spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 426 ท่านเลี่ยฮั๋ว
จู่ๆแสงสีขาวก็ปรากฎขึ้น ทำให้ทุกคนในที่นี้อดตกใจไม่ได้
และในขณะที่แสงสีขาวปรากฎขึ้น ในอากาศก็มีพลังงานแปลกๆปรากฎขึ้น
พลังงานพวกนั้นดูเหมือนจะกดดันพวกภูติผีมาก ทำให้พวกมันถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มผีที่กระทบกับแสงสีขาว กรีดร้องโหยหวนออกมาทันที
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จู่ๆก็มีร่างคนปรากฎขึ้น
ร่างใครคนนั้นเพิ่งออกมาปรากฎตัว ก็มีเสียงทรงพลังของผู้ชายคนหนึ่งตามมาติดๆ
พอได้ยินเสียงนี้ ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ กึก ” เขา เขาคือใคร
แต่ไม่รอให้ผมได้ลงมือทำอะไร แสงสีขาวก็ค่อยๆจางหาย
ทันใดนั้นเองฉู่ยเฉิงจิงที่หายใจโรยรินอยู่ข้างๆผม ก็อ้าปากอย่างอ่อนแรง “ อา อาจารย์ ”
ผมอยู่ใกล้ฉู่ยเฉิงจิงมาก เลยได้ยินคำพูดของเธออย่างชัดเจน
ตอนผมได้ยินคำว่า “ อาจารย์ ” สองคำนี้ ผมก็อดสูดหายใจเข้าไม่ได้
อาจารย์ อาจารย์ของฉู่ยเฉิงจิงงั้นเหรอ
สามารถเป็นอาจารย์ของฉู่ยเฉิงจิงได้ ก็ต้องเป็นบิ๊กบอสในสำนักเหมาชานอย่างแน่นอน
ถึงจะไม่ใช่เจ้าสำนัก แต่ก็ต้องเป็นผู้อาวุโสคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
แต่เป็นถึงผู้อาวุโสสำนักเหมาที่สืบทอดกันมายาวนานถึงขนาดนี้ได้ งั้นระดับพลังก็ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
จู่ๆก็ออกมาปรากฎตัวตอนนี้ เลยทำให้ผมอดทำหน้าตกใจไม่ได้
แสงสีขาวค่อยๆหายไป ขณะเดียวกันตรงหน้าของพวกเรา กลับมีนักพรตใส่ชุดนักพรตสีน้ำเงินครามปรากฎตัวขึ้น
นักพรตเฒ่าอายุราวๆ 50 คิ้วคมเข้ม ตอนสมัยหนุ่มๆคงหล่อแน่ๆ
มือเขาถือแส้ขนหางจามรี ท่าทางเหมือนเซียนในเทพนิยายพอสมควร
“ ศิษย์ อาจารย์มาแล้ว อาจารย์จะไม่ปล่อยให้เดรัจฉานพวกนี้รังแกเจ้าอีก ” นักพรตเฒ่าพูดออกมาอย่างเย็นชา ขณะเดียวกันก็หันไปมองฉู่ยเฉิงจิงที่นอนอยู่บนพื้น
ฉู่ยเฉิงจิงพยักหน้าเล็กน้อย แต่เธอไม่มีแรงพูดต่อ และไม่อาจยืนขึ้นได้
และพวกผีที่อยู่รอบๆ ก็เปลี่ยนเป็นเงียบนิ่งขึ้นมา
ยึดตรงที่พวกเราอยู่เป็นหลัก ภายในระยะห้าเมตร ไม่มีภูติผีตนใดกล้าเข้ามาใกล้เลยสักตัว
แต่เราก็ยังโดนอีกฝ่ายล้อมเอาไว้ ทาสผีทุกตัวต่างจ้องพวกเราด้วยสายตาดุร้าย
จางจึเทาที่โดนคลื่นพลังโจมตีเมื่อก่อนหน้านี้ ก็โดนพวกทาสผีประคองเอาไว้
จางจึเทาทำหน้าไม่สบอารมณ์ รีบชี้หน้านักพรตเฒ่าคนนั้นทันที “ แกเป็นใครฮะ…… ”
เสียงเพิ่งเงียบลง นักพรตเฒ่าคนนั้นก็หันไปมองทันที จากนั้นก็สะบัดแส้ในมือ
“ ตูม ! ”
เหมือนมีสายลมปรากฎขึ้นกลางอากาศ มันพุ่งตรงไปปะทะกับร่างจางจึเทาทันที
จางจึเทายังไม่ทันรู้ตัว เสียงกรีดร้อง “ อ้า ” ก็ดังขึ้นแล้ว
หลังจากนั้นแม้แต่ทาสผีไม่กี่ตัวที่อยู่ข้างๆ ก็ยังล้มคว่ำ หรือแม้แต่มีทาสผีสองตัวที่รับพลังอันทรงพลังขนาดนี้ไม่ไหว จนวิญญาณแตกสลายในทันที
พอเห็นฉากแบบนี้ ผมก็มองตาค้างทันที
สุดยอด ! แข็ง แข็งแกร่งมาก สมกับที่เป็นผู้อาวุโสในสำนักเหมาซานจริงๆ
พอทาสผีที่อยู่ข้างๆเห็นฉากนี้ ก็กลัวนักพรตเฒ่าทันที แต่ละตัวต่างอดไม่ได้ที่ถอยออกไปหนึ่งก้าว
แต่ในเวลาเดียวกัน กลับมีเสียงเย็นชาดังขึ้นมาจากที่ห่างไกล “ ฉันก็คิดว่าใคร ! ที่แท้ก็ท่านเลี่ยฮั๋วมาเยือนนี่เอง ”
เสียงนี้ คือเสียงของกุ่ยซานหยวน
น้ำเสียงปนไปด้วยความดูถูก และเสียงเพิ่งเงียบลง กลุ่มผีตรงหน้าพวกเรา ก็แยกย้ายเปิดทางเส้นหนึ่ง หลังจากนั้นเราก็เห็นกุ่ยซานหยวนและยังมียัยป้าคนสวย ค่อยๆเดินเข้ามาตรงที่พวกเราอยู่
ความเจ็บปวดบนตัวผมยากที่จะอดกลั้น แขนขาบาดเจ็บทั้งคู่ แต่ในเวลานี้กลับยังกัดฟัน และค่อยๆลุกขึ้นมา
เพียงแค่ตอนลุกขึ้นมาแล้ว ผมกลับหายใจหอบเหนื่อย ตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว
นอกจากบาดเจ็บแล้ว พลังที่เหลือในตัวผม ก็ทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เพิ่งลุกขึ้นยืน อาจารย์ของฉู่ยเฉิงจิง ท่านเลี่ยฮั๋วก็หันไปมองกุ่ยซานหยวนและยัยป้าคนสวย
ดวงตาคมกริบของเขาหลี่ลง พร้อมพูดออกมาว่า “ กุ่ยซานหยวน ที่แท้ก็เป็นแก ”
“ ฮ่าๆๆๆ ! ใช่ข้าเอง นักพรตเลี่ยฮั๋ว ลูกศิษย์ของแกหาเรื่องเอง ไม่มีอะไรก็มาถิ่นของข้า ข้าเลยสั่งสอนแทนเจ้าไง ” หลังจากพูดจบ กุ่ยซานหยวนยังยกมือขึ้นอย่างหยิ่งผยอง
พอท่านเลี่ยฮั๋วได้ยินแบบนั้น ก็โมโหขึ้นมาทันที “ ศิษย์ของข้า ไม่ใช่คนที่เจ้าคิดจะสั่งสอนก็สั่งสอนได้ ! ”
เสียงเพิ่งเงียบลง ท่านเลี่ยฮั๋วก็ตัวสั่นไปทั้งตัว เขาปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมาทันที
คลื่นพลังที่มหาศาลนั่นไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนอื่นรู้สึกแสบร้อนผิดปกติ
ในเวลาเดียวกัน ท่านเลี่ยฮั๋วก็ไม่คิดจะยืนอยู่เฉยต่อเลยสักนวินาที เขายกแส้ในมือขึ้น แล้วพุ่งเขาไปจัดการ
กุ่ยซานหยวนทันที
กุ่ยซานหยวนทำหน้าไม่แยแส ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ นักพรตเลี่ยฮั๋ว ที่นี่คือถิ่นของข้า เจ้ามาคนเดียวมันไม่มีประโยชน์หรอกนะ ”
หลังจากพูดจบ กุ่ยซานหยวนก็ดึงหน้าลง กางมือออก ทันใดนั้นเองไม้เท้าประหลาดก็ออกมาปรากฎในมือของเขา
ส่วนปลายไม้เท้าเป็นรูปตะขอ เหมือนกับพระจันทร์เสี้ยว
พอไม้เท้าอันนี้ปรากฎขึ้น กุ่ยซานหยวนก็เอาเจ้าสิ่งนี้มาสู้กับท่านเลี่ยฮั๋ว
ไม่เพียงเท่านั้น ยัยป้าคนสวยที่อยู่ข้างๆก็เป็นเหมือนกัน เธอเองก็เอาไม้เท้ามาสู้กับท่านเลี่ยฮั๋ว
ทันใดนั้น พลังหยินอันเข้มข้นก็แพร่ซ่าน ทั้งสามคนเพิ่งเจอหน้าก็เริ่มสู้กันแล้ว
นี่คือร่างของกุ่ยซานหยวน ไม่ใช่ร่างวิญญาณ และไม่ใช่ศพแทนที่
พลังของกุ่ยซานหยวนเลยเพิ่มขึ้นได้ถึงจุดสูงสุด คลื่นพลังหยินที่ทรงพลังขนาดนั้น ดูรุนแรงผิดปกติ
ยัยป้าคนสวยเองก็ร้ายกาจ พลังหยินเข้มข้น ร่วมมือกับกุ่ยซานหยวนโจมตีท่านเลี่ยฮั๋วทั้งทางซ้ายขวา
ท่านเลี่ยฮั๋วไม่ได้กลัวง่ายๆ แส้ในมือระเบิดความร้อนออกมาไม่หยุด
ถึงจะเป็นร่างวิญญาณ แต่ก็สามารถสู้กับศัตรูหนึ่งต่อสอง
ห่างออกไป จางจึเทาที่โดนท่านเลี่ยฮั๋วซัดออกไปก่อนหน้านี้ ก็รีบลุกขึ้นมา
แต่เจ้าหมอนี่น่าจะบาดเจ็บหนัก วิญญาณเลยเริ่มไม่ค่อยเสถียร
แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ท่าทางดูจะโมโหสุดๆ เขาผลักสาวกสองคนที่ประคองเขาออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโมโหเสียงดังลั่น “ ไม่ต้องมาสนใจฉัน ไป ฆ่าเจ้าติงฝานกับยัยผู้หญิงคนนั้นให้ตาย จับวิญญาณของพวกมัน มาทำเป็นทาส…… ”
พอสาวกสองคนที่อยู่ข้างๆได้ยินคำพูดนี้ ก็รีบทำมือคำนับทันที “ ครับนายน้อย ! ”
หลังจากพูดจบ สาวกสองคนนั้นก็โบกมือ
ทันใดนั้น พวกผีที่ยืนล้อมพวกเราอยู่เฉยๆ ก็เหมือนได้รับคำสั่ง แต่ละตัวต่างคำรามออกมา ยกกรงเล็บขึ้นและแยกเขี้ยวออกมา แล้วพุ่งเข้ามาหาพวกเราอีกครั้ง
ถึงผมจะตัวสั่น แต่ผมก็ยังกำดาบไม้เอาไว้แน่น
ตอนนี้พอเห็นพวกผีร้ายพุ่งเข้ามา ผมก็กลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง เตรียมตัวสังหารศัตรูต่อ
วันนี้ผมตัดสินใจแล้ว ตอนนี้ผมมีความคิดอยู่หนึ่งอย่าง ฆ่าได้หนึ่งตัวคือหนึ่งตัว ถ้าฆ่าได้อีกก็เพิ่มอีก
ถึงผมจะตาย แต่วันข้างหน้าต้องมีคนมาแก้แค้นให้ผมอย่างแน่นอน
ผมจับดาบไม้แน่น พร้อมรับมือตลอดเวลา
ผีพวกนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และในเวลาเดียวกัน จู่ๆผีสามตัวก็กระโดดขึ้น พร้อมคำรามออกมา
“ โฮก ! ”
ในเวลาเดียวกัน ก็กางกรงเล็บมาตรงคอผม เป็นอะไรที่เร็วสุดๆ
พอเห็นแบบนั้น ผมก็ขมวดคิ้ว ยกดาบกันเอาไว้ทันที
แต่ไม่รอให้ผมลงมือ จู่ๆด้านหลังผมก็มีลมหนาวที่รุนแรงพัดเข้ามา
ต่อจากนั้น เสียง ฮึ ของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น
ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น คลื่นพลังหยินที่มองไม่เห็นก็กวาดเข้ามา ไม่รอให้กรงเล็บของผีพวกนั้นลงมาถึงตัวผม
“ ปัง ” ทาสผีกลางอากาศทั้งสามตัวนั้น ระเบิดเป็นจุล วิญญาณแตกสลาย กลายเป็นแสงทันที
พอเห็นแบบนั้น ผมก็กลับมาเกร็งอีกครั้ง นี่มัน…
ผมหันไปมองทันที แต่พอหันไป ผมกลับพบร่างคนจำนวนมาก กำลังลอยสูงอยู่เหนือหัวตรงพระจันทร์ที่สุกสว่าง
และคนที่ลงมือเมื่อกี้ ก็คือผู้หญิงชุดขาวที่ดูมีเสน่ห์ยิ่งกว่าใครเพื่อน
เธอไม่ใช่ใครอื่น เธอก็คือเมียผีขี้โมโหของผม มู่หลงเหยียน