spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 416 ฟันหิน
ทุกคนคิดว่าหินก่อนนี้ไม่มีทางโดนตัดได้ง่ายๆ ถึงมันจะก้อนเล็กแบบนี้ แต่มันก็หนักมาก จะสามารถเดาได้ว่ามันหนาขนาดไหน
แต่เหล่าเฟิงกลับไม่พูดอะไรสักคำ เพียงเล็งดาบไปที่หินลี่ลั่ว
จากนั้นก็ง้างขึ้น แล้วฟังลงไปตรงๆ
ระหว่างประกายไฟเปล่งแสงขึ้น เสียง “ ปัง ” ของการปะทะก็ดังขึ้น
ส่วนหินลี่ลั่วอันนั้น ยังคงมีสภาพเหมือนเดิม
แต่คมดาบจักรพรรดิของเหล่าเฟิง กลับโดนกระแทกจนเป็นรอยบิ่น……
พอเห็นภาพนี้ เจ้าสาวกผอมดำคนนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา “ ท่านนักพรต มันไม่ได้ผลหรอก ”
“ เฟิงเฉ่วหาน เจ้าหินนี่แข็งเกินไป พวกเรารีบไปกันเถอะ ! เดี๋ยวเราจะไม่มีเวลาแล้วนะ ” ฉู่ยเฉิงจิงเองก็ช่วยพูด
แต่ผมกลับไม่เข้าใจเหล่าเฟิง เหล่าเฟิงเองก็ไม่ใช่คนบ้าบิ่น กลับกันยังเป็นผู้ชายที่รอบคอบและระมัดระวังอยู่เสมอด้วย
เรื่องที่เขาตัดสินใจทำ ย่อมต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน
หลังจากล้มเหลวครั้งนี้ ผมไม่ได้กล่อมเหล่าเฟิงตั้งแต่วินาทีแรก
เพียงมองไปที่หินลี่ลั่วก้อนนั้นอย่างละเอียด และตำแหน่งที่เหล่าเฟิงเพิ่งฟันลงไปเมื่อกี้
ผลลัพธ์ในเสี้ยววินาทีต่อมา ผมกลับตกใจในทันที
ตรงที่เหล่าเฟิงฟัน เป็นส่วนที่ยื่นออกมาเล็กน้อยของหินลี่ลั่ว และตรงมุมเล็กๆที่เชื่อมกับตัวหิน เหมือนจะมีรอยร้าวเกิดขึ้นแล้ว
ดูเหมือนมันจะเป็นรอยแตกจากด้านใน และยังเหมือนมีของสกปรกบางอย่างอยู่
หรือจะพูดอีกอย่างว่า เจ้าส่วนที่ยื่นออกมาจากหินลี่ลั่ว น่าจะมีหินบริสุทธ์เหมือนตัวหินหลัก
เนื่องจากมันไม่บริสุทธิ์ ความแข็งและความหนาของมัน เลยไม่เหมือนกัน
ดังนั้นเหล่าเฟิงเลยอยากลองดูสักพัก เขาเองก็น่าจะรู้เรื่องความเชื่อมโยงนี้
เพิ่งคิดถึงตรงนี้ เหล่าเฟิงก็เริ่มฟันครั้งที่สอง ครั้งที่สาม
เจ้าผอมดำยังคงทำหน้าลำบากใจ หวังให้เหล่าเฟิงเลิกฟันลงไปสักที
นี่ไม่ได้เป็นเพราะกลัวว่าของสิ่งนี้จะหายไป แต่เป็นเพราะเขากลัวตายต่างหาก
หากพวกเราโดนสาวกคนอื่นจับได้ เขาต้องกลายเป็นโล่ของพวกเราอย่างแน่นอน และคนที่ต้องตายเป็นคนแรกไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นตัวเขาเอง
ดังนั้นเจ้าสาวกผอมดำคนนี้ เลยอยากให้พวกเราออกไปจากที่นี่เร็วๆ แบบนั้น เขาถึงมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าเดิม
แม้ว่าหินลี่ลั่วจะหายไปจากมือของเขา เขาก็สามารถหาวิธีรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้ โลกกว้างใหญ่
ย่อมต้องมีสถานที่ที่เขาจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้อย่างแน่นอน
ฉู่ยเฉิงจิงคำนวณเวลาตลอด เธอมองเวลาที่ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ
แต่เหล่าเฟิงยังคงฟันหินก้อนนั้นต่อไป ทำอะไรที่มันทำให้ต้องเสียแรงไปเปล่าๆ เธอเลยรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นเลยสักนิด
เนื่องจากเป้าหมายที่เรามาในวันนี้คือน้ำลี่ลั่ว ตอนนี้เป้าหมายก็สำเร็จแล้ว
จะเอาหินลี่ลั่วไปได้ไหม มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
“ ปังปัง ” เสียงยังคงดังขึ้นอีกหลายครั้ง ฉู่ยเฉิงจิงทนไม่ไหวอีกต่อไป “ เฟิงเฉ่วหาน ถ้านายดื้อแบบนี้ต่อไป
จะทำให้ทุกคนตายได้นะ พวกเราควรออกไปได้แล้ว ”
แต่เหล่าเฟิงยังเป็นเหมือนเดิม เขาไม่เพียงไม่พูด แต่ยังไม่หันไปมองฉู่ยเฉิงจิงเลยสักนิด
แต่ดวงตาของผมกลับเปล่งประกาย เอื้อมมือออกไปห้ามฉู่ยเฉิงจิง “ อย่าเพิ่งรีบ ใกล้จะสำเร็จแล้ว ”
“ สำเร็จ ? อะไรสำเร็จ ? เจ้าหินนั้นจะแตกออกมาจริงๆเหรอ ? ” ฉู่ยเฉิงจิงเลิ่กลั่ก จากนั้นก็เข้ามาดูเหมือนกัน
เจ้าสาวกผอมดำที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับทำหน้าอึดอัดใจ “ ท่านนักพรต ข้าไม่ได้ดูถูกท่านนะ แต่ถ้าท่านฟันหินลี่ลั่วก้อนนี้แตกได้จริงๆ งั้นข้าน้อยก็คงกลืนหินลี่ลั่วก้อนนี้ลงไปได้ทั้งก้อนแล้ว…… ”
ในสายตาของเจ้าสาวกคนนี้ เจ้าของสิ่งนี้แข็งยิ่งกว่าเหล็กซะอีก
อย่าว่าแต่ทำให้แตกเลย ถึงจะทำให้เกิดรอยข่วน มันก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาถึงได้กล้าพูดแบบนั้น
ผลลัพธ์เสียงของเจ้าหมอนี่เพิ่งเงียบลง เหล่าเฟิงก็ตวัดดาบลงไปที่รอยแตกนั้นอย่างเต็มแรง
“ ปัก ” หินที่นูนออกมาจากหินลี่ลั่วก้อนนั้น โดนฟันขาดในทันที มันล่วงลงสู่พื้น “ ปึกๆ ”
เมื่อกี้เจ้าสาวกผอมดำยังทำหน้าไม่แยแส แต่พอเห็นมุมของหินลี่ลั่วแตกออกมาจริงๆ “ พรึบ ” สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที ในแววตาเขียนคำว่าไม่อยากเชื่อเอาไว้เต็มๆ อ้าปากค้าง เผยสีหน้าตกตะลึง
เหล่าเฟิงสูดหายใจ เอื้อมมือไปหยิบมุมหินลี่ลั่วที่มีขนาดเท่าหัวแม่มือขึ้นมา
หลังจากมองมันสองสามรอบ เขาก็หันไปมองทางเจ้าสาวกผอมดำ “ เจ้านี่แข็งจริงๆ กินเข้าไปคงย่อยไม่ได้ง่ายๆ ”
น้ำเสียงของเหล่าเฟิงเย็นชามาก แต่เขากลับทำให้เจ้าผอมดำคนนั้นพูดไม่ออกในทันที หน้าเหวอยิ่งกว่าอะไรดี
“ เฟิงเฉ่วหาน นายนี่มันหัวดื้อจริงๆ ” ฉู่ยเฉิงจิงเองก็อดชมเขาไม่ได้
ส่วนเจ้าผอมนั่นกลับกลืนน้ำลาย แล้วฝืนยิ้มออกมาอีกครั้ง “ แฮะๆๆ ล้อเล่น ล้อเล่น ถึงจะเป็นมุมเล็กๆของหินลี่ลั่ว แต่มันก็ถือว่ามีประโยชน์มากนะครับ ถ้างั้นเรารีบออกไปกันเถอะ ! ไม่อย่างงั้นจะออกไปไม่ได้แล้ว ”
เจ้าผอมไม่สนใจเลยสักนิกว่าพวกเราเอาของอะไรไปได้ เขาเพียงแค่อยากส่งพวกเราออกไปเร็วๆ รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้เท่านั้น
ตอนนี้ พวกเราเองก็ไม่ได้คิดจะอยู่ต่อ เลยหมุนตัวแล้วกำลังจะเดินออกไป
แต่ในเวลานี้ เหล่าเฟิงกลับยื่นหินลี่ลั่วมาทางผม “ เจ้านี่ ฉันให้นาย ”
“ ให้ฉัน ? ” ผมตกใจเล็กน้อย
มันมาจากความพยายามของเหล่าเฟิง กว่าจะทุบมันออกมาได้ แม้แต่ดาบจักรพรรดิหลายหมื่นหยวนของเขาก็ยังพังไปด้วย
เหล่าเฟิงกลับพยักหน้ารับ แล้วพูดอย่างไม่แยแส “ ถึงฉันจะไม่รู้ว่านายเอาไปทำไม ! แต่ฉันรู้ว่านายต้องการใช้เจ้าสิ่งนี้แน่ ”
เหล่าเฟิงไม่ได้ใช้น้ำเสียงใดๆ เขายังคงเย็นชาเหมือนเคย
แต่ดวงตาคู่นั้นของเขากลับบอกผมว่า เขาจริงใจจริงๆ
ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจ และซึ้งใจด้วย
นี่คือมุมเล็กๆของหินลี่ลั่ว แม้มันจะไม่ใหญ่เว่อร์อะไร
แต่ก็เป็นหินลี่ลั่วของแท้ สำหรับมู่หลงเหยียน มันต้องมีประโยชน์มากแน่ๆ
ผมเองก็ไม่ได้บอกปัดเหล่าเฟิง เพียงเอื้อมมือไปรับไว้ “ ขอบใจนะเหล่าเฟิง ”
เหล่าเฟิงกลับยกยิ้มที่มุมปาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
เหล่าเฟิงก็เป็นแบบนี้ คนโหดมักพูดอะไรไม่เยอะ แต่เหล่าเฟิงต้องเป็นสหายที่ดี และเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์อย่างแน่นอน
ตั้งแต่ที่เราสองคนรู้จักกัน ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันหลายครั้ง พวกเราก็กลายเป็นพี่น้องต่างแซ่กันนานแล้ว
เราไม่ได้ไร้สาระพูดชมดีอย่างโน้นอย่างนี้ หรือทำอะไรที่น่าขนลุก ทุกอย่างล้วนอยู่ในใจพวกเราทั้งนั้น
ผมเก็บหินลี่ลั่วให้เรียบร้อย จากนั้นก็เริ่มออกไปจากที่นี่ทันที
ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม เจ้าผอมนั่นเป็นคนนำ พวกเราออกมาจากชั้นสามได้อย่างราบรื่น จนผ่านมาถึงชั้นสอง
แต่พอมาถึงชั้นแรก เวลากลืนจันทรากลับหมดลง
ตอนนี้ ด้านหน้าได้มีพวกผีร้ายและผีดิบที่ออกไปดูดกลืนพลังจันทรา เริ่มกลับเข้ามาในถ้ำแล้ว
เสียงเริ่มดังขึ้น กลุ่มผีเองก็เริ่มทยอยกลับมา
พวกเราค่อนข้างร้อนรน แต่ก็ได้แต่เร่งความเร็วขึ้นเท่านั้น
แต่เมื่อมาถึงปากทาง กำลังเตรียมตัวจะออกไป เราก็เจอกับพวกสาวกสองสามคนที่กลับมาก่อน
เห็นได้ชัดว่าสาวกไม่กี่คนนี้รู้จักเจ้าผอมที่เป็นคนนำทางของพวกเรา เพิ่งเจอหน้าเขา เจ้าพวกนั้นก็ทำมือคำนับเจ้าหมอนี่ทันที “ ท่านหัวหน้าคง จะไปไหนเหรอครับ ? ”
เจ้าผอมดำที่โดนเรียกว่าหัวหน้าคงฝืนยิ้มออกมา เขาอยากจะตอบกลับ
แต่ทันใดนั้นผมก็เดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ใช้มือจับหลังเขาเอาไว้ ไม่อย่างงั้นเขาอาจพูดจาอะไรไม่ดีออกไป
เจ้าผอมดำโดนสกัดพลังเอาไว้ ตอนนี้รับรู้ได้ถึงการคุกคามที่อยู่ข้างหลัง สีหน้าเลยเปลี่ยนไปเล็กน้อยต่อจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ ไม่ ไม่ได้ไปไหน ก็แค่จะออกไปเดินเล่นแค่นั้น ”
“ อือใช่ หัวหน้าคง เมื่อกี้ตอนพวกเราออกมา ยามผีสองตัวที่เฝ้าประตูอยู่ได้หายตัวไป นายน้อยเลยถามขึ้นมา ” สาวกคนนึงพูด
พอได้ยินคำพูดนี้ ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ กึก ” ยามผีสองตัวนั้นโดนพวกเราฆ่าไปแล้ว วิญญาณก็แตกสลายไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
พอเจ้าผอมดำได้ยินคำพูดนี้ ก็กวาดตามองผมตามสัญชาตญาณ ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทันที
จากนั้นเลยพูดออกมาว่า “ อ่อ ! โดน โดนฉันย้ายออกไป อีกเดี๋ยวจะส่งผีตนใหม่มาแทน ”
“ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ อ่อใช่แล้วหัวหน้าคง เจ้าพวกนี้คือใครเหรอ ? ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ”
สาวกคนนึงถามขึ้น
“ พวกเขา พวกเขาเพิ่งมาใหม่ ใช่เพิ่งมาใหม่ เพราะนายน้อยเชื่อใจข้า ดังนั้นก็เลยให้ข้าเป็นดูแลพวกเขาก่อน ” เจ้าผอมพูดต่อ
“ ใช่ใช่ หัวหน้าคงมีนายน้อยหนุนหลัง ต่อไปเป็นใหญ่เป็นโตแล้ว อย่าลืมพวกเรานะ ”
“ เฮอะๆๆ วางใจเถอะ…… ”
เจ้าผอมเพิ่งพูดถึงตรงนี้ พวกเราออกแรงที่มือสองสามครั้ง ส่งสัญญาณเจ้าหมอนี่เลิกพูดมาก ถ้ายังไม่พาพวกเราออกไปอีก คนกลุ่มใหญ่ก็จะกลับมาแล้วนะ
เจ้าผอมย่อมเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร เลยไม่รอให้คนพวกนั้นตอบกลับ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปแล้วพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ เอาละ พวกนายกลับไปก่อนเถอะ ! ฉันจะออกไปเดินรอบๆหน่อย ”
สาวกพวกนั้นเห็นเจ้าผอมพูดแบบนั้น ก็เลยไม่กล้าพูดไร้สาระต่อ แต่ละคนต่างทำมือคำนับเขา
ในเวลาเดียวกัน พวกเราก็เดินต่อไปข้างหน้า ออกจากถ้ำหิน เข้ามายังป่าเล็กๆที่อยู่ข้างๆ
ตอนนี้ คนกลุ่มใหญ่กลับเข้าไปในถ้ำแล้ว
ส่วนพวกเรา กลับแอบอยู่ที่ทางเล็กๆมืดๆทางด้านข้าง เพื่ออ้อมไปยังทางออกให้ได้เร็วที่สุด
และการมาของพวกเราในครั้งนี้ ไม่เรียกว่าโชคร้ายไปซะทีเดียว ไม่เพียงได้ของล้ำค่ามา ระหว่างทางยังได้เจอกับเจ้าผอมคนนี้อีกด้วย
ส่วนเจ้าหมอนี่ ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดา ในที่นี่ เขามีสถานะและสิทธิพิเศษไม่น้อย
ไม่อย่างงั้นแค่ชั้นสามเพียงชั้นเดียวนั้น พวกเราคงเข้าไปไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงได้น้ำลี่ลั่ว หรือหินลี่ลั่วมาเลย
ตอนนี้มีเจ้าผอมเป็นคนนำทาง พวกเราเลยไม่คิดจะกลับไปทางเดิม
เพราะมันอันตรายเกินไป และช้าเกินไป อาจโดนจับได้ง่ายๆ
ขอแค่มีเจ้าหมอนี่อยู่ พวกเราต้องสามารถเดินออกไปทางประตู และออกจากใจกลางหุบเขาแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน
พอถึงตอนนั้น พวกเราก็จะหนีออกไปจากเขาเขี้ยวหมาป่า พร้อมกับหินลี่ลั่ว โดยที่ไม่มีใครรู้
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นไปตามที่พวกเราคิดเอาไว้ตลอด
แต่ตอนที่พวกเรามาถึงจุดตรวจ กำลังจะได้เดินออกไปทางประตู และได้เดินออกไปจากหุบเขาแห่งนี้
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น……