์ตรงๆไปทันที “ ไม่ เราต้องการของจากตาเฒ่าเซียงจู๋จางแค่อย่างเดียว ส่วนของอีกสองอย่างน้องศพได้เตรียมเอาไว้แล้ว แบ่งเป็นหยดน้ำจากพลังชั่วและลูกปัดในศพ…… ”
ผมเพิ่งพูดมาถึงตรงนี้ ยังไม่ทันพูดจบ อาจารย์ก็มีอาการนั่งไม่ติดอีกต่อไป เขาพูดออกมาด้วยความตกใจทันที “ หยด หยดน้ำจากพลังชั่ว ลูก ลูกปัดในศพ หรือ หรือว่าของอย่างที่สาม ก็คือแมลงชือหยินที่แกพูดไปก่อนหน้านี้ ตรงตาเฒ่าเซียงจู๋จางจะมีงั้นเหรอ ? ”
เห็นได้ชัด อาจารย์เองก็ตกใจเพราะของอย่างที่สาม
ผมยังพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ ใช่ นี่ก็คือของชิ้นที่สาม ”
“ แต่ ตรงตาเฒ่าเซียงจู๋จาง จะไปมีแมลงชือหยินได้ยังไง ? ” อาจารย์ไม่เข้าใจ
ผมเพียงอธิบายต่อ “ สำหรับเรื่องนี้ น้องศพบอกเอาไว้ว่า เบื้องหลังของเซียงจู๋จาง ยังมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่คอยหนุนหลังอยู่ อาจารย์ ยังจำโลงเหล็กฟีนิกซ์ได้ไหม ! นั่นเป็นของที่คนหนุนหลังเซียงจู๋จางหามาให้น้องศพ ! ”
พออาจารย์ได้คำพูดพวกนี้จบ ก็ช็อกอย่างต่อเนื่อง
แต่ผมยังพูดต่อ “ น้องศพยังบอกอีกว่า หากพวกเราไปเอาแมลงชือหยินมาแล้ว ก็ให้พาท่านนักพรตตู๋ไปที่สุสานตรงข้างอ่างเก็บน้ำ พอถึงตอนนั้นแล้วก็จะช่วยขจัดพิษให้ท่านนักพรตตู๋ได้แล้ว ! ”
อาจารย์สูดหายใจเข้าหนึ่งครั้ง แต่เขากลั้นความรู้สึกตื่นเต้นที่อยู่ในใจไว้ไม่อยู่ “ งั้นจะรออะไรอยู่ละ
เราออกไปกันเลยเถอะ ! ”
ผมพยักหน้ารับ แต่ก็ยังถามอาจารย์ว่า “ อาจารย์ แล้วเราจะเอาเรื่องนี้ไปบอกให้ท่านนักพรตตู๋ฟังก่อนไหม ? ”
พออาจารย์ได้ยินผมถามแบบนั้น ก็ลังเลไปพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ส่ายหัวให้ผม “ ฉันว่าไม่ต้องหรอก รอให้ได้ของกลับมาแล้ว ค่อยไปหาเหล่าตู๋ทีเดียว ! จะได้ทำให้เขาดีใจด้วย ! ”
พอได้ยินอาจารย์พูดถึงขนาดนั้น ผมก็ขานรับว่า “ อือ ” จากนั้นก็ไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก
ต่อจากนั้นผมและอาจารย์ก็ออกจากบ้าน เตรียมตัวจะขับรถไปที่ร้านเซียงจู๋จาง
แต่ผมยังไม่ทันได้สตาร์ทรถ โทรศัพท์ของอาจารย์ก็ดังขึ้น
อาจารย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เขานิ่งไปพักหนึ่ง พร้อมเผลอพูดขึ้นมาว่า “ เสี่ยวเฟิงโทรมาหาฉันทำไม ? ”
พอได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ผมก็อึ้งไปพักหนึ่ง เฟิงเฉ่วหานงั้นเหรอ
ตอนนี้ อาจารย์กดรับสายแล้ว “ ว่าไง เสี่ยวเฟิง ”
ผลลัพธ์เสี้ยววินาทีต่อมา ผมได้ยินเสียงตะโกนในโทรศัพท์ว่า “ อ้า ! อ้า…… ”
เสียงดังมาก คนที่นั่งอยู่ในรถอย่างผมยังได้ยิน ผมสัมผัสลางร้ายได้ลางๆ
อาจารย์รีบพูดว่า “ เป็นอะไรไป ? ”
หลังจากนั้นผมก็เห็นอาจารย์ฟังเสียงในโทรศัพท์พักหนึ่ง แต่เขายิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งแย่ขึ้นเรื่อยๆ
หลังอาจารย์วางสายแล้ว เขาก็หันมาพูดกับผมตรงๆ “ เร็ว รีบไปร้ายไป๋ฉ่าว เกิดเรื่องกับเหล่าตู๋แล้ว ! ”
ผมสตาร์ทรถแล้ว ในวินาทีนั้นผมไม่ลังเลเลยสักนิด รีบเหยียบคันเร่ง พุ่งตัวออกไปทันที
“ อาจารย์ เกิดอะไรขึ้น ? ” ผมพูดด้วยความสงสัย
อาจารย์ทำสีหน้าหนักใจ “ เสี่ยวเฟิงโทรมา บอกว่าเหล่าตู๋เริ่มกลายร่างขั้นสองแล้ว เขาคนเดียวเอาไม่อยู่
เลยบอกให้เราไปช่วย ! ”
“ อะไรนะ เริ่มกลายร่างขั้นสองแล้ว ” ผมอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความตกใจ
เป็นตอนไหนไม่เป็น ดันมาเป็นในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้
หากกลายร่างขั้นสองสำเร็จ งั้นก็จะกลายเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ขึ้นมาจริงๆแล้ว
ผมใจเต้นแรง แต่ก็ยังรีบขับรถมาจนถึงหน้าร้านไป๋ฉ่าว
ประตูหน้าเปิดอยู่ แต่พวกเรากลับได้ยินเสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดดังมาจากข้างใน
ผมและอาจารย์ไม่กล้าลีลา หลังจอดรถเสร็จแล้วก็พุ่งเข้าไปในร้านไป๋ฉ่าวทันที
ผมกับอาจารย์เพิ่งเข้ามาในร้าน เราก็เห็นเหล่าเฟิงใช้มือกดตัวท่านนักพรตตู๋เอาไว้กับพื้น ในมือมีเชือกเส้นหนึ่ง เขาคงคิดจะมัดท่านนักพรตตู๋เอาไว้
ส่วนท่านนักพรตตู๋ที่โดนกดไว้กับพื้น กลับดิ้นไปมาและกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง
ไม่ใช่แค่นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ร่างกายของท่านนักพรตตู๋กำลังกลายสภาพเป็นปีศาจแล้ว
ผิวของเขา มีขนสัตว์งอกออกมาจำนวนมาก เล็บมือก็แปลเปลี่ยนเป็นกรงเล็บที่แหลมคมแล้ว ดวงตาแดงก่ำ เขี้ยวงอกยาวออกมา ท่าทางดูดุร้ายมาก
พอเห็นถึงตรงนี้ ผมและอาจารย์ก็อดตกใจไม่ได้ เป็นการกลายร่างขั้นสองจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้
อาจารย์กดเสียงลงต่ำ “ เวรเอ้ย ! ”
หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าไป ผมเองก็ไม่ยืนนิ่ง รีบตามไปช่วยเช่นกัน
แม้ท่านนักพรตตู๋จะดิ้นแรงมาก แต่พอผมและอาจารย์เข้าไปช่วย ท่านนักพรตตู๋ก็ไม่อาจดิ้นหลุดไปได้
เขาโดนผมกับอาจารย์กดไว้ที่พื้นจนไม่อาจขยับได้ ส่วนเหล่าเฟิงก็เริ่มใช้เชือกมัด
ในเวลาเดียวกันเขาก็พูดด้วยเสียงหอบหายใจ “ ตอนกลางวันหลังออกไปส่งคนไข้แล้ว หลัง หลังกลับมาอีกรอบแล้ว ถึงได้พบว่า อาจารย์เริ่มกลายร่างแล้ว เหมือนเจ้ายานั่น จะใช้ไม่ได้ผลแล้ว ! ”
พอได้ยินเหล่าเฟิงพูด และทำท่าทางกังวล ผมก็พูดกับเขาตรงๆ “ เหล่าเฟิงนายวางใจได้ น้องศพหาวิธีขจัดพิษให้ท่านนักพรตตู๋เจอแล้ว…… ”
พอเหล่าเฟิงได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็ตะลึงในทันที “ น้อง น้องสาว ก็คือวิญญาณคุ้มครองนายตนนั้นเหรอ ? ”
ผมเข้าใจดี เหล่าเฟิงคิดว่า “ น้องศพ ” คือน้องสาว
แต่ผมไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อน เพียงได้ยินผมพูดว่า “ ใช่ เธอนั่นแหละ ฉันกับอาจารย์กำลังจะไปเอาของอย่างนึง เดิมทีคิดว่าวันนี้จะทำให้ท่านนักพรตตู๋ดีใจ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าท่านนักพรตตู๋จะกลายร่างขั้นสองซะก่อน ! ”
“ จริง จริงเหรอ ? งั้นก็เยี่ยมไปเลย ” เหล่าเฟิงที่ดูท่าทางท้อแท้ ในเวลานี้กลับเปลี่ยนมามีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย แต่มือก็ยังไม่หยุดทำงาน
ผ่านไปไม่นาน หลังจากมีผมและอาจารย์คอยช่วย ท่านนักพรตตู๋ก็โดนเหล่าเฟิงจับมัดแล้วเรียบร้อย
เพื่อเลี่ยงไม่ให้ท่านนักพรตตู๋แหกปากตะโกน เราเลยปิดปากเขาเอาไว้ด้วย
แต่ถึงจะควบคุมการเคลื่อนไหวของท่านนักพรตตู๋ได้แล้ว แต่ร่างกายเขากลับยังกลายร่างอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่พวกเราเห็นชัดมากๆเลย คือใบหน้าของท่านนักพรตตู๋ค่อยๆบิดเบี้ยว กล้ามเนื้อในร่างกายก็เปลี่ยนเป็นบึกบึน
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ท่านนักพรตตู๋เกือบสูญเสียความเป็นมนุษย์ สายตาที่มองพวกเราเหมือนกับเห็นเหยื่อไม่มีผิด
เพิ่งจัดการท่านนักพรตตู๋เสร็จ อาจารย์ก็พูดกับผมว่า “ สถานการณ์แย่ขึ้นเรื่อยๆ เอาแบบนี้ ฉันอยู่ที่นี่
เสี่ยวเฟิงกับเสี่ยวฝานออกไป รีบไปเอาของนั่นกลับมาให้เร็วที่สุด ! ”
“ วางใจได้เลยอาจารย์ ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็ส่งสัญญาณให้เหล่าเฟิงไปด้วยกัน
เหล่าเฟิงยังไม่แน่ใจว่าพวกเรากำลังจะไปเอาอะไร เลยถามผมว่าต้องเอาอาวุธไปไหม
ผมบอกว่าไม่ต้อง ให้เขาตามผมมาก็พอ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังระหว่างทาง
เรื่องก็เป็นแบบนี้ อาจารย์อยู่ดูท่านนักพรตตู๋ที่ร้านไป๋ฉ่าว ผมและเหล่าเฟิงออกมา ไปหาเซียงจู๋จางที่ตัวเมือง……