spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 533 โดนดูดจนเกลี้ยง
เป่าชิงหวังเร็วมาก เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวร่างของเขาก็หายเข้าไปในความมืดแล้ว
ส่วนพวกเรา ยังคงต่อสู้อย่างสุดกำลัง ทำให้พวกเราไม่มีเวลาปลีกตัวออกไปได้เลย
แม้แต่พี่เฟิง ก็ยังทำไม่ได้
ไม่มีทางเลือก เราได้แต่เลือกจัดการผีร้าย 12 ตนตรงหน้าก่อน
ความแข็งแกร่งของพลังเต้าจวินของพี่เฟิงนั้นไร้ข้อกังขา แม้จะปลีกตัวออกไปไม่ได้ แต่ภายใต้การร่วมมือกันของพวกเราสามคน การจัดการผีร้ายทั้ง 12 ตนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร
หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ผีร้ายทั้ง 12 ตนนั้นก็โดนพวกเรากำจัดทิ้งจนสิ้นซาก
ตอนผีตนสุดท้ายโดนกำจัด พี่เฟิงก็ไม่หยุดอยู่ที่เก่า เขาหายตัว รีบวิ่งไปยังทางที่เป่าชิงหวังหนีไปเมื่อก่อนหน้านี้ทันที
ส่วนพวกเราสามคน ก็รีบตามไปเช่นกัน
ตอนเราวิ่งผ่านหน้าโจวจิ้งคนนั้น ทุกคนก็ตกตะลึงทันที
เราเห็นเพียงตรงคอของโจวจิ้งโดนกัดจนเป็นรูโหว่ ในเวลานี้ยังมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย เธอหายใจโรยริน เห็นได้ชัดว่าใกล้ตายแล้ว
ไม่ใช่แค่นั้น โจวจิ้งที่เคยเป็นนางเอกผู้งดงาม แต่ในเวลานี้กลับเปลี่ยนเป็นยายแก่คนหนึ่ง
ผมสีดำคลับพวกนั้น ก็ขาวดุจหิมะ แม้แต่ดวงตา ก็ยังดูขุ่นมัว
ขณะมองโจวจิ้ง ผมก็ใจเต้นแรง และอดพูดขึ้นมาไม่ได้ “ นี่มันวิชามารอะไร เลวทรามสิ้นดี ”
เสียงเพิ่งเงียบลง หยางเฉ่วก็พูดต่อทันที “ นั่นเป็นวิชาชั่วอย่างหนึ่งของพวกหมอผี เธอโดนเจ้าหมอผีคนนั้นดูดพลังชีวิตออกไปจนหมดแล้ว ”
“ เจ้าหมอนี่โหดจริงๆ ! แม้แต่นายจ้างก็ฆ่าได้ ! ” ผมพูดขึ้นมาอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน อู่ฮุ่ยฮุ่ยก็วิ่งเข้ามา หลังเห็นสภาพโจวจิ้งที่กลายเป็นยายแก่นอนอยู่กับพื้นแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะตกใจ
“ โจว โจวจิ้ง ! ” หลังจากพูดจบ อู่ฮุ่ยฮุ่ยก็คุกเข่าลง เธอไม่อยากเชื่อภาพตรงหน้าเท่าไหร่
ส่วนผู้หญิงที่ชื่อโจวจิ้งคนนั้น กลับพูดขึ้นมาด้วยเสียงแหบแห้ง “ เธอ เธอชนะแล้ว ! ”
“ โจวจิ้ง เธอทนเอาไว้ก่อนนะ เธอต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน ! ” อู่ฮุ่ยฮุ่ยไม่ได้อาฆาตแค้น ในเวลานี้ยังเป็นห่วงอีกฝ่ายอีกต่างหาก
แต่โจวจิ้งกลับยกมือตัวเองขึ้นมา ตอนนี้มือเธอเต็มไปด้วยรอยย่นแล้ว “ ฉัน ฉัน เป็นแบบนี้แล้ว จะ จะเป็น จะเป็นดาราดังระดับโลกได้ยังไงอีก ! ”
พอพูดถึงตรงนี้ ผู้หญิงคนนี้ก็หันไปมองอู่ฮุ่ยฮุ่ย ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็ดูเปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย
น้ำเสียงก็ดูดังขึ้นไม่น้อย “ น่า น่าเสียดายจริงๆ ที่ ฆ่ายัยสถุล อย่างเธอไม่ได้…… ”
เพียงนี้เพิ่งเงียบลง หัวของโจวจิ้งก็ทรุดลง เธอหมดลมหายใจแล้ว
“ โจวจิ้ง โจวจิ้ง ! ” อู่ฮุ่ยฮุ่ยตกใจ ใช้มือเขย่าร่างเธอทันที
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบสนอง เธอเลยหันมาพูดกับผม “ ติงฝาน นาย นายรีบช่วยเธอเร็ว ! ที่จริงเธอไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะ เมื่อก่อนเธอยังเคยสอนทักษะการแสดงให้ฉันตั้งมากมาย นายรีบ รีบช่วยเธอเร็ว ! ”
อู่ฮุ่ยฮุ่ยร้อนใจจนเกือบร้องไห้ออกมาแล้ว ขณะเดียวกันก็บอกให้ผมช่วยอีกฝ่าย
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่โจวจิ้งเป็นคนจ้างมือสังหาร สำหรับเรื่องนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่คุ้มให้ช่วยอยู่แล้ว
ถึงผมอยากจะช่วยเธอ แต่มันก็ไม่ทันแล้ว
เป่าชิงหวังสูบพลังชีวิตของเธอไปจนหมดแล้ว เลือดในตัวก็คงโดนดื่มไปไม่น้อย ตอนนี้จะมีโอกาสช่วยได้อีกที่ไหนละ
ผมถอนหายใจ “ อู่ฮุ่ยฮุ่ย ช่วยไม่ได้แล้ว ! รีบลุกขึ้นเถอะ ! ”
หลังจากพูดจบ หยางเฉ่วก็ประคองเธอขึ้นมา
แต่อู่ฮุ่ยฮุ่ยเป็นคนดีจริงๆ ไม่เพียงไม่แค้นที่โจวจิ้งจ้างคนมาฆ่าเธอ กลับกันยังเสียใจกับการตายของโจวจิ้งด้วย
คำที่เธอพูดออกมา ล้วนบอกว่าโจวจิ้งดีกับเธอทั้งนั้น
สำหรับเรื่องเลวร้ายของอีกฝ่าย ดูเหมือนเธอจะลืมไปทั้งสิ้น
ผมสูดหายใจเข้า ขานเรียกเหล่าเฟิงหนึ่งครั้ง จากนั้นพวกเราก็เริ่มวิ่งเข้าไปในป่าทันที
พี่เฟิงไล่ตามไปแล้ว ส่วนเรื่องไล่ตามทันไหม ตอนนี้พวกเรายังไม่รู้ พวกเราได้แต่ตามไปดูเท่านั้น
แต่หลังจากไล่ตามไปได้ประมาณ 10 นาที เรากลับพบว่าพี่เฟิงกำลังลอยกลับมาจากในป่า
พอเห็นพี่เฟิงลอยกลับมา ผมก็อดใจถามออกมาไม่ได้ “ พี่เฟิง เป็นยังไงบ้าง ? ”
พอพี่เฟิงได้ยินผมถาม เขาก็อดพูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชาไม่ได้ “ แม่งเอ้ย ปล่อยให้มันหนีไปได้ เจ้าชาติหมานั่นรู้จักเขาจินเฟิง และฝีมือเลี้ยงผีนั่นก็ดูเหมือนกับวิชาของเจ้าตระกูลนั่นอยู่นิดหน่อย บางทีมันอาจเกี่ยวข้องกับเจ้าตระกูลนั่น ”
พี่เฟิงพูดด้วยความโมโห แต่ผมกลับฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
“ ตระกูลนั่น ” ที่พี่เฟิงพูดถึง อาจเป็น “ สกุลเหลียง ” ประมาณ 80%
ส่วน “ เขาจินเฟิง ” นี่ ผมเคยได้ยินเจ้าเป่าชิงหวังพูดออกมาก่อนหน้านี้ หรือคำเต็มๆคือ “ สกุลเหลียงแห่งเขาจินเฟิง ”
แต่พวกเรารู้แค่ สกุลเหลียงอยู่ตรงชายฝั่ง
มันชัดเจมมาก เจ้าหมอผีคนนั้น รู้เรื่องสกุลเหลียงมากกว่าพวกเรา
และเรื่องระหว่างสกุลเหลียงกับพี่เฟิงและเหล่าเฟิง มันก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันแน่ๆ
ผมเดาว่า พี่เฟิงและเหล่าเฟิง อาจเป็นคนสกุลเหลียงประมาณ 90%
เพียงแต่พี่เฟิงดูจะไม่ชอบเป็นพิเศษ เขาไม่ยอมพูดถึง และไม่ยอมให้คนอื่นพูดถึงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ยอมเล่าเรื่องในอดีตของเขากับเหล่าเฟิง ให้เหล่าเฟิงฟังด้วย
บอกแค่ว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวด เหล่าเฟิงไม่มีทางรับไหวอย่างแน่นอน
ผมคิดเรื่องพวกนี้ในใจ แม้จะอยากรู้มากๆ
แต่ผมก็ไม่ได้ถามออกไป เพราะผมรู้ว่าสกุลเหลียงเกี่ยวข้องกับชาติกำเนิดของพี่เฟิงและเหล่าเฟิง
ส่วนพี่เฟิง สำหรับเรื่องชาติกำเนิดของตัวเอง มันคือเรื่องต้องห้าม
ถ้าผมถามออกไปในเวลานี้ มันคงสร้างแต่บรรยากาศน่าเบื่อเปล่าๆ และบางทีอาจโดนพี่เฟิงระเบิดใส่ด้วย
แต่ถึงผมจะไม่ถาม ก็ไม่ได้แปลว่าเหล่าเฟิงจะไม่อยากถาม
เหล่าเฟิงเลิกคิ้ว จ้องพี่เฟิง “ หานเฉ่วเฟิง นายกับฉันเป็นคนสกุลเหลียงใช่ไหม ! ”
พี่เฟิงมีน้ำเสียงเย็นชา แต่พอพี่เฟิงได้ยินคำพูดนี้ เขาก็หันมามองเหล่าเฟิงทันที “ เจ้าขยะ ห้ามพูดถึงสกุล
เหลียงต่อหน้าฉัน แล้วก็ ทางที่ดีที่สุดแกลบความคิดนี้ออกไปจากสมองซะ มันไม่มีอะไรดีกับตัวแกและฉันทั้งนั้น ! ”
“ ทำไม ? นายจะปิดฉันไปถึงเมื่อไหร่ฮะ ? ” เหล่าเฟิงถามต่อ
ผลลัพธ์พี่เฟิงกลับโมโหขึ้นมาทันที เขาหายตัว จากนั้นก็เข้ามาบีบคอเหล่าเฟิง “ เจ้าขยะ ฉันบอกแกไปแล้ว อะไรที่ควรถามก็ถาม อะไรที่ไม่ ก็ไม่ต้องถามอีก ! ”
ขณะพูด พี่เฟิงก็ออกแรง และยังยกตัวเขาขึ้นด้วย
เหล่าเฟิงมีพลังน้อยกว่าพี่เฟิง เขาไม่มีทางสู้ได้เลย
ตอนนี้ท่าทางดูทรมานผิดปกติ หายใจได้อย่างยากลำบาก จนคอของเขาแดงไปหมด
แต่เหล่าเฟิงกลับไม่ยอมทำตาม เขายังยิ้มออกมา “ เก่ง เก่งจริงก็ฆ่าฉันซิ นายเองก็จะได้ตายไปด้วย…… ”
“ เจ้าขยะ อย่ามาขู่ฉันนะ ระวังฉันจะเปลี่ยนใจ ยึดอำนาจครองร่างมาตลอดชีวิต ! ” พี่เฟิงพูดอย่างเย็นชา
ผมเห็นเรื่องเลวร้ายลง เลยรีบเข้าไปพูดทันที “ พี่เฟิง เหล่าเฟิง เป็นพี่น้องกันแท้ๆไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย พี่เฟิง พี่ใจเย็นก่อนนะ ใจเย็นก่อนนะ…… ”
ขณะพูด ผมก็ยื่นมือไปจับที่มือของพี่เฟิง บอกให้เขาหยุดบีบคอเหล่าเฟิง
พี่เฟิงรู้ดี ตอนนี้ร่างกายนี้เป็นของเขาและเหล่าเฟิง ถ้าบีบจนเขาบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆ ตัวเขาเองก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
ตอนนี้พอได้ยินผมพูดแบบนั้น เขาเองก็ค่อยๆใจเย็นลง
ต่อจากนั้นพี่เฟิงก็เค้นเสียงดัง ฮึ แล้วปล่อยมือจากคอเหล่าเฟิง
หลังเป็นอิสระแล้ว เหล่าเฟิงก็เอามือจับคอตัวเอง แล้วไอออกมาสองสามครั้ง หลังจากนั้นเราก็ได้ยินพี่เฟิงพูดว่า “ เฟิงเฉ่วหาน จุดจบนี้ของแกกับฉัน ล้วนเป็นฝีมือของสกุลเหลียง ถึงในตัวแกกับฉันจะมีเลือดสกุลเหลียงไหลเวียนอยู่ แต่พวกเราไม่มีทางเป็นคนสกุลเหลียงแน่นอน ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ฉันแบกไว้ แกไม่มีทางจินตนาการออกได้ จิตใจที่เปราะบางของแก ไม่มีทางรับไหว แล้วก็ ไม่ต้องพูดสกุลเหลียงต่อหน้าฉันอีก
จำเอาไว้ให้ดีละ…… ”