spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 413 จับตัว
พวกเราซ่อนอยู่ที่นี่มานานมาก ในที่สุดก็ได้ยินข้อมูลที่มีประโยชน์
แต่ฟังจากคำพูดของพวกเขา ทีซ่อนหินลี่ลั่ว ดูท่าจะอยู่ที่ในชั้นสามของถ้ำนี้
และตำแหน่งของพวกเราในตอนนี้ ก็น่าจะเป็นชั้นสอง
หรือพูดได้ว่า ของสิ่งนั้น อยู่ข้างใต้พวกเรา
แม้จะอยู่ที่อยู่เฉพาะแล้ว แต่เจ้าผอมดำก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจน
หินลี่ลั่วนั่นได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา และเข้มงวด หากพวกเราคิดจะไปเอาหินลี่ลั่วมา คงไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น
หันกลับไปมองทางจางจึเทาอีกครั้ง หลังจากจางจึเทาพูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไปทันที
แต่เจ้าสมุนผอมดำนั่น กลับพูดกับจางจึเทาอีกรอบ “ นายน้อย ถ้าท่านไม่วางใจ ข้าน้อยจะลงไปตรวจอีกรอบ ในเวลาเดียวกันก็จะเสริมการป้องกันให้มากกว่าเดิม ”
พอจางจึเทาฟังจบ เขาก็พยักหน้าเบาๆ “ แบบนั้นก็ดี ระวังเอาไว้ก่อนดีกว่า ”
ขณะพูด จางจึเทาก็ไม่ได้สนใจเจ้าสมุนผอมดำคนนั้น เขาพาพวกที่เหลือ และวิญญาณพวกนั้น เดินออกไปจากที่นี่
เจ้าสมุนผอมดำทำตัวเป็นเต่าหดหัว “ น้อมส่งนายน้อย…… ”
ขณะพูด เขายังฉีกยิ้มเอาใจอีกด้วย
แต่หลังจากจางจึเทาออกไปจากถ้ำจริงๆแล้ว เจ้าสมุนผอมดำคนนั้นกลับเปลี่ยนท่าทีทันที “ แม่งเอ้ย !
มันก็แค่ได้เป็นลูกบุญธรรมของเขา ! วันๆเอาแต่วางอำนาจ นายน้อยแม่งมึงซิ ไปเป็นนายน้อยที่ร้าน
คาราโอเกะยังพอว่า รอให้กูได้เลื่อนตำแหน่งก่อนเถอะ จะทำให้มึงได้เห็นดีแน่ ! รอให้กูสูบบุหรี่เสร็จมวลนี้ กูก็จะกลับไปนอนแล้ว ไม่ได้ตรวจกะผีนั่นหรอก ”
หลังจากพูดจบ เจ้าสมุนผอมดำก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ หรือแม้แต่หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟตามอำเภอใจ
ขณะมองเจ้าสมุนผอมดำคนนั้น มุมปากของพวกเราก็อดยกยิ้มอย่างเย็นชาไม่ได้
เจ้าหมอนี่เปลี่ยนหน้าได้เร็วกว่าพลิกหน้าหนังสือซะอีก ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังก็อีกอย่าง
แต่คำพูดของเขากลับบอกข้อมูลให้พวกเราไม่น้อย จางจึเทาเป็นลูกบุญธรรมของใครสักคน ดังนั้นเลยโดยเรียกว่า “ นายน้อย ” แต่พ่อบุญธรรมของจางจึเทาคือใคร ถึงได้ทำให้พออยู่ต่อหน้าสาวกพวกนี้แล้ว
เขาถึงมีคำเรียกว่า “ นายน้อย ”
และก่อนหน้านี้ผมก็สงสัยว่า จางจึเทาเพิ่งเข้ามาในองค์กรตาผีได้ไม่นาน เป็นแค่สมาชิกใหม่คนหนึ่ง
แต่ทำไมถึงกลายเป็นหัวหน้าคนอื่นไปได้แล้ว
ตอนนี้ดูเหมือน เบื้องหลังของจางจึเทา จะมีอำนาจเยอะพอสมควร
ถึงจะไม่เข้าใจ แต่ผมก็มีแผนในใจอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยากจะจับตัวศัตรูมาหาข้อมูลเหรอ เจ้าหมอนี่ที่อยู่ตรงหน้า ก็เหมาะสมดีไม่ใช่เหรอ
ขอแค่จับเจ้าหมอนี่ได้ ไม่เพียงจะได้ล้วงข้อมูลของเจ้าจางจึเทา แต่เราจะได้รู้ที่ตั้งหินลี่ลั่วอย่างชัดเจน
หรือแม้แต่สามารถขู่เจ้าหมอนี่ ให้มันพาพวกเราไปหาหินลี่ลั่วได้อีกด้วย
พอคิดถึงตรงนี้แล้ว ผมก็พูดกับพวกเพื่อนๆว่า “ ตอนนี้เป็นโอกาสดี ขอแค่เราจับเจ้าหมอนี่ได้ เราก็จะได้รู้ตำแหน่งที่ชัดเจนของหินลี่ลั่ว ดังนั้น ชั้นต่อไปต้องรบกวนเสี่ยวเหมยแล้ว ”
หลังจากพูดจบ ผมก็หันไปทางเสี่ยวเหมย
ภายใต้ความช่วยเหลือของยันต์ปิดลมหายใจ แม้แต่ผีก็ยังสัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นอายและไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวของเสี่ยวเหมย
ให้เสี่ยวเหมยออกไปลอบโจมตีเจ้าหมอนั้น ผมว่ามันเหมาะสมที่สุดแล้ว
หลังฟังผมพูดจบ เสี่ยวเหมยก็ไม่ลังเลเลยสักนิด
เธอดึงหน้าลง เปลี่ยนร่าง กลับมาเป็นร่างดั่งเดิมของเธอ จิ้งจอกน้อยตัวหนึ่ง
เสี่ยวเหมยที่เปลี่ยนเป็นจิ้งจอกน้อยแล้ว มีการเคลื่อนไหวที่เร็วจนผิดปกติ หรือแม้แต่ไม่มีเสียงเลยสักนิด
ราวกับผีไม่มีผิด
เธอพุ่งออกไปจากตำแหน่งที่พวกเราซ่อนตัวอยู่ หลังจากนั้นก็ใช้เงามือที่อยู่ข้างๆ แอบเข้าไปใกล้เจ้าสมุนผอมดำ
เจ้าสมุนผอมดำกำลังสูบบุหรี่อยู่ ปากของมันบ่นพึมพำด้วยความโมโห ไม่รู้เลยสักนิดว่าเสี่ยวเหมยกำลังเข้าไปใกล้ตัวมันแล้ว
พวกเราทุกคนกลั้นหายใจ ลุ้นขอให้เสี่ยวเหมยจะทำสำเร็จ
ผ่านไปไม่นาน เสี่ยวเหมยก็มาปรากฎตัวที่เงามืดข้างหลังเจ้าสาวกชั่วแล้ว
เจ้าสาวกชั่วกำลังพ่นควันบุหรี่ออกมา จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ แม่งเอ้ย ! ถ้าไม่ได้เป็นเพราะชีวิตอมตะ
กูก็ไม่เข้าร่วมองค์กรตาผีบ้าบออะไรนี่หรอก แต่ละวันต้องเอาแต่หมกตัวอยู่ในหุบเขาไกลบ้านไกลเมืองนี่
กูละอยากออกไปจริงๆ…… ”
เจ้าสาวกชั่วบ่นไป สูบบุหรี่ไป
ส่วนเสี่ยวเหมยที่อยู่ข้างหลังเขา ได้กลายร่างกลับเป็นคนอีกครั้งแล้ว เธอเผยกรงเล็บที่คมกริบออกมา
ค่อยๆเดินออกมาจากเงามืด
ในขณะที่เจ้าชั่วนั่นกำลังบ่น และจะสูบบุหรี่อีกครั้ง เสี่ยวเหมยก็ตวัดกรงเล็บไปข้างหน้า ตรงเข้าที่คอของเจ้าชั่วนั่น
ในเวลาเดียวกัน เสี่ยวเหมยก็พูดออกมาอย่างเย็นชา “ อย่าขยับ ไม่อย่างงั้นฉันจะฆ่าแก ! ”
ระหว่างพูด มืออีกข้างหนึ่งของเสี่ยวเหมย ก็ตรงเข้าไปที่ร่างของเขา เธอสกัดจุดพลังของเขาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจเล่นตุกติกได้
จู่ๆก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น ทำให้สาวกคนนั้นกลัวขึ้นมาทันที สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน
พอเห็นสิ่งนี้ พวกเราก็ดีใจกันทันที
เราไม่ต้องซ่อนอีกต่อไป รีบออกมาจากหลังหินก้อนนั้นทันที
ตอนสาวกคนนั้นเห็นพวกเราเดินออกมาจากข้างหลังหินที่อยู่ไม่ไกล เขาก็อดทำหน้าเครียดไม่ได้
เขาจะคิดได้ยังไง ว่าในตัวถ้ำแห่งนี้ จะมีคนนอกอยู่ด้วย
“ พวก พวกแกเป็นใคร ? ” สาวกคนนั้นทำหน้าเครียด พูดอย่างคนติดอ่าง
ผมฉีกยิ้ม “ ก่อนหน้านี้แกยังคิดจะมาลอบสังหารฉันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ? ”
พอสาวกคนนั้นได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ตกใจขึ้นมาทันที “ หรือว่า หรือว่าแกก็คือ ก็คือติงฝาน ? ”
“ ใช่ตัวเป็นๆเลย ” ผมยิ้มอ่อน พูดออกมาแบบสบายๆ แต่รอยยิ้มของผม กลับทำให้เจ้าสาวกนั้นรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ พวกแกคิดจะทำอะไร ? ที่ ที่นี่เป็นของพวกเราทั้งหมด ถ้าพวกแกก่อความวุ่นวายขึ้นมา ก็อย่าคิดจะรอดออกไปได้สักคน ! ” ถึงเจ้าหมอนี่จะกลัวมาก แต่มันก็ข่มความกลัวเอาไว้ แล้วพยายามพูดถ้อยคำเหล่านั้นเพื่อขู่พวกเรา
ผมกลับทำหน้าไม่สบอารมณ์ “ ถ้าพวกเรากลัว ก็คงไม่มาอยู่ที่นี่หรอก ต่อไป เราถาม หรือบอกให้ทำอะไร แกก็ต้องทำแบบนั้น ไม่อย่างงั้นความตายได้มาอยู่ตรงหน้าแกแน่…… ”
พอพูดถึงประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของผมก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาสุดๆ
สาวกคนนั้นเบิกตากว้าง เผยสีหน้าหวาดกลัว ภายใต้คำขู่เรื่องความเป็นความตาย เขาเลือกที่จะเป็นฝ่ายยอมจำนน
“ ได้ ได้ ขอแค่ ขอแค่ไม่ฆ่าฉัน จะให้ จะให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำ ! ” สาวกคนนั้นตอบกลับแบบติดอ่าง สุดท้ายยังฝืนยิ้มให้พวกเราอีกด้วย
“ แบบนั้นก็เยี่ยม งั้นบอกมาก่อน พ่อบุญธรรมของจางจึเทาคือใคร ? แล้วเจ้าดอกไม้ปีศาจนี่คืออะไร ? ”
“ นาย นายน้อย ไม่ พ่อบุญธรรมของจางจึเทาคือ คือผู้นำคนหนึ่งในองค์กรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา
หยางข่ายหลิน ส่วน ส่วนเรื่องดอกไม้ ข้าน้อยรู้ไม่เยอะ เคยได้ยินเขาพูดกันเท่านั้น เจ้าดอกไม้นี่เติบโตขึ้นมาจากราก ”
“ มันมีความสามารถพิเศษ หลังจากมันออกดอกแล้วจะสามารถช่วยให้วิญญาณกับกายเนื้อหลอมรวมกันได้สมบูรณ์ หรือ หรือแม้แต่มีข่าวลือว่าเจ้าดอกไม้นี่ยังสามารถรับรู้สภาพกายเนื้อเดิมของวิญญาณตนนั้น
แล้วสร้างขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ หรือไม่มีผิดเพี้ยนเลยสักนิด…… ” สาวกคนนี้หวาดกลัวและตื่นตกใจ เขารีบตอบคำถามผมทันที
หลังพวกเราฟังจบ ผมก็มั่นใจว่าตัวเองเดาถูก เบื้องหลังของเจ้าจางจึเทา เป็นคนใหญ่คนโตในองค์กรชั่วจริงๆ
สถานที่แห่งนี้เป็นแค่สาขาย่อย แต่พ่อบุญธรรมของจางจึเทากลับเป็นถึงผู้นำคนหนึ่งในองค์กร ถึงว่าทำไมถึงโดนเรียกว่านายน้อย
นอกจากนี้ เจ้าดอกไม้ปีศาจก็น่าทึ่งเช่นกัน มันสามารถสร้างกายเนื้อให้วิญญาณได้
แต่เจ้านี่ต่ำทรามเกินไป ต้องใช้มนุษย์เป็นอาหาร เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายของจริง
“ แกเปิดวงเวทย์ได้ไหม ? ” ฉู่ยเฉิงจิงพูด
เจ้าหมอนั้นทำหน้าลำบากใจ “ เรื่อง เรื่องนี้ฉันทำไม่ได้ รูปปั้นสัตว์ทั้งสี่ ต้องใช้คนสี่คนที่รู้คาถาถึงจะเปิดออกได้ ”
พอได้ยินคำพูดของเจ้านี่ เราก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย
ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากกำจัดเจ้าดอกไม้ปีศาจนี่ทิ้งซะ ทำลายความคิดสร้างร่างใหม่ของเจ้าจางจึเทา
แต่เป้าหมายที่พวกเรามาที่นี่คือหินลี่ลั่ว ดังนั้นหลังจากถามอีกสองสามคำถาม ผมก็ถามอีกฝ่ายขึ้นมาอีกรอบ “ โอเค ต่อไปพาพวกเราไปหาหินลี่ลั่ว ! ”
“ หิน หินลี่ลั่ว…… ” เจ้าหมอนี่ดูใจสั่น ท่าทางเหมือนไม่อยากพาไป
ในขณะที่เขากำลังลังเล เหล่าเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆก็ยกแขนขึ้น ดึงดาบแทงเข้าไปที่ท้องของเจ้าหมอนั้น
ดาบเข้าไปไม่ลึก แต่มันก็เจ็บมาก
เจ้าหมอนั้นคิดจะร้องออกมา แต่ผมดันเอาดาบไม้อุดปากมันเอาไว้ มันเลยได้แต่ทำเสียง “ หือหือ ” ออกมา
ในเวลาเดียวกัน ผมก็พูดกับเขาว่า “ ทางที่ดีอย่าได้ลังเล ไม่อย่างนั้นแกจะมีแค่จุดจบเดียว ”
เสียงเพิ่งเงียบลง เหล่าเฟิงก็ตวัดดาบในมืออีกพักหนึ่ง ทำให้เจ้าหมอนั้นรู้สึกเย็นวาบทันที
เขาพยักหน้ารัวๆ ไม่…อีกเลย
พอเหล่าเฟิงเห็นแบบนั้น ก็เก็บดาบเข้าฝัก
เจ้าหมอนั้นรีบเอามือกดเอาไว้ที่ท้อง ทำหน้าทรมานออกมา “ ได้ ได้ ขอแค่พวก พวกแกไม่ฆ่าฉัน ฉันจะพาพวกแก ไปหาหินลี่ลั่ว ! ”