หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 504 เริ่มลอบโจมตี

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 504 เริ่มลอบโจมตี

ผมไม่เคยคิดเคยฝัน ในขณะที่ตัวเองกำลังจะออกไป พอนิ้วผมสัมผัสโดนตัวมีดปลิดวิญญาณ 

ความเย็นแปลกๆ ก็ดึงดูดความสนใจผมทันที

ผมขมวดคิ้ว เผยสีหน้างุนงงออกมาเล็กน้อย

 

ความเย็นแบบนี้ ทำไม ทำไมถึงเหมือนตอนที่ฝึกสำเร็จเมื่อก่อนหน้านี้ ความเย็นแบบนี้มันเหมือนกันไม่มีผิด

ผมบ่นพึมพำ หรือแม้แต่หยิบมีดปลิดวิญญาณขึ้นมาดู แล้วคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ทั้งหมด

 

เจ้ามีดปลิดวิญญาณนี่ เป็นเพราะเมื่อคืนผมเล่นมันจนนอนหลับไป สุดท้ายมันกลับล่วงลงไปอยู่ข้างหน้าขาของผม และอยู่ตรงนั้นจนผมฝึกครั้งแรกจบ

 

เมื่อจะเริ่มฝึกครั้งที่สอง ผมถึงได้หยิบมีดปลิดวิญญาณไปไว้บนเตียง

แต่นับตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา ความเย็นที่เคยสัมผัสได้ก็หายไปในทันที ตัวผมเองก็พัฒนาต่อไปไม่ได้อีก

พอคิดมาถึงตรงนี้ “ ตูม ” ในสมองผมก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น

 

หรือ หรือว่าก่อนหน้านี้ที่ผมฝึกได้อย่างราบรื่น พัฒนาได้ 8 จุดติดกันรัวๆ นอกจากคำแนะนำของ

มู่หลงเหยียนและทำจิตใจให้นิ่งแล้ว ยังมีสาเหตุที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง ก็คือตัวผมสัมผัสโดนมีดปลิดวิญญาณ

 

หรือว่าหนึ่งในสาเหตุที่ผมพัฒนาได้รัวๆ ก็เพราะเจ้ามีดปลิดวิญญาณเล่มนี้

เพราะกระแสพลังเย็นบางอย่าง ที่อยู่ในมีดปลิดวิญญาณคอยช่วยงั้นเหรอ

 

ต้องรู้ว่ามีดปลิดวิญญาณในมือผมเล่มนี้ไม่ใช่อาวุธรรมดาทั่วไป มันเป็นถึงของที่ตกทอดกันมาของ

สำนักหยินชือ เป็นคนของที่ประมุขสำนักหยินชือเท่านั้นถึงจะมีได้

 

นี่เป็นอาวุธที่ร้ายกาจมากชิ้นหนึ่ง เพียงแค่ความสามารถดูดซับวิญญาณนั่น ก็ทำให้มันพิเศษกว่าอาวุธอื่นๆบนโลกแล้ว

ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะเรื่องนี้ได้ลางๆ

 

การพัฒนาติดกันรัวๆเมื่อก่อนหน้านี้ และยังการฝึกที่ราบรื่นนั่นอีก บางทีมันอาจเป็นเพราะตัวเองไปโดนมีดปลิดวิญญาณ

 

และอาจเป็นไปได้ว่าวิชาเฟินเทียนกงของผมจะมีความเกี่ยวข้องกับมีดปลิดวิญญาณ หรือจะเรียกได้ว่า 

“ มีจุดรวมเดียวกัน ” หลังจากนั้นมีดปลิดวิญญาณที่มีความสามารถในการดูดซับวิญญาณจึงถูกกระตุ้น

ทำให้ผมได้รับกระแสพลังอันเยือกเย็นจากในตัวมีดปลิดวิญญาณ และมันก็ช่วยให้ผมได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

ในเวลานี้ ในสมองผมมีความคิดแบบนี้ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และข้อสรุปที่ตัวเองคิดขึ้น

ผมไม่รู้ว่ามันใช่ไหม หรือเป็นแค่สิ่งที่ผมมโนไปเอง

แต่ผมคิดว่า ยังไงก็ต้องลองสักครั้ง

 

ถ้าผมเดาถูก งั้นก็ไม่ได้แปลว่าต่อไป ผมจะฝึกวิชาเฟินเทียนกงสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลแล้วไม่ใช่เหรอ

ในขณะที่ผมคิดแบบนั้น ผมก็กำลังจะลองพิสูจน์ความคิดตัวเอง

 

แต่ทันใดนั้นเอง เสียงอาจารย์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ เสี่ยวฝาน ยังไม่ลุกอีกเหรอ ? เซียนเสี่ยวเหมยมาถึงแล้วนะ ”

พอได้ยินคำว่าเซียนเสี่ยวเหมย ผมก็นึกถึงหูเหมยขึ้นมาทันที

จริงด้วย ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว พวกเราเองก็ควรเตรียมตัวลงมือได้แล้ว

 

ผมก้มมองมีดปลิดวิญญาณครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ส่ายหัว คิดว่าควรจัดการเรื่องตรงหน้าให้เสร็จก่อน 

แล้วค่อยกลับมาลองก็ได้ !

 

ด้วยเหตุนี้ ผมเลยเก็บมีดปลิดวิญญาณ แล้วเดินออกจากห้องทันที “ โอเค ! มาแล้ว ”

ขณะพูด ผมก็เปิดประตูออกไปแล้ว

เพิ่งออกมาจากห้อง ผมก็เห็นอาจารย์กำลังคุยกับหูเหมย

 

หูเหมยยังคงเย็นชาเหมือนเดิม นอกจากฉู่ยเฉิงจิงแล้ว เธอก็ไม่ค่อยสบอารมณ์กับพวกเราเท่าไหร่

แต่พอเห็นหูเหมยมาถึงแล้ว ผมก็ยิ้มทักทายทันที “ เฮ้เสี่ยวเหมย ! ”

 

หลังเห็นผมเดินออกมา หูเหมยก็ไม่ได้เปลี่ยนท่าทีไปเท่าไหร่ เธอเพียงพูดขึ้นมาเบาๆ “ ปีศาจชุดที่สองของสำนักลื่อเย่มาถึงแล้ว ปู่ฉันกับยายเจ็ดให้ฉันมาบอกพวกคุณ ”

น้ำเสียงของหูเหมยเรียบนิ่ง แต่ผมกับอาจารย์ กลับค่อนข้างตื่นเต้น

 

มาแล้วก็ดี พวกเราจะได้รีบลงมือ และได้ยายับยั้งสภาพสัตว์นั่นเร็วขึ้น

ไม่รอให้ผมได้พูด อาจารย์ก็พูดกับผมว่า “ เสี่ยวฝาน แกรีบหาอะไรกิน บำรุงกำลัง ในเมื่ออีกฝ่ายมาครบแล้ว พวกเราก็จะได้ลงมือเร็วหน่อย ! ”

 

“ อืออาจารย์ ! ” ผมขานรับ

ต่อจากนั้น ผมก็มาหยุดอยู่ที่โต๊ะกินข้าว จากนั้นก็รีบกินข้าวสองถ้วย ทำให้ท้องเต็มอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ฟ้ามืดสนิทแล้ว สำหรับตำบลเล็กๆของพวกเรา

 

นอกจากตรงสี่แยกจะมีร้านบาร์บีคิวและแผงขายอาหารแล้ว ที่อื่นก็แทบไม่มีร้านค้าไหนเปิดอีก 

บนถนนเองก็มีคนน้อยอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

ศาลเจ้าหลักเมืองอยู่ส่วนในสุดของตำบล อยู่ไม่ไกลจากตัวตำบล แต่ก็ไม่ถือว่าใกล้มาก

แม้จะเสียงดังขึ้นบ้าง เวลายามค่ำคืนแบบนี้ ก็ไม่มีใครสนใจแน่นอน

 

ผมเช็ดปาก จากนั้นก็เรอออกมาหนึ่งครั้ง แล้วพูดกับอาจารย์ว่า “ อาจารย์ ผมกินเสร็จแล้ว พวกเราเริ่มออกไปกันเถอะ ! ”

 

อาจารย์กินเสร็จนานแล้ว พอได้ยินผมพูดแบบนั้น เขาก็พยักหน้ารับทันที “ ดี ไปหยิบอาวุธมา เราจะไปจัดการปีศาจพวกนั้นกัน ! ”

ขณะพูด อาจารย์ก็ยกดาบขึ้นมา

 

ผมเองก็ไม่มัวพูดมาก รีบหยิบดาบไม้ ยันต์ และของอื่นๆทันที

หูเหมยเห็นผมและอาจารย์เตรียมตัวพร้อมแล้ว จึงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสบายๆอีกครั้ง “ โอเค ! ไปกันเถอะ ! ”

 

หลังจากพูดจบ หูเหมยก็หมุนตัว แปลงกายเป็นจิ้งจอกน้อยสีแดงอมเหลือง จากนั้นก็พุ่งออกไปจากร้านทันที

ผมและอาจารย์ก็ตามไปติดๆ พวกเราเดินไปตามทางตรงเข้าสู่ศาลเจ้าหลักเมือง

แต่เมื่อเข้าใกล้ศาลเจ้าหลักเมือง พวกเรากลับเคลื่อนไหวให้ช้าลง

 

หูเหมยเองก็หันมามองในเวลานี้ เธอพูดกับผมและอาจารย์ว่า “ ในศาลเจ้ามีสาวกปีศาจอยู่เก้าตัว ระวังกันหน่อย ตอนนี้พวกเราจะไปด้านหลังกัน ไม่อย่างงั้นจะแหวกหญ้าให้งูตื่นได้ ! ”

 

“ ได้ เสี่ยวเหมยนำทางเลย ! ” ผมตอบกลับตรงๆ

หูเหมยเองก็ไม่ได้พูดเยอะ พอเห็นผมตอบตกลง เธอก็เปลี่ยนทาง พาผมและอาจารย์ไปอีกทางด้านหนึ่งของศาลเจ้า

 

พวกเราเดินผ่านป่าเข้าใกล้ศาลเจ้าขึ้นเรื่อยๆ ผ่านไปไม่นานพวกเราก็เห็นปู่หูลิ่วและยายหูชีที่กำลังจับตาดูปีศาจพวกนั้นอยู่

 

พอเจอทั้งสองคน ผมและอาจารย์ก็ทำมือคารวะ

“ รบกวนเซียนทั้งสองแล้ว ! ”

“ ศิษย์คารวะปู่หูลิ่ว ยายเจ็ด ! ”

 

ปู่หูลิ่วและยายเจ็ดยิ้ม จากนั้นเราก็ได้ยินปู่หูลิ่วพูด “ ไม่เป็นไร ชูหม่าไม่ต้องมากพิธี ในศาลเจ้ามีปีศาจอยู่เก้าตัว พลังของเจ้าพวกนั้นยังไม่อาจบอกได้…… ”

 

หลังจากพูดจบ ปู่หูลิ่วก็เล่าเรื่องที่พวกเขาคอยสังเกตดูเจ้าพวกนั้นในวันนี้ ให้ผมและอาจารย์ฟังทีละเรื่อง……

พวกเราเห็นศาลเจ้าที่อยู่ไกลออกไป ผ่านช่องว่างของพุ่มไม้

 

เราเห็นเพียงในศาลเจ้ามีแสงไฟสว่างอยู่ และยังเห็นเงาคนเคลื่อนไหวเป็นบางครั้ง

จากที่ปู่หูลิ่วเล่า นอกจากในศาลเจ้าจะมีปีศาจอยู่เก้าตนแล้ว หนึ่งในนั้นยังเหมือนมีฐานะค่อนข้างสูง 

ปีศาจแปดตนที่เหลือต่างปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพสุดๆ เขาบอกว่าเจ้าหมอนั้นอาจเป็นผู้นำคนหนึ่งของสำนักลื่อเย่

 

และยังบอกว่าเหมือนเจ้าผู้นำคนนั้นจะบาดเจ็บอยู่ ตอนเข้ามาในเย็นวันนี้ ยังต้องมีลูกสมุนอีกสองคนคอยช่วยประคอง

 

หลังรู้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว อาจารย์ก็ทำหน้าเข้ม แล้วพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ เป็นผู้นำก็เยี่ยมไปเลย 

ใช้ประโยชน์จากตอนที่มันบาดเจ็บ ทำให้มันตายไปเลย ทำลายรังของมันในนี้เลย ! ”

 

หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็ดึงดาบไม้ออกมา พร้อมพูดกับปู่หูลิ่วและยายหูชีว่า “ เซียนทั้งสาม ผมว่าไม่ควรรอนานกว่านี้แล้ว ลงมือเถอะ ! ”

ปู่หูลิ่วและยายหูชีเห็นอาจารย์ดึงดาบไม้ออกมา พวกเขาจึงไม่ลังเลแต่อย่างใด รีบพยักหน้าให้อาจารย์ทันที

 

ต่อจากนั้นเราก็ได้ยินยายหูชีพูด “ นักพรตติง คุณกับจินถงเข้าไปจากทางประตูหน้า พวกเราจิ้งจอกจะโจมตีเข้าไปจากทางด้านหลัง หนึ่งเพื่อไม่ให้พวกมันหนีไปทางด้านหลัง สองเราจะได้ทำให้พวกมันตกใจและสังหารอย่างไม่ทันตั้งตัวด้วย ! ”

 

อาจารย์และผู้อาวุโสเผ่าจิ้งจอกปรึกษากัน ส่วนผมและหูเหมยไม่ได้เข้าไปออกความเห็น

หลังยายหูชีพูดจบ อาจารย์ก็คิดว่าได้เวลาแล้ว จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้ผมเริ่มลงมือ เราสองคนจะดึงดูดความสนใจพวกสาวกปีศาจจากทางด้านหน้า

 

ผมไม่ได้ออกความเห็น เพียงทำมือคารวะพวกปู่หูลิ่ว หลังจากนั้นก็เดินตามอาจารย์มาที่ด้านหน้าศาลเจ้าหลักเมือง

 

เมื่อกลับมาถึงบริเวณประตูหน้าศาลเจ้าแล้ว ผมและอาจารย์ก็หันมามองหน้ากัน จากนั้นเราก็กระโดดออกมาจากพุ่มไม้

แล้วเดินไปที่ประตูศาลเจ้าด้วยท่าทางหยิ่งผยองและหน้าตากวนบาทา……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.