spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 525 วิญญาณร้ายหกตน
ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ มันดูจะไม่เอื้อมาทางเราเลยสักนิด
อย่างน้อยสุดอีกฝ่ายก็มีคนถึงเจ็ดคน แต่พวกเรามีแค่สามคน และยังต้องคอยปกป้องอู่ฮุ่ยฮุ่ยที่ไม่มีพลังอีกคนหนึ่ง
สำหรับพวกเรา เรื่องนี้สร้างความเครียดให้ไม่น้อย
แน่นอน พวกเรายังมีไพ่อยู่ในมือ
แต่ผมกำลังพยายามทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง ไม่มีทางมากลัวตายกับเรื่องพันนี้แน่นอน
หากไม่จำเป็นจริงๆ ผมก็ไม่มีทางเรียกผีที่ทรงพลังเว่อร์อย่างมู่หลงเหยียนออกมาแน่ๆ
หากมู่หลงเหยียนออกมาปรากฎตัว อย่าว่าแต่วิญญาณร้ายชุดขาวพวกนี้เลย ถึงเจ้าพวกนี้จะเปลี่ยนเป็นชุดแดง ก็ยังไม่คณามือผีเมียของผมเลย
แต่ว่า มู่หลงเหยียนเป็นไพ่ใบสุดท้าย ก่อนหน้านั้น ผมยังต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเองก่อน
มีเพียงตัวเองได้เผชิญกับความเป็นความตายอย่างต่อเนื่อง สู้ด้วยตัวเอง ถึงจะแข็งแกร่งขึ้นเร็วกว่าปกติ
ถึงจะได้พลังที่ตัวเองต้องการ ถึงจะปกป้องคนที่ตัวเองรักได้ ถึงจะมีความสามารถช่วยมู่หลงเหยียนแก้แค้นได้ และกำจัดองค์กรตาผีที่ใหญ่โตและทรงอำนาจนั่นให้สิ้นซากได้
เพราะเหตุผลเหล่านี้ ผมเลยไม่มีความคิดที่จะเรียกคนอื่นมาช่วย เพียงคิดจะใช้กำลังของตัวเอง กำจัดวิญญาณร้ายพวกนี้ให้ราบคาบ แล้วสุดท้ายก็ลากเจ้าหมอผีชั่วคนนั้นออกมา
ส่วนเหล่าเฟิงก็ไม่ได้เรียกพี่เฟิงออกมา เพราะอีกฝ่ายมีจำนวนเยอะกว่า
ตอนนี้ได้ยินเพียงเหล่าเฟิงพูดว่า “ อีกฝ่ายมีคนเยอะกว่า พวกเราตั้งรับก่อน หากมีโอกาสก็ฆ่าพวกมันซะ ! ”
ขณะพูด มือข้างหนึ่งของเหล่าเฟิง ก็หยิบกระจกแปดทิศออกมา
ผมและหยางเฉ่วตอบกลับสั้นๆ “ อือ ” ในเวลาเดียวกันก็จับตามองวิญญาณร้ายที่กำลังเข้ามาใกล้
ส่วนวิญญาณร้ายพวกนั้น พอเข้ามาใกล้พวกเราได้ประมาณ 5-6 เมตรแล้ว พวกมันก็หยุดเคลื่อนไหว
ในเวลานี้พวกมันล้อมรอบพวกเราไว้ตรงกลางทั้งๆแบบนั้น ไม่กระดุกกระดิกไปไหน ราวกับกำลังรออะไรบางอย่างอยู่
ผมเห็นอีกฝ่ายไม่เข้ามาโจมตี เลยพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ ทำไม ? คนเยอะกว่าแล้วไม่กล้าลงมือกับพวกเราเหรอฮะ ? กลัวแล้วรึไง ? ”
เสียงผมดังก้องไปทั่วผืนป่า แต่เสียงของผมเพิ่งเงียบลง จู่ๆรอบๆก็มีเสียงที่คลุมเครือดังมาจากทุกทิศทุกทาง “โห รีบตายขนาดนั้นเชียว ข้าจะทำให้พวกเจ้าสมปรารถนาเอง ! ”
เสียงนี้ดึงขึ้นมาจากทุกทิศทุกทาง พวกเราไม่อาจตัดสินได้ว่าต้นเสียงมาจากทางไหน
และหลังจากเสียงนี้เงียบลง วิญญาณหกตนที่ล้อมรอบพวกเราเอาไว้ ก็เบิกตากว้าง ใบหน้าขาวซีดนั่น เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาในทันที
ไม่ใช่แค่นั้น ขณะเดียวกันเจ้าพวกนั้นก็คำราม “ โฮก ” ออกมาหนึ่งครั้ง และทันใดนั้นเองจู่ๆเจ้าวิญญาณร้ายทั้งหกตนนั้น ก็ยกกรงเล็บขึ้น เผยให้เห็นเขี้ยวอันคมกริบ จากนั้นก็เข้ามาโจมตีพวกเราจากทั้งหกทิศทันที
พอเห็นเจ้าวิญญาณร้ายทั้งหกลงมือแล้ว พวกเราสามคนก็ไม่ลังเลเลยสักนิด พวกเราตัวสั่น เชื่อมต่อกับจุด
ตันเถียนทันที
ในระหว่างนั้น เราเปิดใช้พลัง และเรียกใช้พลังทั้งหมดทันที
ในวินาทีนี้ หยางเฉ่วก็สัมผัสได้ว่าพลังของผมไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผมเลื่อนไปถึงขั้นเต้าชือแล้ว
เธอเลยอดไม่ได้ที่จะตกใจและสงสัย
แต่ตอนนี้เรากำลังอยู่ในการต่อสู้ เธอเลยไม่ได้สนใจมากนัก
วิญญาณร้ายทั้งหกตนเร็วมาก เพียงแค่ชั่วพริบตา อีกฝ่ายก็เข้ามาในระยะสังหารแล้ว
กรงเล็บอันคมกริบพวกนั้นต่างชี้มาข้างหน้า ได้ยินเสียงคำรามดัง “ อ้า ” จากนั้นวิญญาณร้ายสองตนก็ตวัดกรงเล็บใส่ผม
กรงเล็บพวกนั้นดูคมผิดปกติ หากโดนเข้าไป ต้องเนื้อฉีก หรือแม้แต่เป็นแผลไปจนถึงกระดูกแน่
ผมไม่กล้าประมาท จับดาบไม้แน่น เดินพลังขั้นสุด จากนั้นก็ตวัดดาบออกไปเต็มแรง
“ ปังๆ ” ผมหยุดกรงเล็บพวกนั้นเอาไว้ได้
ส่วนทางด้านเหล่าเฟิงและหยางเฉ่ว ก็รับการโจมตีแรกได้เช่นกัน
ต่อจากนั้น ทางฝั่งผมก็ไม่รอให้วิญญาณร้ายทั้งสองตนลงมืออีกครั้ง ผมชิงลงมือก่อนเรียบร้อยแล้ว
ในสายตาของผม การป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือการโจมตี
เจ้าวิญญาณร้ายทั้งสองตัวนี้แข็งแกร่งพอๆกับผม แต่ผมมีดาบ ยันต์และอื่นๆเป็นอาวุธ มีคุณสมบัติในการโจมตีอยู่แล้ว
และพวกเราต้องชนะให้เร็วที่สุด เพราะในตอนนี้เรากำลังเสี่ยงกับการต่อสู้
อีกฝ่ายมีคนเยอะกว่าเรามาก หากยังสู้กับอีกฝ่ายต่อไปเรื่อยๆ มันก็อาจเลี่ยงไม่ให้เกิดช่องโหว่ได้ยาก
และจากนั้นก็จะโดนอีกฝ่ายทำร้าย
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั่นคือ ด้านหลังของพวกเรายังมีอู่ฮุ่ยฮุ่ยอยู่อีกคน
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เราต้องยุดติการต่อสู้ให้เร็วที่สุดหรือทำให้ฝ่ายตัวเองได้เปรียบ
แบบนี้เราจะไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และไม่โดนอีกฝ่ายข่ม
ในขณะที่คิดแบบนี้ ผมก็ยกดาบขึ้น เล็งไปที่วิญญาณร้ายที่อ่อนแอตัวหนึ่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาทันที
“ ตายซะ ! ”
ส่วนเจ้าวิญญาณร้ายตนนั้น กลับยกกรงเล็บขึ้นมาต้านดาบของผม
“ ปัง ” วิญญาณร้ายตนนั้นอ่อนแอกว่าผม มันเลยโดนผมซัดออกไป
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็เตรียมจะตามไปซ้ำ สังหารเจ้านั่นให้สิ้นซาก
แต่วิญญาณร้ายอีกตนหนึ่งกลับคำรามดัง “ โฮก ” พร้อมพุ่งเข้ามาทันที ขณะเดียวกันกรงเล็บของเจ้าหมอนั่น พุ่งตรงมาที่คอของผม
ผมไม่มีทางเลือก ผมได้แต่รีบเบี่ยงตัวหลบ แต่ผมก็ยังโจมตีกลับเช่นกัน
เจ้าวิญญาณร้ายที่โดนซัดออกไปตัวนั้น กลับมาทรงตัวได้อีกครั้งแล้ว
ในเวลานี้เห็นได้ชัดว่ามันดูบ้าสุดๆ ในขณะที่คำรามออกมา มันก็พุ่งเข้ามาหาผมอีกครั้ง
พอเห็นถึงตรงนี้ ผมก็รับรู้ได้ทันที ว่าการอยากใช้พลังในตอนนี้เอาชนะให้ได้เร็วที่สุด เป็นเรื่องที่อาจเป็นไปไม่ได้
ถึงจะเป็นแบบนั้น ผมก็คิดจะเอาเจ้าสองตัวนี้ มาทดลองวิชาเฟินเทียนกงที่ตัวเองเพิ่งฝึกสำเร็จไม่นานนี้
ผมไม่ลังเลเลยสักนิด พอคิดได้แบบนั้น ผมก็เปิดใช้วิชาเฟินเทียนกงทันที
วิชานี้ถูกสืบทอดมาอย่างยาวนาน และยังเป็นเคล็ดวิชาที่โดดเด่นและทรงพลังมาก หรือแม้แต่เผยพลังอันน่าเกรงขามออกมา สามารถพูดได้ว่าบ้าบิ่นมาก จนทำให้ผมแข็งแกร่งจนเหมือนสามารถสู้คนเดียวได้
ตอนนี้พอผมเริ่มเปิดใช้งาน จุดลมปราณทั้ง 38 จุดก็เชื่อมโยงกันโดยอัตโนมัติ
ต่อจากนั้น ผมก็สัมผัสได้ว่าจุดวิญญาณทั้งเจ็ดของตัวเอง “ ยิง จิง จงชู ลี่ ชี่ หลิงฮุน และเทียนชิง ” ได้ถูกเปิดออก
จากนั้น ทั้งเจ็ดจุดก็ดูเหมือนจะรวมกันเป็นเส้นเดียว
พลังวิญญาณในจุดตันเถียนของผม เริ่มถูกวิชาเฟินเทียนกงใช้อย่างบ้าคลั่ง พวกมันต่างแปลเปลี่ยนเป็นพลังอันรุนแรง
พลังแบบนี้แตกต่างจากพลังที่ผมเคยใช้เมื่อก่อนหน้านี้ มันทรงพลังและรุนแรงกว่าพลังทั่วไป ดังนั้นผมเลยตั้งชื่อพลังนี้ว่า “ พลังเฟิงเทียน ” เพื่อแยกความแตกต่าง
หลังพลังเฟิงเทียนปรากฎขึ้น มันก็แพร่ออกไปรอบๆ โดยยึดผมเป็นศูนย์กลาง
กลิ่นอายแบบนั้นเป็นอะไรที่รุนแรงมาก และยังมีแรงกดดันที่มหาศาลอยู่ด้วย นอกจากผมแล้ว คนอื่นก็รู้สึกสบายตัวกันหมด
เหล่าเฟิงและหยางเฉ่ว ต่างรับรู้ได้ถึงพลังแปลกๆนี่ตั้งแต่วินาทีแรก
“ นี่มันอะไรกัน คลื่นพลังนี้รุนแรงมาก ! ” เหล่าเฟิงแอบพูด
“ อึดอัดจัง วิญญาณร้ายที่แข็งแกร่งกว่านี้ออกมาปรากฎตัวแล้วเหรอ ไม่ซิ พลังนี้ มัน มันเป็นของติงฝาน…… ”
สายตาของทุกคนหันมามองทันที หลังพบว่าคลื่นพลังนี้มาจากตัวผม พวกเขาก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย
เพราะก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่เคยรับรู้ถึงพลังแบบนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ ทำไมผมถึงปลดปล่อยพลังที่รุนแรงขนาดนี้ออกมา หรือแม้แต่เป็นพลังที่ดุร้ายมากอีกด้วย
ส่วนผม กลับเพ่งสมาธิไปที่วิญญาณสองตน
เมื่อเปิดใช้วิชาเฟินเทียนกงแล้ว คลื่นพลังที่บ้าคลั่งและดุร้ายนั้น ก็เข้าไปห่อหุ้มร่างของวิญญาณร้ายทั้งสองทันที
ส่วนวิญญาณร้ายทั้งสองตนนั้น ราวกับในวินาทีนั้น พวกมันเกิดตกใจจนช็อก ใบหน้าที่ดุร้าย
ตอนนี้ ได้เปลี่ยนไปเลย พวกมันต่างเผยสีหน้าตกใจ หรือแม้แต่ยืนตัวแข็งทื่อทันที
สภาพแบบนั้น ราวกับเห็นสัตว์ร้ายอยู่ตรงหน้า และยังดูเหมือนกับเจอเหตุการณ์ฟ้าถล่มดินทลาย
ความหวาดกลัวในใจทำให้พวกมันเสียสติในทันที
แต่ทางผม กลับไม่ใส่ใจเลยสักนิด และไม่ได้สังเกตเห็นว่าพลังที่ตัวเองปล่อยออกมาสกัดการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเอาไว้
เพียงเห็นแค่ในวินาทีนั้น พวกมันได้เผยช่องโหว่ออกมาแล้ว
ผมจึงไม่ลังเล หรือไม่รอช้าเลยสักนิด รีบใช้วิชาเฟินเทียนกง พาคลื่นพลังเฟิงเทียนอันเข้มข้นพวกนี้
และตวัดดาบไม้ในมือ ไปทางหัวของผีสองตัวนั้น……