spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 477 ไม่มีใครรับมือทัน
สมุนปีศาจพวกนั้นพุ่งเข้ามาจากรอบๆ กระจายตัวเข้ามาโอบล้อมและโจมตีพวกเรา
ผมอยู่หน้าสุด เห็นปีศาจหน้าแมวตัวหนึ่งพุ่งเข้ามา พร้อมกับกวาดแกว่งอุ้งเท้าแมว และคำรามมาทางผม
เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ผมก็ไม่ได้ถอยเลยสักนิด เคลื่อนพลัง ใช้เพลงดาบที่มู่หลงเหยียนสอนมา เข้าไปฟาดฟันใส่มันทันที
ได้ยินเพียงเสียงดัง “ ฉึก ” ดาบไม้ฟันเข้าที่คอของอีกฝ่ายตรงๆ
ปีศาจตนนั้นกรีดร้องโหยหวน เลือดสดๆกระเด็นเซ็นซ่าน และล้มนอนจมกองเลือดทันที
แต่ยังไม่จบเท่านั้น เนื่องจากอีกฝ่ายมีจำนวนเยอะมาก
ผมเพิ่งแทงปีศาจตัวหนึ่งล้ม ปีศาจอีกสองตัวก็โผล่เข้ามา โจมตีผมจากทางด้านซ้ายและขวา
“ ติงฝานระวัง ! ” จู่ๆหยางเฉ่วก็ตะโกน เธอโผล่เข้ามาจากด้านข้าง ตรงเข้ามาขวางปีศาจตนหนึ่งเอาไว้
ในเวลาเดียวกัน เหล่าเฟิงก็กระโดดขึ้น ฆ่าปีศาจตายไปหนึ่งตัว
สำหรับฉู่ยเฉิงจิงและจิ้งจอกน้อย พวกเธอเองก็แยกย้ายกันลงมือ จัดการปีศาจไปได้สองตัวเช่นกัน
เหล่าฉินก็ดึงดาบออกมารับการโจมตีของปีศาจอย่างรวดเร็ว
แต่ที่นี่มีสมุนปีศาจเยอะเกินไป ไม่สามารถจัดการได้หมดภายในครั้งเดียว
แม้เจ้าพวกนี้จะกินยากลายร่างเป็นปีศาจเข้าไป ถึงได้เปลี่ยนเป็นไม่ใช่คนไม่ใช่ปีศาจแบบนี้
จากบางมุม นอกจากสาวกพวกนี้จะมีพละกำลังจากกล้ามเนื้อเพิ่มแล้ว ก็ไม่มีพลังใดๆ
หากสู้กันเดี่ยวๆ พวกมันไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราได้แน่นอน เราสู้หนึ่งต่อสาม ก็ยังมีแรงเหลือเฟือ
แต่ปัญหาคือ อีกฝ่ายมีคนเยอะเว่อร์
สองมือหรือจะสู้กับสี่มือได้ ตอนนี้อย่าว่าแต่ฆ่าเลย เพิ่งสู้ไปได้ไม่เท่าไหร่ พวกเราก็โดนบีบให้ถอยแล้วถอยอีกแล้ว
แน่นอน พวกเราเองก็ไม่อาจต้านสาวกทุกคนได้
จึงมีส่วนหนึ่งที่ฝ่าเข้าไปหานักพรตหวังและพวกอาจารย์ได้ เจ้าพวกนั้นเริ่มช่วยผู้นำคนนั้นและพวก
บอร์ดี้การ์ดสี่คนนั้นทันที
ตอนนี้ ฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด ก็ตกอยู่กับนักพรตหวังและเจ้าผู้นำคนนั้นแล้ว
พลังของทั้งสามคนสูงมาก จนพวกเราไม่อาจเทียบได้เลย
แต่สิ่งที่ทำให้คาดไม่ถึงคือ เหมือนระดับพลังของเจ้าผู้นำคนนั้นจะเปลี่ยนไปมากกว่าเดิม
เขาใช้ตะขอในมือ สู้หนึ่งต่อสอง แต่มันกลับดูไม่เสียเปรียบเลยสักนิด
คลื่นพลังดำมืดม้วนตัวกระจายอยู่รอบๆ ทุกครั้งที่ลงมือจะมีพลังดำมืดสาดซัดออกมา แทบไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ในรัศมีห้าเมตร
แม้แต่พวกลูกสมุนปีศาจเข้าไปใกล้ ก็แทบช่วยอะไรไม่ได้ เพราะโดนคลื่นพลังซัดกระเด็นออกมา
หรือไม่ก็โดนซัดตาย เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก
ทางด้านอาจารย์ ปู่หูลิ่ว ยายหูชีและท่านนักพรตตู๋ สู้สี่ต่อสี่และรวมพวกลูกสมุนเข้าไปอีกหน่อย
ถึงจะเป็นอย่างงั้น พวกเรากลับเป็นฝ่ายได้เปรียบ
โดยเฉพาะปู่หูลิ่วและยายหูชี ไม่รู้จิ้งจอกเฒ่าสองตัวนี้บำเพ็ญมากี่ปี ระดับพลังของพวกเขาสูงมาก
ตอนนี้เสียงคำรามของจิ้งจอกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรงเล็บพวกนั้นเหมือนกับดาบคมๆเล่มหนึ่ง
หากมีพวกลูกสมุนปีศาจเข้ามาใกล้ ก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่
สำหรับบอร์ดี้การ์ดสี่คนนั้น ทุกคนโดนบีบให้ถอยอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเริ่มสู้ไม่ไหวแล้ว
การต่อสู้เกิดขึ้นไม่หยุด พวกเราไม่กี่คนเข้ามาเกาะกลุ่มกัน ใช้เตาเผายักษ์นั่นเป็นที่พึ่ง ต้านพวกลูกสมุนที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
แม้พวกเราจะต้านได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าลำบากมาก
ในเวลานี้ จู่ๆฉู่ยเฉิงจิงก็โดนลูกสมุนจำนวนหนึ่งล้อมเอาไว้
ฉู่ยเฉิงจิงพยายามสู้อย่างสุดฤทธิ์ แต่สุดท้ายก็ยังโดนหางของปีศาจตนหนึ่งฟาดเข้าที่ด้านหลัง
“ เพี๊ยะ ” ฉู่ยเฉิงจิงกระเด็นไปข้างหน้า และล้มกลิ้งลงไปกับพื้นทันที
ปีศาจตนหนึ่งอยู่ข้างหน้าฉู่ยเฉิงจิงพอดี เมื่อเห็นภาพนี้ แววตามันก็ดุร้ายขึ้นมาทันที มันกางกรงเล็บออกแล้วตวัดลงไป คิดจะฆ่าฉู่ยเฉิงจิง
ฉู่ยเฉิงจิงโดนฟาดจนล้มกลิ้งกับพื้น ไม่มีทางตอบโต้ทัน ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะหลบพ้นเลย
“ ฉู่ยเฉิงจิง…… ” ผมตกใจ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น โยนดาบในมือออกไปทันที
ดาบที่โดนลับคมด้วยพลัง แทงทะลุหลังของอีกฝ่ายทันที
ปีศาจตนนั้นตัวแข็งทื่อ มันตายในทันที
พอเจ้าจิ้งจอกน้อยหูเหมยเห็นแบบนั้น ก็คำรามออกมา และระเบิดพลังปีศาจมหาศาลออกมาในทันที
และเจ้าจิ้งจอกน้อย ก็กลายร่างเป็นจิ้งจอกยักษ์ขึ้นมาในเวลานี้เช่นกัน
ใบหน้าของจิ้งจอกยักษ์เต็มไปด้วยความดุร้าย เธอกวัดแกว่งกรงเล็บ ฆ่าศัตรูจนทางที่เธอเดินผ่านกลายเป็นทางสีเลือด จากนั้นก็ไปยืนขวางอยู่หน้าฉู่ยเฉิงจิง
เพราะดาบไม้ของผมโดนโยนออกไปแล้ว ดังนั้นในมือของผมเลยไม่มีอาวุธอยู่
ผลลัพธ์ทันใดนั้นปีศาจหน้าหนูตัวหนึ่งก็กระโจนเข้ามา พร้อมตวัดกรงเล็บมาที่คอผม
ผมทำได้แค่ถอยให้เร็วที่สุด แต่แล้วเพิ่งถอยไปไม่ถึงสองก้าว ปีศาจที่อยู่ข้างหลังกลับยืดหางออกมายาวสองเมตร
เจ้าหางนั่นมีรูปร่างเหมือนหางหนู สีดำไร้ขน แต่มันทั้งใหญ่ทั้งยาวเท่านั้น
“ เพี๊ยะ ” เจ้าหางนี่ทำเสียงเหมือนแส้หนัง มันพุ่งตรงมาที่หน้าของผมทันที
มันเร็วมาก จนผมคิดว่าอาจหลบไม่พ้น
ถ้าโดนเจ้านี่ละก็ หน้าคงต้องเสียโฉมแน่ๆ
ผมทำหน้าตกใจ รีบยกมือกันทันที
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆเหล่าเฟิงก็โผล่ออกมา พร้อมกับดาบ
หางหนูที่ยื่นออกมาอันนั้น “ ฉึบ ” โดนตัดเป็นสองท้อน พร้อมเลือดที่สาดกระจายเต็มพื้น
“ อ้า ! ” ปีศาจตนนั้นกรีดร้อง แล้วรีบดึงหางกลับทันที
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ ขอบใจเหล่าเฟิง ! ”
เฟิงเฉ่วหานกลับยิ้มให้ผม “ ระวังหน่อย ! ”
หลังจากพูดจบ เหล่าเฟิงก็พุ่งเข้าไปหาปีศาจอีกตัว
ขณะมองเหล่าเฟิง มุมปากผมก็ยกยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งเข้าไปอีกครั้ง……
ในขณะที่ทางฝั่งผมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เป็นตาย สู้อย่างไม่คิดชีวิต ในที่สุดทางด้านของอาจารย์และ
ปู่หูลิ่วก็เป็นฝ่ายชนะ
ตอนนี้ จู่ๆอาจารย์และท่านนักพรตตู๋ก็ร่วมมือกัน หันดาบไปทางบอร์ดี้การ์ดคนหนึ่ง
บอร์ดี้การ์ดคนนั้นหลบไม่ทัน แขนซ้ายของเขาเลยโดนดาบของท่านนักพรตตู๋ตัดจนขาด
ความเจ็บปวดจากแขนขาด ทำให้ร่างของบอร์ดี้การ์ดคนนั้นส่ายไปมา อาจารย์ไม่มีทางปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ผ่านไปแน่ เขาทำหน้าเข้ม แล้วเข้าไปแทงทันที
“ ฉึก ” เขาแทงทะลุหน้าอกของบอร์ดี้การ์ดคนนั้น
จากนั้นอาจารย์ก็ยกเท้าขึ้น ถีบเจ้าปีศาจตนนั้นให้กระเด็นออกไปทันที
เดิมทีการสู้สี่ต่อสี่นี้พวกอาจารย์ก็ได้เปรียบอยู่แล้ว ตอนนี้สถานการณ์กลับพลิกเป็นสามต่อสี่ ปีศาจชุดดำพวกนั้นเลยไม่ใช่คู่ต่อสู้เข้าไปใหญ่
ผลลัพธ์เพิ่งสู้ไปได้ไม่ถึงสิบกระบวนท่า แต่ละตัวก็ตายคาคมเขี้ยวของปู่หูลิ่วและยายหูชี
ยังไม่จบเท่านี้ บอร์ดี้การ์ดทางฝั่งนี้เพิ่งตาย ปู่หูลิ่วและยายหูชีก็พุ่งไปหาชายชุดดำคนนั้นทันที พวกเขาเตรียมช่วยพวกนักพรตหวังฆ่าชายชุดดำคนนี้
ส่วนอาจารย์และท่านนักพรตตู๋ ก็วิ่งมาทางพวกเรา เพื่อลดแรงกดดันให้พวกเราบ้าง
ตอนนี้ พวกเราทุกคนต่างเลือดตกยางออก หายใจหอบเหนื่อย
ถ้าไม่ได้เป็นเพราะพึ่งเตาเผายักษ์อันนั้น และร่วมกันสู้ ไหนเลยพวกเราจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าลูกสมุนปีศาจพวกนี้ได้
พวกมันใช้วิธีหมาหมู่ มากำจัดพวกเรา
แต่ตอนนี้มีพวกอาจารย์มาร่วมด้วย แรงกดดันของพวกเราเลยลดลงไม่น้อย
แต่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยังมีผู้นำชายชุดดำนั่นอีก
ถ้าไม่สามารถเอาชนะเจ้าคนที่โดนเรียกว่าท่านหลิงนั่นได้ ลูกสมุนพวกนี้ ก็ยังจะโจมตีพวกเราต่อไป
พวกเรายังตกอยู่ในอันตรายอยู่เหมือนเดิม
ถ้าเจ้าคนที่โดนเรียกว่าท่านหลิงนั่นตาย ไม่เพียงนักพรตหวังและนักพรตเฉินจะออกมาช่วยพวกเราได้
เจ้าลูกสมุนปีศาจพวกนี้ ก็จะเสียขวัญกำลังใจ แล้วสุดท้ายก็โดนพวกเราจัดการ
กลับกัน หากอีกฝ่ายเอาชนะนักพรตหวัง นักพรตเฉิน และพวกปู่หูลิ่วได้ พวกเราก็จะตกเป็นฝ่ายอนาถแทน
ดังนั้น สิ่งที่สำคัญยังยังอยู่กับทางฝั่งท่านนักพรตหวังและเจ้าชายชุดดำนั่น
หลังจากสู้กันอย่างดุเดือดประมาณสิบนาทีกว่าๆ บนตัวของทุกคนก็เต็มไปด้วยเลือด ขาของเหล่าฉินโดนกรงเล็บแทงเข้าไป ตอนนี้เลือดยังไหลไม่หยุด
แต่ตรงหน้าของพวกเรา กลับมีซากศพนอนเกลื่อนกว่ายี่สิบร่าง
แต่ทุกคนก็ไม่ได้อยู่ในสภาพดีเท่าไหร่ ต่างสู้กันสุดกำลัง ใช้พลังไปจำนวนมาก การเคลื่อนไหวและพละกำลังก็ลดลงอย่างมาก และเริ่มจะต้านไว้ไม่อยู่แล้ว
แต่ทันใดนั้นเอง การต่อสู้ของท่านนักพรตหวัง ท่านนักพรตเฉิน ปู่หูลิ่วและยายหูชีกับผู้นำชุดดำคนนั้น
กลับเห็นผลแพ้ชนะแล้ว
แต่ผลที่ได้ กลับทำให้พวกเราทุกคนไม่อยากยอมรับ
เพราะ ท่านนักพรตหวังและท่านนักพรตเฉินที่ดูมั่นอกมั่นใจ กลับเป็นฝ่ายแพ้
ชายชุดดำที่โดนพวกเขาสี่คนล้อมเอาไว้ เดิมทีก็ดูเสียเปรียบอยู่
แต่กลับไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จู่ๆชายชุดดำคนนั้นก็คำรามออกมา ทันใดนั้นบนหน้าผากของเขาก็มีรูป “ พระอาทิตย์และพระจันทร์ ” ปรากฎขึ้น
ต่อจากนั้น เจ้าผู้นำคนนั้นก็ระเบิดพลังที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนออกมา
ตะขอเหล็ก กวาดไปทางปู่หูลิ่วและยายหูชีทำให้พวกเขาต้องถอยออกไป ในเวลาเดียวกันก็ซัดฝ่ามือไปทางท่านนักพรตหวัง
นักพรตหวังหลบไม่ทัน ทั้งคนและดาบ โดนซัดกระเด็นออกมา เขากระอักเลือดออกมาคำใหญ่
และไม่อาจลุกขึ้นมายืนได้อีก
ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากโจมตีเสร็จ เจ้าผู้นำคนนั้นก็ยกเท้าถีบอีกครั้ง
เท้านั้นเตะเข้าที่ท้องของนักพรตเฉิน นักพรตเฉินกรีดร้องออกมาทันที และตัวเขาก็เหมือนโดนรถบรรทุกชนกระเด็น ร่างของเขาลอยเข้าไปในกองกล่องไม้ และลุกขึ้นมาไม่ได้อีกพักใหญ่
พอปู่หูลิ่วและยายหูชีเห็นแบบนั้น ก็ตกใจทันที
แค่สองกระบวนท่าก็เอาชนะผู้อาวุโสสำนักเหมาชานและอู่ตังได้แล้ว นี่มันพลังระดับไหนกัน
แม้ปู่หูลิ่วและยายหูชีจะร้ายกาจมาก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่เอาชนะระดับผู้อาวุโสได้ภายในครั้งเดียว
พวกเขาเองก็ไม่อาจรับมือได้ง่ายๆเช่นกัน
ผลลัพธ์ในระหว่างนั้น ปู่หูลิ่วและยายหูชี ไม่กล้าบุกเข้าไปข้างหน้าอีก
ผู้นำชุดดำคนนั้นกลับทำหน้าเย็นชา แล้วตะโกนออกมาว่า “ ยังมีใครอีกฮะ ? ”
เสียงเพิ่งเงียบลง เขาก็ทำตาขวางใส่ทุกคนทันที
และเมื่อสาวกทุกคนเห็นฉากนี้ ก็ทำตัวเหมือนกินยากระตุ้นอะไรบางอย่างเข้าไป แต่ละคนต่างตะโกนออกมาว่า “ ลื่อเย่หวนคืน สำนักเฉินกลับมาผงาด พันปีหมื่นปี ครองทั่วหล้า ! ”