หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 468 ช่วยเหลือ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 468 ช่วยเหลือ

ผมกดเปิดรายชื่อของเสี่ยวม่าน แล้วกดโทรออกทันที

ผ่านไปแค่แป๊บเดียว เสี่ยวม่านก็รับสาย

 

เพราะเป็นการข้อร้อง ดังนั้นพอสายเพิ่งถูกรับ ผมก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา “ เสี่ยว เสี่ยวม่าน…… ”

“ อือ ! ฉันเอง เป็นอะไรไป…เป่า ทำไมพูดอ้ำๆอึ้งๆแบบนั้น ? ” เสี่ยวม่านตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ

 

“ เอ่อ เอ่อคือฉันมีเรื่อง…… ”

“ มีเรื่องอะไรนายก็พูดมาซิ ! ” เสี่ยวม่านพูดต่อ

 

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นถึงเริ่มเปิดประเด็น “ เรื่องเป็นแบบนี้ ฉันอยากถามว่า เธอพอมีตำแหน่งงานอะไรว่างแถวนั้นบ้างไหม เอาแบบทำงานค่อนข้างเต็มเวลา ที่พักอยู่ห่างจากที่ทำงานไม่ไกล และมีเงินเดือนให้ก็พอแล้ว เป็นงานที่เหมาะกับผู้หญิงอะไรประเภทนั้น ”

 

ผมพูดรวดเดียว พอเสี่ยวม่านได้ยินแบบนั้น กลับ “ ฮะ ! ” ทำเสียงหัวเราะออกมา “ ทำไมฮึ…เป่า เดี๋ยวนี้นายคิดจะแนะนำงานให้สาวแล้วเหรอฮึ ? ”

 

พอได้ยินน้ำเสียงล้อเลียนของเสี่ยวม่าน ผมก็รู้สึกอึดอัดพอสมควร “ ไม่ใช่สาว แต่เป็นแม่คนที่มีลูกแล้ว ”

“ อะไรนะ ? แม่คน นายมีลูกแล้วเหรอ ? ” เสี่ยวม่านตกใจ

 

“ ไม่ไม่ไม่ ไม่ใช่ลูกฉัน เป็นแม่หม้ายคนหนึ่ง ไม่ไม่ เป็นลูกค้าของฉันคนหนึ่ง สามีของเธอเพิ่งเสีย ตอนนี้ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้…… ” พอรีบพูด ผมก็พูดผิดจนได้

 

พอเสี่ยวม่านได้ยินถึงตรงนี้ เธอถึงทำเสียง “ อ่อ ” ออกมา “ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ! งั้นนายรอฉันเดี๋ยวนะ…… ”

พอพูดถึงตรงนี้ ผมก็ได้ยินเสียงเคาะแป้นพิมพ์ “ แป๊กๆๆๆ ”

 

หลังผ่านไปพักหนึ่ง ผมก็ได้ยินเสียงเสี่ยวม่านพูดอีกครั้ง “ แถวนั้นฉันมีบริษัทขนส่งอยู่ นายให้เพื่อนนายไปทำงานที่นั้นก็ได้ ฉันจะอนุมัติให้เป็นพิเศษ ”

 

พอได้ยินคำว่า “ ขนส่ง ” สองคำนี้ ผมก็คิดถึงบริษัทหมิงโลจิสติกส์ขึ้นมาทันที

ดังนั้นเลยถามเพิ่มอีกหน่อย “ เสี่ยวม่าน บริษัทขนส่งที่เธอว่าชื่ออะไรเหรอ ? ”

 

“ ฮงหยูนโลจิสติกส์ไง ทำไมเหรอ ? ” เสี่ยวม่านถามกลับ

“ ไม่ไม่ไม่มีไร แค่เรื่องที่เจอเมื่อคืน เกี่ยวข้องกับบริษัทขนส่งพอดี เลยยังฝังใจอยู่ ! ” ผมพูดอย่างกระอักกระอ่วน

 

“ ไหนเล่ามาซิ เกิดอะไรขึ้น ? ตอนนี้ฉันก็ว่าง นายไปล่าผีมาอีกแล้วใช่ไหมละ ? ” เสี่ยวม่านดูตื่นเต้นหน่อยๆ

เพราะเป็นการขอร้อง ดังนั้นผมเลยเล่าเรื่องเมื่อคืนให้เธอฟังนิดหน่อย หลักๆจะเป็นจุดเริ่มและจุดจบ

 

แน่นอน พวกเรื่องสำนักลื่อเย่เฉิน ครึ่งคนครึ่งปีศาจอะไรพวกนั้นผมไม่ได้เล่าให้เธอฟัง

เพียงเล่าสั้นๆ พูดประมาณว่าสามีของลูกค้าผมโดนรถชนตาย

ตอนนี้พอตายแล้ว ครอบครัวก็ไม่มีรายได้อื่นอีก

 

ในเวลาเดียวกันผมก็หวังว่าทางเสี่ยวม่าน จะสามารถจัดการเรื่องงานให้คุณโจวได้

หลังฟังจบ เสี่ยวม่านก็ทำเสียง “ อือๆ ” สองครั้ง “ …เป่า นายนี่มันเป็นคนดีจริงๆ ! ตกลง ฉันจะช่วย 

ทางนั้นมีตำแหน่งผู้จัดการอยู่ คนปกติสามารถทำได้ แต่ฉันจะบอกเป็นการส่วนตัวนะ ฉันสามารถเพิ่มเงินเดือนให้เธอสองขั้นได้ และให้ประกันระดับห้า หากทำงานสิบปีขึ้นไป สามารถกู้เงินแบบไม่มีดอกได้ และส่วนลดที่พักของพวกพนักงาน ! ”

 

เสี่ยวม่านพูดรัวๆ พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็ดีใจสุดๆ

“ เยี่ยมไปเลยเสี่ยวม่าน แบบนี้ ฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้นหน่อย แต่เสี่ยวม่าน ฉันบอกเบอร์โทรกับเธอ 

แล้วเธอช่วยโทรไปบอกทางนั้นได้ไหมว่ารับสมัครพนักงาน หาเหตุผลอะไรก็ได้ ฉันกลัวว่าถ้าฉันโทรไปเอง อีกฝ่ายจะไม่ยอม…… ”

 

เสี่ยวม่านพูดด้วยรอยยิ้ม “ ได้ซิ ! นายพูดอะไรก็ได้หมดแหละ อีกเดี๋ยวนายส่งข้อมูลมาให้ฉัน แต่ฉันบอกไว้ก่อนนะ ถึงฉันจะเปิดไฟเขี้ยวแล้ว แต่ถ้าลูกค้าของนายทำงานไม่ดี ก็อาจโดนไล่ออกนะ ! ”

“ แน่นอน แน่นอน ” ผมยิ้ม

 

ส่วนเสี่ยวม่านก็คุยเล่นกับผมอีกพักหนึ่ง และผมก็ถามเธอว่าเจ้าโง่ที่ขับรถเฟอร์รารี่มากวนเธออีกหรือเปล่า

เสี่ยวม่านบอกว่าไม่ จากนั้นเราก็คุยกันอีกสองสามประโยค เพราะท้ายที่สุดเธอต้องไปประชุม เลยวางสายผม

 

ด้วยเหตุนี้ เรื่องของคุณโจวก็ถือว่าสิ้นสุดลง

เมื่อเป็นแบบนี้ ผมเลยไม่รู้สึกผิดถึงขนาดนั้นแล้ว หลังจากวางโทรศัพท์แล้ว ผมก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

พอตื่นมาอีกครั้ง ก็เป็นเช้าวันรุ่งขึ้นแล้ว

 

ผมอารมณ์ดีใช้ได้ และยังนั่งฝึกลมปราณอยู่พักหนึ่ง

ตอนนี้ผม สามารถฝึกวิชาเฟินเทียนกง ไปได้ 23 จุดแล้ว ยังเหลืออีก 15 จุด ผมก็จะฝึกขั้นต้าโจวเทียนเสร็จแล้ว จากนั้นก็จะได้เลื่อนไปฝึกขั้นโจวเทียนหยุนต่อ

 

เช้านี้ยังได้มาอีกจุดหนึ่ง ดังนั้นเลยอารมณ์ดีพอสมควร

พอเดินออกมาจากห้องก็เห็นอาจารย์กำลังดูข่าวอยู่พอดี เมื่อกวาดตามอง กลับพบว่าเนื้อหาของข่าวเกี่ยวกับบริษัทหมิงโลจิสติกส์ หรือสำนักลื่อเย่เฉิน

 

มันก็ดึงดูดความสนใจของผมทันที ผมได้ยินเพียงพิธีกรด้านในพูดว่า ตามข่าวที่เราได้รับ ตำรวจได้รับแจ้งความ ว่าบริษัทหมิงโลจิสติกส์ในเขตชานเมืองทางตะวันตกของเมืองเรา มีแก๊งค้ามนุษย์อยู่

 

หลังจากตำรวจเข้าไปตรวจสอบแล้ว กลับพบว่ามันเป็นเรื่องเท็จ

สถานที่คือบริษัทขนส่งขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง รับขนส่งอาหารทะเลแช่แข็งเป็นหลัก ไม่ใช่มนุษย์ 

ดังนั้นประชาชนทุกคน อย่างหลงเชื่อข่าวลือ

 

ด้านล่างเป็นเนื้อหาที่ตำรวจบุกจู่โจมเข้าไปตรวจสอบ……

พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็ค่อยๆขมวดคิ้ว

 

ทันใดนั้นเองผมก็เห็นภาพเปลี่ยนเป็นรูปบริษัทหมิงโลจิสติกส์ และในภาพนั้นยังมีคนอีกหลายคนที่ผมรู้จักอยู่ด้วย

พวกเขาก็คือคนที่ผมเจอเมื่อคืน ตอนที่พวกเรากำลังปีนกำแพงหนี พวกแก๊งครึ่งคนครึ่งปีศาจที่ไล่ตามพวกเรา

 

แต่เพียงชั่วพริบตาเดียว พวกเขาก็เปลี่ยนเป็นผู้นำบริษัท ท่าทางสุภาพอ่อนโยน และยังยอมให้สัมภาษณ์ด้วย

ไม่เพียงแค่นั้น เตาเผาที่อยู่ในโกดังก่อนหน้านี้ ก็ยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

โลงหลายสิบใบที่วางอยู่ข้างหลัง และยังมีผู้ที่เกิดปีหยินและเดือนหยินอีกหลายสิบคนในห้อง ก็เปลี่ยนไปหมด ทุกอย่างถูกเปลี่ยนเป็นอาหารทะเลแช่แข็ง

 

เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ผมก็ได้ยินเสียงอาจารย์พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ เจ้าพวกนั้น ไหวตัวเร็วจริงๆ เตาเผาใหญ่ขนาดนั้น ก็ยังย้ายได้ในเวลาสั้นๆ มีฝีมือจริงๆ ”

 

มันเป็นเหมือนที่อาจารย์ว่าไว้ในตอนแรก ถึงการแจ้งตำรวจจะไม่ได้ช่วยอะไร แต่มันก็สร้างความลำบากให้อีกฝ่ายไม่น้อย

เตาเผาใหญ่ขนาดนั้น ต้องโดนย้ายออกไปแล้วแน่ๆ

 

แบบนี้ อีกฝ่ายก็จะไม่หลอมโอสถโลหิตศพอะไรนั่นได้เร็วขนาดนั้นแล้ว อย่างน้อยมันก็ถือว่าได้โจมตีอีกฝ่ายทางอ้อม

 

แต่ตอนท้ายของรายการ เจ้าครึ่งคนครึ่งสัตว์ที่แกล้งทำเป็นผู้นำบริษัทก็พูกว่า “ บริษัทหมิงโลจิสติกส์ของเราใสสะอาดและปฏิบัติตามกฎหมาย แต่พวกเราไม่ปล่อยคนที่ใส่ร้ายพวกเราไปแน่นอน ต่อจากนี้ทางบริษัท

หมิงโลจิสติกส์ของเราจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อหาตัวคุณให้พบ จับคนที่ปล่อยข่าวลือมั่วๆขึ้นศาล และดำเนินคดีตามกฎหมาย ”

 

ตอนพูดถึงประโยคสุดท้าย เจ้าหมอนั้นยังชี้มาที่กล้อง

คนอื่นอาจดูไม่ออก แต่ผมกับอาจารย์ กลับเข้าใจความหมายแฝงที่อีกฝ่ายพูด

 

มันชัดเจนมาก พวกเขาอยากหาตัวพวกเรา อยากลงมือกับพวกเรา

พออาจารย์เห็นแบบนั้น ก็ปิดทีวีทันที “ เดรัจฉาน อยากจะตามหาพวกเรางั้นเหรอ ? ฝันไปเถอะ ! ”

ผมยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

 

หลังกินข้าวเช้าเสร็จ เราก็เริ่มใช้ชีวิตกันตามปกติ พอว่างแล้วก็ฝึกวิชาเฟินเทียนกง

สำหรับวิชาที่บรรพบุรุษทิ้งไว้วิชานี้ ผมลองคิดมาโดยตลอด ว่าถ้าฝึกเดินลมปราณเสร็จ ผมจะร้ายกาจขึ้นขนาดไหน

 

แต่ยังไม่ทันถึงวันถัดไป ไม่รอให้ผมได้เดินลมปราณครบทั้ง 38 จุด

หยางเฉ่วและฉู่ยเฉิงจิงก็ส่งข้อความมาบอกว่า อาจารย์ของพวกเธอได้รับข่าวแล้ว และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

 

ในเวลาเดียวกัน ก็ส่งผู้อาวุโสของสำนักออกมาดูลาดเลาแล้ว และยังบอกว่าบ่ายวันนี้ ก็จะมาหาผมที่

ตำบลชิงฉือของพวกเรา

พอได้ยินแบบนั้น ผมก็ค่อนข้างตกใจพอสมควร

 

ภายในสายงาน ผู้อาวุโสของสำนักใหญ่ทั้งสอง เดินทางมาเป็นพันลี้ เพื่อจะมาหาผมที่ตำบลชิงฉือด้วยตัวเอง มาคุยเรื่องนี้ให้กระจ่างจากผม เกียรติครั้งนี้ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ

 

แต่สิ่งที่ทำให้ผมคาดไม่ถึงคือ ผมกับอาจารย์ยังไม่ทันได้เจอผู้อาวุโสของสำนักอู่ตังและสำนักเหมาชาน 

เราก็ได้รับข้อความสั้นๆจากคนแปลกหน้า

 

ตอนผมอ่านข้อความข้างใน ในใจกลับมีเหงื่อตกอย่างช่วยไม่ได้

มันเป็นเพียงข้อความสั้นๆ ติงฝาน พวกเราจะหาพวกแกเจอในอีกไม่นาน เตรียมตัวรับการพิพากษาของ

ลื่อเย่ได้เลย !

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.