หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 534 จัดการศพ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 534 จัดการศพ

พี่เฟิงพูดด้วยความโมโห ดูเหมือนเขาจะมีความแค้นฝังลึกที่อาจยุติได้กับเจ้าสกุลเหลียงนี่

หลังจากพูดจบ พี่เฟิงก็ตัวสั่น เขากลายเป็นควันแล้วเข้าไปในตัวเหล่าเฟิงทันที

 

หลังพี่เฟิงหายไปแล้ว ผมและเหล่าเฟิงกลับยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

จากคำพูดของพี่เฟิง ผมและเหล่าเฟิงมั่นใจอยู่เรื่องหนึ่ง

 

เหล่าเฟิงต้องมาจากสกุลเหลียง หรือเจ้าสกุลเหลียงที่ลึกลับนั่น

แต่ก็ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไร พี่เฟิงถึงได้ดูจะไม่ชอบ และแค้นสกุลเหลียงมากขนาดนั้น

 

หลังจากนั้นพักใหญ่ เหล่าเฟิงถึงได้ขมวดคิ้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ผมเองก็ไม่รู้ว่าเหล่าเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่

พอเห็นเหล่าเฟิงเป็นแบบนั้น ผมก็หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน “ ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น…… ”

 

เหล่าเฟิงยื่นมือมารับบุหรี่ หลังจากจุดเสร็จขาก็สูดเข้าไปหนึ่งครั้ง แล้วถึงพูดขึ้นมาว่า “ ฉันก็แค่อยากรู้ความจริงเท่านั้น เจ้าหานเฉ่วเฟิงบ้านี่ ต้องโมโหทุกทีให้ตายเถอะ ”

ผมไม่ได้พูดอะไร เพียงยิ้มอย่างขมขื่นเท่านั้น

 

หลังจากนั้นเหล่าเฟิงก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดว่า “ ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าหมอผีนั่นหนีไปแล้ว พวกเราก็กลับไปจัดการเรื่องที่เหลือเถอะ ! ”

 

พอได้ยินเหล่าเฟิงพูดแบบนั้น ผมก็พยักหน้าให้เขา

ต่อจากนั้น ผมและเหล่าเฟิงก็เดินกลับมา

 

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเราก็กลับมาอยู่ตรงที่สู้กันเมื่อก่อนหน้านี้อีกครั้ง

สภาพจิตใจของอู่ฮุ่ยฮุ่ยไม่ดีเท่าไหร่ ตอนนี้หยางเฉ่วกำลังยืนอยู่ข้างๆเธอ

 

เมื่อหยางเฉ่วเห็นผมและเหล่าเฟิงกลับมาแล้ว เธอก็ถามขึ้นมาว่า “ เป็นยังไงบ้าง ? ”

ผมถอนหายใจ “ ไม่ทัน ! มันหนีไปได้ ! ”

 

“ หนีไปได้ งั้นต่อไปฮุ่ยเอ๋อร์จะไม่ต้องตกอยู่ในอันตรายเหรอ ! ” หยางเฉ่วพูดขึ้นมาอีกรอบ

อู่ฮุ่ยฮุ่ยเองก็เงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นสีหน้ากังวลเล็กน้อย

 

แต่ผมกลับมองร่างไร้วิญญาณของโจวจิ้ง แล้วส่ายหัว “ ฉันว่าไม่นะ เจ้าหมอผีนั่นไม่ได้มีความแค้นอะไรกับอู่ฮุ่ยฮุ่ย ตอนนี้นายจ้างก็โดนเจ้าหมอนั้นฆ่าตายแล้ว มาหาอู่ฮุ่ยฮุ่ยอีก ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรขึ้นมา ! 

ถ้าจะมาหา คงจะมาหาพวกเรามากกว่า ”

 

“ ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่เพื่อความปลอดภัย ฮุ่ยเอ๋อร์ ช่วงนี้เธอเปลี่ยนที่อยู่จะดีที่สุด แล้วก็ติดต่อพวกเราได้ตลอดเวลาเลยนะ ! ” หยางเฉ่วพูดกับอู่ฮุ่ยฮุ่ย

 

อู่ฮุ่ยฮุ่ยพยักหน้า จากนั้นก็พูดว่า “ แล้วโจวจิ้งละ จะทำยังไงกับโจวจิ้ง ”

ผมมองศพของโจวจิ้ง พร้อมถอนหายใจออกมา “ ต้องเอาศพนี่ไปเผาเท่านั้น จะได้ไม่มีปัญหาตามมา 

ไม่อย่างงั้นพอทางการมาเจอเข้า ถึงพวกเราจะกระโดดลงแม่น้ำหวงเหอก็ไม่มีทางล้างมลทินได้แน่ ”

 

อู่ฮุ่ยฮุ่ยเองก็เข้าใจว่าพวกเราจะเจอกับอะไร เธอเลยครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วสุดท้ายถึงยอมพยักหน้าเห็นด้วย

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เธอได้แต่เก็บไว้ในใจเท่านั้น

 

ถึงจะพูดออกไป ก็คงไม่มีใครยอมเชื่อเธอแน่

ต่อจากนั้น พวกเราก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อแม้แต่นาทีเดียว

 

เนื่องจากที่นี่อยู่ใกล้พื้นที่ถ่ายหนัง และมีกองถ่ายบางกอง อาจยังถ่ายตอนกลางคืนอยู่ใกล้ๆป่าผืนนี้

ด้วยเหตุนี้ พวกเราเลยนำศพของโจวจิ้งออกจากป่า จากนั้นก็ขับรถผมเข้ามารับ แล้วนำมันใส่เข้าไปในรถ

 

เพราะในรถมีศพเพิ่มขึ้นมาหนึ่งศพ เราจึงต้องนำมันไปกำจัดให้เร็วที่สุด ดังนั้นผมเลยไม่ได้ไปส่งหยางเฉ่วและอู่ฮุ่ยฮุ่ย ผมรีบเดินทางออกมากับเหล่าเฟิงก่อน ในขณะเดียวกันก็บอกให้หยางเฉ่วช่วยปลอบอู่ฮุ่ยฮุ่ย

 

ส่วนผมและเหล่าเฟิง ก็รีบบึ่งรถกลับตำบลชิงฉือ เพื่อเตรียมเอาศพนี้ไปกำจัดให้เรียบร้อย

เมื่อถึงตอนนั้นปัญหาที่จะตามมาทุกอย่างก็จะหมดไป แม้การหายตัวไปของโจวจิ้งจะไปถึงมือตำรวจ

 

แต่อยู่ไม่เห็นคน ตายไม่เห็นศพ เรื่องนี้ก็จะผ่านไปได้ง่ายๆแบบนี้

ระหว่างทาง ผมกับเหล่าเฟิงเริ่มคาดเดาฐานะของเจ้าเป่าชิงหวังคนนี้

 

เมื่อแรกเริ่มเดิมทีตอนที่เดากันอยู่ที่ห้องอู่ฮุ่ยฮุ่ย เราคิดว่าเจ้าหมอผีคนนี้อาจเป็นสาวกขององค์กรตาผี

แต่หลังจากได้สู้กันแล้วกลับพบว่า เจ้าเป่าชิงหวังคนนี้ ไม่ใช่สาวกขององค์กรตาผี เขาเป็นเพียงแค่หมอผีที่ชั่วร้ายคนหนึ่งเท่านั้น

 

ส่วนวิธีลงมือที่คล้ายกุ่ยซานหยวนเมื่อตอนแรก สุดท้ายพวกเราก็สรุปว่ามันเป็นการสร้างผีชนิดหนึ่ง

เพียงแต่วันนี้เราไม่สามารถจับตัวเจ้าหมอนั่นเอาไว้ได้ เรื่องเฉพาะบางอย่างนั้น พวกเราเลยได้รู้แค่น้อยนิด และไม่อาจรู้ได้ว่าเจ้าหมอนั่นเป็นใคร

 

ในอนาคต บางทีมันอาจเป็นตัวสร้างปัญหาให้ตัวเอง

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พูดมากไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เราทำได้เพียงดูไปตามสถานการณ์เท่านั้น

 

พอมองดูเวลา ผมก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสามกว่าๆแล้ว และพวกเราก็ออกมาจากตัวเมืองจนเกือบจะมาถึงตำบลชิงฉือแล้ว

 

ระหว่างทาง ผมได้โทรหาเหล่าฉินแล้ว ผมบอกว่าตรงผมมี “ ของ ” อยู่ ต้องกำจัดคืนนี้ จากนั้นก็บอกให้

เหล่าฉินช่วยจัดการให้ผมหน่อย

 

แม้ด้านฝึกเต๋าเหล่าฉินจะทำได้ไม่ดี แต่เขาคลุกคลีอยู่ในสุสานนานขนาดนี้และยังเป็นเพื่อนสนิทกับอาจารย์ เขาย่อมเข้าใจดีว่าผมกำลังพูดถึงอะไรอยู่

 

เขาไม่ได้ถามอะไรมากนัก บอกว่าทางเขาจะเตรียมตัวรอ พอพวกเรามาถึงแล้ว ก็จะรีบเปิดเตาเผาทันที

ทางฝั่งเหล่าฉินไม่มีปัญหา แต่ทางพวกเรากลับมีปัญหา เมื่อเข้ามาในตำบลชิงฉือความยุ่งยากก็ได้บังเกิดขึ้น

 

ตอนขับรถเข้ามาในถนนเข้าตำบล พวกเราก็พบกับด่านตรวจ

และตำแหน่งด่านตรวจนี้ก็ตั้งได้ดีจริงๆ มันตั้งอยู่หลังทางโค้งพอดี

 

พวกเราไม่สังเกตเห็นเลยสักนิด เพิ่งขับผ่านโค้งมาได้ ก็พบว่าตรงหน้ามีด่านตรวจอยู่แล้ว

และตรงหน้าของพวกเรา ก็มีรถขนปลาในตอนเช้าตรู่อยู่หนึ่งคัน ในเวลานี้กำลังโดนสอบปากคำอยู่ทางด้านหน้า

 

เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ในใจของผมและเหล่าเฟิงก็มีเสียงดัง “ กึก ”

เวรเอ้ย ! นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

 

ในรถของพวกเรามีศพอยู่หนึ่งศพ พวกเราจะให้พวกเขาตรวจได้ยังไง

หากเปิดประตูออก ความต้องแตกแน่ๆ

 

เมื่อถึงเวลานั้น ผมและเหล่าเฟิงต้องโดนข้อหาฆ่าคนตาย และโดนจับไปที่โรงพักแน่ๆ

พอเห็นภาพนี้ สีหน้าของผมก็เปลี่ยนไปทันที

 

ตามหลักแล้ว ตำบลเล็กๆของพวกเราเป็นตำบลที่อยู่ห่างไกล ปกติมีรถเข้าออกไม่กี่คัน วันนี้กลับมีพายุเข้า ดึกดื่นป่านนี้ก็ยังมีด่านตรวจ

 

“ เหล่าติง รีบถอยเร็ว ถ้าขับเข้าไปแบบนี้ พวกเราได้จบเห่แน่ ! ” เหล่าเฟิงรีบพูด บอกให้ผมอย่าขับไปข้างหน้า

พอได้ยินเหล่าเฟิงพูดแบบนั้น ผมก็รีบดับไฟ คิดจะถอยออก เพื่อหลบภัยร้ายในครั้งนี้

 

ผลลัพธ์ผมเพิ่งดับไฟ แสงไฟฉายลำแสงหนึ่งก็ส่องเข้ามาทางพวกเรา “ ข้างหลัง ดับไฟทำไม รีบเข้าไปตรวจเร็วเข้า ! ”

ผมอึ้งในทันที ขณะเดียวกันก็อยากหนีออกไปตั้งแต่วินาทีแรก

 

ผลลัพธ์ผมกลับซวยจนถึงขั้นสุด ความคิดนี้เพิ่งปรากฎขึ้น ด้านหลังก็มีรถบรรทุกขนาดใหญ่มาปิดท้าย ทำให้ทางหนีของพวกเราหายไปทันที

 

ถนนในตำบลเรา เป็นถนนแคบๆ ขับรถสวนกันได้อย่างยากลำบาก

แต่ที่นี่ยังเป็นทางโค้งด้วย ด้านหลังยังมีรถบรรทุกอีกหนึ่งคัน เราจึงไม่อาจถอยได้อีก

 

หากขับไปข้างหน้า มันก็เป็นทางตันเหมือนกัน ด้านหน้าคือตำบลชิงฉือแล้ว เราจะยังหนีไปไหนได้อีก

ในระหว่างนั้น ใจผมเต้นแรง รู้สึกกังวลสุดๆ

 

ในเวลาเดียวกัน ตำรวจด่านตรวจก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ ทำอะไรอยู่ฮะ เร็วๆหน่อย ! ”

ขณะพูด ตำรวจก็เห็นความผิดปกติของเราแล้ว หรือแม้แต่เริ่มส่องไฟฉายมาทางพวกเราสองคน

 

ทำยังไงดี ทำยังไงดี ผมคิดไม่หยุด เหล่าเฟิงเองก็ไม่มีสติแล้ว

แต่ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเข้ามาใกล้ ผมก็ใจเต้นแรงหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างแวบขึ้นมาแสงหนึ่ง 

ผมคิดออกแล้ว

 

ใช่แล้ว ! ผมเชิญเซียนมาช่วยได้นิ !

เผ่าจิ้งจอกเป็นเผ่าที่มีวิชาด้านเสน่หามากที่สุด นี่ก็คือความสามารถดั่งเดิมของพวกเขา

 

ขอแค่เชิญเซียนตนไหนที่อยู่ใกล้ๆแถวนี้มาได้ เราก็สามารถใช้ความสามารถของพวกเขา ทำให้พวกตำรวจสับสนได้

 

เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็สามารถผ่านด่านตรวจไปได้อย่างง่ายดายแล้วไม่ใช่เหรอ

หลังในสมองมีความคิดนี้เกิดขึ้น ผมก็รีบพูดกับเหล่าเฟิงว่า “ เหล่าเฟิง นายรีบลงไปถ่วงเวลาพวกเขาเอาไว้ก่อน ฉันจะเชิญเซียนมาช่วย ! ”

 

หลังจากพูดจบ ผมก็รีบหยินธูปหอมสั้นพิเศษออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็ถือด้วยมืออันสั่นเทาเพื่อเตรียมจะจุดมัน

 

เพราะเครียดมาก มือเลยสั่นไม่หยุด ไฟแช็กก็ส่งเสียงดัง “ แก็กๆๆ ” แต่มันกลับไม่ติดสักที

เหล่าเฟิงเองก็ไม่รอช้า หยิบซองบุหรี่ออกมา เปิดประตูรถกำลังจะลงไป ถ่วงเวลาพวกเขาเอาไว้

 

แต่ในวินาทีที่เหล่าเฟิงลงไปจากรถ จู่ๆก็มีเงาของอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาในรถ

ยังไม่รอให้ผมเห็นว่าเป็นตัวอะไร เงานั่นก็สั่นไหว มันกลายเป็นสาวสวยคนหนึ่ง ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ข้างๆเบาะคนขับของผมอย่างงั้น

 

เมื่อลองกวาดสายตามองแล้ว ผมก็ตะลึงอีกครั้ง

ผู้ที่มาเยือนทำให้ผมแปลกใจมาก เพราะเธอก็คือยัยจิ้งจอกน้อย หูเหมย……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.