spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 532 ขั้นเต้าจวิน
เจ้าสกุลเหลียงนี่ พวกเราเคยได้ยินมาก่อน
ก่อนหน้านนี้ อาจารย์เองก็เคยสงสัยว่าเหล่าเฟิงมาจากสกุลเหลียง
แต่สำหรับอาจารย์ เขาไม่รู้เรื่องสกุลเหลียงมากนัก
รู้เพียงแค่ว่าสกุลนี้ย้ายมาจากทะเลใต้ ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ชายฝั่งฝูเจี้ยน และยังดูลึกลับสุดๆ
นอกจากนี้สกุลนี้ยังเป็นผู้สืบทอดวิชาเต๋า ฝึกฝนวิชาจากทางทะเลใต้ เคล็ดลับวิชาแตกต่างจากคนในประเทศ
นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ผมก็ไม่รู้อะไรอีก
แต่พอพี่เฟิงได้ยินคำว่า “ สกุลเหลียง ” แล้ว เขาก็เป็นเหมือนกับภูเขาไฟ ที่ระบิดขึ้นมาดื้อๆ
ในขณะที่สายลมอันเยือกเย็นโบกสะบัด เขาก็พุ่งตรงเข้าไปหาหมอผีเป่าชิงหวังคนนั้น
หลังจากที่หมอผีคนนั้นเห็นพี่เฟิงพุ่งเข้ามา เขาก็ตกใจ รีบถอยออกไปทันที
ขณะเดียวกันมือทั้งสองข้างก็ประสานกันอย่างรวดเร็ว และชี้ไปยังพี่เฟิงที่กำลังพุ่งเข้าไป “ ขวางเขาไว้ ! ”
ตอนนี้ จู่ๆผีร้ายทั้ง 12 ตัวก็พุ่งไปหาพี่เฟิง แต่ละตัวต่างคำรามออกมาเสียงดังลั่น
ผีร้ายหลายตัวในนั้น เข้าไปยืนขวางตรงหน้าพี่เฟิง ในเวลาเดียวกันก็ยกกรงเล็บขึ้นสู้กับพี่เฟิง พวกมันคิดจะจัดการพี่เฟิง
ในเวลาเดียวกันนั้น พวกเราก็สัมผัสได้ถึงพลังหยินอันมหาศาลที่ผีร้ายทั้ง 12 ตัวนี้ปล่อยออกมา
หรือจะพูดอีกอย่างว่า เจ้าหมอนี่เพิ่มพลังให้ผีร้าย 12 ตัวนี้อีกแล้ว
แต่พี่เฟิงกลับดูไม่หวั่นเกรงเลยสักนิด เขาพุ่งตรงเข้าไปหาทันที จากนั้นก็เริ่มสู้กับพวกทาสผีที่ขวางเขาอยู่
เหมือนพี่เฟิงที่ห่างหายไปหลายวัน จะเลื่อนระดับขึ้นไปถึงขั้นเต้าจวินแล้วจริงๆ
ถึงเจ้าผีร้ายพวกนี้จะมีพลังเยอะขึ้น แต่เขาก็ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หรือแม้แต่ดูเป็นฝ่ายชนะ สามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้อย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นแบบนั้น ผมก็ได้สติอีกครั้ง จากนั้นก็รีบถือดาบให้ดี แล้วพูดกับเหล่าเฟิงและหยางเฉ่วว่า
“ เร็ว เข้าไปช่วยเร็ว ใช้โอกาสนี้จัดการเจ้าหมอผีนั่น ! ”
“ ได้ ! ” หยางเฉ่วยักคิ้ว และตอบกลับตรงๆ
เหล่าเฟิงเองก็เร็วกว่าใครเพื่อน เขาเริ่มเคลื่อนพลัง แล้วพุ่งเข้าไปช่วยแล้ว
หลังจากจับดาบไม้ให้มั่นแล้ว ผมและหยางเฉ่วก็รีบตามไปทันที ทิ้งไว้เพียงอู่ฮุ่ยฮุ่ยที่กำลังยืนกลัวตัวสั่นอยู่ที่เดิม
ผ่านไปเพียงแค่ชั่วพริบตา พวกเราทุกคนก็เริ่มสู้กับอีกฝ่ายแล้ว
พี่เฟิงเหี้ยมผิดปกติ พาพวกเราสู้กับผีร้ายทั้ง 12 ตัวอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด บดขยี้อีกฝ่ายอย่างไม่ใยดี
เพิ่งต่อสู้ไปไม่ถึง 10 กระบวนท่า พี่เฟิงก็ยกมือขึ้น ซัดผีร้ายตนหนึ่งจนล้มคว่ำ จากนั้นก็ยกเท้าถีบผีร้ายอีกตนหนึ่งจนกระเด็นออกไป
แต่มันยังไม่จบเท่านี้ พี่เฟิงตัวสั่น ปลดปล่อยพลังหยินให้สั่นสะเทือนไปรอบๆ
การโจมตีครั้งนี้ ทำให้ผมมั่นใจทันที ว่าพี่เฟิงพัฒนาขึ้นแล้วจริงๆ
พลังเต้าชือขั้นสุดเมื่อก่อนหน้านี้ของเขา ได้เลื่อนขึ้นไปถึงเต้าจวินขั้นแรกแล้ว
ขั้นเต้าจวินและขั้นเต้าชือ มีเส้นแบ่งที่ยิ่งใหญ่คั่นอยู่
ในระดับอื่นหรือต่ำกว่านั้น 2-3 ขั้น สามารถเอาชนะขั้นที่สูงกว่าได้หนึ่งขั้น
แต่เมื่อขึ้นมาถึงขั้นเต้าจวินแล้ว มันกลับเป็นคนละเรื่องกัน
ไม่พูดมากแล้ว มันก็คือเต้าชือขั้นสุด 7-8 คน ก็เอาชนะเต้าจวินขั้นแรกที่แข็งแกร่งเพียงคนเดียวไม่ได้
เมื่อขึ้นมาถึงขั้นเต้าจวิ้นได้แล้ว ก็แทบจะเรียกได้ว่าเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการของพวกเราแล้ว
นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไม ขั้นเต้าจวินถึงเป็นเส้นแบ่งอันยิ่งใหญ่ ระหว่างมันกับเต้าชือ มีช่องว่างขนาดใหญ่คั่นกลางอยู่
อาจารย์กับท่านนักพรตตู๋ ก็หยุดอยู่ในระดับนี้มาหลายสิบปีแล้ว และก็ไม่พัฒนาขึ้นเลยสักนิด
ตอนนี้พี่เฟิง กำลังแสดงพลังอันน่าเกรงขาม และความน่ากลัวของขั้นเต้าจวินของเขาออกมา……
หลังซัดผีร้ายสองตัวเสร็จแล้ว พี่เฟิงก็ลงมืออีกครั้ง และคราวนี้พี่เฟิงก็เคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงแค่พริบตาเดียวเขาก็ทำผีร้ายสามตัวบาดเจ็บสาหัสแล้ว
เจ้าผีร้ายสามตัวนั้นยังไม่ทันได้ร้องออกมา ก็โดนอัดจนวิญญาณแตกสลายแล้ว
พอเป่าชิงหวังที่ถอยออกไปเห็นแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตกใจ และสูดหายใจเข้าลึกๆ
คิดว่าครั้งนี้เล่นใหญ่เกินไป ดันไปหาเรื่องคนใหญ่คนโตเข้าแล้ว
เขารู้ดี หากเป็นแบบนี้ต่อไป ผีร้าย 12 ตัวตรงหน้าต้องหยุดพี่เฟิงเอาไว้ไม่ได้แน่ๆ
ในฐานะที่เขาเป็นหมอผี ความร้ายกาจของเขาคือการสร้างทาสผี พลังของตัวเองไม่ได้มีสูงมากนัก
หากทาสผีทั้งหลายสู้ไม่ได้แล้ว เขาก็สู้ไม่ไหวอย่างแน่นอน
เขาลูบคอตัวเองอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็แอบพูดว่า แม่งเอ้ย
ต่อจากนั้น เขาก็พูดกับพวกเราที่กำลังสู้อยู่ว่า “ ในเมื่อเป็นคุณชายแห่งสกุลเหลียง งั้นข้า ไม่ ก่อนหน้านี้ที่ข้าน้อยทำให้ขุ่นเคือง ก็ต้องขอโทษด้วย ข้าน้อยต้องขอตัวก่อนแล้ว ! ”
หลังจากพูดจบ หมอผีที่ชื่อเป่าชิงหวัง ก็ยังโบกมือมาทางพวกเรา เขากำลังคิดจะหนี
แต่ทันใดนั้นเองโจวจิ้งที่อยู่ข้างๆ กลับทำหน้าร้อนรน “ นักพรตเป่าชิง คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ยัยสถุลนั่นยังไม่ตายนะ คุณไม่ได้บอกว่า คุณไม่เคยทำงานพลาดมาก่อนไม่ใช่เหรอ ? ”
หลังจากพูดจบ โจวจิ้งคนนั้นยังเอื้อมมือไปคว้าเสื้อของเป่าชิงหวังเอาไว้ด้วย
เดิมทีเป่าชิงหวังก็กลัวอยู่แล้ว พอเห็นเสื้อตัวเองโดนจับเอาไว้ หน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นก็หันมาพูดกับโจวจิ้งว่า “ ใช่ ข้าไม่เคยทำงานพลาดมาก่อน แต่หลังจากพลาดแล้ว ข้าก็ฆ่านายจ้างทุกครั้ง ! ”
น้ำเสียงเป่าชิงหวังเย็นชาเข้ากระดูกดำ ใบหน้าดุร้าย เขาปลดปล่อยจิตสังหารออกมาทันที
พอโจวจิ้งได้ยินแบบนั้น ก็อดตกใจไม่ได้ “ นัก นักพรตเป่าชิง…… ”
โจวจิ้งเริ่มกลัว เธอถอยไปข้างหลังโดยสัญชาตญาณ
ผลลัพธ์พอถอยไปหนึ่งก้าว เจ้าเป่าชิงหวังกลับพุ่งเข้าไป ไม่รอให้อีกฝ่ายได้เคลื่อนไหว เขาก็คำรามออกมา “ โฮก ”
หลังเล็งมาที่คอโจวจิ้งแล้ว เขาก็กัดลงไปทันที
ต่อจากนั้น เราก็ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องที่โหยหวน
“ อร๊าย ! ”
เสียงนั่นฟังดูหวาดกลัวสุดๆ มันดังก้องไปทั่วผืนป่า
ส่วนพวกเรา ตอนนี้ก็เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น
หลังโจวจิ้งที่โดนเป่าชิงหวังกัดคอและกรีดร้องออกมาแล้ว เธอก็ดิ้นทุรนทุรายไปมา อยากหลุดพ้นจากการทรมานนั้น
แต่มือของเป่าชิงหวังกลับจับเธอไว้แน่น ขณะเดียวกัน “ ซูบๆๆ ” ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาดูดเลือดราวกับดื่มน้ำ
โจวจิ้งไม่มีโอกาสรอดได้แล้ว เพียงแค่ไม่กี่วินาที ตัวโจวจิ้งก็ไร้เรี่ยวแรง และรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที
และในช่วงเวลานั้น ร่างกายของโจวจิ้ง ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น
ผมที่เคยดำยาว ได้กลายเป็นสีเทา และสุดท้ายก็กลายเป็นสีขาวดุจหิมะ
ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและไขมัน เริ่มมีริ้วรอยขึ้นอย่างรวดเร็ว
โจวจิ้งพยายามดิ้นรนได้ไม่ถึง 10 วินาที เธอก็ไม่เคลื่อนไหวใดๆอีก
เป่าชิงหวังเองก็ปล่อยมือออกในเวลานี้ “ ตุบ ” ทันใดนั้นตัวโจวจิ้งก็ล้มลงกับพื้น
เป่าชิงหวังเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของตัวเอง เหลือบมองโจวจิ้งที่นอนอยู่บนพื้น “ แบบนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าข้าทำงานพลาดแล้ว นี่เป็นการฆ่าคนครั้งแรกของข้าเลยนะ ! ”
หลังจากพูดจบ เป่าชิงหวังก็ไม่สนใจโจวจิ้งที่นอนกองอยู่บนพื้นอีก เขาหันมามองทางพวกเรา
แต่ในวินาที่ที่เป่าชิงหวังหันมามอง พวกเรากลับอดไม่ได้ที่จะตกใจ
เพราะพวกเราพบว่า เป่าชิงหวังที่มีสภาพเป็นตาแก่หน้าเหลืองเมื่อกี้ กลับกลายเป็นหนุ่มรูปงามขึ้นมาในชั่วพริบตา
ผิวพรรณอวบอิ่ม ไร้ซึ่งริ้วรอย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสภาพตาแก่หน้าเหี่ยวนั่นเลย
ขณะเป่าชิงหวังมองพวกเรา มุมปากเขาก็ยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์
เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ต่อจากนั้นเขาก็หมุนตัวแล้วเริ่มวิ่งเข้าไปในส่วนลึกของป่าทันที
พอเห็นเป่าชิงหวังเริ่มวิ่งหนี พวกเราก็เริ่มทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันที
พี่เฟิงเป็นผู้นำของพวกเรา แม้เราจะบดขยี้ผีร้ายทั้ง 12 ตนของเป่าชิงหวังได้อย่างง่ายดาย และการสังหารพวกมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
แต่เจ้าผีร้ายทั้ง 12 ตนนี้ กลับเอาแต่มาติดหนึบอยู่กับพวกเรา ทำให้พวกเราไม่สามารถไล่ตามเจ้าหมอผีคนนั้นไปได้……