spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 526 จุดเริ่มต้นของความน่าเกรงขาม
ครั้งนี้ผมลงมือเร็ว จนอีกฝ่ายไม่มีโอกาสตอบโต้ได้ทัน ในช่วงเวลานั้นดาบไม้ในมือผมก็ได้ฟันเข้าไปที่คอของวิญญาณร้ายตนหนึ่งแล้ว
วิญญาณร้ายตนนั้นไม่มีโอกาสได้หลบ ใบหน้ายังคงแสดงถึงความหวาดกลัว หรือแม้แต่ยังไม่ทันได้ร้องออกมา เจ้าหมอนั่นก็โดนผมฟันคอขาดแล้ว
ทันใดนั้นตัวเขาก็มีเสียงระเบิดดัง “ ตูม ” และกลายเป็นแสงเล็กๆ หรือวิญญาณแตกสลายไปในทันที
หลังจากการโจมตีนี้แล้ว ผมก็ไม่หยุดอยู่แค่นั้น ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หากอีกฝ่ายไม่ตายก็ต้องเป็นผมที่ตายเอง
หากใจอ่อนแม้แต่น้อย คนที่ตายเป็นรายถัดไป ก็อาจเป็นผม หรือไม่ก็พวกเราทั้งสี่คน
หลังผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาหลายครั้ง การเสี่ยงอันตรายเยอะขนาดนั้น ผมก็เข้าใจเหตุผลข้อนี้ดี
หลังจากสังหารวิญญาณร้ายตนนี้เสร็จแล้ว ผมก็จับดาบให้มั่น พลิกมือ จากนั้นก็หันไปโจมตีวิญญาณร้ายอีกตนทันที
เจ้าวิญญาณร้ายตนนั้นตัวสั่น สัมผัสได้เพียงร่างกายทรมานสุดๆ มันก้มหน้ามองดาบที่เข้ามาหาร่างตัวเองตามสัญชาตญาณ
ผลลัพธ์พอมันก้มลงมอง มันก็พบว่าร่างกายของตัวเองกำลังแตกสลาย กลายเป็นแสงเล็กๆจนเลือนหายไปจากการมองเห็น มันคงอยู่ในสภาพวิญญาณแตกสลาย
ตั้งแต่ผมเปิดใช้วิชาเฟินเทียนกง จนกระทั่งกำจัดวิญญาณร้ายสองตัวนี้ เวลาที่ผ่านไปสั่นมาก มันเป็นแค่ช่วงเวลาสองวินาทีเท่านั้น
ในระหว่างนี้ ผมรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย
หนึ่ง เพราะผมสามารถแก้ไขวิกฤตตรงหน้าได้
เมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็จะสามารถออกไปช่วยเหล่าเฟิงและหยางเฉ่วได้ ช่วยลดแรงกดดันให้กับพวกเขา
และชิงโอกาสชนะกลับมาได้ในที่สุด
สอง เพราะวิชาเฟินเทียนกงนี้ทรงพลังมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้วิชาเฟินเทียนกงกับศัตรู แม้จะรู้กว่าเฟินเทียนกงค่อนข้างรุนแรง แต่ก็ไม่คิดว่าหลังจากใช้แล้ว วิญญาณร้ายสองตนกลับไม่อาจสู้ได้เลยสักนิด หรือแม้แต่โดนสกัดการเคลื่อนไหวเอาไว้
เพียงกระบวนท่าเดียวก็จัดการได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อน
แต่ก็เพราะสาเหตุนี้ ผมถึงรับรู้ได้ถึงความดุร้ายและความทรงพลังของวิชาเฟินเทียนกง
แต่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการต่อสู้ ผมเลยไม่มีเวลาคิดมากนัก
และวิชาเฟินเทียนกงของผมก็อยู่ได้แค่ 10 นาที ผมต้องใช้เวลา 10 นาทีนี้ให้คุ้มค่า
กินเวลาน้อยเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีต่อผมมากเท่านั้น หาก 10 นาทีนี้หมดแล้ว ยังจัดการวิญญาณร้ายไม่กี่ตัวนี้ไม่เสร็จ สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนเป็นแย่ลงกว่าเดิม
เมื่อเวลานั้นมาถึงผมจะไม่ได้แค่ไม่สามารถช่วยทุกคนได้ แต่ยังเป็นเพราะผลาญพลังวิญญาณจนหมดแล้ว ต้องตกกลายเป็นตัวถ่วงของพวกเขาแทน
ก่อนที่เกิดสถานการณ์แบบนั้นขึ้น ผมต้องช่วยหยางเฉ่วกำจัดวิญญาณร้ายสองตนนั่นก่อน
ในเวลาเดียวกัน ผมก็ใช้วิชาเฟินเทียนกง กระตุ้นและปลดปล่อยพลังเฟิงเทียนออกมา มันเป็นพลังที่ไม่ต้านทานได้ พวกมันเข้าไปสยบวิญญาณร้ายสองตนนั้นทันที
ส่วนวิญญาณร้ายสองตนนั้น ก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้เพราะพลังเฟิงเทียน
ในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกจากแรงกดดันมหาศาล ก็เริ่มแพร่ไปตามร่างกายของพวกเขา
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว ราวกับโดนสัตว์ร้ายจ้องจะกลืนกิน และยังดูเหมือนกับภูเขาถล่ม และแม่น้ำไหลย้อนกลับ
สำหรับวิญญาณร้ายที่มีเพียงสัญชาตญาณสัตว์สองตนนี้ มันเป็นการโจมตีที่น่าสยดสยองสุดๆ
ในระหว่างนั้น วิญญาณร้ายทั้งสองตัวก็เป็นเหมือนวิญญาณสองตัวก่อนหน้านี้ ต่างสติหลุด
ราวกับในช่วงเวลานั้น พวกมันได้เสียความสามารถในการต่อสู้ไป
ผมไม่เกรงใจ เข้าไปสังหารอีกฝ่ายทันที
แม้หยางเฉ่วจะตกใจกับพลังแปลกๆที่ผมปล่อยออกมา แต่ในเวลานี้ก็ไม่ลังเลเช่นกัน เธอเองก็ยกดาบไม้ขึ้น และเข้าไปโจมตีวิญญาณร้ายอีกตนหนึ่ง
เราสองคนร่วมมือกัน บวกกับพลังเฟิงเทียนอันน่าเกรงขาม
ทำให้วิญญาณร้ายสองตัวนั้นแทบไม่มีแรงต้าน พวกมันโดนฆ่า และวิญญาณแตกสลายในทันที
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วมาก เพียงแค่ 10 กว่าวินาทีเท่านั้น วิญญาณร้ายหกตน ก็ตายไปแล้วสี่ตน
แต่มันยังไม่จบเท่านั้น ต่อจากนั้นผมและหยางเฉ่วก็หันไปอีกทาง เล็งไปที่วิญญาณร้ายสองตัวสุดท้าย
และเตรียมจะเข้าไปสังหาร
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆเสียงของใครคนหนึ่งก็ดังมาจากรอบตัว “ มีฝีมืออยู่บ้างจริงๆ ถึงว่าทำไมเอาชนะทาสผีของข้าได้ ! ”
เสียงนี้ยังคงดังมาจากรอบๆ ไม่อาจบอกได้ว่ามาจากทิศทางไหน
และเสียงนี้เพิ่งปรากฎขึ้น วิญญาณร้ายอีกสองตัวก็ไม่ลังเลเลยสักนิด พวกมันถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
ทิ้งระยะห่างจากพวกเราทันที
เมื่อเห็นถึงตรงนี้ พวกเราก็ไม่กล้าไล่ตามไป
ตัวการยังไม่ออกมา การไล่ตามลูกสมุนพวกนี้ไป ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น
ผีร้ายสองตัวนี้ ไม่ใช่ภัยคุกคามของพวกเราสามคนแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงกับพวกมันแล้ว
ด้วยเหตุนี้ พวกเราสามคนจึงหยุดอยู่กับที่
ส่วนผม ก็หยุดใช้วิชาเฟินเทียนกงทันที
การผลาญพลังวิญญาณของวิชาเฟินเทียนกงไม่ได้เร็วธรรมดา และการทำให้พลังวิญญาณกลับมาเต็มอีกครั้ง ก็ต้องใช้ระยะเวลายาวนานพอสมควร
หากใช้หมดแล้ว ก็จำเป็นต้องพัก ถึงจะทำให้มันกลับมาเต็มได้อีกครั้ง
ตอนนี้ พวกเรายืนอยู่ด้วยกัน มองวิญญาณสองตนที่ถอยออกไป
ส่วนอู่ฮุ่ยฮุ่ย เธอตัวสั่น แต่ก็ยังรักษาท่าที “ สงบ ” เอาไว้ได้
ในเวลานี้ จู่ๆหยางเฉ่วก็หันมามองผม แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ “ ติงฝาน ซ่อนได้เก่งนิ ! วิชาอะไรฮะ ? ถึงได้มีพลังรุนแรงขนาดนี้ ”
พอเหล่าเฟิงได้ยินหยางเฉ่วพูดแบบนั้น ก็หันมามอง เขาเองก็อยากรู้เช่นกัน
เนื่องจากพลังรุนแรงและดุร้ายถึงขนาดนั้น แม้แต่ตัวพวกเขา ก็ยังรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
พอได้ยินคำพูดนี้ ผมกลับฉีกยิ้ม “ วิชาที่ตกทอดกันมา เพิ่งฝึกสำเร็จไม่นานนี้ เรียกว่าวิชาเฟินเทียนกง ”
“ ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่วิชาของนายทรงพลังมากจริงๆ กลิ่นอายรุนแรงมาก ” หยางเฉ่วพูดต่อ
“ เหล่าติง วิชานี้ร้ายกาจถึงขนาดนี้ ทำไมไม่เห็นลุงติงใช้มาก่อนเลยละ ? ” จู่ๆเหล่าเฟิงก็พูดขึ้นมา
ผมยิ้มอย่างขมขื่น อาจารย์ใช้ได้ที่ไหนละ ! แม้แต่จุดลมปราณที่สองเขายังขึ้นไปไม่ถึงเลย แถมฝึกจนไอเป็นเลือดอีกต่างหาก
แต่ผมก็พูดออกมาว่า “ อาจารย์แก่แล้วฝึกไม่ไหว ! ”
“ ถึงว่า ! ” เหล่าเฟิงพูดขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ในขณะที่พวกเรากำลังคุยกัน เสียงที่คลุมเครือนั้นก็ได้ปรากฎขึ้นอีกครั้ง “ ฮึ ! ฆ่าทาสผีของฉันแล้ว
ยังมีอารมณ์คุยกันอีกเหรอฮะ ? แบบนี้มันไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาใช่ไหมฮะ ? ”
พอได้ยินมาถึงตรงนี้ พวกเราก็ตอบสนองในทันที
ผมกวาดสายตามองรอบๆ จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ พูดให้มันน้อยๆหน่อย เก่งจริงก็ออกมาซิวะ อย่าเอาแต่ซ่อน ! ”
“ ไม่ต้องรีบ เอาชนะทาสผีของข้าให้ได้ก่อน จากนั้นข้าก็ต้องออกมาเอาชีวิตหมาๆของพวกเจ้าอยู่แล้ว รวมถึงเหยื่อของข้าด้วย…… ”
หลังจากพูดจบ เจ้าหมอนั่นก็หัวเราะ “ ฮึๆๆ ” ออกมา น้ำเสียงอุบาทว์สุดๆ
อู่ฮุ่ยฮุ่ยตัวสั้น เธออดเข้าไปใกล้หยางเฉ่วไม่ได้
ไม่ใช่แค่นั้น ในขณะที่เสียงหัวเราะนี้ดังขึ้น รอบๆก็มีสายลมอันเยือกเย็นปรากฎขึ้นอีกครั้ง พลังหยินเริ่มกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน จู่ๆแท่นทำพิธีตรงด้านหน้าทางซ้ายมือของพวกเรา ก็มีพายุสีดำปรากฎขึ้น ขณะเดียวกันมันก็ปลดปล่อยแรงอาฆาตออกมา
พวกเรารับรู้ได้ถึงความผิดปกติตั้งแต่วินาทีแรก จึงหันไปมองทันที
เราเห็นแค่สายลมสีดำพวกนั้นลอยเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ในขณะที่เสียงหัวเราะ “ ฮึๆๆ ” ดังขึ้น มันก็ค่อยๆรวมตัวกลายเป็นรูปร่างของใครคนหนึ่ง
“ นี่คือวิญญาณร้าย ! ” เหล่าเฟิงรีบพูด ขณะเดียวกันก็เริ่มหวาดระแวงขึ้นมาในทันที
“ ดูเหมือนเจ้าหมอผีนี่จะเป็นคนที่ชำนาญเรื่องทาสผี เลี้ยงผีเก่ง ! ” หยางเฉ่วพูด
ผมไม่ได้พูดอะไร เพียงขมวดคิ้ว และจ้องคนในหมอกดำนั้นอย่างเย็นชา
หมอกดำนั่นรวมตัวเร็วมาก ในเวลาสั้นๆ หมอกดำพวกนั้นก็รวมตัวเสร็จแล้ว ผีร้ายเพศชายชุดเหลืองตนหนึ่ง ได้ออกมาปรากฎตัวต่อหน้าทุกคน
แต่หลังจากพวกเราเห็นผีร้ายตนนั้นแล้ว ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
เพราะพวกเราพบว่า ผีร้ายชุดเหลืองตนนั้น ก็คือผีผู้ชายที่วิญญาณแตกสลายไปก่อนหน้านี้ ที่ห้องอู่ฮุ่ยฮุ่ย……