spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

ตอนที่ 531 วิญญาณร้าย

ฉากตรงหน้าทำให้เราช็อกกันทันที โดยเฉพาะเมื่อเห็นหมอกดำพวกนั้น กลายเป็นวิญญาณหน้าดุดันตัวแล้วตัวเล่า พวกเราก็อดอึ้งกันไปพักหนึ่งไม่ได้

นี่มันเรื่องอะไรกัน ผีร้ายพวกนี้ออกมาได้ยังไง

มันให้ความรู้สึกเหมือนพวกมันออกมาจากอากาศ และยังไม่มีอะไรเตือนล่วงหน้าเลยสักนิด

เจ้าพวกผีร้ายพวกนี้เพิ่งปรากฎตัว พวกมันก็เงยหน้า เผยสีหน้าอันดุร้าย จากนั้นก็ไม่ลังเลเลยสักนิด คำรามใส่พวกเราทันที หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าหาพวกเราสามคน อย่างกับหมาป่าที่หิวโซ

พวกมันมีทั้งหมด 12 ตัว มีทั้งคนแก่ เด็กเล็ก ผู้ชายและผู้หญิง แต่ละตัวต่างปลดปล่อยพลังหยินอันมหาศาลออกมา ท่าทางดูแข็งแกร่งมาก

เมื่อกวาดตามอง ผมกลับพบว่าระดับพลังที่ต่ำที่สุดคือเต้าฉือขั้นสุด หรือก็คือพลังเทียบเท่ากับเหล่าเฟิงและ

หยางเฉ่ว

พวกเยอะขนาดนี้ยังสู้ได้กับผีนะซิ ตัวสองตัวยังพอว่า สามสี่ตัวนี่ก็สู้จนจะไม่ไหวแล้ว ห้าหกตัวได้ถึงขีดจำกัดของตัวเองพอดี

แต่จู่ๆก็มีผีร้ายปรากฎตัวขึ้น 12 ตัว แบบนี้มันจะมีโอกาสชนะอะไรได้อีกละ

ถึงผมจะเอากระดิ่งทองแดงออกมา และใช้วิชาเฟินเทียนกงแล้วก็ตาม แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้

สองมือหรือจะสู้กับสี่แขน อีกฝ่ายมีคนเยอะเกินไป

และสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไรละ ผีร้ายพวกนี้ ไม่ได้มีพลังน้อยนิด ต่างอยู่ในระดับเต้าฉือขั้นสุดแล้ว

หรือแม้แต่ครึ่งหนึ่งของพวกนั้นต่างขึ้นไปถึงเต้าชือขั้นกลางแล้ว และยังมีสองตัวที่ไปถึงเต้าชือขั้นสุดแล้ว

ต้องรู้ว่าผีชุดเหลืองที่ปรากฎตัวก่อนหน้านี้ มีระดับพลังเกือบถึงเต้าชือขั้นสุด แต่ไม่ได้เลื่อนไปถึงขั้นนั้นจริงๆ

เพียงแค่เจ้าตัวนั้นตัวเดียว ก็ทำให้ผมต้องใช้กระดิ่งทองแดงแล้ว

แต่ตอนนี้ กลับมีผีร้ายที่แกร่งยิ่งกว่านั้นออกมาถึงสองตัว แถมยังมีผีร้ายที่แกร่งไม่แพ้กันอีก 10 ตัวด้วย

ตอนนี้หากใช้เพียงกำลังของพวกเราสามคน มันไม่มีทางเอาชนะได้อย่างแน่นอน

จำนวนคนแตกต่าง ระดับพลังไม่เท่าเทียม ตอนนี้ถึงจะสู้สุดชีวิต ก็ไม่แปลว่าจะทำสำเร็จได้

ขณะมองผีร้ายที่กำลังพุ่งเข้ามา ผมก็พูดด้วยสีหน้าหนักใจ “ ไม่ดีแล้ว ! รีบถอยเร็ว ! ”

หลังจากพูดจบ ผมก็ถอยไปด้านหลังก่อนใครเพื่อน

แต่ผีร้ายตัวหนึ่งเคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงตรงหน้าของผมแล้ว

ผมได้ยินเพียงเสียงคำรามของอีกฝ่าย “ โฮก ” ต่อจากนั้นกรงเล็บของเจ้าผีร้ายตัวนั้นก็ตวัดลงมาทันที

เจ้าผีร้ายตัวนั้นอยู่ในระดับเต้าชือขั้นสุดแล้ว แม้วิชาเฟินเทียนกงของผมจะรับมือกับอีกฝ่ายได้ แต่ผมก็ไม่กล้าประมาท

ผมยกมือขึ้นกันทันที

“ คูด ” กรงเล็บของเจ้าผีร้ายตัวนั้น ทิ้งรอยเล็บเอาไว้ที่ดาบไม้ของผมสามรอย

ส่วนตัวผม ก็โดนแรงกระแทกจากกรงเล็บพวกนั้น ทำให้ง่ามมือชาเล็กน้อย

ผมไม่กล้าหยุดอยู่กับที่ ต่อจากนั้นก็รีบถอยไปรวมตัวกับพวกเหล่าเฟิงทันที

พวกเราสามคนต้องรวมตัวเป็นวงกลมเท่านั้น ถึงจะรับมือกับอีกฝ่ายได้ดีที่สุด

ถ้าพวกเราต่างคนต่างสู้ ในไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวพวกเราก็ต้องแพ้แน่ๆ

เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วเองก็เข้าใจจุดนี้ดี พวกเขาเองก็มารวมตัวกับผมตั้งแต่วินาทีแรก

ผ่านไปไม่นาน พวกเราสามคนก็มารวมตัวอยู่ด้วยกัน

ส่วนอู่ฮุ่ยฮุ่ย โดนพวกเราคุ้มกันเอาไว้ตรงกลาง ในเวลานี้ทางหยางเฉ่ว ก็ยื่นดาบเหรียญให้กับอู่ฮุ่ยฮุ่ย

สถานการณ์ในตอนนี้ ไม่ว่าเธอจะใช้เป็นหรือเปล่า แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรอยู่ในมือเลย

ในระหว่างนั้น พวกเราสี่คนก็โดนผีร้ายทั้ง 12 ตัวล้อมไว้ตรงกลาง

ส่วนผีร้ายทั้ง 12 ตัวนั้นก็ไม่ได้รีบโจมตีพวกเรา พวกนั้นเลือกที่จะล้อมเราเอาไว้ แล้วปลดปล่อยเสียงคำรามออกมา เสียงพวกนั้นเป็นเสียงที่ฉีกขาด ทำให้คนที่ได้ยินใจสั่นทันที

พวกเราสองสามคนยังพอว่า เพราะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาไม่น้อยแล้ว

แต่คนธรรมดาอย่างอู่ฮุ่ยฮุ่ย กลับรับไม่ไหว

ถึงจิตใจของเธอจะมั่นคง ตอนนี้เมื่อตกอยู่ภายใต้วงล้อมและเสียงกรีดร้องของพวกวิญญาณร้ายแล้ว 

เธอก็ตกใจจนตัวสั่น ท่าทางหวาดกลัวสุดๆ

แต่โจวจิ้งผู้จ้างมือสังหารที่ยืนอยู่นอกวง กลับหัวเราะ “ ฮ่าๆๆ ” อย่างคนได้ใจ “ อู่ฮุ่ยฮุ่ย อย่าคิดว่าเชิญนักพรตไม่ได้เรื่องมาสามคนแล้วจะสู้กับท่านนักพรตเป่าชิงที่ฉันเชิญมาได้นะ ! บอกตรงๆ ท่านนักพรต

เป่าชิงมีพลังไม่จำกัด วันนี้ฉันจะไม่ฆ่าแค่เธอเท่านั้น แต่นักพรตสามคนที่เธอเชิญมา ก็ต้องตายเป็นเพื่อนเธอด้วย เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเธอ เป็นเพราะเธอรู้ไหมฮะ ยัยคนสถุล ! ”

ส่วนเป่าชิงหวังที่ยืนยิ้มตาหยีอยู่ข้างๆโจวจิ้ง ก็ดูเหมือนจะชอบคำพูดของโจวจิ้งสุดๆ เขายกมือให้ผี 12 ตัวนั้น “ นักพรตทั้งสาม ต่อจากนี้ ข้าจะให้พวกเจ้าได้เรียนรู้ว่าวิญญาณร้ายทั้ง 12 ตัวที่ผ่านมาฝึกแล้วมันเป็นยังไง ! ”

หลังจากพูดจบ หมอผีคนนั้นก็โบกมืออย่างใจเย็น ทันใดนั้น ผีร้ายทั้ง 12 ตัวก็เดินเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง 

เสียงคำรามดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปิดล้อมพวกเราสามคนจากทั้ง 12 ทิศ

เมื่อเห็นฉากนี้ ม่านตาของพวกเราทุกคนก็ขยายใหญ่ในทันที

แม่เจ้า เวลาน้อยขนาดนี้ ผมเรียกมู่หลงเหยียนออกมาไม่ทันแน่

ขณะนั้นเสียงคำราม “ โฮกๆๆ ” ก็ดังก้องขึ้นเรื่อยๆ ผีร้ายทั้ง 12 ตัวกระโดดเข้ามาเรื่อยๆ กรงเล็บหันมาทางพวกเราสามคน

แต่ในวินาทีนั้นเอง จู่ๆเหล่าเฟิงก็ตัวสั่น พร้อมด้วยคลื่นพลังหยินที่ระเบิดออกมา

มันแพร่ออกไปรอบๆ โดยยึดเหล่าเฟิงเป็นศูนย์กลาง

ในเวลาเดียวกัน จู่ๆร่างของใครคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากข้างหลังเหล่าเฟิง ขณะเดียวกันสายลมอันเยือกเย็นก็ปรากฎขึ้น ใครคนนั้นลงมือทันทีที่ออกมา

เราได้ยินเพียงเสียงดัง “ ปัง ” พลังหยินอันมหาศาล พุ่งไปหาพวกผีร้ายทันที

ผีร้ายพวกนั้นยังไม่ทันรู้ตัว ก็โดนโจมตีเข้าแล้ว

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผีร้ายหลายตัว โดนซัดกระเด็นออกไปทันที ในขณะเดียวเสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

แต่มันยังไม่จบเท่านี้ ใครคนนั้นเพิ่งซัดผีร้ายจำนวนหนึ่งออกไป เขาก็ซัดฝ่ามือออกมาอีกครั้ง

มันเป็นเหมือนกับลมกระโชกแรง พวกผีร้ายหลายตัวที่กำลังเข้ามาโจมตีพวกเรา โดนซัดให้ถอยออกไปเช่นกัน……

เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ในใจของพวกเราทุกคนก็มีเสียงดัง “ กึก ” หลังจากนั้นสีหน้าประหลาดใจและดีใจก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของพวกเราทันที

ใครคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือพี่ชายฝาแฝดของเหล่าเฟิง หานเฉ่วเฟิง

ปกติพี่เฟิงจะนอนหลับลึกอยู่ในตัวเหล่าเฟิง เมื่อตกอยู่ในอันตรายหรือตอนที่พี่เฟิงอยากออกมาช่วย 

เขาถึงจะออกมาปรากฎตัว

มันชัดเจนมาก เมื่อกี้เหล่าเฟิงเรียกพี่เฟิงออกมา

เมื่อพี่เฟิงปรากฎตัวขึ้น เขาก็แสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมาทันที

ระดับพลังของพี่เฟิงต้องแซงหน้าท่านนักพรตตู๋ไปแล้วแน่ๆ หรือสามารถพูดได้ว่าระดับพลังของเขาใกล้เข้าขั้นเต้าจวินแล้ว หรือไม่ก็ขึ้นขั้นเต้าจวินไปแล้ว

ขั้นเต้าจวิน มีเส้นแบ่งที่ยิ่งใหญ่อยู่ หากขึ้นไปถึงขั้นเต้าจวินแล้ว ระดับพลังของใครคนนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

และการปรากฎตัวในครั้งนี้ ก็ดูเหมือนพลังของพี่เฟิงจะเพิ่มขึ้นไม่น้อย

ดังนั้นสามารถพูดได้ว่า ตอนนี้พี่เฟิงสามารถสู้กับผีร้าย 12 ตัวตรงหน้าพวกนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว

ไม่รอให้พวกเราพูดออกมา พี่เฟิงก็หายตัว แล้วออกมายืนขวางอยู่ตรงหน้าพวกเรา “ เจ้ากากพวกนี้จะทำร้ายพวกนายเหรอ ? ”

พี่เฟิงยังใช้น้ำเสียงไม่แยแส เหมือนพวกอันธพาลข้างถนนไม่มีผิด

นิสัยของเหล่าเฟิงก็ยังเหมือนเดิม เขาตอบกลับอย่างใจเย็น “ ผู้นำคือเจ้าหมอผีนั่น ขอแค่กำจัดมันได้ 

ทาสผีพวกนี้ก็จะแตกกระเจิงแล้ว ! ”

“ พี่เฟิง เจ้าหมอผีคนนั้นยังไม่ได้เข้ามาสู้ บางทีมันอาจเก่งกว่าที่เราคิด ” ผมตะโกน ให้พี่เฟิงระวังตัวไว้ก่อน

แต่พี่เฟิงกลับไม่สนใจ ในเวลายังคงจ้องเจ้าหมอผีคนนั้นอย่างหยิ่งผยอง “ ไอ้แก่ ขยะพวกนี้เป็นของแกเหรอฮะ ? ”

พอเป่าชิงหวังเห็นพี่เฟิง เขาก็หุบยิ้ม และเผยสีหน้าหนักใจออกมาทันที

ต่อจากนั้น เราก็เห็นเขาทำมือคารวะพี่เฟิง จากนั้นก็พูดจาอย่างระมัดระวัง “ หากข้าจำไม่ผิด ท่านทั้งสองคือสองวิญญาณหนึ่งร่าง ! แต่ไม่ทราบว่าพวกท่านมีความเกี่ยวข้องอะไรกับสกุลเหลียงแห่งเขาจินเฟิง 

หรือท่านจะเป็นนายน้อยแห่งสกุลเหลียง ? ”

เดิมทีพี่เฟิงยังทำท่าทางไม่แยแส แต่ตอนเจ้าหมอผีนั่นพูดถึง “ สกุลเหลียง ” สองคำนี้ขึ้นมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที เขาดูโมโหขึ้นมาในทันที “ แค่สกุลเหลียงสองคำนี้ ฉันก็จะฆ่าแกเดี๋ยวนี้แหละ ! ”

เสียงนี้เพิ่งเงียบลง พี่เฟิงก็พุ่งไปหาเป่าชิงหวังอย่างบ้าคลั่ง เขาดูจะไม่กลัวผีร้ายทั้ง 12 ตนนั่นเลยสักนิด……