หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 505 ดึงดูดความสนใจ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 505 ดึงดูดความสนใจ

ที่พวกเราทุกคนทำแบบนี้ เพราะต้องการดึงดูดความสนใจจากอีกฝ่าย

เมื่อเป็นแบบนี้ อีกเดี๋ยวพวกเราเริ่มสู้กับพวกสาวกสำนักลื่อเย่ ทางฝั่งปู่หูลิ่ว ยายหูชีและเสี่ยวเหมย 

ก็จะมีโอกาสดีๆได้ลอบโจมตีพวกมันจากข้างหลัง

 

ดังนั้น ผมและอาจารย์ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พวกเราเดินตรงเข้าไปที่ประตูศาลเจ้าทันที

ประตูใหญ่ที่ผุพังยังปิดอยู่ ผมไม่ลังเลแต่อย่างใด เมื่อไปถึงก็ใช้เท้าถีบทันที

 

ได้ยินเสียงดัง “ ปัง ” พร้อมกันนั้นประตูศาลเจ้าหลักเมือง ก็เปิดออกด้วยเท้าของผม

ต่อจากนั้น ผมและอาจารย์ก็เดินห่ามๆเข้าไปอย่างงั้น

 

ส่วนตัวศาลเจ้าที่มีแสงไฟเปล่งออกมา ก็หายไปหลังจากที่ผมถีบประตูเข้าไป

บทสนทนาที่คึกคัก ก็หยุดลงเช่นกัน จากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้นอีก

 

มันชัดเจน อีกฝ่ายเริ่มระวังตัวแล้ว

แต่ผมและอาจารย์ไม่สนใจ ต่อจากนั้นผมก็ตะโกนอยู่ในตัวศาลเจ้า “ ปีศาจอย่างพวกแกฟังให้ดี รีบไสหัวออกมาตายซะดีๆ ไม่อย่างงั้นพอพวกฉันเข้าไป ศพพวกแกได้ออกมาไม่สมประกอบแน่ ! ”

 

ผมพูดอย่างโหดเหี้ยม ขณะเดียวกันเสียงก็ดังก้องไปทั้งศาลเจ้า

น้ำเสียงของผมฟังดูโอหังเป็นพิเศษ เพราะผมต้องการยั่วอีกฝ่าย ทำให้พวกมันอยากออกมาจัดการพวกเราข้างนอก และจะได้คอยระวังรอบๆตลอดเวลา

 

แน่นอน ในใจของผมและอาจารย์ กลับตื่นตัวเป็นพิเศษ

เรามองรอบๆอย่างต่อเนื่อง เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะมีลูกไม้อะไรซ่อนอยู่

 

ในขณะที่เสียงผมจางหาย รอบๆก็ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง ไม่มีเสียงใดๆดังขึ้นอีก

จนกระทั่งผ่านไปได้ประมาณ 1-2 นาที ผมและอาจารย์เห็นอีกฝ่ายไม่เคลื่อนไหว เลยอดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากัน

 

หลังจากนั้นอาจารย์ก็ส่งสัญญาณให้ผมพูดต่อ พยายามบีบเจ้าปีศาจพวกนี้ให้ออกมาให้ได้

ถึงผมและอาจารย์จะอยากจำกัดปีศาจพวกนี้มาก แต่พวกเราก็ไม่ได้โง่ไร้สมอง ที่จะบุกเข้าไปในศาลเจ้า 

ด้วยพลังของพวกเราแค่สองคน

 

ต้องรู้ว่าในศาลเจ้ามีปีศาจอยู่เก้าตัว ถึงจะเป็นหมาเก้าตัว แต่มันก็ทำให้ผมและอาจารย์เหนื่อยได้

ดังนั้น ผมและอาจารย์แค่อยากดึงดูดความสนใจจากอีกฝ่าย

 

และพวกเราก็แน่ใจว่า อีกฝ่ายเองก็สังเกตเห็นพวกเรา หรือมองออกมาสังเกตรอบๆตัวพวกเราแล้ว……

“ ทำไม ? กลัวเหรอฮะ ? ถ้ายังไม่ออกมาอีก อีกเดี๋ยวฉันจะเข้าไปฆ่าเอง ฆ่าพวกแกให้หมดทุกตัว 

ถลกหนังหมาของพวกแกออกมาให้หมด เลาะเอ็นหมาของพวกแก… ”

 

พอพูดมาถึงตรงนี้ ในที่สุดในศาลเจ้าก็มีเสียง ฮึ ที่เย็นชาดังขึ้น

ต่อจากนั้น เราก็ได้ยินเสียงเย็นชาของชายคนหนึ่ง “ ข้าประเมินพวกแกต่ำไปจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะไล่ตามมาจนถึงที่นี่ ! ”

 

จู่ๆก็ได้ยินเสียงนี้ “ ตูม ” ในสมองผมเลยมีเสียงระเบิดดังขึ้น สภาพตอนนี้เหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ

ในใจมีระลอกคลื่นเกิดขึ้น ถ้าไม่ได้ยินผิด เสียงนี้เป็นของปีศาจเสือดาว หรือท่านเทพแห่งสำนักลื่อเย่ที่เจอเมื่อคืนชัดๆ

 

เพิ่งคิดถึงตรงนี้ ศาลเจ้าก็มีเสียงดัง “ แอรด ” มันถูกเปิดจากด้านใน จากนั้นเราก็เห็นเงาของใครหลายคนเดินออกมา

 

เมื่อหลี่ตามอง ผมพบว่าผู้นำของเจ้าพวกนั้นเป็นชายแก่ในชุดคลุมสีดำ

บนชุดคลุมดำนั้น ยังมีการปักรูปพระอาทิตย์และพระจันทร์ด้วยด้ายสีทองอยู่ด้วย

 

เห็นได้ชัดว่าเจ้าชุดนี่เหมือนกับชุดของท่านเทพสำนักลื่อเย่ที่เจอเมื่อคืนเป๊ะๆ

มีเพียงอย่างเดียวที่ต่างออกไป ก็คือรูปร่างหน้าตาของเขา มันได้เป็นหัวเสือดาว แต่เป็นสภาพของคนแทน

 

เขามีผิวที่ค่อนข้างดำ ตัวผอมมาก ดวงตาฉายแววอันดุร้าย

นอกจากตาแก่คนนี้แล้ว ขนาบข้างและด้านหลังของเขา ยังมีสาวกปีศาจสำนักลื่อเย่ที่ไม่ใช่ทั้งคนและสัตว์อีกหลายคน

 

มีทั้งหญิงและชาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือเจ้าพวกนั้นเห็นพวกเราเป็นศัตรู

หลังเห็นทั้งเก้าคนนี้เดินออกมาจากศาลเจ้า ผมและอาจารย์ก็เริ่มระวังตัวในทันที

 

ในเวลาเดียวกัน ผมก็จับตาดูตาแก่คนนั้นมากกว่าใครเพื่อน

ผมกำลังสงสัยฐานะของเจ้าหมอนี่ เขาจะเป็นท่านเทพแห่งสำนักลื่อเย่เมื่อคืนหรือเปล่า

 

ตาแก่ที่เป็นผู้นำเห็นผมขมวดคิ้ว ทำหน้าหนักใจ และในเวลานี้กำลังกวาดสายตามองเขา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ ทำไม ? ตามมาถึงที่นี่แล้ว หรือจำข้าไม่ได้แล้วงั้นเหรอ ? ”

 

พอตาแก่พูดมาถึงตรงนี้ ผมก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ทันที

ไม่ผิดแน่ ตาแก่คนนี้ ก็คือปีศาจเสือดาวที่เรียกตัวเองว่าท่านเทพแห่งสำนักลื่อเย่

 

“ แกก็คือปีศาจเสือดาวตัวนั้น ! ” ผมพูดพร้อมชักสีหน้า

พออาจารย์ได้ยิน “ ปีศาจเสือดาว ” สี่คำนี้ เขาก็ตกใจในทันที

 

ผมเคยเล่าเรื่องเจอปีศาจเสือดาวที่สวนสาธารณะให้อาจารย์ฟัง

ตอนนี้พอได้ยินคำพูดแบบนี้ เขาก็อดมองอีกฝ่ายด้วยสายตาประหลาดใจไม่ได้

 

พอตาแก่ได้ยินคำพูดของผม เขาก็หัวเราะอย่างคำเจ้าเล่ห์ออกมาทันที “ ฮ่าๆๆ ” “ ข้าเองแหละ เมื่อคืนพวกแกมีผีคอยช่วย ข้าเลยทำร้ายพวกแกไม่ได้ แต่คืนนี้ แค่พวกแกสองคน ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้…… ”

 

พอพูดมาถึงประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของตาแก่ก็เปลี่ยนเย็นชาขึ้นมาในทันที ภายในเวลาเพียงชั่วพริบตา 

เขาก็ระเบิดจิตสังหารออกมาทันที

 

สาวกปีศาจที่อยู่ข้างๆและข้างหลังตาแก่พวกนั้น ต่างแยกย้ายกันพุ่งเข้ามา เจ้าพวกนั้นล้อมผมและอาจารย์เอาไว้ได้เร็วมาก

และในเวลาเดียวกันนั้น สาวกปีศาจพวกนี้ก็กระตุ้นพลังปีศาจที่อยู่ด้านใน ทำให้ตัวเองกลายสภาพเป็นปีศาจ

 

ขนสัตว์ค่อยๆยาวออกมา มือคนเปลี่ยนเป็นอุ้งมือสัตว์อย่างรวดเร็ว และบนหน้าก็เขียนคำว่าฆ่าและเหี้ยมเอาไว้เต็มๆ

ผมและอาจารย์เตรียมตัวมาก่อนแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่พวกเราจะไม่กลัว

 

นอกจากนี้เจ้าท่านเทพแห่งสำนักลื่อเย่อะไรนั่น เมื่อคืนเจ็บหนัก และกัดพวกเดียวกัน ถึงได้หนีรอดมาได้

ผมไม่คิดว่า เจ้าหมอนี่จะเป็นคู่ต่อสู้ของปู่หูลิ่วและยายหูชีได้

 

สำหรับลูกกระจ๊อกอีกแปดคนที่เหลือ ยังไม่กลายร่างไปถึงขั้นที่สองเลยด้วยซ้ำ

อาศัยแค่สภาพสัตว์ระยะแรกของพวกมัน ไม่มีทางทำอะไรพวกเราได้ในเวลาสั้นๆอย่างแน่นอน

 

หากผม อาจารย์ และหูเหมยร่วมมือกัน ถึงจะสามต่อแปดเราก็มีแรงเหลือเฟือแน่นอน

ดังนั้น ผมและอาจารย์จึงมั่นใจกันสุดๆ

 

อาจารย์พูดออกไปตามตรง “ พวกชั่ว ! อย่าพูดมาก คืนนี้จะเป็นวันตายของพวกแก ”

หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็ยกมือขึ้น คิดจะลงมือ

 

เพราะท่านนักพรตตู๋ยังอยู่ในร่างปีศาจ พวกเราจำเป็นต้องหายายับยั้งสภาพสัตว์พวกนั้น การพูดต่อไปจึงกลายเป็นเรื่องไร้สาระ

 

พอท่านเทพแห่งสำนักลื่อเย่หรือผู้นำคนนั้นเห็นเช่นนั้น ก็เค้นเสียงดัง ฮึ “ ศิษย์สำนักลื่อเย่จงฟัง ฆ่าพวกมันให้หมด ! ”

 

“ ศิษย์น้อมรับคำสั่ง ! ” สาวกทั้งแปดคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน

เสียงเพิ่งเงียบลง สาวกทั้งแปดคนนั้นก็อ้าปากขึ้น พร้อมคำรามเสียงสัตว์ออกมา

 

จากนั้นก็ยกกรงเล็บขึ้น อ้าปากกว้าง แล้วพุ่งเข้ามาหาพวกเราเร็วมาก

พอผมและอาจารย์เห็นถึงตรงนี้ เราก็ไม่ลังเล ชักสีหน้า ถือดาบไม้เข้าไปรับการโจมตีทันที

ในเวลานั้น พวกเราสู้แบบโดนรุม

 

ตั้งแต่สมัยโบราณกาลดีชั่วก็อยู่คนละเส้นทางอยู่แล้ว ในฐานะคนปราบภูติผี ผมไม่มีเหตุผลให้ต้องอ้อมมือให้เจ้าปีศาจพวกนี้

 

ความรับผิดชอบและภารกิจบ่นบ่าบอกผมว่า ต้องฆ่าพวกมันให้หมด เพื่อรักษาความสงบ

ผมเล็งไปที่สาวกปีศาจตนหนึ่ง จากนั้นก็ลงมืออย่างโหดเหี้ยมทันที ผมไม่ลังเล แทงเข้าไปที่หน้าอกของอีกฝ่ายตรงๆ

 

ทักษะของดาบในมือผมเปลี่ยนไป การเคลื่อนไหวเร็วจนอีกฝ่ายหยุดไว้ไม่ได้

แล้วเจ้าปีศาจตนนั้นจะหลบได้เหรอ มันโดนผมแทงทะลุหน้าอก หลังจากกรีดร้องออกมาได้สั้นๆ 

ร่างของเจ้าหมอนั่นก็ล้มลงไปกองกับพื้นทันที

 

ทางฝั่งของอาจารย์ก็ถีบปีศาจตนหนึ่งล้มกลิ้ง จากนั้นก็พลิกมือแปะยันต์ลงบนหน้าของเจ้าปีศาจตนนั้น

ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังตามมาติดๆ “ ตูม ” เจ้าตัวที่โดนยันต์แปะไว้บนหน้า โดนแรงระเบิดเลือดไหลเต็มหน้าทันที ในขณะเดียวกันเจ้าหมอนั่นก็กรีดร้องไม่หยุดปาก

 

พอท่านเทพผู้นำแห่งสำนักลื่อเย่เห็นแบบนั้น ก็โมโหขึ้นมาทันที แม้จะบาดเจ็บอยู่ แต่เขาก็คิดจะเข้ามาจัดการพวกเราเช่นกัน

 

เขาในตอนนั้น ตัวสั่น ปลดปล่อยพลังอันดำมืด และกำลังจะเข้ามาโจมตีพวกเรา

แต่ทันใดนั้นเอง ปู่หูลิ่วและยายหูชีที่ซ่อนตัวอยู่ก่อนหน้านี้ก็ออกมาลงมือ พวกเขาเหมือนภูติผี กรงเล็บอันคมกริบ พุ่งตรงเข้าที่หลังของท่านเทพแห่งสำนักลื่อเย่คนนั้นทันที……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.